โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนสหที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพ นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมรับราชการกัน แม้ว่าจะเป็นลูกหลานข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยก็ตาม
เมื่อวานนี้ อ.สมัยมัธยมท่านหนึ่งเสียชีวิตลง พวกผมก็เลยไปงานศพอาจารย์ ผมซึ่งเป็นตำรวจก็ใส่เครื่องแบบไปงานศพ แล้วก็เจอเพื่อนร่วมรุ่นเกือบ50คนมาร่วมงาน รุ่นผมมีตำรวจอีก2คนรวมผมเป็น3 ก็แต่งเครื่องแบบมาร่วมงานเช่นกัน นอกนั้นก็มีเพื่อนที่เป็นทหารเรือ2คน คนนึงใส่เครื่องแบบแขนสั้นสีขาว อีกคนใส่เครื่องแบบกากี นอกนั้นก็มีศุลกากร2คน (ชาย1หญิง1) ปลัดสวมชุดกากีอีก1คน ส่วนนักการทูตไม่ได้แต่งเครื่องแบบ
เพื่อนคนนึงขอถ่ายรูปหมู่คนแต่งเครื่องแบบ พวกเราก็รวมตัวกันถ่ายรูป (มีรุ่นน้องที่เป็นตำรวจอีก1คนใส่ชุดตชด.สีเขียวมาแจมถ่ายรูปด้วย ส่วนนักการทูตไม่ถ่ายเพราะไม่ได้ใส่เครื่องแบบ)
ระหว่างยืนถ่ายรูป ผมได้ยินเสียงเพื่อนผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆตากล้องพูดว่า "ดูพวกนี้ดิ ชีวิตการงานเจริญก้าวหน้ากันหมดแล้ว พวกเรายังลอยไปลอยมากันอยู่เลย" ผู้หญิงอีกคนก็ตอบว่า "สบายไปแล้ว เพื่อนๆเรา เป็นใหญ่เป็นโตกันทั้งนั้น"
ผมก็มาฉุกคิดนะว่า ชีวิตข้าราชการต่างจากมนุษย์เงินเดือนตรงไหน ทำงานก็เหนื่อยพอกัน ใครว่างานราชการเช้าชามเย็นชาม แถมคนแรกที่พูดอยู่บริษัทดังที่ขึ้นชื่อเรื่องค่าตอบแทนสูงอีก ผมไม่แน่ใจว่าคนที่2ทำงานบริษัทเกี่ยวกับอะไร เลยไม่ทราบเรื่องเงินเดือนนัก
ขณะที่ผมเงินเดือน10,000ปลายๆ เงินประจำตำแหน่ง3000 ก็เป็น20,000ต้นๆ ดีหน่อยที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่และบ้านไม่ไกลที่ทำงาน เลยประหยัดค่าเดินทาง คนที่เป็นพนักงานสอบสวนดีหน่อย มีค่าสำนวน10,000 แต่งานเหนื่อยและเครียดมาก แถมชีวิตไม่มั่นคงอีก พลาดข้อกฎหมายเล็กๆน้อยๆก็มีสิทธิ์อนาคตดับได้ ส่วนทหารเรือทั้ง2 คนนึงเป็นนักบิน ฮ. ก็มีค่าปีก ค่าเสี่ยงภัย แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงชีวิต อีกคนนึงเป็นหมอทหารเรือ เช่นเดียวกับตำรวจอีกคนนึงก็เป็นหมอตำรวจ ทั้ง2คนก็คงมีค่าตอบแทน แต่ก็เสี่ยงโดนฟ้องพอๆกับพนักงานสอบสวน น้องที่เป็นตชด.เค้าเป็นตชด.สายอำนวยการ ก็เป็นงานออฟฟิศเหมือนมนุษย์เงินเดือนทั่วไป ค่าตอบแทนจึงน้อยกว่าเพื่อน ไม่มีเงินประจำตำแหน่ง 15,000ถ้วน ปลัดเองผมไม่ค่อยทราบหน้างานเค้านัก แต่ก่อนย้ายมาสระบุรี เคยอยู่ปัตตานีมาก่อน สมัยนั้นคงเสี่ยงเอาการ ศุลกากรไม่ทราบหน้างาน แต่ค่าตอบแทนน่าจะเยอะอยู่ ส่วนนักการทูตก็ดูน่าจะหรูหราที่สุด แต่เพิ่งบรรจุ ทำงานในกระทรวง ผมก็ไม่ค่อยทราบเรื่องงานเขาเท่าไหร่
แถมพวกเราอายุยังไม่ถึง30 ตำแหน่งยังเล็กๆกันทั้งนั้น ปลัดบรรจุมา3ปี ศุลกากรชายบรรจุมา2ปี ส่วนนักการทูตกับศุลกากรหญิงเพิ่งบรรจุ พวกผม3คนก็ร้อยตำรวจเอก-ร้อยตำรวจโท น้องตชด.ก็ร้อยตำรวจโท ทหารเรือก็เรือโท-เรือตรี อีกตั้งนานกว่าจะได้เป็นใหญ่เป็นโต (จะได้เป็นกันรึเปล่าก็ไม่รู้)
กลับมาเข้าที่คำถามผมละกันนะครับ ว่าข้าราชการต่างจากพนักงานเอกชนตรงไหนบ้าง
ปล.งานนี้ยังไม่พูดถึงหมอนะ เพื่อนร่วมรุ่นผมเป็นหมอเยอะมาก นอกจาก2คนที่เป็นหมอตำรวจกับหมอทหารเรือ
ชีวิตข้าราชการต่างจากลูกจ้างเอกชนตรงไหน ทำไมคนทำงานเอกชนบางคน ชอบมองว่าคนทำงานราชการประสบความสำเร็จมากกว่าตนครับ
เมื่อวานนี้ อ.สมัยมัธยมท่านหนึ่งเสียชีวิตลง พวกผมก็เลยไปงานศพอาจารย์ ผมซึ่งเป็นตำรวจก็ใส่เครื่องแบบไปงานศพ แล้วก็เจอเพื่อนร่วมรุ่นเกือบ50คนมาร่วมงาน รุ่นผมมีตำรวจอีก2คนรวมผมเป็น3 ก็แต่งเครื่องแบบมาร่วมงานเช่นกัน นอกนั้นก็มีเพื่อนที่เป็นทหารเรือ2คน คนนึงใส่เครื่องแบบแขนสั้นสีขาว อีกคนใส่เครื่องแบบกากี นอกนั้นก็มีศุลกากร2คน (ชาย1หญิง1) ปลัดสวมชุดกากีอีก1คน ส่วนนักการทูตไม่ได้แต่งเครื่องแบบ
เพื่อนคนนึงขอถ่ายรูปหมู่คนแต่งเครื่องแบบ พวกเราก็รวมตัวกันถ่ายรูป (มีรุ่นน้องที่เป็นตำรวจอีก1คนใส่ชุดตชด.สีเขียวมาแจมถ่ายรูปด้วย ส่วนนักการทูตไม่ถ่ายเพราะไม่ได้ใส่เครื่องแบบ)
ระหว่างยืนถ่ายรูป ผมได้ยินเสียงเพื่อนผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆตากล้องพูดว่า "ดูพวกนี้ดิ ชีวิตการงานเจริญก้าวหน้ากันหมดแล้ว พวกเรายังลอยไปลอยมากันอยู่เลย" ผู้หญิงอีกคนก็ตอบว่า "สบายไปแล้ว เพื่อนๆเรา เป็นใหญ่เป็นโตกันทั้งนั้น"
ผมก็มาฉุกคิดนะว่า ชีวิตข้าราชการต่างจากมนุษย์เงินเดือนตรงไหน ทำงานก็เหนื่อยพอกัน ใครว่างานราชการเช้าชามเย็นชาม แถมคนแรกที่พูดอยู่บริษัทดังที่ขึ้นชื่อเรื่องค่าตอบแทนสูงอีก ผมไม่แน่ใจว่าคนที่2ทำงานบริษัทเกี่ยวกับอะไร เลยไม่ทราบเรื่องเงินเดือนนัก
ขณะที่ผมเงินเดือน10,000ปลายๆ เงินประจำตำแหน่ง3000 ก็เป็น20,000ต้นๆ ดีหน่อยที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่และบ้านไม่ไกลที่ทำงาน เลยประหยัดค่าเดินทาง คนที่เป็นพนักงานสอบสวนดีหน่อย มีค่าสำนวน10,000 แต่งานเหนื่อยและเครียดมาก แถมชีวิตไม่มั่นคงอีก พลาดข้อกฎหมายเล็กๆน้อยๆก็มีสิทธิ์อนาคตดับได้ ส่วนทหารเรือทั้ง2 คนนึงเป็นนักบิน ฮ. ก็มีค่าปีก ค่าเสี่ยงภัย แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงชีวิต อีกคนนึงเป็นหมอทหารเรือ เช่นเดียวกับตำรวจอีกคนนึงก็เป็นหมอตำรวจ ทั้ง2คนก็คงมีค่าตอบแทน แต่ก็เสี่ยงโดนฟ้องพอๆกับพนักงานสอบสวน น้องที่เป็นตชด.เค้าเป็นตชด.สายอำนวยการ ก็เป็นงานออฟฟิศเหมือนมนุษย์เงินเดือนทั่วไป ค่าตอบแทนจึงน้อยกว่าเพื่อน ไม่มีเงินประจำตำแหน่ง 15,000ถ้วน ปลัดเองผมไม่ค่อยทราบหน้างานเค้านัก แต่ก่อนย้ายมาสระบุรี เคยอยู่ปัตตานีมาก่อน สมัยนั้นคงเสี่ยงเอาการ ศุลกากรไม่ทราบหน้างาน แต่ค่าตอบแทนน่าจะเยอะอยู่ ส่วนนักการทูตก็ดูน่าจะหรูหราที่สุด แต่เพิ่งบรรจุ ทำงานในกระทรวง ผมก็ไม่ค่อยทราบเรื่องงานเขาเท่าไหร่
แถมพวกเราอายุยังไม่ถึง30 ตำแหน่งยังเล็กๆกันทั้งนั้น ปลัดบรรจุมา3ปี ศุลกากรชายบรรจุมา2ปี ส่วนนักการทูตกับศุลกากรหญิงเพิ่งบรรจุ พวกผม3คนก็ร้อยตำรวจเอก-ร้อยตำรวจโท น้องตชด.ก็ร้อยตำรวจโท ทหารเรือก็เรือโท-เรือตรี อีกตั้งนานกว่าจะได้เป็นใหญ่เป็นโต (จะได้เป็นกันรึเปล่าก็ไม่รู้)
กลับมาเข้าที่คำถามผมละกันนะครับ ว่าข้าราชการต่างจากพนักงานเอกชนตรงไหนบ้าง
ปล.งานนี้ยังไม่พูดถึงหมอนะ เพื่อนร่วมรุ่นผมเป็นหมอเยอะมาก นอกจาก2คนที่เป็นหมอตำรวจกับหมอทหารเรือ