เป็นคู่รักอารมณ์ดีที่ไม่เว้นแม้แต่วันแห่งความรักที่เพิ่งผ่านมา เมื่อสีภรรยา “เอ๋-พรทิพย์” มาลัยมากราบเท้าสามี “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” ถึงในห้องน้ำงานนี้ทำเอาซึ้งปนฮาเลยทีเดียว มีโอกาสได้เจอทั้งคู่มาแสดงความยินดีในแถลงข่าวเปิด อัลบั้มวง “PP Project” (พีพี โปรเจ็ค) โปรเจ็คพิเศษระหว่าง ผู้บริหารหนุ่มอารมณ์ดีมากความสามารถ แห่งสายการบินนกแอร์ “พาที สารสิน” กับมือกีต้าร์ผู้คร่ำหวอดในวงการดนตรีแจ๊ซของเมืองไทย “โปรด-ธนภัทร มัธยมจันทร์” โดยทั้งคู่เล่าให้ฟังถึงโมเม้นต์หวานๆปนฮาในวันวาเลนไทน์ให้ฟังว่า
ป๋อ : “ผมไปฟิตติ้งละคร ก็คิดว่าปีนี้จะเซอร์ไพรส์เอ๋ก็เลยสั่งดอกไม้แพงมากๆ ไม่คิดว่าดอกไม้จะแพงขนาดนี้แล้วพี่สั่ง 1 วันก่อนวาเลนไทน์ ราคาพุ่งปรี๊ด”
เอ๋ : “ 11 ปีที่คบกันมาพี่ป๋อไม่เคยให้ดอกไม้เอ๋เลยนี่คือครั้งแรก ตอนที่มีคนเอาเข้ามาให้เชื่อไหมว่าไม่คิดว่าจะเป็นของเอ๋ คิดว่าเป็นของหนิง ในนั้นก็มีการ์ดแล้วเขียนกลอนแต่งเอง น่ารักนะ แต่ไม่อยากเชื่อแล้วไม่ลงชื่ออีก คนที่มาส่งบอกว่าเป็นพี่ป๋อ เราก็ดีใจมาก รู้เลยว่าคนที่ได้ดอกไม้ช่อแรกเขารู้สึกกันยังไง ทำไมไม่ให้ตั้งแต่ปีกแรก บ่อน้ำตาแตก ดีใจสุดๆ ไม่คิดว่าจะได้”
ทำไมถึงตัดสินใจให้ดอกไม้ภรรยาปีนี้ฃ
ป๋อ : “มันเป็นโจทก์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับพี่ทุกปีเลยนะ ปีใหม่ วาเลนไทน์ นี่เดียวจะถึงวันเกิดเม.ย.อีกแล้วนะ ก็ตกลงกับเอ๋ว่าขอรวบยอดได้ไหม ให้มันจบที่ดอกไม้เลยทุกปี กระเป๋า นาฬิกาไม่ต้องแล้ว”
เอ๋ : “มันแค่รู้สึกว่าดอกไม้ช่อแรกเป็นยังไง แต่ไม่ต้องทุกปี”
“พี่เอ๋” มีของขวัญอะไรให้สามีบ้าง
เอ๋ : “ตอบแทนแบบจัดหนักเลยทีเดียว ซื้อพวงมาลัยให้ คิดว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ พี่ป๋อไม่เหมือนแฟนหรือสามี เอ๋คิดว่านับวันจะยิ่งกว่าพ่อแล้วค่ะ ก็เลยซื้อพวงมาลัยให้”
ป๋อ : “เอ๋เอาพวงมาลัยมาไหว้ กราบเท้าด้วย แล้วตำแหน่งที่พี่นั่งอยู่คือในส้วมเพราะน้องภูหลับอยู่ในห้อง ห้องมืดเราก็เลยมานั่งอยู่กับพื้นในห้องน้ำ อยู่ๆเขาก็เอาพวงมาลัยมากราบเท้า”
เอ๋ : “เราทำรายการ สมาคมเมียจ๋า ก็ได้คุยกันว่าเราต้องเคารพสามีเพราะสามีรักและให้ทุกอย่างกับเรา พี่หนูแหม่มบอกว่าลองดูสิแล้วเราจะรักสามีคนนี้มากขึ้น เราก็เลยลองทำดู”
ป๋อ : “ก็ดีครับ ผมไม่ได้นิยมชมชอบในเรื่องกราบ แต่รู้สึกว่าเอ๋ได้พังกำแพงตัวเอง อีโก้ของตัวเองลงไป พอวันนึงเขารู้สึกว่าเคารพเราจริงๆในฐานะสามี เราก็รู้สึกว่าต่อไปเราคุยกันเปิดอกแล้วจะดีมาก ก็เลยขอบคุณเอ๋ด้วยสำหรับพวงมาลัย”
เอ๋ : “ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่พิเศษมากๆเลยค่ะ หลังจากที่เราให้พวงมาลัยพี่ป๋อแล้ว เขาก็เทศน์เราอีกชุดใหญ่เลย”
ป๋อ : “เชื่อไหมว่ามันไม่ได้มีของราคาแพงเลย แต่กลับกลายเป็นความรู้สึกดีๆที่เราได้นั่งคุยกันดีๆ เป็นช่วงเวลาครึ่งชั่วโมงที่มีคุณภาพมากๆ หลังจากที่เราคบกัน 11-12 ปีนี่อาจจะเป็นโมเม้นต์หนึ่งที่เราคิดว่าเป็นโกเด้นโมเม้นต์ของเราเลยนะ”
ได้ไปดินเนอร์กันไหม
เอ๋ : “ไม่มีเลยเพราะว่าทำงานทั้งคู่ สวีท 2 คนคงไม่ได้แล้ว ต้องไปกัน 3 คนอย่างวันนี้เราก็เอาน้องภูมาด้วย”
หลังจากกลับมาจดทะเบียนสมรสกันแล้วชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง
ป๋อ : “วี๊ดวิ้ว มันดีขึ้นเยอะเลย ที่บอกว่าสร้างภาพให้สวีทขึ้น คือโลกมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะ อย่าไปมองมันในแง่ลบ พี่เป็นคนที่ใช้ชีวิตธรรมชาติที่สุดแล้ว ง่ายๆ ตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรแอบซ่อนหรือมีนัยยะอะไรแอบแฝงเลย”
มีคนถามเยอะไหมทำไมต้องจดทะเบียนหย่า
เอ๋ : “คนถามเยอะ มีสื่อฯโทรไปที่เขตเลยค่ะ ว่าจริงไหม มันเป็นเรื่องของความเชื่อ เราไม่ได้หย่ากันเพราะว่าเกลียดกันแต่หย่ากันเพราะว่าการถือเคล็ด เอ๋คิดว่าการที่เราหย่าแล้วจดใหม่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เสียหาย เพราะตอนนี้เราก็ยังรักกันเหมือนเดิมและรักกันมากขึ้นด้วย”
ป๋อ : “ก็ยังมีทะเลาะกันอยู่เรื่องไร้สาระ ผมว่ามันเป็นกุศโลบาย ณ วันนี้ที่มันมีแอคชั่นต้องจัดทะเบียนหย่ากันจริงๆก็รู้สึกผวา ทั้งที่เรารู้ว่าอีกสักพักเราจะจดกันใหม่ อย่าได้เอาตามนะเพราะเราทำก็ไม่ได้เป็นวิธีที่ถูกต้องนะ เรื่องนี้เราไม่ได้ประกาศให้ใครทราบก็ทำกันเองในบ้านไม่มีใครรู้ พอดีเราเห็นว่าไม่มีอะไรมากก็เลยพูดออกมาหลังจากเรื่องนี้จบไป 3-4 เดือนแล้วด้วยซ้ำ”
หวานขนาดนี้อยากปั๊มน้องเพิ่มอีกคนหรือยัง
เอ๋ : “ก็มีคุยแต่พี่ป๋อบอกว่าอยากให้บ้านสร้างให้เสร็จก่อนเพราะว่ามันต้องมีการย้ายบ้านวุ่นวาย แล้วภูกำลังจะเข้าโรงเรียนแล้ว กะให้ลูกเข้าโรงเรียนให้เรียบร้อยก่อน”
ป๋อ : “จริงๆก็เริ่มแพลนแล้วครับว่าจะไปหาคุณหมอ แต่รออีกนิดนึงคิดว่าน่าจะโอเค”
เอ๋ : “เราก็บอกไม่ได้ว่าเขาจะมาเมื่อไหร่”
ป๋อ : “ปีนี้เลย พี่ตั้งใจแล้ว (ยิ้ม) บ้านอาจจะเสร็จไม่ทันผม ผมเสร็จก่อน” งานนี้ทำเอานักข่าวหัวเราะกันยกใหญ่
http://www.rakdara.net/home/?p=139394
“ป๋อ”ซึ้ง! “เอ๋”เอาพวงมาลัยกราบเท้าในวันวาเลนไทน์ (นับถือใจคุณเอ๋จริงๆ)
เป็นคู่รักอารมณ์ดีที่ไม่เว้นแม้แต่วันแห่งความรักที่เพิ่งผ่านมา เมื่อสีภรรยา “เอ๋-พรทิพย์” มาลัยมากราบเท้าสามี “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” ถึงในห้องน้ำงานนี้ทำเอาซึ้งปนฮาเลยทีเดียว มีโอกาสได้เจอทั้งคู่มาแสดงความยินดีในแถลงข่าวเปิด อัลบั้มวง “PP Project” (พีพี โปรเจ็ค) โปรเจ็คพิเศษระหว่าง ผู้บริหารหนุ่มอารมณ์ดีมากความสามารถ แห่งสายการบินนกแอร์ “พาที สารสิน” กับมือกีต้าร์ผู้คร่ำหวอดในวงการดนตรีแจ๊ซของเมืองไทย “โปรด-ธนภัทร มัธยมจันทร์” โดยทั้งคู่เล่าให้ฟังถึงโมเม้นต์หวานๆปนฮาในวันวาเลนไทน์ให้ฟังว่า
ป๋อ : “ผมไปฟิตติ้งละคร ก็คิดว่าปีนี้จะเซอร์ไพรส์เอ๋ก็เลยสั่งดอกไม้แพงมากๆ ไม่คิดว่าดอกไม้จะแพงขนาดนี้แล้วพี่สั่ง 1 วันก่อนวาเลนไทน์ ราคาพุ่งปรี๊ด”
เอ๋ : “ 11 ปีที่คบกันมาพี่ป๋อไม่เคยให้ดอกไม้เอ๋เลยนี่คือครั้งแรก ตอนที่มีคนเอาเข้ามาให้เชื่อไหมว่าไม่คิดว่าจะเป็นของเอ๋ คิดว่าเป็นของหนิง ในนั้นก็มีการ์ดแล้วเขียนกลอนแต่งเอง น่ารักนะ แต่ไม่อยากเชื่อแล้วไม่ลงชื่ออีก คนที่มาส่งบอกว่าเป็นพี่ป๋อ เราก็ดีใจมาก รู้เลยว่าคนที่ได้ดอกไม้ช่อแรกเขารู้สึกกันยังไง ทำไมไม่ให้ตั้งแต่ปีกแรก บ่อน้ำตาแตก ดีใจสุดๆ ไม่คิดว่าจะได้”
ทำไมถึงตัดสินใจให้ดอกไม้ภรรยาปีนี้ฃ
ป๋อ : “มันเป็นโจทก์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับพี่ทุกปีเลยนะ ปีใหม่ วาเลนไทน์ นี่เดียวจะถึงวันเกิดเม.ย.อีกแล้วนะ ก็ตกลงกับเอ๋ว่าขอรวบยอดได้ไหม ให้มันจบที่ดอกไม้เลยทุกปี กระเป๋า นาฬิกาไม่ต้องแล้ว”
เอ๋ : “มันแค่รู้สึกว่าดอกไม้ช่อแรกเป็นยังไง แต่ไม่ต้องทุกปี”
“พี่เอ๋” มีของขวัญอะไรให้สามีบ้าง
เอ๋ : “ตอบแทนแบบจัดหนักเลยทีเดียว ซื้อพวงมาลัยให้ คิดว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ พี่ป๋อไม่เหมือนแฟนหรือสามี เอ๋คิดว่านับวันจะยิ่งกว่าพ่อแล้วค่ะ ก็เลยซื้อพวงมาลัยให้”
ป๋อ : “เอ๋เอาพวงมาลัยมาไหว้ กราบเท้าด้วย แล้วตำแหน่งที่พี่นั่งอยู่คือในส้วมเพราะน้องภูหลับอยู่ในห้อง ห้องมืดเราก็เลยมานั่งอยู่กับพื้นในห้องน้ำ อยู่ๆเขาก็เอาพวงมาลัยมากราบเท้า”
เอ๋ : “เราทำรายการ สมาคมเมียจ๋า ก็ได้คุยกันว่าเราต้องเคารพสามีเพราะสามีรักและให้ทุกอย่างกับเรา พี่หนูแหม่มบอกว่าลองดูสิแล้วเราจะรักสามีคนนี้มากขึ้น เราก็เลยลองทำดู”
ป๋อ : “ก็ดีครับ ผมไม่ได้นิยมชมชอบในเรื่องกราบ แต่รู้สึกว่าเอ๋ได้พังกำแพงตัวเอง อีโก้ของตัวเองลงไป พอวันนึงเขารู้สึกว่าเคารพเราจริงๆในฐานะสามี เราก็รู้สึกว่าต่อไปเราคุยกันเปิดอกแล้วจะดีมาก ก็เลยขอบคุณเอ๋ด้วยสำหรับพวงมาลัย”
เอ๋ : “ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่พิเศษมากๆเลยค่ะ หลังจากที่เราให้พวงมาลัยพี่ป๋อแล้ว เขาก็เทศน์เราอีกชุดใหญ่เลย”
ป๋อ : “เชื่อไหมว่ามันไม่ได้มีของราคาแพงเลย แต่กลับกลายเป็นความรู้สึกดีๆที่เราได้นั่งคุยกันดีๆ เป็นช่วงเวลาครึ่งชั่วโมงที่มีคุณภาพมากๆ หลังจากที่เราคบกัน 11-12 ปีนี่อาจจะเป็นโมเม้นต์หนึ่งที่เราคิดว่าเป็นโกเด้นโมเม้นต์ของเราเลยนะ”
ได้ไปดินเนอร์กันไหม
เอ๋ : “ไม่มีเลยเพราะว่าทำงานทั้งคู่ สวีท 2 คนคงไม่ได้แล้ว ต้องไปกัน 3 คนอย่างวันนี้เราก็เอาน้องภูมาด้วย”
หลังจากกลับมาจดทะเบียนสมรสกันแล้วชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง
ป๋อ : “วี๊ดวิ้ว มันดีขึ้นเยอะเลย ที่บอกว่าสร้างภาพให้สวีทขึ้น คือโลกมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะ อย่าไปมองมันในแง่ลบ พี่เป็นคนที่ใช้ชีวิตธรรมชาติที่สุดแล้ว ง่ายๆ ตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรแอบซ่อนหรือมีนัยยะอะไรแอบแฝงเลย”
มีคนถามเยอะไหมทำไมต้องจดทะเบียนหย่า
เอ๋ : “คนถามเยอะ มีสื่อฯโทรไปที่เขตเลยค่ะ ว่าจริงไหม มันเป็นเรื่องของความเชื่อ เราไม่ได้หย่ากันเพราะว่าเกลียดกันแต่หย่ากันเพราะว่าการถือเคล็ด เอ๋คิดว่าการที่เราหย่าแล้วจดใหม่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เสียหาย เพราะตอนนี้เราก็ยังรักกันเหมือนเดิมและรักกันมากขึ้นด้วย”
ป๋อ : “ก็ยังมีทะเลาะกันอยู่เรื่องไร้สาระ ผมว่ามันเป็นกุศโลบาย ณ วันนี้ที่มันมีแอคชั่นต้องจัดทะเบียนหย่ากันจริงๆก็รู้สึกผวา ทั้งที่เรารู้ว่าอีกสักพักเราจะจดกันใหม่ อย่าได้เอาตามนะเพราะเราทำก็ไม่ได้เป็นวิธีที่ถูกต้องนะ เรื่องนี้เราไม่ได้ประกาศให้ใครทราบก็ทำกันเองในบ้านไม่มีใครรู้ พอดีเราเห็นว่าไม่มีอะไรมากก็เลยพูดออกมาหลังจากเรื่องนี้จบไป 3-4 เดือนแล้วด้วยซ้ำ”
หวานขนาดนี้อยากปั๊มน้องเพิ่มอีกคนหรือยัง
เอ๋ : “ก็มีคุยแต่พี่ป๋อบอกว่าอยากให้บ้านสร้างให้เสร็จก่อนเพราะว่ามันต้องมีการย้ายบ้านวุ่นวาย แล้วภูกำลังจะเข้าโรงเรียนแล้ว กะให้ลูกเข้าโรงเรียนให้เรียบร้อยก่อน”
ป๋อ : “จริงๆก็เริ่มแพลนแล้วครับว่าจะไปหาคุณหมอ แต่รออีกนิดนึงคิดว่าน่าจะโอเค”
เอ๋ : “เราก็บอกไม่ได้ว่าเขาจะมาเมื่อไหร่”
ป๋อ : “ปีนี้เลย พี่ตั้งใจแล้ว (ยิ้ม) บ้านอาจจะเสร็จไม่ทันผม ผมเสร็จก่อน” งานนี้ทำเอานักข่าวหัวเราะกันยกใหญ่
http://www.rakdara.net/home/?p=139394