จำเลยไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่...

กระทู้สนทนา





1. สินเชื่อเพื่อการทำบุญ “ หล่อทองคำรูปเหมือนหลวงปู่ - พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ มุ นี ”

2. “ ไปตามเจ้าของบุญ เจ้าของบ้าน มาอยู่ใกล้หลวงพ่อ ” !!!!!

3. รวยไม่ยั้ง รวยไม่หยุด สไตล์สาวกธัมมี่ อย่าง ดร.ศุภชัย ศรีศุภอักษร

4. เรื่องของ “ศุภชัย ศรีศุภอักษร” อดีตประธานสหกรณ์ฯ คลองจั่น (บทเรียนในเรื่องศีลธรรมของผู้บริหาร)

5. ประธานกฐินอัครบรมจักรพรรดิ ปี พ.ศ. 2552  "ผมมีวันนี้ เพราะคุณยาย"
    และได้เป็นผู้แทนสาธุชนนำกล่าวคำถวายผ้ากฐิน และน้อมนำผ้ากฐินอัครบรมจักรพรรดิถวายแด่ผู้แทนคณะสงฆ์
    ดูประวัติการสร้างเนื้อสร้างตัว  จากอดีตเด็กวัด  จนกลายเป็นนักธุรกิจหมื่นล้านในวันนี้

6. เป็นตัวแทนนำกล่าวคำแสดงตนเป็นพุทธมามกะในพิธีตักบาตรพระล้านรูป
    เป็นตัวแทนนำกล่าวคำแสดงตนเป็นพุทธมามกะในแทบ จะ ทุก ๆ จังหวัด  ในเวบลิงค์นี้  ยกตัวอย่างมา 4 จังหวัด  เป็นตัวแทนทุกจังหวัด

7. กัลฯ ศุภชัย ศรีศุภอักษร เป็นผู้แทนอลัชชีเดียรถีย์สมีธัมมี่ในคราบพระราชภาวนาวิสุทธิ์(ในขณะนั้น ปัจจุบันเป็นอลัชชีเดียรถีย์สมีธัมมี่ในคราบพระเทพญาณมหามุนี) ประกอบพิธีปิดแผ่นทอง เสาเข็มต้นมหาสมบัติจักรพรรดิต้นแรก

8. ร่วมเป็นเจ้าภาพการจัดพิมพ์วารสารอยู่ในบุญ วารสารในเครือข่ายของวัดพระธรรมกาย เป็นประจำทุกเดือน


ลองคลิกเข้าไปอ่านเวบลิงค์ทั้ง 8 ข้างบนเข้าไปดูกันน่ะครับ




ขนาดตัวอลัชชีเดียรถีย์สมีธัมมี่เองแท้ ๆ ตั้งให้คุณศุภชัยฯ เป็นตัวแทนในการปิดทองเสาเข็มต้นมหาสมบัติจักรพรรดิต้นแรกอย่างนี้แล้ว  มันจะยังไม่นับว่า รู้จักเป็นการส่วนตัวอีกหรอกหรือครับ




ผมตั้งฉายาว่า  อลัชชีเดียรถีย์สมีธัมมี่  นั้น  พอสมน้ำสมเนื้อกันแล้วใช่ไหมครับ !!!!!



ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว  มอบเงินให้กันครั้งละ นับร้อย ๆ ล้าน

อุแม่เจ้า

เงินร้อย ๆ ล้านนี้  เป็นเพียงแค่ขนหน้าแข้งล่ะมั้ง   มันถึงมอบให้กับคนที่รู้จักกันเพียงผิว ๆ เผิน ๆ กันได้   เปรียบไปแล้ว  ก็เพียงแค่ขนหน้าแข้งเพียงเส้น 2 เส้นของอลัชชีเดียรถีย์สมีธัมมี่และคุณศุภชัยฯ เท่านั้น

แต่เงินนับร้อยล้านบาทนั้น  มันหมายถึงเงินที่ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของบรรดาสมาชิกสหกรณ์คลองจั่นที่สั่งสมกันมาทั้งชีวิตเลยน่ะครับ

กว่าจะเก็บเงินได้ขนาดนี้  ต้องทำมาหากินตัวเป็นเกลียวแทบขาดใจ

มิหนำซ้ำ  กลับมาถูกคนในขบวนการเหลือบในคราบพระปลอม ๆ ปอก-ลอก-ยัก-ยอก เอาไป

คุณอลัชชีเดียรถีย์สมีธัมมี่  คุณมีสิทธิ์อะไรมาใช้ผ้ากาสาวพัตร์แสวงหาผลประโยชน์บนความทุกข์ของชาวพุทธทั้งหลาย

คุณน่ะ  ปาราชิกขาดจากการเป็นพระแล้ว ยังกล้าใช้ผ้ากาสาวพัตร์หลอกลวงพุทธศาสนิกชนอยู่อีกเหรอ

อ๋อ พุทธศาสนิกชน  ก็เป็นเพียงพุทธบริษัทตัวน้อย ๆ ไม่พอมือใช่ไหม

ก็ขนาด  พระพุทธเจ้า  อลัชชีเดียรถีย์สมีธัมมีก็ยังไม่เว้นเลย

ทั้งปรามาส ทั้งดูหมิ่น ดูแคลน

โถถัง  กล่าวตู่ได้ว่า พระพุทธเจ้าไม่รู้จักมาร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่