ตระกูล A มีพี่น้องร่วมกัน 7 คน
โดยบรรพบุรุษมีที่ดินประมาณ 100 ไร่
ครอบครัวสมัยก่อนก็อยู่กันอย่างยากลำบากตรากตำทำกินช่วยบรรพบุรุษ ลูกทุกคนต้องช่วยกันจนมีที่ดิน 100 ไร่นี้ จึงสั่งเสียว่าให้แบ่งเท่า ๆ กันเมื่อจากไป
สมัยก่อนไม่ค่อยรู้เรื่องกฏหมายกัน แต่บางคนเหมือนจะรู้ทำให้ A1 และ A2 พาบรรพบุรุษไปเซ็นยกให้ตนไว้ โดบบอกว่าจะมาแบ่งกันเองทีหลัง
เมื่อบรรพบุรุษจากไป A3 ก็อยากให้มีการแบ่งที่ดินจนเกิดการฟ้องร้องและได้แบ่งในที่สุด
A4 มีที่ดินที่ซื้อหาเองแล้วไม่เดือดร้อนอะไร ก็ยกส่วนที่ตนจะได้ให้อยู่ในกองมรดกนี้(ไม่เอาที่ดินผื่นนี้)
A5 ได้รับการติดต่อให้ดูมรดกที่ทำไว้(A1 และ A2) ซึ่งลูกของ A5 คงจะได้แบ่งที่ดินผื่นนี้
A6 ทำอาชีพไม่มั่นคง มีลูกหลานติดเหล้า ไม่เอาถ่าน จึงไม่ได้รับการติดต่อแบ่งที่ดินแต่อย่างใด
A7 มีลูก 2 คน คนโตเหลวแหลก ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน คนเล็กทำงานรับเงินเดือน (A1 และ A2 จึงมองว่าลูกคนแรกคงจะขายกินหมด)

A6 ไม่ค่อยรู้กฏหมายจึงไม่ได้ร้องแย้งเหมือน A3
A7 ก็ไม่ค่อยรู้กฏหมายจึงไม่ได้ร้องแย้งเหมือน A3 และก็กลัวเสียญาติพี่น้องจึงยอมมาจนเวลาล่วงเลยไปกว่า 20 ปี
ปัจจุบันกลายเป็นว่าที่ดินทั้งหมดที่ช่วยกันหามา A6 และ A7 ตั้งบ้านอยู่ในที่ดินดังกล่าว(ส่วนเล็ก ๆ ของที่ดิน) ที่ดินที่เหลือทั้งหมด A1 และ A2 ใช้ทำมาหากินทั้งหมดตั้งแต่แรกถึงปัจจุบัน ไม่มีพี่น้องคนใดได้ทำประโยชน์เลย ทั้งนี้เขาก็มาเล่าปัญหาให้ผมฟัง ผมก็ไม่ค่อยมีความรู้นะ แต่เรื่องมรดกคดีน่าจะหมดอายุความไปแล้ว ส่วนเรื่องครอบครองปรปักษ์ ก็ไม่รู้จะเข้าข่ายหรือเปล่า เพราะเขาบอกว่าเขาสร้างบ้านมาตรงนี้เพราะบรรพบุรุษให้อยู่ตรงนี้ และขอแบ่งที่ดินแค่เพียงบริเวณบ้านที่เคยอาศัยเท่านั้นแต่ A1 และ A2 ก็ไม่ยอมแบ่งให้ บทสรุปของเรื่องนี้ก็คือตัว A6 และ A7 คงอยู่ได้ตลอดชีวิต แต่ลูกหลานจะโดนขับไล่หรือเปล่าอันนี้ก็ไม่แน่ใจว่า A1 และ A2 จะยกที่ดินให้ใครบ้าง
ใครมีคำแนะนำให้กับ A6 และ A7 ไหมครับในทางกฏหมาย