ตอนที่ 777 - โซโล VS ปิก้า
ปกตอนเป็นภาพของวาดะสึมิกำลังขอโทษที่ก่อความวุ่นวาย ส่วนลูกแมวทะเลก็ได้กลับไปรวมกับครอบครัวอีกครั้ง
- ขณะที่ดิอาแมนเต้กำลังล้มลงจากการโดนฟันด้วยดาบของไครอส หัวของเขากระแทกบนป้ายไม้จนหมดสติลง
- โรบินส่งตัวรีเบคก้าให้กับพ่อของเธอ แต่รีเบคก้าไม่รู้เลยว่าที่หลังของโรบินมีบาดแผลและเลือด เนื่องจากโรบินไปโดนบอลเหล็กหนามขณะที่เธอเป็นโล่กันให้รีเบคก้า
- ป้ายไม้ที่หัวดิอาแมนเต้ไปกระแทก จริงๆแล้วคือหลุมฝังศพของสการ์เล็ต
- วิโอล่ารายงานเรื่องนี้ให้กับราชาริคุและแทงค์ ลีแพนโต้ถึงชัยชนะของไครอส รวมถึงรีเบคก้าที่ปลอดภัยดี
- ฉากย้อนอดีตนิดหน่อยในวันที่สการ์เล็ตเสียชีวิต เธอก็รายงานให้พวกเขาฟังด้วย
- วิโอล่ายังรายงานเรื่องของพวกหมวกฟางรวมถึงพวกพันธมิตรที่สามารถปราบพวกเจ้าหน้าที่ของตระกูลดองกี้โฮเต้ไปได้หลายคนแล้ว
- ที่ยังเหลืออยู่ก็มี เบลามี่ ปิก้า เทรโบล และโดฟลามิงโก้
- ราชาและแทงค์ได้มุ่งหน้าเข้าไปในเมืองเพื่อหาดูว่าพวกเขาจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง
- ประชาชนที่รู้สึกอับอายถึงการกระทำของตนเองที่ไปไล่ล่าพวกหมวกฟาง ก็ตามพวกราชาไปด้วย
- พลเอกฟูจิโทระได้รวมพวกทหารเรือเพื่อคอยช่วยบอกแนะพวกประชาชนที่อยู่ในเมืองให้ไปอยู่ในที่ๆ
พวกทหารเรือจะสามารถปกป้องพวกเขาได้
- ขณะที่รีเบคก้าและไครอสยืนอยู่หน้าหลุมฝังศพของสการ์เล็ต ปิก้าก็โจมตีพวกเขาด้วยเสาหินเดือยแหลม
- บนเสาหินแท่นนึงที่มีใบหน้าของปิก้า ได้พูดว่าดิอาแมนเต้ช่างน่าสังเวชอะไรเยี่ยงนี้
- ปิก้าถามไครอสว่า ราชาริคุคืออะไรสำหรับเจ้า? รีเบคก้างั้นหรือ เจ้าไม่เคยโดนดูถูกมาตลอดเพราะเขาใช่มั้ย?
- ไครอสตอบกลับว่าราชาคือพ่อเลี้ยงของเขาและก็เป็นชายที่ช่วยชีวิตเขาไว้ ตระกูลริคุรู้ถึงความหมายของสันติภาพอันแท้จริง ทุกคนต้องการให้เขากลับขึ้นมา
ครองบัลลังก์
- ปิก้าก็ได้ฟังสิ่งที่เขาอยากจะได้ยิน จากนั้นเขาก็หายตัวไป
ที่ชั้น 2
- โซโลมองหาปิก้าด้วยความโมโห เพราะเขาหนีลงไปที่พื้นด้านล่างอีกแล้ว ทำไมมันต้องหนีตลอดเลย แทนที่จะมาเจอกันตัวตัว?
- ปิก้าปรากฏตัวอีกครั้ง เพื่อจัดการกับฮาจรูดิน จินเจ่า ไอดิโอ้ และคนอื่นๆที่บาดเจ็บ เขายังเรียกเบบี้ 5 ว่าพวกทรยศด้วย และพยายามจะขยี้เธอด้วยหิน
แต่ไซก็ปัดเธอออกไปและเขาก็โดนหินอัดแทน
- โซโลฉุนถึงการกระทำอันขี้ขลาดของปิก้าที่ไปไล่ทำร้ายคนที่บาดเจ็บ ปกป้องตัวเองไม่ได้ เขาจึงรีบมุ่งหน้าไปช่วยเหลือ
- ปิก้าสร้างหัวขนาดใหญ่เพื่อกลืนตัวโซโล และเขาก็ถามโซโลว่ารู้หรือเปล่าว่าตอนนี้บนที่ราบหลวงมีใครอยู่บ้าง
- โซโลผ่าหัวออกเป็นครึ่งๆ และตอบกลับไปว่า ก็ราชาของประเทศนี้ยังไงเล่า!
- ปิก้าตอบกลับว่า "ไม่ใช่" ริคุไม่ใช่ราชาของประเทศนี้ ที่นี่มีราชาเพียงคนเดียว และเขาก็คือโดฟลามิงโก้ ส่วนพวกเหลือบไลพวกนี้ก็เป็นแค่พวกก่อความรำคาญ
เท่านั้นแหละ
- เขาสร้างร่างยักษ์อีกครั้ง และเริ่มเดินไปยังที่ราบหลวง
- โซโลนึกได้ว่าเขาโดนหลอกนี่หว่า ปิก้าเดินมุ่งหน้าไปยังที่ราบหลวง เพื่อล่อการต่อสู้ระหว่างพวกเขาให้ห่างออกไป ดังนั้นทันทีที่เขาจะมุ่งหน้าไปที่นั่น
โซโลก็จะไม่สามารถตามปิก้าทันได้ ด้วยความแข็งแกร่งของปิก้า เขาสามารถทำลายที่ราบหลวงได้เพียงหมัดเดียว ซึ่งจะได้เป็นการฆ่าราชาและอุซปไปพร้อมๆกัน
โซโลจึงเริ่มคิดอย่างรวดเร็ว
แผน 1: ปล่อยคลื่นดาบใส่เขา - ไม่ดีๆ มันไกลเกินที่จะไปถึงตัวปิก้าแบบเต็มเหนี่ยว
แผน 2: กระโดดลงบนเจ้ายักษ์และก็ฟันเขา - ไม่มีทางที่เขาจะตามทันแน่
แผน 3: ตะโกนอย่างสุดพลังเพื่อเตือนอุซป - ไม่มีทางที่เจ้านั่นจะได้ยินแน่
แผน 4: ใช้แมลงสื่อสาร - ซึ่งกุก็ไม่มีอีก...
แผน 5: บินขึ้นไปกลางอากาศและฟันมันซะ - ใช่เลย เริ่มใช้แผนนี้นี่แหละ!
จบตอน
CR: Redon and Aohige at arlongpark
[Spoil] One Piece 777 - โซโล VS ปิก้า
ปกตอนเป็นภาพของวาดะสึมิกำลังขอโทษที่ก่อความวุ่นวาย ส่วนลูกแมวทะเลก็ได้กลับไปรวมกับครอบครัวอีกครั้ง
- ขณะที่ดิอาแมนเต้กำลังล้มลงจากการโดนฟันด้วยดาบของไครอส หัวของเขากระแทกบนป้ายไม้จนหมดสติลง
- โรบินส่งตัวรีเบคก้าให้กับพ่อของเธอ แต่รีเบคก้าไม่รู้เลยว่าที่หลังของโรบินมีบาดแผลและเลือด เนื่องจากโรบินไปโดนบอลเหล็กหนามขณะที่เธอเป็นโล่กันให้รีเบคก้า
- ป้ายไม้ที่หัวดิอาแมนเต้ไปกระแทก จริงๆแล้วคือหลุมฝังศพของสการ์เล็ต
- วิโอล่ารายงานเรื่องนี้ให้กับราชาริคุและแทงค์ ลีแพนโต้ถึงชัยชนะของไครอส รวมถึงรีเบคก้าที่ปลอดภัยดี
- ฉากย้อนอดีตนิดหน่อยในวันที่สการ์เล็ตเสียชีวิต เธอก็รายงานให้พวกเขาฟังด้วย
- วิโอล่ายังรายงานเรื่องของพวกหมวกฟางรวมถึงพวกพันธมิตรที่สามารถปราบพวกเจ้าหน้าที่ของตระกูลดองกี้โฮเต้ไปได้หลายคนแล้ว
- ที่ยังเหลืออยู่ก็มี เบลามี่ ปิก้า เทรโบล และโดฟลามิงโก้
- ราชาและแทงค์ได้มุ่งหน้าเข้าไปในเมืองเพื่อหาดูว่าพวกเขาจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง
- ประชาชนที่รู้สึกอับอายถึงการกระทำของตนเองที่ไปไล่ล่าพวกหมวกฟาง ก็ตามพวกราชาไปด้วย
- พลเอกฟูจิโทระได้รวมพวกทหารเรือเพื่อคอยช่วยบอกแนะพวกประชาชนที่อยู่ในเมืองให้ไปอยู่ในที่ๆ
พวกทหารเรือจะสามารถปกป้องพวกเขาได้
- ขณะที่รีเบคก้าและไครอสยืนอยู่หน้าหลุมฝังศพของสการ์เล็ต ปิก้าก็โจมตีพวกเขาด้วยเสาหินเดือยแหลม
- บนเสาหินแท่นนึงที่มีใบหน้าของปิก้า ได้พูดว่าดิอาแมนเต้ช่างน่าสังเวชอะไรเยี่ยงนี้
- ปิก้าถามไครอสว่า ราชาริคุคืออะไรสำหรับเจ้า? รีเบคก้างั้นหรือ เจ้าไม่เคยโดนดูถูกมาตลอดเพราะเขาใช่มั้ย?
- ไครอสตอบกลับว่าราชาคือพ่อเลี้ยงของเขาและก็เป็นชายที่ช่วยชีวิตเขาไว้ ตระกูลริคุรู้ถึงความหมายของสันติภาพอันแท้จริง ทุกคนต้องการให้เขากลับขึ้นมา
ครองบัลลังก์
- ปิก้าก็ได้ฟังสิ่งที่เขาอยากจะได้ยิน จากนั้นเขาก็หายตัวไป
ที่ชั้น 2
- โซโลมองหาปิก้าด้วยความโมโห เพราะเขาหนีลงไปที่พื้นด้านล่างอีกแล้ว ทำไมมันต้องหนีตลอดเลย แทนที่จะมาเจอกันตัวตัว?
- ปิก้าปรากฏตัวอีกครั้ง เพื่อจัดการกับฮาจรูดิน จินเจ่า ไอดิโอ้ และคนอื่นๆที่บาดเจ็บ เขายังเรียกเบบี้ 5 ว่าพวกทรยศด้วย และพยายามจะขยี้เธอด้วยหิน
แต่ไซก็ปัดเธอออกไปและเขาก็โดนหินอัดแทน
- โซโลฉุนถึงการกระทำอันขี้ขลาดของปิก้าที่ไปไล่ทำร้ายคนที่บาดเจ็บ ปกป้องตัวเองไม่ได้ เขาจึงรีบมุ่งหน้าไปช่วยเหลือ
- ปิก้าสร้างหัวขนาดใหญ่เพื่อกลืนตัวโซโล และเขาก็ถามโซโลว่ารู้หรือเปล่าว่าตอนนี้บนที่ราบหลวงมีใครอยู่บ้าง
- โซโลผ่าหัวออกเป็นครึ่งๆ และตอบกลับไปว่า ก็ราชาของประเทศนี้ยังไงเล่า!
- ปิก้าตอบกลับว่า "ไม่ใช่" ริคุไม่ใช่ราชาของประเทศนี้ ที่นี่มีราชาเพียงคนเดียว และเขาก็คือโดฟลามิงโก้ ส่วนพวกเหลือบไลพวกนี้ก็เป็นแค่พวกก่อความรำคาญ
เท่านั้นแหละ
- เขาสร้างร่างยักษ์อีกครั้ง และเริ่มเดินไปยังที่ราบหลวง
- โซโลนึกได้ว่าเขาโดนหลอกนี่หว่า ปิก้าเดินมุ่งหน้าไปยังที่ราบหลวง เพื่อล่อการต่อสู้ระหว่างพวกเขาให้ห่างออกไป ดังนั้นทันทีที่เขาจะมุ่งหน้าไปที่นั่น
โซโลก็จะไม่สามารถตามปิก้าทันได้ ด้วยความแข็งแกร่งของปิก้า เขาสามารถทำลายที่ราบหลวงได้เพียงหมัดเดียว ซึ่งจะได้เป็นการฆ่าราชาและอุซปไปพร้อมๆกัน
โซโลจึงเริ่มคิดอย่างรวดเร็ว
แผน 1: ปล่อยคลื่นดาบใส่เขา - ไม่ดีๆ มันไกลเกินที่จะไปถึงตัวปิก้าแบบเต็มเหนี่ยว
แผน 2: กระโดดลงบนเจ้ายักษ์และก็ฟันเขา - ไม่มีทางที่เขาจะตามทันแน่
แผน 3: ตะโกนอย่างสุดพลังเพื่อเตือนอุซป - ไม่มีทางที่เจ้านั่นจะได้ยินแน่
แผน 4: ใช้แมลงสื่อสาร - ซึ่งกุก็ไม่มีอีก...
แผน 5: บินขึ้นไปกลางอากาศและฟันมันซะ - ใช่เลย เริ่มใช้แผนนี้นี่แหละ!
จบตอน
CR: Redon and Aohige at arlongpark