เมื่อคืนได้มีโอกาสนั่งดูละครเรื่องนึงทางช่องเยอะสี ปกติไม่มีทีวีดู ใช้แต่เนท เห็นฉากที่พระเอกโชว์หวิวเรียกเรทติ้งจากแฟนคลับออกมาซ่อมรถให้นางเอกหน้าบ้าน ซึ่งพระเอกได้บอกว่า "สาเหตุเกิดจากน้ำมันเครื่องหมด รถมันก็วิ่งไม่ได้สิ" ผมก็ อืม.....น้ำมันเครื่อง (นมค) หมด แต่ความร้อนในห้องเครื่องที่เปิดขึ้นมา สังเกตจากที่พระเอกยืนดูแล้วแล้วปกติมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่เท่ากับพระเอกรู้ได้ไงว่าน้ำมันเครื่องหมด ทั้งที่ยังไม่ได้ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องขึ้นมา หรือแม้แต่เปิดฝาเครื่องดู พูดถึงยังไม่ได้แม้แตะต้องเครื่องรถเลยด้วยซ้ำ พูดง่ายๆว่าพระเอกคงจะมีตาทิพย์แบบซุเปอร์แมนที่สามารถสแกนกรรมยิ่งกว่าเจนยานชิบ สัมผัสเห็นได้โดยไม่ต้องแตะยิ่งกว่าสิวจิต

แล้วตรัสรู้ได้ทันทีว่า นมค หมด
ผมดูแล้วก็ได้แต่เห้อ.......ยาวๆ
พลางคิดในใจว่าคนทั้งกองไม่มีใครสักคนที่จะมีความรู้เรื่องนี้หรือคิดที่จะให้ความรู้อะไรกับผู้ชมทางบ้านบ้างเลยหรืออย่างไร หรือคิดเป็นแต่ทำละครมักง่ายชิงรักหักสวาทไปปีๆ
กรณีนี้มันง่ายแค่ไหนที่คุณจะแทรกสอดความมีสาระให้แก่ผู้ชมเข้าไปบ้างสักนิด โดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มให้มันเปลืองค่าโฆษณาแต่อย่างใด แค่ให้พระเอกดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องขึ้นมา และชี้ให้นางเอกดูว่าการสังเกตุระดับ นมค มันเป็นอย่างไร เพราะจริงๆแล้วคุณไม่ได้บอกแค่นางเอก แต่คุณกำลังบอกคนทั้งประเทศที่ดูละครคุณอยู่ แค่เรื่องเล็กน้อยๆแค่นี้ผู้จัดละครยังทำไม่ได้ คนทั้งกองละครไม่มีใครสักคนที่จะมีความรู้เรื่องนี้เลยหรือ แม้กระทั่งพระเอกที่ชีวิตจริงก็คงใช้รถอยู่ทุกวัน ไม่เคยนึกจะฉุกคิดเรื่องบทแบบนี้บ้างเลยหรือครับ หรือแค่ขับรถได้อย่างเดียวจริงๆ
ย้อนกลับไปเดือนที่แล้ว ก็ได้ดูละครตอนเย็นในเวลาประมาณ 18 น. ของช่องเดียวกันนี้ ที่พระเอกเป็นลูกเจ้าของโรงงานอะไรสักอย่าง แล้วนางเอกเป็นผู้ช่วยในโรงงานพระเอก (ผมไม่ได้ดูทุกตอนหรอกนะครับ แต่เท่าที่เห็นและคิดว่าคงจะเหมือนกันทุกตอนล่ะ) มีสักตอนบ้างไหมที่เป็นความรู้ที่เกี่ยวกับการทำงานของพระเอกจริงๆ ที่หนักไปกว่านั้นคือ ตอนที่ผมดูเป็นตอนที่น้องของพ่อพระเอกได้ใช้ให้ลูกน้องไปขโมยโฉนดที่ดินของพ่อพระเอก ผมได้แต่นึกในใจว่า เอาไปทำอะไรครับ ขโมยโฉนดแล้วจะได้ที่ดินไปด้วยหรือ ผมไม่ทราบว่าในยุคที่ผู้กำกับละครยังเด็ก ขโมยขโจรสามารถลักโฉนดไปขายได้หรือไม่ แต่นี่มันยุคไหนแล้วครับ เอาแค่กระดาษไปจะเอาไปทำอะไรได้ครับ แถมกระดาษใบนั้นยังมีชื่อคนอื่นเป็นเจ้าของแล้วอีกต่างหาก
สรุปไม่ว่าจะในยุคไหน ประเทศของเราคงไม่สามารถที่จะสร้างละครที่มีสาระหรืออย่างน้อยก็แทรกสอดความมีสาระที่ถูกหลักความเป็นจริงเข้าไปในละครได้บ้างเลยหรือ ขนาดหลายๆช่องมีเทคนิคบลูสกรีน โชว์เอฟเฟคความเทพกันตูมตาม แต่กับเรื่องสาระง่ายๆแค่นี้กลับใส่ลงไปไม่เป็น
ผมถึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมผู้จัดละครไทยถึงไม่สามารถสร้างละครพลอตเรื่องในแบบของประเทศอื่นๆที่เรามักซื้อลิขสิทธิ์มาฉายกันมากมายได้
ก็ขนาดเรื่องใกล้ตัวแค่นี้ ยังมั่วข้อมูล แล้วจะเอาเรื่องซับซ้อน ซ่อนเงื่อนมาให้กำกับ หลับไปสักสิบปี ตื่นมาก็คงตบจูบกันอยู่ที่เดิมนี่แหละ
ง่ายดี!!
แท๊กปัญหาสังคม เพราะคิดว่าละครบ้านเราก็เป็นหนึ่งในเรื่องของการทำให้เกิดปัญหาสังคม อย่าคิดโทษแต่เกมส์
แท๊กหนังสือนิยาย เผื่อจะมีคนเขียนบทละครอยู่แถวๆนี้บ้าง
"ละครไทย" ความไร้สาระ ที่ไม่เคยคิดจะ มีสาระ
ผมดูแล้วก็ได้แต่เห้อ.......ยาวๆ
พลางคิดในใจว่าคนทั้งกองไม่มีใครสักคนที่จะมีความรู้เรื่องนี้หรือคิดที่จะให้ความรู้อะไรกับผู้ชมทางบ้านบ้างเลยหรืออย่างไร หรือคิดเป็นแต่ทำละครมักง่ายชิงรักหักสวาทไปปีๆ
กรณีนี้มันง่ายแค่ไหนที่คุณจะแทรกสอดความมีสาระให้แก่ผู้ชมเข้าไปบ้างสักนิด โดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มให้มันเปลืองค่าโฆษณาแต่อย่างใด แค่ให้พระเอกดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องขึ้นมา และชี้ให้นางเอกดูว่าการสังเกตุระดับ นมค มันเป็นอย่างไร เพราะจริงๆแล้วคุณไม่ได้บอกแค่นางเอก แต่คุณกำลังบอกคนทั้งประเทศที่ดูละครคุณอยู่ แค่เรื่องเล็กน้อยๆแค่นี้ผู้จัดละครยังทำไม่ได้ คนทั้งกองละครไม่มีใครสักคนที่จะมีความรู้เรื่องนี้เลยหรือ แม้กระทั่งพระเอกที่ชีวิตจริงก็คงใช้รถอยู่ทุกวัน ไม่เคยนึกจะฉุกคิดเรื่องบทแบบนี้บ้างเลยหรือครับ หรือแค่ขับรถได้อย่างเดียวจริงๆ
ย้อนกลับไปเดือนที่แล้ว ก็ได้ดูละครตอนเย็นในเวลาประมาณ 18 น. ของช่องเดียวกันนี้ ที่พระเอกเป็นลูกเจ้าของโรงงานอะไรสักอย่าง แล้วนางเอกเป็นผู้ช่วยในโรงงานพระเอก (ผมไม่ได้ดูทุกตอนหรอกนะครับ แต่เท่าที่เห็นและคิดว่าคงจะเหมือนกันทุกตอนล่ะ) มีสักตอนบ้างไหมที่เป็นความรู้ที่เกี่ยวกับการทำงานของพระเอกจริงๆ ที่หนักไปกว่านั้นคือ ตอนที่ผมดูเป็นตอนที่น้องของพ่อพระเอกได้ใช้ให้ลูกน้องไปขโมยโฉนดที่ดินของพ่อพระเอก ผมได้แต่นึกในใจว่า เอาไปทำอะไรครับ ขโมยโฉนดแล้วจะได้ที่ดินไปด้วยหรือ ผมไม่ทราบว่าในยุคที่ผู้กำกับละครยังเด็ก ขโมยขโจรสามารถลักโฉนดไปขายได้หรือไม่ แต่นี่มันยุคไหนแล้วครับ เอาแค่กระดาษไปจะเอาไปทำอะไรได้ครับ แถมกระดาษใบนั้นยังมีชื่อคนอื่นเป็นเจ้าของแล้วอีกต่างหาก
สรุปไม่ว่าจะในยุคไหน ประเทศของเราคงไม่สามารถที่จะสร้างละครที่มีสาระหรืออย่างน้อยก็แทรกสอดความมีสาระที่ถูกหลักความเป็นจริงเข้าไปในละครได้บ้างเลยหรือ ขนาดหลายๆช่องมีเทคนิคบลูสกรีน โชว์เอฟเฟคความเทพกันตูมตาม แต่กับเรื่องสาระง่ายๆแค่นี้กลับใส่ลงไปไม่เป็น
ผมถึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมผู้จัดละครไทยถึงไม่สามารถสร้างละครพลอตเรื่องในแบบของประเทศอื่นๆที่เรามักซื้อลิขสิทธิ์มาฉายกันมากมายได้
ก็ขนาดเรื่องใกล้ตัวแค่นี้ ยังมั่วข้อมูล แล้วจะเอาเรื่องซับซ้อน ซ่อนเงื่อนมาให้กำกับ หลับไปสักสิบปี ตื่นมาก็คงตบจูบกันอยู่ที่เดิมนี่แหละ
ง่ายดี!!
แท๊กปัญหาสังคม เพราะคิดว่าละครบ้านเราก็เป็นหนึ่งในเรื่องของการทำให้เกิดปัญหาสังคม อย่าคิดโทษแต่เกมส์
แท๊กหนังสือนิยาย เผื่อจะมีคนเขียนบทละครอยู่แถวๆนี้บ้าง