เนื่องจากก่อนไปพยายามหาข้อมูลการเดินขึ้นเขาคิชฌกูฏแบบยาวๆจากสันเขื่อนเลย แต่หาได้น้อยมากถึงมากที่สุด จึงไปลองสัมผัสมาด้วยตัวเองและนำมารีวิวให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวพันทิปที่สนใจ นี่เป็นรีวิวแรกของผม หากมีข้อผิดพลาดก็ขออภัย และพร้อมรับคำติชม
     ผมจอดรถที่วัดกะทิง หาข้อมูลจากเจ้าถิ่นก็ได้คำตอบมาประมาณว่า ไม่อันตราย คนเดินทั้งคืน มีไฟทาง เดินกันอย่างเร็วก็4ชม.
เริ่มจากนั่งมอเตอร์ไซมาลงที่สันเขื่อน

วิวจากสันเขื่อนก่อนจะเริ่มเดินเกือบ6โมงเช้า

ทางเดินในช่วงแรกๆก็จะขนานไปกับทางรถ มีหลอดไฟห้อยพอให้เห็นทางเดินชัด (ไม่งั้นอาจจะเดินเข้าป่าไปได้)

ความชันก็พอสมควร ประมาณ 30-40 องศา


ต้องออกไปเดินทางถนนบ้างเล็กน้อย

เดินมา 1.4 กม.แล้ว

มีป้ายบอกทางเดินหลบรถ

มีอุปสรรคให้ข้ามผ่านบ้าง

ต้นไม้ใหญ่ ผ้าสามสีเต็ม

ร้านค้าร้านแรกเดินมาได้ประมาณ 1.9 กม.

อุปสรรคนี้สูงหน่อย


ช่วงนี้ชันมากขึ้น มีเชือกให้ดึง

เดินมา 2.6 กม. 45 นาที ถึงกลางทางแล้ว จุดต่อรถวัดพลวง หลังจากจุดนี้ทางเดินหลบรถจะแยกออกไปจากถนน และมีความชันมากขึ้น

ทางเดินชัน และเป็นหินก้อนใหญ่ๆ ให้เดินหลบ

มีอุปสรรคให้ข้ามผ่าน


ปีนป่ายไปตามรากไม้

อุปสรรคให้มุดผ่าน

เดินมาได้ 3.7 กม. เจอร้านค้าร้านที่2

ส่วนใหญ่ตัวช่วยจะใช้การไม่ได้ เชือกขาด (ทางเดินชันมาก Adventure สุดๆ)

ใกล้จะถึงแล้ว

มีบันไดให้ปีน

ชันสุดๆ เกือบ 90 องศา แต่นี่คือชัยชนะ

วิวจากลาน H

มองไปเห็นหินพระบาท

รวมระยะทาง 4.78 กม 1.45 ชม เดินไม่ได้หยุด เหนื่อยทีเดียว แต่ก็ได้กำลังใจจากเพื่อนร่วมทางที่อยู่บนรถ ทักทายให้กำลังใจบ้างเล็กน้อย
     ขอเปรียบเทียบทางเดินที่นี่กับภูกระดึงซึ่งเป็นปฐมบทของนักเดินทางหลายๆคน (รวมถึงผมด้วย) ว่าใครผ่านที่นี่ได้ ภูกระดึงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะว่า ทางเดินที่นี่มีความชัน โดยเฉพาะช่วงบนๆ มีแต่ขึ้นกับขึ้น และไม่ค่อยมีการทำสิ่งเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดิน (อาจจะเนื่องจากคนไม่ค่อยนิยมเดิน) จุดพักก็น้อย
     สรุปก็ต้องบอกว่า ที่นี่เหมาะกับคนรักการผจญภัย แถมยังได้พิสูจน์ศรัทธาไปพร้อมๆกันอีกด้วย