สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน นี่ถือเป็นครั้งแรกที่มาตั้งกระทู้เกี่ยวกับปัญหาครอบครัวนะคะ จริงๆ เรื่องนี้มันสะสมมานานแล้ว ตั้งแต่เรายังเด็ก จนวันนี้เรารู้สึกว่าทนไม่ไหวจึงอยากระบายให้ทุกคนฟังค่ะ
ย้อนไปสมัยเราจำความได้นะคะ เราสนิทกับพ่อค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าพ่อใจดี พาไปส่งโรงเรียนทุกวัน พาไปเที่ยวห้าง ให้เงินค่าขนม และหลายๆ อย่าง เรารักพ่อมากๆ ส่วนแม่ เราไม่รู้สึกผูกพันธ์กับแม่เท่าไหร่ เรากลัวเพราะเขาตีเรา เขาใช้เราทำงานตั้งแต่เด็กๆ มีเหตุการณ์นึงเราจำได้ขึ้นใจ คือตอนเราเป็นเด็ก ประมาณอนุบาล1-2 แม่เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง แล้วเขาให้เราไปส่งอาหารบ้านที่มีหมาดุมาก เป็นพันธ์สุนัขตำรวจตัวใหญ่ๆ หมาบ้านนั้นล่ามโซ่ไว้ เราก็เดินไปส่งอาหารปกติ แล้วขากลับเราก็วิ่งกลับมาถึงบ้าน โดยที่ไม่รู้ว่าโซ่ที่ล่ามไว้มันหลุด หมาตัวนั้นวิ่งไล่เรา เราหันมาตกใจหกล้มลงไปนอนอยู่หน้าบ้าน หมาตัวนั้นกระโดดคร่อมเรา ซึ่งแม่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแต่แม่ไม่ทำอะไรเลย มีแต่คนแถวนั้นมาช่วยไล่หมาออกไป เรารู้สึกว่าเราเป็นลูกที่แม่ไม่รัก แล้วเราก็ไม่ค่อยรักแม่ด้วย
การแต่งงานของพ่อแม่เราไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เกิดจากผู้ใหญ่สองฝ่ายตกลงกัน ตั้งแต่เราเป็นเด็ก พ่อแม่ชอบทะเลาะกัน ทั้งๆ ที่เรานั่งอยู่เขาก็ทะเลาะให้เราเห็น พ่อด่าแม่หยาบคาย (ชั่ว เลว

ฯลฯ ทุกคำที่แรงๆ มีทั้งนั้น) ซึ่งทุกครั้งที่เห็น เราได้แต่วิ่งขึ้นห้องนอน ล็อคประตู แล้วร้องไห้คนเดียวใน บางครั้งเราก็คิดว่าถ้าเราตายไปก็คงดี แต่คิดไปก็เท่านั้นเราจะทำร้ายตัวเองได้ยังไง ในเมื่อพ่อแม่ให้ร่างกายเรามา
ในมุมมองของเรา ถึงเราจะไม่ค่อยรักแม่เท่าพ่อ แต่เราชื่นชมที่แม่เราเป็นผู้หญิงเก่ง เรียนมาน้อย แต่ขยันทำงานหาเงิน แม่เราเปลี่ยนอาชีพไปเรื่อย ขายอาหารตามสั่ง ขายข้าวแกง เป็นพนักงานห้าง และเป็นเซลล์ขายของ บางครั้งไปขายของต่างจังหวัดหลายๆ วัน ค่อยกลับบ้านมาทีนึง สาเหตุนี้เองมั้งที่ทำให้พ่อว่าแม่บ่อยๆ หาว่าออกจากบ้านหลายๆ วันไปหาผู้ชาย (เราเคยตามแม่ไปขายของด้วยหลายๆวันช่วงปิดเทอม แม่เราก็ขยันทำงานจริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่พ่อว่าเลย ) แม่เราทำงานหลายปี จนเก็บเงินซื้อบ้านใหม่ได้ แต่แม่ก็ยังไม่กล้าย้ายออกไป เพราะบอกว่าเป็นห่วงเรา เราเป็นเด็กผู้หญิง พ่อเราชอบกินเหล้า ถ้าเมาขึ้นมา เกิดขาดสติปล้ำเรา จะทำยังไง แต่เราก็คิดว่าแม่พูดเกินไป พ่อไม่ทำอย่างนั้นหรอก
เวลาผ่านมาเนิ่นนาน ทะเลาะกันเป็นสิบๆ ปี จนตอนนี้เราเรียนจบทำงานแล้ว เงินเดือนที่ได้มา เราแบ่งให้พ่อกับแม่เดือนละเท่าๆ กัน ซึ่งแม่เอามาใช้จ่ายภายในบ้าน จ่ายตลาด ซื้อของใช้เข้าบ้าน ส่วนเงินที่ให้พ่อนั้น....พ่อเอาไปกินเหล้า เราเคยบอกเขาว่าอย่ากิน เพราะเขาเป็นโรคตับอยู่ ยิ่งกินถ้าป่วยขึ้นมาเข้าโรงพยาบาลจะทำยังไง พ่อบอกว่า...ไม่เป็นไรหรอก กินเหล้าก็กินในบ้าน ไม่ได้ไปกินข้างนอก สบายใจได้ ซึ่งเวลาเมาจะพูดมาก พูดคนเดียว คนเดินผ่านหน้าบ้านมองแทบทุกคน (จะให้สบายใจได้ยังไง = =) พฤติกรรมนี้ทำให้เรารู้สึกว่าพ่อเราไม่น่ารักเลย เพราะไม่ยอมเชื่อฟังเราบ้าง และเราก็เริ่มรู้สึกรักแม่มากขึ้น อาจเป็นเพราะแม่โดนพ่อว่าต่างๆ นานาๆ เราเลยรู้สึกสงสารแม่
จนวันนี้วันตรุษจีน เราเลิกงานกลับบ้านมา เรางงเลย คือแม่นั่งอยู่ในบ้าน หน้าโบะบัวหิมะอยู่ แต่เห็นได้ชัดว่าแดงมากทั้งหน้า แล้วผมด้านหน้าก็ไหม้ เราถามแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น แม่น้ำตาซึม บอกว่าไฟลวกหน้า พ่อเป็นคนทำ เราก็เดินไปถามพ่อเลยว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อบอกว่า แม่ไม่ระวังเอง จุดเทียนไว้ พอเทียนหมดไส้เทียนก็ไหม้พลาสติก พ่อเลยเอาน้ำสาดดับไฟ ตอนที่แม่นั่งอยู่ (แม่กำลังจะเอาผ้าชุบน้ำไปปิด) แต่เปลวไฟกับเขม่าควันไปโดนหน้าแม่หรือยังไงนี่ล่ะ เลยทำให้ไฟลวก และผมไหม้ พ่อบอกว่า ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เอง ทำเป็นใจเสาะไปได้ คือเราโกรธมากเลยนะ พ่อพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน ขนาดเราเคยโดนน้ำร้อนลวกมือนิดนึงยังแสบมาก แล้วนี่โดนกับหน้าด้วย ถึงพ่อไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย แต่ก็ควรจะขอโทษแม่หน่อยไหม ไม่ใช่ซ้ำเติม หรือการขอโทษมันเสียศักดิ์ศรีมากนักเหรอ....
เรารู้ว่าทุกคนต้องมีข้อดีและข้อเสียในตัวเอง พ่อแม่เราก็เหมือนกัน แต่บางครั้งฟังเสียงทะเลาะกันในบ้านทุกวัน มันก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน แล้วถ้าจะให้เราย้ายไปอยู่คนเดียวก็ทำไม่ได้อีก เพราะเราก็ห่วงทั้งพ่อและแม่ สอบถามเพื่อนๆ หน่อยนะคะว่า ใครเคยมีปัญหา คนในบ้านทะเลาะกันบ่อยๆ บ้างไหม แล้วรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไง คอยไกล่เกลี่ย หรือ นิ่งเฉย เพราะเราทำทั้งสองแบบแล้ว ก็ยังเหมือนเดิม พ่อแม่หาเรื่องทะเลาะกันได้ทุกวัน เราทำงานเหนื่อยๆ กลับบ้านมาอยากพักบ้าง แต่ก็ยังกลับมาเจอปัญหาอีก รู้สึกกลุ้มใจจัง
พ่อแม่ของเราทะเลาะกันทุกวัน ทำอย่างไรดีคะ?
ย้อนไปสมัยเราจำความได้นะคะ เราสนิทกับพ่อค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าพ่อใจดี พาไปส่งโรงเรียนทุกวัน พาไปเที่ยวห้าง ให้เงินค่าขนม และหลายๆ อย่าง เรารักพ่อมากๆ ส่วนแม่ เราไม่รู้สึกผูกพันธ์กับแม่เท่าไหร่ เรากลัวเพราะเขาตีเรา เขาใช้เราทำงานตั้งแต่เด็กๆ มีเหตุการณ์นึงเราจำได้ขึ้นใจ คือตอนเราเป็นเด็ก ประมาณอนุบาล1-2 แม่เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง แล้วเขาให้เราไปส่งอาหารบ้านที่มีหมาดุมาก เป็นพันธ์สุนัขตำรวจตัวใหญ่ๆ หมาบ้านนั้นล่ามโซ่ไว้ เราก็เดินไปส่งอาหารปกติ แล้วขากลับเราก็วิ่งกลับมาถึงบ้าน โดยที่ไม่รู้ว่าโซ่ที่ล่ามไว้มันหลุด หมาตัวนั้นวิ่งไล่เรา เราหันมาตกใจหกล้มลงไปนอนอยู่หน้าบ้าน หมาตัวนั้นกระโดดคร่อมเรา ซึ่งแม่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแต่แม่ไม่ทำอะไรเลย มีแต่คนแถวนั้นมาช่วยไล่หมาออกไป เรารู้สึกว่าเราเป็นลูกที่แม่ไม่รัก แล้วเราก็ไม่ค่อยรักแม่ด้วย
การแต่งงานของพ่อแม่เราไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เกิดจากผู้ใหญ่สองฝ่ายตกลงกัน ตั้งแต่เราเป็นเด็ก พ่อแม่ชอบทะเลาะกัน ทั้งๆ ที่เรานั่งอยู่เขาก็ทะเลาะให้เราเห็น พ่อด่าแม่หยาบคาย (ชั่ว เลว
ในมุมมองของเรา ถึงเราจะไม่ค่อยรักแม่เท่าพ่อ แต่เราชื่นชมที่แม่เราเป็นผู้หญิงเก่ง เรียนมาน้อย แต่ขยันทำงานหาเงิน แม่เราเปลี่ยนอาชีพไปเรื่อย ขายอาหารตามสั่ง ขายข้าวแกง เป็นพนักงานห้าง และเป็นเซลล์ขายของ บางครั้งไปขายของต่างจังหวัดหลายๆ วัน ค่อยกลับบ้านมาทีนึง สาเหตุนี้เองมั้งที่ทำให้พ่อว่าแม่บ่อยๆ หาว่าออกจากบ้านหลายๆ วันไปหาผู้ชาย (เราเคยตามแม่ไปขายของด้วยหลายๆวันช่วงปิดเทอม แม่เราก็ขยันทำงานจริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่พ่อว่าเลย ) แม่เราทำงานหลายปี จนเก็บเงินซื้อบ้านใหม่ได้ แต่แม่ก็ยังไม่กล้าย้ายออกไป เพราะบอกว่าเป็นห่วงเรา เราเป็นเด็กผู้หญิง พ่อเราชอบกินเหล้า ถ้าเมาขึ้นมา เกิดขาดสติปล้ำเรา จะทำยังไง แต่เราก็คิดว่าแม่พูดเกินไป พ่อไม่ทำอย่างนั้นหรอก
เวลาผ่านมาเนิ่นนาน ทะเลาะกันเป็นสิบๆ ปี จนตอนนี้เราเรียนจบทำงานแล้ว เงินเดือนที่ได้มา เราแบ่งให้พ่อกับแม่เดือนละเท่าๆ กัน ซึ่งแม่เอามาใช้จ่ายภายในบ้าน จ่ายตลาด ซื้อของใช้เข้าบ้าน ส่วนเงินที่ให้พ่อนั้น....พ่อเอาไปกินเหล้า เราเคยบอกเขาว่าอย่ากิน เพราะเขาเป็นโรคตับอยู่ ยิ่งกินถ้าป่วยขึ้นมาเข้าโรงพยาบาลจะทำยังไง พ่อบอกว่า...ไม่เป็นไรหรอก กินเหล้าก็กินในบ้าน ไม่ได้ไปกินข้างนอก สบายใจได้ ซึ่งเวลาเมาจะพูดมาก พูดคนเดียว คนเดินผ่านหน้าบ้านมองแทบทุกคน (จะให้สบายใจได้ยังไง = =) พฤติกรรมนี้ทำให้เรารู้สึกว่าพ่อเราไม่น่ารักเลย เพราะไม่ยอมเชื่อฟังเราบ้าง และเราก็เริ่มรู้สึกรักแม่มากขึ้น อาจเป็นเพราะแม่โดนพ่อว่าต่างๆ นานาๆ เราเลยรู้สึกสงสารแม่
จนวันนี้วันตรุษจีน เราเลิกงานกลับบ้านมา เรางงเลย คือแม่นั่งอยู่ในบ้าน หน้าโบะบัวหิมะอยู่ แต่เห็นได้ชัดว่าแดงมากทั้งหน้า แล้วผมด้านหน้าก็ไหม้ เราถามแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น แม่น้ำตาซึม บอกว่าไฟลวกหน้า พ่อเป็นคนทำ เราก็เดินไปถามพ่อเลยว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อบอกว่า แม่ไม่ระวังเอง จุดเทียนไว้ พอเทียนหมดไส้เทียนก็ไหม้พลาสติก พ่อเลยเอาน้ำสาดดับไฟ ตอนที่แม่นั่งอยู่ (แม่กำลังจะเอาผ้าชุบน้ำไปปิด) แต่เปลวไฟกับเขม่าควันไปโดนหน้าแม่หรือยังไงนี่ล่ะ เลยทำให้ไฟลวก และผมไหม้ พ่อบอกว่า ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เอง ทำเป็นใจเสาะไปได้ คือเราโกรธมากเลยนะ พ่อพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน ขนาดเราเคยโดนน้ำร้อนลวกมือนิดนึงยังแสบมาก แล้วนี่โดนกับหน้าด้วย ถึงพ่อไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย แต่ก็ควรจะขอโทษแม่หน่อยไหม ไม่ใช่ซ้ำเติม หรือการขอโทษมันเสียศักดิ์ศรีมากนักเหรอ....
เรารู้ว่าทุกคนต้องมีข้อดีและข้อเสียในตัวเอง พ่อแม่เราก็เหมือนกัน แต่บางครั้งฟังเสียงทะเลาะกันในบ้านทุกวัน มันก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน แล้วถ้าจะให้เราย้ายไปอยู่คนเดียวก็ทำไม่ได้อีก เพราะเราก็ห่วงทั้งพ่อและแม่ สอบถามเพื่อนๆ หน่อยนะคะว่า ใครเคยมีปัญหา คนในบ้านทะเลาะกันบ่อยๆ บ้างไหม แล้วรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไง คอยไกล่เกลี่ย หรือ นิ่งเฉย เพราะเราทำทั้งสองแบบแล้ว ก็ยังเหมือนเดิม พ่อแม่หาเรื่องทะเลาะกันได้ทุกวัน เราทำงานเหนื่อยๆ กลับบ้านมาอยากพักบ้าง แต่ก็ยังกลับมาเจอปัญหาอีก รู้สึกกลุ้มใจจัง