เรื่องของละคร ไม่ใช่เรื่องไร้สาระนะคะ ยิ่งในโลกปัจจุบันนี้ อุตสาหกรรมเกี่ยวกับหนัง ละคร ซีรี่ย์ กำลังมีบทบาทมากในโลกธุรกิจ
ซึ่งการทำหนังทำละครมันก็เหมือนกับธุรกิจ อุตสาหกรรมอื่นๆนั่นแหละ ถ้าคุณทำดีทุ่มเทให้กับมัน มันก็ให้ผลประโยชน์กลับมาอย่างเต็มที่. แล้วยังสามารถโกอินเตอร์ เอาไปขายได้ในประเทศต่างๆทั่วโลก หนัง ละคร ดีดีก็มีคนอยากซื้อไปขายที่ประเทศตัวเอง คุณก็ได้ผลประโยชน์ ประเทศชาติก็ได้ประโยชน์ เงินเข้าประเทศมากมาย รายได้ตรงนี้ยังช่วยภาคประชาชนแรงงานในประเทศอีกด้วย. อย่าลืมว่าอุตสาหกรรมการทำหนัง นั้นย่อมเกี่ยวข้องกับแรงงานมากมายในทุกภาคส่วน ตั้งแต่ คนสร้าง บทหนัง เจ้าของบทประพันธ์ คนเขียนบท ผู้กำกับ นักแสดง ตัวประกอบ ช่างแต่งหน้า สไตลิสต์ เด็กยกไฟ สตาฟ จนถึงสถานที่ถ่ายทำ และอื่นอีกมากมาย
ทุกอย่างหมายถึงเม็ดเงินที่มันจะกระจายไปสู่ สังคม
ถ้าคุณตั้งใจทำอย่างเต็มที่ โดยที่คิดให้กว้างกว่าเดิม ในบริบทที่ใหญ่กว่าเดิม. เช่น ที่ผ่านมาเราสร้างละครให้คนดูที่เป็นชาวบ้านร้านตลาด บทละครเดิมๆไม่มีความซับซ้อน นางเอกนางร้ายตบตีแย่งชิงพระเอก. วังวนของละครที่เบาสมอง หรือแทบจะหาแก่นของเรื่องไม่ได้
ลองมาเปลี่ยนมุมมองกันดีกว่า มุมมองที่กว้างกว่าเดิม ทำหนังทำละคร ให้คิดถึงคนดูที่กว้างกว่าเดิมไปจนถึงระดับประเทศ และต่างประเทศ ที่จะสามารถส่งออกไปในระดับอินเตอร์ได้ ถ้าคุณทำได้ผลประโยชน์มากมายมหาศาลจะย้อนกลับมาสู่ประเทศของเรา และสังคมของเรา
และในปัจจุบันเราก็มีหนังที่เคยได้โกอินเตอร์ไปขายมากมายในต่างประเทศ เช่น รักแห่งสยาม พี่มาก และอีกหลายๆเรื่อง ที่สามารถทำรายได้เข้าประเทศมากมาย
แต่ละครมีน้อยมาก เพราะคนทำละคร ยังจำกัดบริบทให้อยู่ในแวดวงคนดูแคบๆและเหมาเอาว่าคนกลุ่มนี้ชอบละครเบาสมอง ไม่ต้องมีสาระมากมาย โดยไม่ได้มองในบริบทที่กว้างกว่านี้ ละครไทยจึงไม่เคยไปไหนได้ไกล นอกจากคนกลุ่มหนึ่งในประเทศเท่านั้น
แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย ละครไทย ก็มีหลายเรื่องที่ถูกซื้อไปฉายที่ประเทศจีน และหลายประเทศในแถบAEC
ขอยกตัวอย่างซีรี่ย์ที่ไปโด่งดังในประเทศจีน และประเทศในAEC คือ เรื่อง fullhouse เวอร์ชั่นไทย (วุ่นนักรักเต็มบ้าน) ถึงแม้เรื่องนี้จะซื้อลิขสิทธิ์มาจากเกาหลี แต่ฉบับไทยนี้ก็สามารถทำออกมาได้โด่งดังไม่แพ้ต้นฉบับ และได้ข่าวว่าขายได้ถึง19ประเทศ รวมถึงประเทศจีนด้วย มันหมายถึงเม็ดเงินที่เข้าประเทศมากมาย. และนักแสดงไทยเองก็โด่งดังไปทั่วเอเชีย ไม่แพ้ดาราเกาหลีเหมือนกัน
ความหวังของอุตสาหกรรมหนังและละครของไทยคงจะต้องฝากไว้กับคนรุ่นใหม่ และภาครัฐที่ควรสนับสนุน คงไม่สามารถหวังกับค่ายละครของช่องน้อยสี ช่องมากสี ได้สักเท่าไหร่ เพราะไม่เคยพัฒนาไปไหนไกล แถมยังโยนความมักง่ายของตัวเองมาให้กับคนดู ว่าคนดูชอบซะอย่างนั้น
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ พิมพ์ในมือถือถ้ามีผิดพลาดต้องขออภัยด้วยค่ะ
สาระของหนัง และละคร ไม่ใช่เรื่องไร้สาระอย่างที่หลายคนคิด
ซึ่งการทำหนังทำละครมันก็เหมือนกับธุรกิจ อุตสาหกรรมอื่นๆนั่นแหละ ถ้าคุณทำดีทุ่มเทให้กับมัน มันก็ให้ผลประโยชน์กลับมาอย่างเต็มที่. แล้วยังสามารถโกอินเตอร์ เอาไปขายได้ในประเทศต่างๆทั่วโลก หนัง ละคร ดีดีก็มีคนอยากซื้อไปขายที่ประเทศตัวเอง คุณก็ได้ผลประโยชน์ ประเทศชาติก็ได้ประโยชน์ เงินเข้าประเทศมากมาย รายได้ตรงนี้ยังช่วยภาคประชาชนแรงงานในประเทศอีกด้วย. อย่าลืมว่าอุตสาหกรรมการทำหนัง นั้นย่อมเกี่ยวข้องกับแรงงานมากมายในทุกภาคส่วน ตั้งแต่ คนสร้าง บทหนัง เจ้าของบทประพันธ์ คนเขียนบท ผู้กำกับ นักแสดง ตัวประกอบ ช่างแต่งหน้า สไตลิสต์ เด็กยกไฟ สตาฟ จนถึงสถานที่ถ่ายทำ และอื่นอีกมากมาย
ทุกอย่างหมายถึงเม็ดเงินที่มันจะกระจายไปสู่ สังคม
ถ้าคุณตั้งใจทำอย่างเต็มที่ โดยที่คิดให้กว้างกว่าเดิม ในบริบทที่ใหญ่กว่าเดิม. เช่น ที่ผ่านมาเราสร้างละครให้คนดูที่เป็นชาวบ้านร้านตลาด บทละครเดิมๆไม่มีความซับซ้อน นางเอกนางร้ายตบตีแย่งชิงพระเอก. วังวนของละครที่เบาสมอง หรือแทบจะหาแก่นของเรื่องไม่ได้
ลองมาเปลี่ยนมุมมองกันดีกว่า มุมมองที่กว้างกว่าเดิม ทำหนังทำละคร ให้คิดถึงคนดูที่กว้างกว่าเดิมไปจนถึงระดับประเทศ และต่างประเทศ ที่จะสามารถส่งออกไปในระดับอินเตอร์ได้ ถ้าคุณทำได้ผลประโยชน์มากมายมหาศาลจะย้อนกลับมาสู่ประเทศของเรา และสังคมของเรา
และในปัจจุบันเราก็มีหนังที่เคยได้โกอินเตอร์ไปขายมากมายในต่างประเทศ เช่น รักแห่งสยาม พี่มาก และอีกหลายๆเรื่อง ที่สามารถทำรายได้เข้าประเทศมากมาย
แต่ละครมีน้อยมาก เพราะคนทำละคร ยังจำกัดบริบทให้อยู่ในแวดวงคนดูแคบๆและเหมาเอาว่าคนกลุ่มนี้ชอบละครเบาสมอง ไม่ต้องมีสาระมากมาย โดยไม่ได้มองในบริบทที่กว้างกว่านี้ ละครไทยจึงไม่เคยไปไหนได้ไกล นอกจากคนกลุ่มหนึ่งในประเทศเท่านั้น
แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย ละครไทย ก็มีหลายเรื่องที่ถูกซื้อไปฉายที่ประเทศจีน และหลายประเทศในแถบAEC
ขอยกตัวอย่างซีรี่ย์ที่ไปโด่งดังในประเทศจีน และประเทศในAEC คือ เรื่อง fullhouse เวอร์ชั่นไทย (วุ่นนักรักเต็มบ้าน) ถึงแม้เรื่องนี้จะซื้อลิขสิทธิ์มาจากเกาหลี แต่ฉบับไทยนี้ก็สามารถทำออกมาได้โด่งดังไม่แพ้ต้นฉบับ และได้ข่าวว่าขายได้ถึง19ประเทศ รวมถึงประเทศจีนด้วย มันหมายถึงเม็ดเงินที่เข้าประเทศมากมาย. และนักแสดงไทยเองก็โด่งดังไปทั่วเอเชีย ไม่แพ้ดาราเกาหลีเหมือนกัน
ความหวังของอุตสาหกรรมหนังและละครของไทยคงจะต้องฝากไว้กับคนรุ่นใหม่ และภาครัฐที่ควรสนับสนุน คงไม่สามารถหวังกับค่ายละครของช่องน้อยสี ช่องมากสี ได้สักเท่าไหร่ เพราะไม่เคยพัฒนาไปไหนไกล แถมยังโยนความมักง่ายของตัวเองมาให้กับคนดู ว่าคนดูชอบซะอย่างนั้น
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ พิมพ์ในมือถือถ้ามีผิดพลาดต้องขออภัยด้วยค่ะ