ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วแต่ยังไม่มีเวลาเข้ามาสักที ครั้งนี้เลยตั้งใจมาขอบคุฯทุกความคิดเห็นทุกคำแนะนำ และ. เข้ามาขอโทษที่โพสนั้นอ่านยากไป ซึ่งก็พยายามแก้ไขให้แล้วแต่ด้วยเล่นผ่านไอแพดและเพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกเลยไม่ค่อยรู้ว่าเขาแก้ไขอักษรกันยีงไงต้องขอโทษและขอบคุณที่พยายามกันน่ะค่ะ. สำหรับเราแม่ลูก เลือกหนีอยากปัญหาทุกอย่างหลยมาใช้ชีวิตกันตามลำพังแม่ลูกกัน2คน เพียงเพื่อคิดว่าทุกอย่างจะจบและเราก็จะได้ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุขและต่างคนต่างอยู่กันจริงๆสักที. และถ้านี่คือกรรมของเราเราก็เลือกจะชดใช้กรรมทุกอย่างคืนเขาไป. แต่ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมหรืออะไรไม่รู้ทุกอย่างมันกลับไม่ง่ายไม่เป็นอย่างที่เราคิดไว้. เราเลือกเดินออกมาจากปัญหาที่ไม่รู้จักจบ เราเลือกหนีออกมาจากทุกคน ผู้หญิงคนนั้นก็ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ นั่นคือการไม่มีเราแม่ลูกเข้าไปที่บ้านครอบครัวฝ่ายชายอีก หรือแม้แต่ติดต่อและคิดว่าทุกคนจะหยุดเช่นกัน. ตรงข้ามมันกลับยิ่งร้ายแรงรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในขณะที่เราเงียบเดินหลีกหนีปัญหาอีกฝ่ายนึงกลับไม่ยอมหยุดที่สำคัญยังให้คนติดตามและตามสืบประวัติของเรา. ที่สำคัญยังคอยสืบประวัติของคนที่อยู่รอบข้างเราอีกด้วยซึ่งคนเหล่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องและรู้เรื่องที่เกิดขึ้นสักนิดเลย มันกลับทำให้คนอื่นเดือดร้อนและถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องบางคนที่ไม่สนิทก็ให้ข้อมูลที่ผิดไป. นอกจากจะทำให้คนอื่นที่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวข้องเดือดร้อนแล้วมันก็ทำให้ชีวิตเราเดือดร้อนตามไปอีก. ในขณะที่เราคบกับพ่อของลูก6-7ปี จนกระทั่งเรามารู้ว่าเขามีแฟนแล้วตอนเราท้อง. เราก็ยังซื่อสัตย์กับเขาแม้ว่าเราจะผิดหวังเสียใจถูกกระทำเจอเรื่องร้ายๆจากเขาทั้ง2คนมามากแม้แต่วันที่เราเลิกกันเราก็ยังคงรักซื่อสัตย์กับพ่อของลูกมาเสมอ..... ตลอดเวลาเราไม่เคยระรานใครเราอยู่ส่วนของเรา ไม่เคยอยากรู้เรื่องราวเรื่องส่วนตัวของใครและพร้อมเดินออกจากชีวิตเขาทั้ง2เสมอ. ณ ตอนนี้เราไม่รู้เลยว่าเราจะต้องทำยังไงพวกเขาถึงจะพอใจถึงจะหยุดสักทีกับคำกล่าวหาต่างๆ หรือแม้แต่กล่าวหาว่าเรามีชู้ และนำมาซึ่งการตรวจDNA. และเราไม่รู้ว่าเราควรจะตรวจDNA ลูกดีไหม. ไม่ใช่ว่าเรากลัวว่าDNA จะไม่ตรงกับพ่อของลูกนะเราไม่เคยกลัวเพราะเราไม่ได้ทำเรื่องเสียหายในสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นกล่าวหา . เพียงแต่เรากลัวปัญหาที่จะตามมา การตรวจDNA มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นสำหรับเรากับลูกเลย. เราก็คงต้องใช้ชีวิตรับผิดชอบลูกคนเดียวเช่นเคย. ในเมื่อวันนี้พ่อของลูกไม่ยอมรับลูก ไม่เชื่อใจเราคิดว่าเราทำอย่างที่คนของเขากล่าวหาจริงๆ ตลอดเวลาพ่อของลูกก็ไม่เคยยื่นมือมาช่วยอะไรอยู่แล้วทำไมเขาไม่ปล่อยเราไปเลยละจะมาตรวจให้เสียเวลาเสียความรู้สึกเสียเงินทำไม?? คนที่มันไม่หวังดี มันก็ทำร้ายได้เสมออยู่แล้วซึ่งใครอยากทำไรก็ทำไป. แต่ขออย่ามาวุ่นวายกับเราและลูก. อีกอย่างในวันที่ผู้หญิงคนนั้นรู้เรื่องพ่อของลูกก็เลือกจะทิ้งเราแม่ลูกไปและกลับไปใช้ชีวิตกับคนนั้น ใจนึงก็อยากตรวจเพื่อความบริสุทธิ์ใจ แต่ก็มั่นใจว่าตรวจไปแล้วก็ไม่มีไรดีขึ้น. พ่อจะยอมรับผิดชอบลูกไหม. ตอบเลยว่าไม่. ที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นก็ต้องหาเรื่องสร้างเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกแน่นอน ที่สำคัญอีกอย่างเราคิดว่าตลอด1ปีกว่า เราเลี้ยงลูกดูแลรับผิดชอบทุกอย่างคนเดียอยู่แล้ว ถ้าตรวจไปแล้วเราก็ต้องรับผิดชอบทุกอย่างคนเดียวเช่นเคยมันจะมีประโยชน์อะไร? มิหนำซ้ำมีแต่จะนำปัญหามาให้ผู้หญิงคนนั้นคงจะทำอะไรมากกว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นได้ บางครั้งเรายังคิดอยากแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทและละเมอดสิทธิส่วนบุคคลแก่ผู้หญิงคนนั้น. และเพื่อนเราอีกคนที่คอยให้ข้อมูลติดต่อกับฝ่ายนั้นอยู่ด้วยซ้ำ(ไม่ใช่เพื่อนสนิทนะค่ะ. เพื่อนของเพื่อนและไม่ค่อยได้ติดต่อกัน3-4เดือนคุยไลน์กันคริงด้วยซ้ำและเพิ่งรู้จักมา3-4ปี. ไม่ได้รับรู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับเราด้วยซ้ำ. ปัจจุบันเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปคุยกันได้ยังไง? ) แต่เราก็ได้แต่คิดไม่อย่กสร้างเวรกรรมต่อกันอีก 2อาทิตย์ที่เราเลือกเดินออกมาทุกๆคนต่างตามตัวเราแม่ลูกให้กลับบ้านรวมถึงพ่อของลูกแต่เราปฎิเสธแทบจะไม่ติดต่อกลับกับใครเลย. สำหรับเราทุกช่วงเวลาต่อจากนี้เราทำเพื่อลูก เรามีชีวิตอยู่เพื่อลูก. ลูกเป็นทุกสิ่งอย่างสำหรับเราเป็นมากกว่าคำว่ารักเป็นมากกว่าคำว่าชีวิต. ทั้งทำงานทั้งเลี้ยงลูกคนเดียวเหนื่อยมาก. แต่มันเป็นความเหนื่อยที่คนเป็นแม่ทุกคนยอมเต็มใจเหนื่อย. ความเหนื่อยที่ทำให้มีรอยยิ้ม. เราไม่เคยคิดว่าตัวเราจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้. จากคนที่มีเพื่อนมีสังคมเยอะ. คนที่บ้างานกลับบ้านที3-4ทุ่ม ใช้ชีวิตอิสระอยากไปไหนก็ไปอยากเที่ยวอยากช๊อปปิ้งตามใจตัวเอง (แต่เราไม่ชอบเที่ยวกลางคืนนะไม่ดื่มด้วย) ทุกวันหยุดต้องมีโปรแกรมเที่ยวกับเพื่อนๆ ตั้งแต่มีลูกทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ทำงานก็อยากรีบกลับบ้าน. เพื่อนชวนไปไหนไม่ไปทุกเวลาทุกนาทีมีไว้ให้ลูกจริงๆ. เงินทุกบาทที่จะศืเอของส่วนตัวก็เป็นมาช๊อปของลูกแทน. ทุกวันหยุดก็จะกระเตงกันไปเดินห้างบ้าง. ทำบุญบ้างกัน2คนแม่ลูก. จากเคยแต่งตัวตัวเองก็แต่งตัวให้ลูกแทน. นอกจากเวลาทำงานเวลาที่เหลือเราแทบตัวติดกันเลย. แม้แต่อาบน้ำเรายังต้องเข้าไปอาบพร้อมกันกับลูก. เราไม่รู้ว่าชีวิตคนอื่นครอบครัวอื่นแม่คนอื่นๆจะมีปัญหาเหมือนเราไหม. ขึ้นชื่อว่าแม่แล้วมันคงไม่มีคำอื่นที่จะใช้แทนได้นอกจากคำว่า. ลูก. เราคิดเสมอว่าเราไม่ใช่คนเข้มแข็งเราอ่อนแอมาก เพียงแต่เราต้องอยู่ให้ได้ เพื่ออีก1ชีวิต. เราต้องผ่านมันมาให้ได้ ใครจะเหยียบย่ำเรายังไง ใครไม่รักไม่หวังดีไม่ต้องการเรายังไง ขอให้คิดว่าชีวิตน้อยๆที่แระที่เขารักและต้องการเรามากที่สุด.
มากกว่ารัก มากกว่าชีวิต มากกว่าความเสียใจ