คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ขึ้นอยู่กับพ่อด้วยค่ะ
ถ้าคิดตามหลักพันธุศาสตร์เลย โอกาสที่ลูกจะมีสีผิวอยู่ระหว่างพ่อกับเเม่จะเยอะสุด
โอกาสที่ลูกจะมีสีผิวเท่าพ่อหรือเเม่หรือมากกว่าพ่อหรือเเม่จะน้อยหน่อย
เพราะสีผิวเป็นลักษณะทางพันธุกรรมแบบแปรผันต่อเนื่อง (polygene หรือบางทีก็เรียก multiple gene)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้polygene หมายถึงมียีนหลายคู่มาควบคุมลักษณะๆหนึ่ง เลยทำให้คนเรามีสีผิวที่ต่างกันหลายเฉด
ถ้าจะอธิบายpolygeneให้เข้าใจง่ายๆ
สมมุติ
- มียีน 4 คู่ควบคุมลักษณะสีผิว
- ยีน N ผิวคล้ำ n ผิวขาว
- ถ้าคนที่มีจีโนไทป์เป็น N1N1N2N2N3N3N4N4 (์N8ตัว) ก็จะเป็นคนที่สีผิวคล้ำที่สุด
ถ้ามีจีโนไทป์เป็น n1n1 n2n2 n3n3 n4n4 (n6ตัว) ก็จะขาวที่สุด
ถ้ามีจีโนไทป์เป็น n1n1 N2n2 N3n3 n4n4 (์N6ตัว n2ตัว) ก็ถือว่าขาวอยู่ แต่ขาวไม่เท่าคนข้างบน
พูดง่ายๆว่าจะขาวหรือคล้ำให้นับตามจนวน N/n อ่ะค่ะ ถ้ามีNเยอะก็คล้ำ nเยอะก็ขาว
- ตย. ถ้าแม่มีจีโนไทป์ N1n1N2N2n3n3N4N4(ค่อนข้างคล้า) แล้วพ่อมีจีโนไทป์ N1n1 n2n2 N3n3n4n4 (ขาว)
ลูกมีโอกาสผิวคล้ำเท่าเเม่ 12.5% ผิวอยู่ระหว่างพ่อกับเเม่ 75% ขาวเท่าพ่อ12.5%
- อีกตย. ถ้าแม่มีจีโนไทป์ 1n1N2N2N3n3N4n4(ค่อนข้างคล้า) พ่อมีจีโนไทป์ n1n1N2n2N3n3 n4n4(ขาว)
ลูกมีโอกาสผิวคล้ากว่าแม่ 3.125% คล้ำเท่าแม่ 15.625% ผิวอยู่ระหว่างพ่อกับเเม่ 62.5% ขาวเท่าพ่อ 15.625% ขาวกว่าพ่อ3.125%
ขอย้ำอีกครั้งนะคะว่าอธิบายเเบบให้เข้าใจง่ายๆ อาจไม่ตรงกับความจริงแป๊ะซะทีเดียว
เพราะในความจริงยีนส์ที่ควบคุมสีผิวไม่ได้มีเเค่ 4คู่ง่ายๆเเค่นี้ อาจจะมีเป็นร้อยเป็นพันคู่เลยก็ได้
แล้วก็อาจจะมีเรื่องการข่มกันของยีนรึอะไรที่วุ่นวายมากกว่านี้ เราไม่ได้มีความรู้ลึกอะไรขนาดนั้น 555
เเต่ที่แน่ๆคือใช้ครีมบำรุงเองจนจากที่เคยคล้ำกลายมาเป็นผิวขาว ไม่เกี่ยวกับถ่ายทอดไปให้ลูกนะคะ
เพราะครีมมันไม่ได้ไปเปลี่ยนDNAเราซักหน่อย DNAสีผิวเราที่ถ่ายทอดไปให้ลูกก็เป็นDNAสีผิวเเบบตอนเราเกิดแหละค่ะ
ถ้าคิดตามหลักพันธุศาสตร์เลย โอกาสที่ลูกจะมีสีผิวอยู่ระหว่างพ่อกับเเม่จะเยอะสุด
โอกาสที่ลูกจะมีสีผิวเท่าพ่อหรือเเม่หรือมากกว่าพ่อหรือเเม่จะน้อยหน่อย
เพราะสีผิวเป็นลักษณะทางพันธุกรรมแบบแปรผันต่อเนื่อง (polygene หรือบางทีก็เรียก multiple gene)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้polygene หมายถึงมียีนหลายคู่มาควบคุมลักษณะๆหนึ่ง เลยทำให้คนเรามีสีผิวที่ต่างกันหลายเฉด
ถ้าจะอธิบายpolygeneให้เข้าใจง่ายๆ
สมมุติ
- มียีน 4 คู่ควบคุมลักษณะสีผิว
- ยีน N ผิวคล้ำ n ผิวขาว
- ถ้าคนที่มีจีโนไทป์เป็น N1N1N2N2N3N3N4N4 (์N8ตัว) ก็จะเป็นคนที่สีผิวคล้ำที่สุด
ถ้ามีจีโนไทป์เป็น n1n1 n2n2 n3n3 n4n4 (n6ตัว) ก็จะขาวที่สุด
ถ้ามีจีโนไทป์เป็น n1n1 N2n2 N3n3 n4n4 (์N6ตัว n2ตัว) ก็ถือว่าขาวอยู่ แต่ขาวไม่เท่าคนข้างบน
พูดง่ายๆว่าจะขาวหรือคล้ำให้นับตามจนวน N/n อ่ะค่ะ ถ้ามีNเยอะก็คล้ำ nเยอะก็ขาว
- ตย. ถ้าแม่มีจีโนไทป์ N1n1N2N2n3n3N4N4(ค่อนข้างคล้า) แล้วพ่อมีจีโนไทป์ N1n1 n2n2 N3n3n4n4 (ขาว)
ลูกมีโอกาสผิวคล้ำเท่าเเม่ 12.5% ผิวอยู่ระหว่างพ่อกับเเม่ 75% ขาวเท่าพ่อ12.5%
- อีกตย. ถ้าแม่มีจีโนไทป์ 1n1N2N2N3n3N4n4(ค่อนข้างคล้า) พ่อมีจีโนไทป์ n1n1N2n2N3n3 n4n4(ขาว)
ลูกมีโอกาสผิวคล้ากว่าแม่ 3.125% คล้ำเท่าแม่ 15.625% ผิวอยู่ระหว่างพ่อกับเเม่ 62.5% ขาวเท่าพ่อ 15.625% ขาวกว่าพ่อ3.125%
ขอย้ำอีกครั้งนะคะว่าอธิบายเเบบให้เข้าใจง่ายๆ อาจไม่ตรงกับความจริงแป๊ะซะทีเดียว
เพราะในความจริงยีนส์ที่ควบคุมสีผิวไม่ได้มีเเค่ 4คู่ง่ายๆเเค่นี้ อาจจะมีเป็นร้อยเป็นพันคู่เลยก็ได้
แล้วก็อาจจะมีเรื่องการข่มกันของยีนรึอะไรที่วุ่นวายมากกว่านี้ เราไม่ได้มีความรู้ลึกอะไรขนาดนั้น 555
เเต่ที่แน่ๆคือใช้ครีมบำรุงเองจนจากที่เคยคล้ำกลายมาเป็นผิวขาว ไม่เกี่ยวกับถ่ายทอดไปให้ลูกนะคะ
เพราะครีมมันไม่ได้ไปเปลี่ยนDNAเราซักหน่อย DNAสีผิวเราที่ถ่ายทอดไปให้ลูกก็เป็นDNAสีผิวเเบบตอนเราเกิดแหละค่ะ
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กรรมพันธุ์แม่สู่ลูก
ปล.กระทู้แรก แทคผิด หรือ อะไรผิด ขอโทษ และฝากแนะนำด้วยค่ะ