~~ สวัสดีค๊าาา นี่เป็นกระทู้ที่สามของเราแล้ว ไม่ขอเกริ่นอะไรมาก ไปเที่ยวเวียงจันทน์มา อยากแบ่งปันกันค๊าา ~~*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/33073091
http://pantip.com/topic/33095090
** Chapter 1 **
เริ่มต้นจากการเพื่อนเราได้จองโปรโรงแรม Hop inn ในราคาคืนละ 10 บาทเท่านั้น !!!
นางก็จองไปแบบมึนๆงงๆ โดยที่ไม่รู้ว่าหนองคายมีที่เที่ยวอะไรบ้าง
นางรู้แค่ว่าติดกับประเทศลาว .. ตึงๆ และนางก็ได้กดจองไป
ด้วยความที่นางมึนๆงงๆนางจึงจองไปทั้งหมด 3 วัน ... (แต่นอนจริงๆ 1 คืน)
และนางก็มาหาเพื่อนร่วมทริปในไลน์ ห๊ะ อะไรนะคืนละ 10 บาท บ้าไปแล้ว ... ตูไม่เชื่อ
แม่มมีผีชัวร์ๆ และในที่สุดเหยื่อของนางในทริปนี้คือเราเอง ... เอาว่ะๆไปลาวกันๆ (ก่อนไปขอพระจาพ่อมาองค์นึง)
ค่ะ ทริปนี้เรียกว่าไปเป็น ก ข ค พวกนางเลยก็ได้ ... ฮึๆ เบื่อคนมีคู่มากค่ะ ...
เพื่อนเป็นจัดการเรื่องตั๋วและที่พักทั้งหมด เราใช้บริการรถนครชัยแอร์ NCA First Class
บริเวณที่นั่งรอเป็นโซน VIP หรูหรา เราเลือกรอบ 21.00 ถึงหนองคาย 6 โมงเช้า
ภายในรถก็ดี ที่นั่งเป็นระบบนวด เราก็มโนภาพว่ามันต้องนั่งนอนสบายแน่ๆ ...
แต่ความเป็นจริงคดตัวเป็นรูปหอย ไหนจะเพลงกล่อมประสาทนครชัยแอร์
ซึ่งเปิดวนรวมๆแล้วน่าจะถึงร้อยอ่ะ ...
ขนาดกลับมาแล้วก็ยังคงฮัมเพลงนั้นได้อยู่
** Chapter 2 ถึงหนองคายสักที **
โรงแรม Hop inn อยู่ติดถนนใหญ่ พี่คนขับใจดีเลยจอดให้เราลงหน้าโรงแรม
(ซึ่งเป็นทางผ่านไป บขส.อยู่แล้ว) ถึงที่นั้นประมาณ 06.00 น.
ห้องพักที่มโนไว้ว่า 10 บาท
ต้องมีผีชัวร์ๆ
ก็กลายเป็นโรงแรมดี ห้องขนาดเล็ก เตียงคู่นุ่มนอนสบาย
ถ้าอัดได้เต็มที่ก็น่าจะประมาณ 4 คน มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง
มีระเบียงน้อยๆ ซึ่งไม่สามารถยืนได้ พระที่ขอยืมพ่อมาก็เก็บไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม ...
(อ่ะ มัวตื่นเต้นไม่มีรูปภายในโรงแรมเลย)
** Chapter 3 เที่ยวกันเหอะ **
เราเริ่มโปรแกรมแรกตอนประมาณ 7 โมง เพื่อให้ทันรถข้ามแดน 7 โมงครึ่ง
โบกสามล้อเครื่อง หรือ สกายแลปจากหน้าโรงแรม เพื่อไป ตม.
รถที่เสียงขับแซงตัวรถ ไปเลยลูกเพ่ !!!!!!
พอไปถึง ตม.เราก็รีบกรอกรายละเอียด ซึ่งตรงนี้มีจะมีหลายขั้นตอนมาก ...
(เขียนจนนิ้วหงิก)
พอเรากรอกรายละเอียดตรงนี้เสร็จ เราก็นั่งรถบัสเพื่อข้ามไปประเทศลาว คนเยอะมาก
แต่ในที่สุดก็มีที่นั่งว่าง 1 ที่ เพื่อนผู้เสียสละจึงให้เรานั่ง
พอรถเริ่มออกตัว เราก็มองสะพานไทย-ลาววิวสวยเกร๋ๆ ลมโชยพัดเข้ามา
นั่งติดป้าชาวลาวข้างๆ กลิ่นเต่าป้าโชยมา ผมนี่แทบอ๊วก อยากจะยืนขึ้นมาทันที
พอมาถึงลาวก็ยังคงต้องกรอกรายละเอียดเช่นเดิม (ใบกระดาษทุกอย่างห้ามทำหายนะแจ๊ะ)
ต่อมาก็ทำการเสียค่าเหยียบประเทศ พนง.ก็จะเอาการ์ดเข้าประเทศลาวให้ มีเสียงแหว่วมาว่า
“เย็นบ่ๆ” เราก็เอ๊ะพูดกะใครว่ะ
“เย็นบ่ๆ อ่อ หนาวบ่”
“เอิ่ม พูดกะหนูป่ะค่ะ หนาวค่ะหนาว” คือไม่ได้ดัดจริต ฟังออกตั้งแต่แรกแล้ว
แต่ลุงไม่อายคอนแทคอ่ะ จั๊กก็พูดกะใคร ...
พอเราผ่านทางเข้าประตู เราก็ต้องหารถเพื่อที่จะไปตัวเมืองเวียงจันทน์
ตรงแถวๆนั้นจะมีคล้ายๆป้ายรถเมล์ ซึ่งถามร้านค้าแถวนั้นได้ว่าขึ้นรถตรงไหน
อย่าเหมารถไป เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน !!
** Chapter 4 Hello Vientiane **
สบายดี ลาว
ลงรถที่ บขส.ลาว อารมณ์ก็แบบหมอชิตบ้านเรานี่หล่ะ แต่ก็ตามสภาพอ่ะ ...
ตรงจุดนี้ที่ก่อนจะไปเที่ยว ให้ไปถามเวลาตรงท่ารถก่อนว่า มีรถกลับหนองคายตอนไหนบ้าง
เดี๋ยวตกรถได้นอนที่ลาวนะแจ๊ะ ...
** Chapter 5 เฝอที่รอคอย **
เราเริ่มจากการไปกินเฝอแซ่บ ซึ่งเพื่อนเราเป็นคนค้นหาข้อมูลทั้งหมด
ด้วยความที่ไม่เคยมากางแผนที่ก็ยังงงอยู่
ตัดสินใจถามทางคนลาวแถวนั้น ซึ่งถาม 3 คน คำตอบไม่เหมือนกันเลย
บางคนบอกร้านนั้นอร่อย บางคนบอกไม่รู้จัก (ทั้งๆที่เป็นคนลาวและเป็นคนขับสกายแลป ทำตัวเหมือนแท็กซี่ไทยไปได้)
แต่คนสุดท้ายที่ถามนี่ตอบได้ใกล้เคียงที่สุด ..
โอเคเริ่มเดิน !!! ทริปนี้เดินแหลกจริงๆ เดินๆๆๆๆ ... เราเดินไปจนถึงร้าน
เฝอแซ่บ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก บขส.มากนัก ..
ด้วยความที่วันนั้นอากาศดี เย็นๆจึงเดินได้สนุกมากขึ้น ...
ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที
มาถึงร้านเฝอแซ่บ ก็ต้องสั่งเฝอสิ
เราสั่งเฝอเนื้อ ซึ่งมันอลังการมาก ถ้วยเบ่อเริ่ม ทำยังไงจะกินหมด (แต่ก็หมดเพราะหิว)
มีเครื่องเคียงเป็นผัก และน้ำจิ้ม ซึ่งรสชาติคล้ายน้ำจิ๋มหมูสะเต๊ะ
และมีโน้ตเขียนเป็นภาษาไทยว่า พริกเผ็ดมาก หูยไม่เชื่อหรอก เลยจัดซะ
หลังจากนั้นปากพอง มันเผ็ดมากจริงๆ ..
เราสั่งเฝอไป 3 ชาม (แบบใหญ่) และเบียร์ลาวอีก 1 กระป่อง
คิดเงินไทยเป็น 270 บาท (ตอนนั้นไม่มีเงินกีบ เนื่องจากไปเช้าตรงจุดแลกเงินยังไม่เปิด
แต่ถ้าคนอยากแลก สามารถแลกเงินได้ที่ตลาดเช้า หรือ ตลาดเซ้า อยู่ตรงข้าม บขส.ลาว)
มาที่นี่อยากให้ลองๆร้านนี้ รับรองว่าอร่อย ขนาดไม่ปรุงยังอร่อยเลยอ่ะ
** Chapter 6 ประตูชัย **
เมื่อเราเติมพลังกันเสร็จแล้ว เป้าหมายต่อไปคือ ประตูชัย หรือ Patuxay
ระยะทางจากร้านเฝอแซ่บไปประตูชัย ใช้เวลาประมาณ 30 นาที (รวมแวะถ่ายรูปกันแนวฮิปสเตอร์แล้ว)
อยู่ไม่ไกลกันมาก ด้วยความที่ไม่มีความรู้เลยว่าประตูชัยคืออะไร รู้แค่ว่าคล้ายๆประตู อาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล (ชื่อยากไปนะ)
ประตูชัยสามารถขึ้นไปดูวิวของลาวจากด้านบนได้ เสียค่าขึ้นคนละ 15 บาทไทย
ทางขึ้นค่อนข้างชัน ส่วนระหว่างชั้นก็จะมีของขาย คล้ายๆของฝากที่ขายในจัตุจักร
หรือไปรับมาจากจัตุจักรก็ไม่รู้นะ เพราะเหมือนมาก
จุดนี้เราใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึง เพราะโดยรอบๆแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไร ... เราจึงเดินทางไปที่ต่อไป
(รูปเยอะไปหน่อยน๊าา)
** Chapter 7 วัดพระธาตุหลวง **
วัดพระธาตุหลวงซึ่งวัดนี้จากประตูชัยเราไม่สามารถเดินกันได้
เนื่องจากอยู่กันคนละฝั่ง เราจึงต้องพึ่งพารถสกายแลป
และเรื่องราคานี้ไม่ต้องพูดถึง แพงยิ่งกว่าแท็กซี่ไทยอีกค๊า
เพื่อนเราต่อแล้วต่ออีก ต่อแบบสุดๆ จาก 300 บาทไทย ลดมาเหลือ 240 บาท
นี่คิดเป็นหัว ไม่เหมารวม แต่ราคานี้รวมให้รถรอเราเพื่อไปส่งที่ร้านกาแฟโจมานะ
โอเคๆไปก็ไป เพราะมันเดินไม่ได้แล้ว เราก็ต้องง้อนายแล้วสิ ...
(อย่าลืมว่ามาที่นี่ต้องต่อนะค่ะ ต่อให้สุดๆไปเลยค่ะ)
วัดพระธาตุหลวง เป็นวัดยอดนิยมนะแจ๊ะ ค่อนข้างสวย และสงบ
พื้นหญ้าสีเขียวๆถ่ายอะไรก็ดูสวยไปหมด เราจึงใช้เวลากับวัดนี้นานพอสมควร
อย่าลืมกับมุมมหาชนมุมนี้นะแจ๊ะ
ปิดท้ายด้วยตาลุงคนเน๊ ... พอเห็นกดชัตเตอร์ ลุงก็ชูพร็อบพร้อมยิ้ม ...
เดี๋ยวมาต่อน๊าาาา ^^
[CR] ทริปหนองคาย-เวียงจันทน์ กับ เราสองสามคน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
** Chapter 1 **
เริ่มต้นจากการเพื่อนเราได้จองโปรโรงแรม Hop inn ในราคาคืนละ 10 บาทเท่านั้น !!!
นางก็จองไปแบบมึนๆงงๆ โดยที่ไม่รู้ว่าหนองคายมีที่เที่ยวอะไรบ้าง
นางรู้แค่ว่าติดกับประเทศลาว .. ตึงๆ และนางก็ได้กดจองไป
ด้วยความที่นางมึนๆงงๆนางจึงจองไปทั้งหมด 3 วัน ... (แต่นอนจริงๆ 1 คืน)
และนางก็มาหาเพื่อนร่วมทริปในไลน์ ห๊ะ อะไรนะคืนละ 10 บาท บ้าไปแล้ว ... ตูไม่เชื่อ
แม่มมีผีชัวร์ๆ และในที่สุดเหยื่อของนางในทริปนี้คือเราเอง ... เอาว่ะๆไปลาวกันๆ (ก่อนไปขอพระจาพ่อมาองค์นึง)
ค่ะ ทริปนี้เรียกว่าไปเป็น ก ข ค พวกนางเลยก็ได้ ... ฮึๆ เบื่อคนมีคู่มากค่ะ ...
เพื่อนเป็นจัดการเรื่องตั๋วและที่พักทั้งหมด เราใช้บริการรถนครชัยแอร์ NCA First Class
บริเวณที่นั่งรอเป็นโซน VIP หรูหรา เราเลือกรอบ 21.00 ถึงหนองคาย 6 โมงเช้า
ภายในรถก็ดี ที่นั่งเป็นระบบนวด เราก็มโนภาพว่ามันต้องนั่งนอนสบายแน่ๆ ...
แต่ความเป็นจริงคดตัวเป็นรูปหอย ไหนจะเพลงกล่อมประสาทนครชัยแอร์
ซึ่งเปิดวนรวมๆแล้วน่าจะถึงร้อยอ่ะ ...
ขนาดกลับมาแล้วก็ยังคงฮัมเพลงนั้นได้อยู่
** Chapter 2 ถึงหนองคายสักที **
โรงแรม Hop inn อยู่ติดถนนใหญ่ พี่คนขับใจดีเลยจอดให้เราลงหน้าโรงแรม
(ซึ่งเป็นทางผ่านไป บขส.อยู่แล้ว) ถึงที่นั้นประมาณ 06.00 น.
ห้องพักที่มโนไว้ว่า 10 บาท
ก็กลายเป็นโรงแรมดี ห้องขนาดเล็ก เตียงคู่นุ่มนอนสบาย
ถ้าอัดได้เต็มที่ก็น่าจะประมาณ 4 คน มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง
มีระเบียงน้อยๆ ซึ่งไม่สามารถยืนได้ พระที่ขอยืมพ่อมาก็เก็บไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม ...
(อ่ะ มัวตื่นเต้นไม่มีรูปภายในโรงแรมเลย)
** Chapter 3 เที่ยวกันเหอะ **
เราเริ่มโปรแกรมแรกตอนประมาณ 7 โมง เพื่อให้ทันรถข้ามแดน 7 โมงครึ่ง
โบกสามล้อเครื่อง หรือ สกายแลปจากหน้าโรงแรม เพื่อไป ตม.
รถที่เสียงขับแซงตัวรถ ไปเลยลูกเพ่ !!!!!!
พอไปถึง ตม.เราก็รีบกรอกรายละเอียด ซึ่งตรงนี้มีจะมีหลายขั้นตอนมาก ...
(เขียนจนนิ้วหงิก)
พอเรากรอกรายละเอียดตรงนี้เสร็จ เราก็นั่งรถบัสเพื่อข้ามไปประเทศลาว คนเยอะมาก
แต่ในที่สุดก็มีที่นั่งว่าง 1 ที่ เพื่อนผู้เสียสละจึงให้เรานั่ง
พอรถเริ่มออกตัว เราก็มองสะพานไทย-ลาววิวสวยเกร๋ๆ ลมโชยพัดเข้ามา
นั่งติดป้าชาวลาวข้างๆ กลิ่นเต่าป้าโชยมา ผมนี่แทบอ๊วก อยากจะยืนขึ้นมาทันที
พอมาถึงลาวก็ยังคงต้องกรอกรายละเอียดเช่นเดิม (ใบกระดาษทุกอย่างห้ามทำหายนะแจ๊ะ)
ต่อมาก็ทำการเสียค่าเหยียบประเทศ พนง.ก็จะเอาการ์ดเข้าประเทศลาวให้ มีเสียงแหว่วมาว่า
“เย็นบ่ๆ” เราก็เอ๊ะพูดกะใครว่ะ
“เย็นบ่ๆ อ่อ หนาวบ่”
“เอิ่ม พูดกะหนูป่ะค่ะ หนาวค่ะหนาว” คือไม่ได้ดัดจริต ฟังออกตั้งแต่แรกแล้ว
แต่ลุงไม่อายคอนแทคอ่ะ จั๊กก็พูดกะใคร ...
พอเราผ่านทางเข้าประตู เราก็ต้องหารถเพื่อที่จะไปตัวเมืองเวียงจันทน์
ตรงแถวๆนั้นจะมีคล้ายๆป้ายรถเมล์ ซึ่งถามร้านค้าแถวนั้นได้ว่าขึ้นรถตรงไหน
อย่าเหมารถไป เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน !!
** Chapter 4 Hello Vientiane **
สบายดี ลาว
ลงรถที่ บขส.ลาว อารมณ์ก็แบบหมอชิตบ้านเรานี่หล่ะ แต่ก็ตามสภาพอ่ะ ...
ตรงจุดนี้ที่ก่อนจะไปเที่ยว ให้ไปถามเวลาตรงท่ารถก่อนว่า มีรถกลับหนองคายตอนไหนบ้าง
เดี๋ยวตกรถได้นอนที่ลาวนะแจ๊ะ ...
** Chapter 5 เฝอที่รอคอย **
เราเริ่มจากการไปกินเฝอแซ่บ ซึ่งเพื่อนเราเป็นคนค้นหาข้อมูลทั้งหมด
ด้วยความที่ไม่เคยมากางแผนที่ก็ยังงงอยู่
ตัดสินใจถามทางคนลาวแถวนั้น ซึ่งถาม 3 คน คำตอบไม่เหมือนกันเลย
บางคนบอกร้านนั้นอร่อย บางคนบอกไม่รู้จัก (ทั้งๆที่เป็นคนลาวและเป็นคนขับสกายแลป ทำตัวเหมือนแท็กซี่ไทยไปได้)
แต่คนสุดท้ายที่ถามนี่ตอบได้ใกล้เคียงที่สุด ..
โอเคเริ่มเดิน !!! ทริปนี้เดินแหลกจริงๆ เดินๆๆๆๆ ... เราเดินไปจนถึงร้าน
เฝอแซ่บ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก บขส.มากนัก ..
ด้วยความที่วันนั้นอากาศดี เย็นๆจึงเดินได้สนุกมากขึ้น ...
ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที
มาถึงร้านเฝอแซ่บ ก็ต้องสั่งเฝอสิ
เราสั่งเฝอเนื้อ ซึ่งมันอลังการมาก ถ้วยเบ่อเริ่ม ทำยังไงจะกินหมด (แต่ก็หมดเพราะหิว)
มีเครื่องเคียงเป็นผัก และน้ำจิ้ม ซึ่งรสชาติคล้ายน้ำจิ๋มหมูสะเต๊ะ
และมีโน้ตเขียนเป็นภาษาไทยว่า พริกเผ็ดมาก หูยไม่เชื่อหรอก เลยจัดซะ
หลังจากนั้นปากพอง มันเผ็ดมากจริงๆ ..
เราสั่งเฝอไป 3 ชาม (แบบใหญ่) และเบียร์ลาวอีก 1 กระป่อง
คิดเงินไทยเป็น 270 บาท (ตอนนั้นไม่มีเงินกีบ เนื่องจากไปเช้าตรงจุดแลกเงินยังไม่เปิด
แต่ถ้าคนอยากแลก สามารถแลกเงินได้ที่ตลาดเช้า หรือ ตลาดเซ้า อยู่ตรงข้าม บขส.ลาว)
มาที่นี่อยากให้ลองๆร้านนี้ รับรองว่าอร่อย ขนาดไม่ปรุงยังอร่อยเลยอ่ะ
** Chapter 6 ประตูชัย **
เมื่อเราเติมพลังกันเสร็จแล้ว เป้าหมายต่อไปคือ ประตูชัย หรือ Patuxay
ระยะทางจากร้านเฝอแซ่บไปประตูชัย ใช้เวลาประมาณ 30 นาที (รวมแวะถ่ายรูปกันแนวฮิปสเตอร์แล้ว)
อยู่ไม่ไกลกันมาก ด้วยความที่ไม่มีความรู้เลยว่าประตูชัยคืออะไร รู้แค่ว่าคล้ายๆประตู อาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล (ชื่อยากไปนะ)
ประตูชัยสามารถขึ้นไปดูวิวของลาวจากด้านบนได้ เสียค่าขึ้นคนละ 15 บาทไทย
ทางขึ้นค่อนข้างชัน ส่วนระหว่างชั้นก็จะมีของขาย คล้ายๆของฝากที่ขายในจัตุจักร
หรือไปรับมาจากจัตุจักรก็ไม่รู้นะ เพราะเหมือนมาก
จุดนี้เราใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึง เพราะโดยรอบๆแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไร ... เราจึงเดินทางไปที่ต่อไป
(รูปเยอะไปหน่อยน๊าา)
** Chapter 7 วัดพระธาตุหลวง **
วัดพระธาตุหลวงซึ่งวัดนี้จากประตูชัยเราไม่สามารถเดินกันได้
เนื่องจากอยู่กันคนละฝั่ง เราจึงต้องพึ่งพารถสกายแลป
และเรื่องราคานี้ไม่ต้องพูดถึง แพงยิ่งกว่าแท็กซี่ไทยอีกค๊า
เพื่อนเราต่อแล้วต่ออีก ต่อแบบสุดๆ จาก 300 บาทไทย ลดมาเหลือ 240 บาท
นี่คิดเป็นหัว ไม่เหมารวม แต่ราคานี้รวมให้รถรอเราเพื่อไปส่งที่ร้านกาแฟโจมานะ
โอเคๆไปก็ไป เพราะมันเดินไม่ได้แล้ว เราก็ต้องง้อนายแล้วสิ ...
(อย่าลืมว่ามาที่นี่ต้องต่อนะค่ะ ต่อให้สุดๆไปเลยค่ะ)
วัดพระธาตุหลวง เป็นวัดยอดนิยมนะแจ๊ะ ค่อนข้างสวย และสงบ
พื้นหญ้าสีเขียวๆถ่ายอะไรก็ดูสวยไปหมด เราจึงใช้เวลากับวัดนี้นานพอสมควร
อย่าลืมกับมุมมหาชนมุมนี้นะแจ๊ะ
ปิดท้ายด้วยตาลุงคนเน๊ ... พอเห็นกดชัตเตอร์ ลุงก็ชูพร็อบพร้อมยิ้ม ...
เดี๋ยวมาต่อน๊าาาา ^^