เมื่อวานได้ไปดูเรื่อง Kingsman ที่โรงเอสพลานาด รัชดา โดยเป็นรอบฉายเวลา 20.40 น. โรง 8 ระบบเสียง ATMOS ซึ่งที่นั่งปกติราคา 130 บาท และฮันนีมูนซีท 150 บาท ซึ่งเป็นราคาโปรวันพุธ
แต่พอไปทำรายการที่เครื่องอัตโนมัติ ปรากฎว่า ราคากลายเป็น ที่นั่งปกติ 150 บาท ฮันนีมูนซีท 170 บาท ซะงั้น ผมก็เลยสอบถามพนักงานว่าทำไมราคาแพงขึ้น 20 บาท ทั้งๆที่ในแอปมือถือของเมเจอร์ยังเป็น 130 กับ 150 บาทเหมือนทุกครั้ง
พนักงานถามกลับมาว่า ในมือถือเป็นโรงอื่นรึเปล่า ผมเลยเปิดในมือถือให้ดูว่าเป็นเอสพลานาด รัชดา เรื่อง kingsman รอบ 20.40 น. เหมือนกันเป๊ะ แต่ทำไมราคาไม่ตรงกัน??
พนักงาน : ไม่ทราบค่ะ!! (อ้าว เอ็งไม่รู้แล้วใครจะรู้ฟ่ะ) แล้วเดินจากไป ปล่อยให้ผมงงอยู่กับเครื่อง Kiosk ที่โชว์ราคา 150 หราอยู่
ผม : ทำรายการในมือถือเองก็ได้ฟ่ะ จากนั้นผมก็ทำรายการในมือถือเสร็จ โดยชำระด้วยบัตรเครดิตเหมือนเวลาซื้อของออนไลน์ทั่วไป จนได้ Code มาคีย์ในเครื่องรับตั๋วราคา 130 บาท ซึ่งผมก็ยังคาใจอยู่ จึงไปสอบถามพนักงานอีกคนว่าทำไมราคาถึงไม่ตรงกัน
พนักงาน 2 : อ๋อ เรื่องนี้เป็นราคาพิเศษครับ เลยแพงกว่ารอบอื่น
ผม : แพงกว่ารอบอื่น 50 บาท เพราะเป็นระบบ ATMOS เนี่ยผมเข้าใจดี แต่ทำไมในแอปมือถือกับในเครื่องราคาไม่เท่ากัน?
พนักงาน 2 : มีการคีย์ code เป็นราคานี้ เฉพาะเรื่องนี้ วันนี้ครับ ราคาเลยไม่เท่ากัน (เอ็งตอบตรงคำถามมั้ยเนี่ย)
ผม : ถ้า code นี้เป็นราคา 150 ทำไมในแอปถึงเป็นราคาเดิม ล่าสุดเรื่อง Sniper ผมก็ดูมาราคา 130 โรงเดิมนี้เลย ผมถามตรงๆ ระบบมันปกติหรือผิดปกติ
พนักงาน 2 : ผิดปกติครับ ไอทีคีย์ code มาผิด เพิ่งเป็นวันนี้ วันแรก วันเดียว พรุ่งนี้จะปกติ (โยนขี้ให้ไอทีซะแล้ว 555+)
ผม : แล้วงี้ถ้าผมใช้บัตรเครดิตซื้อตั๋วจากเครื่อง แทนที่จะซื้อผ่านในมือถือผมก็โดน 150 บาท สิ
พนักงาน 2 : ใช่ครับ เราเลยเตรียมเงินสดไว้ทอนให้ลูกค้า แล้วก็โชว์ถุงเงินสดให้ดู (แหม แต่ในถุงมีแต่แบงค์ 100 นะ ทอน 20 บาทไม่ใช่เรอะ!!)
ผม : (เซ็งกับคำตอบ) ok จบการสนทนา
คือ จริงๆ พนักงานก็รู้ว่าปัญหาคืออะไร แต่ไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบเลย แถมไม่พยายามบอกความจริงกับลูกค้าด้วยว่าเกิดปัญหา การแก้ปัญหาด้วยการเตรียมเงินทอนให้ลูกค้าก็ดูไม่จริงใจอีก
ตอนผมงงๆ อยู่หน้าเครื่อง ก็ไม่มีพนักงานคนไหนมาสนใจ ถ้าคนที่ทำรายการผ่านเครื่องเสร็จเรียบร้อยแล้วไม่ได้ทักท้วง ก็คงต้องจ่ายแพงกว่าปกติ 20 บาท โดยไม่รู้ตัวไปแล้ว
Major ปรับปรุงบริการด้วยครับ ราคาตั๋วในเครื่อง Kiosk ผิด ก็ไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบ
แต่พอไปทำรายการที่เครื่องอัตโนมัติ ปรากฎว่า ราคากลายเป็น ที่นั่งปกติ 150 บาท ฮันนีมูนซีท 170 บาท ซะงั้น ผมก็เลยสอบถามพนักงานว่าทำไมราคาแพงขึ้น 20 บาท ทั้งๆที่ในแอปมือถือของเมเจอร์ยังเป็น 130 กับ 150 บาทเหมือนทุกครั้ง
พนักงานถามกลับมาว่า ในมือถือเป็นโรงอื่นรึเปล่า ผมเลยเปิดในมือถือให้ดูว่าเป็นเอสพลานาด รัชดา เรื่อง kingsman รอบ 20.40 น. เหมือนกันเป๊ะ แต่ทำไมราคาไม่ตรงกัน??
พนักงาน : ไม่ทราบค่ะ!! (อ้าว เอ็งไม่รู้แล้วใครจะรู้ฟ่ะ) แล้วเดินจากไป ปล่อยให้ผมงงอยู่กับเครื่อง Kiosk ที่โชว์ราคา 150 หราอยู่
ผม : ทำรายการในมือถือเองก็ได้ฟ่ะ จากนั้นผมก็ทำรายการในมือถือเสร็จ โดยชำระด้วยบัตรเครดิตเหมือนเวลาซื้อของออนไลน์ทั่วไป จนได้ Code มาคีย์ในเครื่องรับตั๋วราคา 130 บาท ซึ่งผมก็ยังคาใจอยู่ จึงไปสอบถามพนักงานอีกคนว่าทำไมราคาถึงไม่ตรงกัน
พนักงาน 2 : อ๋อ เรื่องนี้เป็นราคาพิเศษครับ เลยแพงกว่ารอบอื่น
ผม : แพงกว่ารอบอื่น 50 บาท เพราะเป็นระบบ ATMOS เนี่ยผมเข้าใจดี แต่ทำไมในแอปมือถือกับในเครื่องราคาไม่เท่ากัน?
พนักงาน 2 : มีการคีย์ code เป็นราคานี้ เฉพาะเรื่องนี้ วันนี้ครับ ราคาเลยไม่เท่ากัน (เอ็งตอบตรงคำถามมั้ยเนี่ย)
ผม : ถ้า code นี้เป็นราคา 150 ทำไมในแอปถึงเป็นราคาเดิม ล่าสุดเรื่อง Sniper ผมก็ดูมาราคา 130 โรงเดิมนี้เลย ผมถามตรงๆ ระบบมันปกติหรือผิดปกติ
พนักงาน 2 : ผิดปกติครับ ไอทีคีย์ code มาผิด เพิ่งเป็นวันนี้ วันแรก วันเดียว พรุ่งนี้จะปกติ (โยนขี้ให้ไอทีซะแล้ว 555+)
ผม : แล้วงี้ถ้าผมใช้บัตรเครดิตซื้อตั๋วจากเครื่อง แทนที่จะซื้อผ่านในมือถือผมก็โดน 150 บาท สิ
พนักงาน 2 : ใช่ครับ เราเลยเตรียมเงินสดไว้ทอนให้ลูกค้า แล้วก็โชว์ถุงเงินสดให้ดู (แหม แต่ในถุงมีแต่แบงค์ 100 นะ ทอน 20 บาทไม่ใช่เรอะ!!)
ผม : (เซ็งกับคำตอบ) ok จบการสนทนา
คือ จริงๆ พนักงานก็รู้ว่าปัญหาคืออะไร แต่ไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบเลย แถมไม่พยายามบอกความจริงกับลูกค้าด้วยว่าเกิดปัญหา การแก้ปัญหาด้วยการเตรียมเงินทอนให้ลูกค้าก็ดูไม่จริงใจอีก
ตอนผมงงๆ อยู่หน้าเครื่อง ก็ไม่มีพนักงานคนไหนมาสนใจ ถ้าคนที่ทำรายการผ่านเครื่องเสร็จเรียบร้อยแล้วไม่ได้ทักท้วง ก็คงต้องจ่ายแพงกว่าปกติ 20 บาท โดยไม่รู้ตัวไปแล้ว