สเปรย์สมุนไพรปรับอากาศ
ใบมะกรูดและตะไคร้
ที่มาและความสำคัญ
“เศรษฐกิจพอเพียง”เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีเพื่อชี้แนะแนวทางดำเนินชีวิตแก่ชาวไทย ทรงเน้นย้ำแนวทางการพัฒนาที่อยู่บนพื้นฐานของการพึ่งตนเองความพอมี พอใช้ การรู้จักพอประมาณการคำนึงถึงความมีเหตุผล ส่งเสริมความประหยัดในครัวเรือนจากแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การซื้อน้ำยาดับกลิ่นห้องน้ำตามท้องตลาดมาใช้นั้นจะมีราคาแพงซึ่งส่วนใหญ่จะผลิตจากสารเคมีทำให้เกิดอันตรายต่อสภาพแวดล้อม คณะผู้จัดทำจึงศึกษาสมุนไพรที่หาง่ายในท้องถิ่นและเป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเช่น ผิวมะกูด ใบตะไคร้ มาทดลองสกัดคลอโรฟิลส์เพื่อเปรียบเทียบปริมาณที่เหมาะสมและชนิดของสมุนไพรที่สามารถกำจัดกลิ่นในสถานที่ต่าง ๆ
จากการศึกษาพบว่าสารสกัดจากสมุนไพรในปริมาณที่เหมาะสมสามารถกำจัดกลิ่นได้ดีคือ อัตราส่วนระหว่างสมุนไพร 20 กรัม ต่อ แอลกอฮอล์ 200 มิลลิลิตร และสมุนไพรที่กำจัดกลิ่นได้ดีที่สุดคือสารสกัดจากใบมะกรูด
จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
1.เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการกำจัดกลิ่นของสารสกัด ใบมะกูด และใบตะไคร้หอม ในอัตราส่วนที่แตกต่าง
2.เพื่อสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับความสามารถในการกำจัดกลิ่นของสารสกัดจากผิวมะกูดและใบตะไคร้
3.เพื่อเพิ่มคุณค่าของสมุนไพรในท้องถิ่น
ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า
1.เพื่อศึกษาการทำสเปรย์ปรับอากาศสมุนไพร
2.เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของสมุนไพรในการ
ดับกลิ่นอับ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.การเพิ่มคุณค่าให้กับสมุนไพรในท้องถิ่น
2. การลดมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม
3. การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นกับวิทยาศาสตร์ให้เกิดประโยชน์
ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรต้น สารสกัดจากสมุนไพร ใบเตย ใบมะกรูด ต้นตะไคร้หอม
ตัวแปรตาม ความสามารถในการกำจัดกลิ่น
ตัวแปรควบคุม ปริมาณของสมุนไพร และแอลกอฮอล์
นิยามศัพท์เฉพาะ
ความสามารถในการกำจัดกลิ่น หมายถึง การปรับกลิ่นหรือปรับอากาศอากาศให้ดีขึ้น
สารสกัด หมายถึง การเอาชิ้นส่วนของพืชมาบดหรือโขลกแล้วใส่น้ำ หรือสารเคมีลงไปแล้วจึงกรองแยกเอากากออก แล้วละลายออก
วัสดุอุปกรณ์ และวิธีการทดลอง
อุปกรณ์
1. หม้อ
2. กรวย
3. ขวดสเปรย์
4. ภาชนะตวง
วัสดุและสารเคมี
1. ตะไคร้ 30 กรัม
2. ใบมะกรูด 30 กรัม
3. แอลกอฮอร์ 600 มิลลิลิตร (เจือจาง 70%)
วิธีการทดลอง
1.นำตะไคร้ ใบมะกรูดมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก(เพื่อให้สมุนไพรสามารถออกกลิ่นได้เร็วกว่าการที่ต้มโดยไม่หั่น)
2..ต้มแอลกอฮอร์แล้วนำสมุนไพรทั้ง 2 ชนิดลงไปต้ม
3. ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วกรองกากสมุนไพรออก จากนั้นสามารถบรรจุลงขวดสเปรย์ได้ทันที
ผลการทดลอง
จากการทดลองเรื่อง สเปรย์สมุนไพรปรับอากาศทำให้คณะผู้จัดทำได้สำรวจประสิทธิภาพของสเปรย์สมุนไพรปรับอากาศ จากการเปรียบเทียบประสิทธิภาพจะเห็นได้ดังนี้
ชนิดของสมุนไพร ผลการทดลอง
ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3
1.ใบมะกรูด ไม่มีกลิ่น มีกลิ่นเล็กน้อย มีกลิ่นเล็กน้อย
2.ตะไคร้ มีกลิ่นเล็กน้อย มีกลิ่นเล็กน้อย ไม่มีกลิ่น
จากการทดลองสรุปได้ว่า สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นตะไคร้สามารถดับกลิ่นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดสเปรย์ เพราะขณะสกัดสารคลอโรฟิลล์จากมะกรูด มะกรูดใช้ระยะเวลาที่สั้นกว่าสมุนไพรตะไคร้ แล้วยังมีกลิ่นที่มีประสิทธิภาพในการดับกลิ่น
สรุปผลการทดลอง
สรุปได้ว่าสารสกัดสมุนไพรจากใบมะกรูดในปริมาณ 20 กรัม ต่อ 200 ลูกบาศก์เซนติเมตร กำจัดกลิ่นห้องน้ำได้ดีที่สุด
ข้อเสนอแนะ
- ในการสกัดคลอโรฟิลล์ควรระมัดระวังการใช้แอลกอฮอล์เพราะเป็นสารติดไฟได้ง่าย
คณะผู้รายงาน ห้องม.2/11
ได้แก่
เด็กชาย นัทธพงศ์ แสงเสน เลขที่7
เด็กชาย ประสบสุข ใจห้าว เลขที่8
เด็กชาย ปิติชล เมืองแก้ว เลขที่9
อาจารย์ที่ปรึกษา
อาจารย์ วิมล แซ่เดี่ยว
โรงเรียนโยธินบำรุง
283 ถนนราชดำเนิน ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80000
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 12
สเปรย์สมุนไพรปรับอากาศ ใบมะกรูดและตะไคร้
ใบมะกรูดและตะไคร้
ที่มาและความสำคัญ
“เศรษฐกิจพอเพียง”เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีเพื่อชี้แนะแนวทางดำเนินชีวิตแก่ชาวไทย ทรงเน้นย้ำแนวทางการพัฒนาที่อยู่บนพื้นฐานของการพึ่งตนเองความพอมี พอใช้ การรู้จักพอประมาณการคำนึงถึงความมีเหตุผล ส่งเสริมความประหยัดในครัวเรือนจากแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การซื้อน้ำยาดับกลิ่นห้องน้ำตามท้องตลาดมาใช้นั้นจะมีราคาแพงซึ่งส่วนใหญ่จะผลิตจากสารเคมีทำให้เกิดอันตรายต่อสภาพแวดล้อม คณะผู้จัดทำจึงศึกษาสมุนไพรที่หาง่ายในท้องถิ่นและเป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเช่น ผิวมะกูด ใบตะไคร้ มาทดลองสกัดคลอโรฟิลส์เพื่อเปรียบเทียบปริมาณที่เหมาะสมและชนิดของสมุนไพรที่สามารถกำจัดกลิ่นในสถานที่ต่าง ๆ
จากการศึกษาพบว่าสารสกัดจากสมุนไพรในปริมาณที่เหมาะสมสามารถกำจัดกลิ่นได้ดีคือ อัตราส่วนระหว่างสมุนไพร 20 กรัม ต่อ แอลกอฮอล์ 200 มิลลิลิตร และสมุนไพรที่กำจัดกลิ่นได้ดีที่สุดคือสารสกัดจากใบมะกรูด
จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
1.เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการกำจัดกลิ่นของสารสกัด ใบมะกูด และใบตะไคร้หอม ในอัตราส่วนที่แตกต่าง
2.เพื่อสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับความสามารถในการกำจัดกลิ่นของสารสกัดจากผิวมะกูดและใบตะไคร้
3.เพื่อเพิ่มคุณค่าของสมุนไพรในท้องถิ่น
ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า
1.เพื่อศึกษาการทำสเปรย์ปรับอากาศสมุนไพร
2.เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของสมุนไพรในการ
ดับกลิ่นอับ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.การเพิ่มคุณค่าให้กับสมุนไพรในท้องถิ่น
2. การลดมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม
3. การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นกับวิทยาศาสตร์ให้เกิดประโยชน์
ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรต้น สารสกัดจากสมุนไพร ใบเตย ใบมะกรูด ต้นตะไคร้หอม
ตัวแปรตาม ความสามารถในการกำจัดกลิ่น
ตัวแปรควบคุม ปริมาณของสมุนไพร และแอลกอฮอล์
นิยามศัพท์เฉพาะ
ความสามารถในการกำจัดกลิ่น หมายถึง การปรับกลิ่นหรือปรับอากาศอากาศให้ดีขึ้น
สารสกัด หมายถึง การเอาชิ้นส่วนของพืชมาบดหรือโขลกแล้วใส่น้ำ หรือสารเคมีลงไปแล้วจึงกรองแยกเอากากออก แล้วละลายออก
วัสดุอุปกรณ์ และวิธีการทดลอง
อุปกรณ์
1. หม้อ
2. กรวย
3. ขวดสเปรย์
4. ภาชนะตวง
วัสดุและสารเคมี
1. ตะไคร้ 30 กรัม
2. ใบมะกรูด 30 กรัม
3. แอลกอฮอร์ 600 มิลลิลิตร (เจือจาง 70%)
วิธีการทดลอง
1.นำตะไคร้ ใบมะกรูดมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก(เพื่อให้สมุนไพรสามารถออกกลิ่นได้เร็วกว่าการที่ต้มโดยไม่หั่น)
2..ต้มแอลกอฮอร์แล้วนำสมุนไพรทั้ง 2 ชนิดลงไปต้ม
3. ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วกรองกากสมุนไพรออก จากนั้นสามารถบรรจุลงขวดสเปรย์ได้ทันที
ผลการทดลอง
จากการทดลองเรื่อง สเปรย์สมุนไพรปรับอากาศทำให้คณะผู้จัดทำได้สำรวจประสิทธิภาพของสเปรย์สมุนไพรปรับอากาศ จากการเปรียบเทียบประสิทธิภาพจะเห็นได้ดังนี้
ชนิดของสมุนไพร ผลการทดลอง
ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3
1.ใบมะกรูด ไม่มีกลิ่น มีกลิ่นเล็กน้อย มีกลิ่นเล็กน้อย
2.ตะไคร้ มีกลิ่นเล็กน้อย มีกลิ่นเล็กน้อย ไม่มีกลิ่น
จากการทดลองสรุปได้ว่า สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นตะไคร้สามารถดับกลิ่นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดสเปรย์ เพราะขณะสกัดสารคลอโรฟิลล์จากมะกรูด มะกรูดใช้ระยะเวลาที่สั้นกว่าสมุนไพรตะไคร้ แล้วยังมีกลิ่นที่มีประสิทธิภาพในการดับกลิ่น
สรุปผลการทดลอง
สรุปได้ว่าสารสกัดสมุนไพรจากใบมะกรูดในปริมาณ 20 กรัม ต่อ 200 ลูกบาศก์เซนติเมตร กำจัดกลิ่นห้องน้ำได้ดีที่สุด
ข้อเสนอแนะ
- ในการสกัดคลอโรฟิลล์ควรระมัดระวังการใช้แอลกอฮอล์เพราะเป็นสารติดไฟได้ง่าย
คณะผู้รายงาน ห้องม.2/11
ได้แก่
เด็กชาย นัทธพงศ์ แสงเสน เลขที่7
เด็กชาย ประสบสุข ใจห้าว เลขที่8
เด็กชาย ปิติชล เมืองแก้ว เลขที่9
อาจารย์ที่ปรึกษา
อาจารย์ วิมล แซ่เดี่ยว
โรงเรียนโยธินบำรุง
283 ถนนราชดำเนิน ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80000
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 12