จากมติชนออนไลน์
เวลา 12.00 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ โม้ดา พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุคานคอนกรีตล้มทับคนงานเสียชีวิตในอาคารร้างไม่มีเลขที่ ท้ายซอยบางขุนเทียน 14 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม.รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ธนเดช ทีนาคะ สวป.สน.ท่าข้าม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเขตบางขุนเทียน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารโรงงานร้างเคยประกอบกิจการทำปลากระป๋องชื่อไอเอสซีปลูกในรั้วรอบขอบชิดบนพื้นที่ประมาณ5ไร่ ปัจจุบันมี บริษัท วสุโต้ง จำกัด นำคนงานและเครื่องจักรกลขนาดใหญ่มารับผิดชอบในการรื้อถอน
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณด้านหลังโรงงานพบรถแบคโฮ ติดเข็มเจาะจอดอยู่ด้านหลังอาคาร ในสภาพถูกคานคอนกรีตขนาดกว้าง 0.5 เมตร ยาว 3 เมตร หล่นจากตัวอาคารลงมาทับ ส่งผลให้ผู้ควบคุมรถแบคโฮเสียชีวิตคาที่ตรงที่นั่งคนขับ ทราบชื่อคือ นายอดิเทพ อินทร์ลามะ อายุ 31 ปี ชาว จ.สุรินทร์ เบื้องต้นจึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อผ่าชันสูตรอีกครั้ง
จากการสอบสวน นายยอด จรัสเศรษฐสิริ อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ให้การว่า ตนพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางมาถึงหลังรับแจ้งเหตุจากเจ้าหน้าที่ทหารให้นำอุปกรณ์ตัดถ่างรีบมาช่วยเหลือเนื่องจากรับข้อมูลว่าผู้ประสบเหตุยังมีลมหายใจแต่พอมาถึง รปภ.ของทางไซต์งานสั่งห้ามไม่อนุญาตให้หน่วยกู้ภัยเข้าไปในพื้นที่ อีกทั้งมีการใช้กำลังฉุดกระชากให้ออกจากพื้นที่โดยยื้อกันนานจนกระทั่งผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิตในที่สุด
“ไม่เข้าใจว่าผู้ดูแลอาคารร้างแห่งนี้คิดอะไรอยู่ ภายในก็ไม่มีทรัพย์สินหรือของมีค่าให้ต้องระวังสูญหาย ถ้าหากอนุญาตให้เข้าไปช่วยเหลือก่อนอย่างทันท่วงที ผู้ประสบเหตุอาจไม่เสียชีวิตก็ได้ มูลนิธิพวกผมเป็นองค์กรช่วยเหลือสังคมมานาน 104 ปี ไม่เคยเลือกเพศ ชั้น วรรณะของผู้ประสบภัย ใครได้รับบาดเจ็บ ล้มตายสภาพไหน เราช่วยเหลือหมดโปรดอย่าคำนึงถึงแต่ชื่อเสียงโดยไม่เห็นค่าชีวิตคนงานที่ต้องสูญเสียไป”
ขณะที่ พ.ต.ท.ธนเดช กล่าวว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าขณะที่ผู้เสียชีวิตกำลังควบคุมรถแบคโฮขุดเจาะพื้นอยู่บริเวณด้านหลังอาคารร้าง คาดว่าคงเกิดแรงสั่นสะเทือนทำให้คานคอนกรีตด้านบนที่ถูกทุบรื้อถอนไปบางส่วนหล่นลงมาทับ อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนจะเรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะผู้ควบคุมการรื้อถอนมาสอบสวนหากพบเป็นความประมาทของผู้ใดจะแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายกันต่อไป
ตึกร้างถล่มทับคนงานดับ ป่อเต็กตึ๊งโวยรปภ.ไม่ยอมให้เข้าไปช่วย
เวลา 12.00 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ โม้ดา พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุคานคอนกรีตล้มทับคนงานเสียชีวิตในอาคารร้างไม่มีเลขที่ ท้ายซอยบางขุนเทียน 14 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม.รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ธนเดช ทีนาคะ สวป.สน.ท่าข้าม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเขตบางขุนเทียน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารโรงงานร้างเคยประกอบกิจการทำปลากระป๋องชื่อไอเอสซีปลูกในรั้วรอบขอบชิดบนพื้นที่ประมาณ5ไร่ ปัจจุบันมี บริษัท วสุโต้ง จำกัด นำคนงานและเครื่องจักรกลขนาดใหญ่มารับผิดชอบในการรื้อถอน
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณด้านหลังโรงงานพบรถแบคโฮ ติดเข็มเจาะจอดอยู่ด้านหลังอาคาร ในสภาพถูกคานคอนกรีตขนาดกว้าง 0.5 เมตร ยาว 3 เมตร หล่นจากตัวอาคารลงมาทับ ส่งผลให้ผู้ควบคุมรถแบคโฮเสียชีวิตคาที่ตรงที่นั่งคนขับ ทราบชื่อคือ นายอดิเทพ อินทร์ลามะ อายุ 31 ปี ชาว จ.สุรินทร์ เบื้องต้นจึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อผ่าชันสูตรอีกครั้ง
จากการสอบสวน นายยอด จรัสเศรษฐสิริ อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ให้การว่า ตนพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางมาถึงหลังรับแจ้งเหตุจากเจ้าหน้าที่ทหารให้นำอุปกรณ์ตัดถ่างรีบมาช่วยเหลือเนื่องจากรับข้อมูลว่าผู้ประสบเหตุยังมีลมหายใจแต่พอมาถึง รปภ.ของทางไซต์งานสั่งห้ามไม่อนุญาตให้หน่วยกู้ภัยเข้าไปในพื้นที่ อีกทั้งมีการใช้กำลังฉุดกระชากให้ออกจากพื้นที่โดยยื้อกันนานจนกระทั่งผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิตในที่สุด
“ไม่เข้าใจว่าผู้ดูแลอาคารร้างแห่งนี้คิดอะไรอยู่ ภายในก็ไม่มีทรัพย์สินหรือของมีค่าให้ต้องระวังสูญหาย ถ้าหากอนุญาตให้เข้าไปช่วยเหลือก่อนอย่างทันท่วงที ผู้ประสบเหตุอาจไม่เสียชีวิตก็ได้ มูลนิธิพวกผมเป็นองค์กรช่วยเหลือสังคมมานาน 104 ปี ไม่เคยเลือกเพศ ชั้น วรรณะของผู้ประสบภัย ใครได้รับบาดเจ็บ ล้มตายสภาพไหน เราช่วยเหลือหมดโปรดอย่าคำนึงถึงแต่ชื่อเสียงโดยไม่เห็นค่าชีวิตคนงานที่ต้องสูญเสียไป”
ขณะที่ พ.ต.ท.ธนเดช กล่าวว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าขณะที่ผู้เสียชีวิตกำลังควบคุมรถแบคโฮขุดเจาะพื้นอยู่บริเวณด้านหลังอาคารร้าง คาดว่าคงเกิดแรงสั่นสะเทือนทำให้คานคอนกรีตด้านบนที่ถูกทุบรื้อถอนไปบางส่วนหล่นลงมาทับ อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนจะเรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะผู้ควบคุมการรื้อถอนมาสอบสวนหากพบเป็นความประมาทของผู้ใดจะแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายกันต่อไป