คือคุณพ่อดิฉันป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 4 ทุกคนในครอบครัวพอรู้ข่าวว่าคุณพ่อท่านเป็นมะเร็ง ก็พยายามหาแนวทางการรักษา ประคับประคองให้คุณพ่อสู้กับอาการป่วยมะเร็ง คุณพ่อเข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้งมาก จน 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาคุณพ่อก็เริ่มไม่ทานข้าว แต่ก็ยังพูดสื่อสารและมีสติดี คุณหมอที่ดูแลอาการป่วยของคุณพ่อ ก็ประเมินอาการของคุณพ่อตลอด
แล้วมีคุณหมอท่านหนึ่งที่คู่กับคุณหมอที่ดูอาการป่วยของคุณพ่อ เรียกคุณแม่เข้าไปคุย แล้วบอกคุณแม่ว่า คนไข้ต้องได้รับคีโม ตอนคุณพ่อเป็นไม่เยอะคุณพ่อเคยสั่งไว้ ว่าท่านไม่ขอรับคีโม คุณแม่บอกว่าคนไข้ขอปฏิเสธ
คุณหมอก็บอกว่าแกเป็นเยอะนะ เอาแบบนี้ หมอมีอีกทางเลือก ฉีดยาให้คนไข้หลับ(ฉีดให้ยาให้ตาย) แกจะได้ไม่ทรมานแบบตอนนี้ คุณหมอทำเนียนไม่มีใครรู้แน่นอน คุณแม่เราตกใจกับคำพูดของคุณหมอ แต่ก็ตอบไปว่า คุณหมอดิฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ คนไข้แค่ร่างกายอ่อนแอ่ ยังพูดจารู้เรื่องมีสติ และเรา2คน ก็อยู่ด้วยกันมา 40 ปีแล้ว จะให้จากกันไปง่ายๆ ดิฉันไม่ขอรับข้อเสนอนี้ ถ้าเกิดคนไข้จะหมดลมหายใจ ให้เค้าหมดด้วยตัวของเค้าเอง บุญของเค้าคงทำมาแค่นี้ ขอบคุณคุณหมอที่เสนอทางเลือกให้กับครอบครัวดิฉันนะคะ
ตอนนี้ก็ดูแลและรักษาตามอาการของคุณพ่อไป พวกเราในครอบครัวจะไม่มีทางทำตามที่คุณหมอเสนอมาแน่นอน
ถ้ามีหมอมาถามว่าคุณ ฉีดยาให้ตายเลยดีมั้ย
แล้วมีคุณหมอท่านหนึ่งที่คู่กับคุณหมอที่ดูอาการป่วยของคุณพ่อ เรียกคุณแม่เข้าไปคุย แล้วบอกคุณแม่ว่า คนไข้ต้องได้รับคีโม ตอนคุณพ่อเป็นไม่เยอะคุณพ่อเคยสั่งไว้ ว่าท่านไม่ขอรับคีโม คุณแม่บอกว่าคนไข้ขอปฏิเสธ
คุณหมอก็บอกว่าแกเป็นเยอะนะ เอาแบบนี้ หมอมีอีกทางเลือก ฉีดยาให้คนไข้หลับ(ฉีดให้ยาให้ตาย) แกจะได้ไม่ทรมานแบบตอนนี้ คุณหมอทำเนียนไม่มีใครรู้แน่นอน คุณแม่เราตกใจกับคำพูดของคุณหมอ แต่ก็ตอบไปว่า คุณหมอดิฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ คนไข้แค่ร่างกายอ่อนแอ่ ยังพูดจารู้เรื่องมีสติ และเรา2คน ก็อยู่ด้วยกันมา 40 ปีแล้ว จะให้จากกันไปง่ายๆ ดิฉันไม่ขอรับข้อเสนอนี้ ถ้าเกิดคนไข้จะหมดลมหายใจ ให้เค้าหมดด้วยตัวของเค้าเอง บุญของเค้าคงทำมาแค่นี้ ขอบคุณคุณหมอที่เสนอทางเลือกให้กับครอบครัวดิฉันนะคะ
ตอนนี้ก็ดูแลและรักษาตามอาการของคุณพ่อไป พวกเราในครอบครัวจะไม่มีทางทำตามที่คุณหมอเสนอมาแน่นอน