สวัสดีทุกคนค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่ารีวิวที่กำลังจะเริ่มทำนี้เป็นหนึ่งในโครงการของทางคณะ ที่จัดค่ายเพื่อไปพัฒนาหมู่บ้าน เป็นโครงการประจำปีค่ะ ส่วนมากก็จะเป็นการสอนหนังสือเด็กๆ ไม่ก็ตอกไม้ ทุบกำแพง สร้างนู่นนี่นั่นอะไรกันไป แต่การไปครั้งนี้มันค่อนข้างมีอะไรที่มากกว่าการไปค่ายธรรมดาค่ะ ซึ่งจขกทเองคิดว่าน่าจะนำมาแนะนำให้กับผู้ที่อยากลองเที่ยวที่สงบๆ บรรยากาศดีๆ และผู้คนเป็นกันเองให้ได้ลองไปสัมผัสกัน ^^
(ปล. รูปภาพอาจไม่ชัดนะคะ เพราะถ่ายกันหลายมือมาก ฝีมือก็กากๆ ดีๆ สลับกันไป 55555)
สถานที่ไปในปีนี้คือ “หมู่บ้านแม่สะป๊อก ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่”
แค่พูดว่าเชียงใหม่หลายคนคงอ๋อ ไม่แปลกใจว่าทำไมจขกทถึงได้บอกว่าน่าเที่ยวเนอะ
ขอเล่าในส่วนของตัวเองให้ฟังนะคะ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องเรียนนิดหน่อยทำให้จขกทไม่สามารถเดินทางไปพร้อมกับเพื่อนในวันเดียวกันได้ จึงต้องระดมพล(คนที่มีปัญหาเหมือนกัน) แล้วนัดแนะตามไปกันทีหลังค่ะ ซึ่งวิธีที่ตามไปจะต้องถูกที่สุด ประหยัดที่สุด ซึ่งที่พวกเราเลือกกันก็คือ รถไฟฟรี
ถ้าสำหรับคนไม่รีบก็นับว่าโอเคอยู่นะคะ ได้นั่งกินลมชมวิวเมื่อยก้นกันไปเรื่อยๆ มีหลายสถานีมากๆ ที่น่าแวะ แต่ก็แวะไม่ได้ค่ะ ทุกคนรอคอยทีมงานที่ไม่ค่อยมีประโยชน์อีกสองสามชีวิตให้ตามไปสมทบอยู่ ก็เลยต้องรีบไป
ไปถึงเชียงใหม่ก็ตอนตีสี่กว่าๆ รถรายังไม่มี แถมเพิ่งเคยมาครั้งแรก ไปไหนกันไม่ถูก 55555 ก็เลยถามคุณลุงที่ขับสองแถวเหมาแถวๆ นั้นน่ะค่ะ คุณลุงก็เลยแนะนำให้ไปที่ประตูเมืองเชียงใหม่แล้วต่อรถไป สาย "เชียงใหม่-บ้านกาด"
กว่ารถที่จะต่อเข้าแม่วางมาก็ 7 โมงค่ะ ตอนนั้นเพิ่งตี 5 ก็เลยต้องนั่งๆ นอนๆ อยู่ข้างทางรอรถมา ซึ่งกว่ารถจะมาก็เกือบ 7 โมงครึ่ง ขึ้นรถกันไปก็หาจุดที่จะต้องลงกันไม่ถูก เลยไปลงหน้าโรงพยาบาลแม่วาง โชคดีมากๆ ที่มีบ้านอ.ท่านอยู่แถวนั้น ก็เลยลงแล้วขอให้อ.ท่านพาไปที่ค่ายค่ะ
มาถึงค่ายก็ประมาณสิบโมง แล้วก็เริ่มทำตามกิจกรรมกันค่ะ ขออนุญาตข้ามในส่วนนี้ไปนะคะ
ที่อยากจะนำเสนอจริงๆ แล้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ พอดีจขกทได้มีโอกาสคุยกับผู้ใหญ่บ้านที่ดูแลในส่วนนี้ เขาเล่าให้ฟังว่าความจริงแล้วหมู่บ้านแม่สะป๊อกนี้ก็จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งเหมือนกัน เพียงแต่ว่ามันค่อนข้างไกลและต้องขึ้นเขา บวกกับเป็นที่ที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเหมือนที่อื่นๆ คนที่มาพักส่วนมากจะจึงเป็นกลุ่มคนที่ไกด์นำเที่ยวเป็นคนมาพา ซึ่งเป็นชาวต่างชาติค่ะ
เรื่องที่พัก จะต้องติดต่อกับทางผู้ใหญ่เองเขาจะเป็นคนจัดหาให้ โดยเฉลี่ยจากจำนวนบ้านที่เปิดให้พักทั้งหมด แล้วจัดการบริหารให้ในแต่ละบ้านนั้นมีรายได้หมุนเวียนในอัตราส่วนที่เท่าๆ กัน ถือเป็นความเท่าเทียมกันกับแต่ละบ้าน
ส่วนเรื่องราคา บอกเลยค่ะว่า “ถูกมาก” มากจนไม่คิดว่าจะหาได้จากที่ไหนอีกแล้วค่ะ(สนใจหลังไมค์ได้นะคะ) แถมที่นี่ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ทำกันในครัวเรือนเอาไว้ขายเป็นที่ระลึกด้วยนะคะ ราคาก็มีตั้งแต่ 80 บาท จนถึง 500 บาท ไม่เกินนี้ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ว่านั้นก็คือ
ผ้าพันคอมีทั้งแบบที่ทอเองและรับมาค่ะ มีผ้าปูโต๊ะ และปอกหมอนด้วยนะ มีหลายแบบให้เลือกสรรจริงๆ
กลับมาที่เรื่องสถานที่นะคะ ที่หมู่บ้านแม่สะป๊อกนี้พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นป่าค่ะ เป็นพื้นที่ป่าจริงๆ ที่มีทั้งในส่วนของกรมป่าไม้ดูแล และในส่วนที่ชาวบ้านช่วยกันดูแล เที่ยวชมได้ด้วยนะคะ แต่ผู้ใหญ่บอกว่าส่วนใหญ่ที่ไปเยี่ยมชมพื้นที่ป่าจะเป็นชาวต่างชาติ เพราะคนไทยชอบอะไรที่แบบ…ลงรถมาแล้วถึงเลยมากกว่าการเดินไกลๆ 5555 (เห็นด้วยอะ)
ที่นี่มีน้ำตกด้วยค่ะ มีหลายที่มาก แต่ที่เป็นจุดเด่นๆ จริงๆ มีอยู่ทั้งหมด 4 ที่ด้วยกัน อยู่ไม่ไกลกันมากด้วย ถ้าจากที่พักเราก็สามารถเดินไปได้ทุกที่เลยค่ะ (มีที่พักแบบที่ติดน้ำตกด้วย) น่าเสียดายที่จขกทไปไม่หมดทุกที่ค่ะ เนื่องจากติดฝนไปถึง 2 วันเต็มๆ ก็เลยได้ไปจริงๆ แค่ 2 ที่เท่านั้น
ที่แรกที่ไป “น้ำตกแม่สะป๊อก”
เป็นน้ำตกที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบเป็นทางการค่ะ คือมีจุดบอกชัดเจนว่าตั้งอยู่ที่ไหน และต้องเดินเข้าไปอีกเท่าไหร่จึงจะถึง
ระยะทางไม่ไกลมากจริงๆ ค่ะ ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาทีก็ถึง
ถึงน้ำตกแล้วววว แวะไหว้พระก่อน
ตอนไปทีแรกไม่มีใครตั้งใจจะเล่นน้ำเลย แค่จะไปดูเฉยๆ เดี๋ยวก็กลับอะไรแบบนี้ แต่พอทุกคนไปเห็นน้ำตกเท่านั้นล่ะ…
สวยค่ะ และแลดูเป็นส่วนตัวมาก ที่ไปวันนั้นมีแค่พวกของจขกทกลุ่มเดียวเอง น้ำตกไม่ใหญ่ แต่น้ำใสและเย็นมากกกก(เล่นไปตัวสั่นไป สู้น้ำสุดๆ 5555)
วิวถ่ายรูปก็สวยดีนะคะ เดินถ่ายกันไม่หมดเลย
พอเล่นน้ำตกเสร็จก็กลับมา ไอพวกที่บอกไม่เล่นน้ำๆ เดินตัวเปียกออกมากันทุกคน อากาศก็หนาว 555 ที่ด้านหน้าทางเข้าของน้ำตกมีแปลงผักที่เป็นของโครงการหลวงอยู่ด้วยค่ะ ติดต่อขอซื้อผักได้นะคะ ผักสดๆ กรอบๆเลย
อันนี้เพื่อนเข้าไปคุยในที่ที่เขาขายผักมา เขาเลยให้กลับมากินฟรีเลย ชาวบ้านใจดี น่ารักกก
เล่นกันจนเหน็ดเหนื่อยก็กลับมาพักผ่อนค่ะ หลังจากนั้นฝนก็ตกติดต่อกันข้ามวันข้ามคืนเลย แล้วพอฝนหยุดเราก็ออกมาทำกิจกรรมกัน และตกเย็นก็ได้เวลาพิชิตน้ำตกต่อไปค่ะ
น้ำตกนี้จขกทไปสองรอบเลยค่ะ รอบแรกไปไม่ได้เล่น เจ็บใจ กลับไปเล่นอีกวันนึงแทน 5555
น้ำตกที่ไปอีกที่นึงเป็นน้ำตกที่เป็นเหมือนจุดพักเล่นน้ำค่ะ จขกทจำชื่อไม่ได้ แต่อยู่แถบบ้านแม่สะป๊อกเหนือ
นี่คือที่พักค่ะ อยู่ติดกับน้ำตก เดินไปเดินมาใกล้นิดเดียว บรรยากาศก็ดีมาก ชาวบ้านก็น่ารัก
ถ่ายจากทางเดินก่อนลงไปถึงน้ำตกค่ะ น้ำที่นี่ค่อนข้างแรง แต่ไม่ถึงกับอันตราย
สะพานข้ามฝั่งไปอีกฝั่งนึงค่ะ น้องหมาตัวนี้ฉลาด น่ารักมาก จขกทชอบ 555
เจอคุณฝรั่งด้วยยย 5555 ได้คุยกันเยอะเลยค่ะ ตอนกลางคืนก็มานั่งปาร์ตี้ผิงไฟด้วยกัน ^^
อีกฝั่งนึงของน้ำตกค่ะ ทอกันให้เห็นจะๆ แบบนี้เลย
นี่เป็นบรรยากาศรอบๆ ค่ะ จขกทไปตกน้ำครั้งแรกในชีวิตมาด้วย 5555 หันหลังคุยกับเพื่อนอยู่ดีๆ โดนกระแสน้ำพัดไหลไปเลย ตอนนั้นกลัวมาก แต่ก็รอดมาได้เพราะแค่ไหลตามน้ำมาเฉยๆ แถมน้ำไม่ค่อยลึกเท่าไหร่ หลังจากนั้นพวกเพื่อนๆ ก็มาไหลตามเป็นพรวนเลยค่ะ ชวนฝรั่งแถวนั้นสองสามคนมาเล่นด้วยอีกต่างหาก สนุกสนานไปอีก 555
โดยรวมที่นี่ค่อยข้างโอเคเลยค่ะ ติดใจจนอยากจะไปอีก(ทีนี้ต้องไปน้ำตกให้ครบให้ได้) เป็นสถานที่ที่น้อยคนจะรู้จัก แต่รับรองว่าใครที่ได้ไปแล้วจะติดใจแน่นอนค่ะ ชาวบ้านที่นี่เป็นมิตรมาก(แต่จขกทฟังภาษาเหนือไม่ออก เลยลำบากนิดนึง) ผู้ใหญ่บ้านของที่นี่ให้ความรู้เยอะมากค่ะ เรียบเรียงออกมาให้อ่านกันไม่ถูกเลย เอาเป็นว่าถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรถามได้นะคะ อยากให้ไปลองสัมผัสกันดู ^^
ปล.แก้ไขข้อมูลผิดพลาดนิดหน่อยค่ะ
[CR] พาชมแหล่งท่องเที่ยวใหม่ <<<แม่สะป๊อก>>> จ.เชียงใหม่
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่ารีวิวที่กำลังจะเริ่มทำนี้เป็นหนึ่งในโครงการของทางคณะ ที่จัดค่ายเพื่อไปพัฒนาหมู่บ้าน เป็นโครงการประจำปีค่ะ ส่วนมากก็จะเป็นการสอนหนังสือเด็กๆ ไม่ก็ตอกไม้ ทุบกำแพง สร้างนู่นนี่นั่นอะไรกันไป แต่การไปครั้งนี้มันค่อนข้างมีอะไรที่มากกว่าการไปค่ายธรรมดาค่ะ ซึ่งจขกทเองคิดว่าน่าจะนำมาแนะนำให้กับผู้ที่อยากลองเที่ยวที่สงบๆ บรรยากาศดีๆ และผู้คนเป็นกันเองให้ได้ลองไปสัมผัสกัน ^^
(ปล. รูปภาพอาจไม่ชัดนะคะ เพราะถ่ายกันหลายมือมาก ฝีมือก็กากๆ ดีๆ สลับกันไป 55555)
สถานที่ไปในปีนี้คือ “หมู่บ้านแม่สะป๊อก ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่”
แค่พูดว่าเชียงใหม่หลายคนคงอ๋อ ไม่แปลกใจว่าทำไมจขกทถึงได้บอกว่าน่าเที่ยวเนอะ
ขอเล่าในส่วนของตัวเองให้ฟังนะคะ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องเรียนนิดหน่อยทำให้จขกทไม่สามารถเดินทางไปพร้อมกับเพื่อนในวันเดียวกันได้ จึงต้องระดมพล(คนที่มีปัญหาเหมือนกัน) แล้วนัดแนะตามไปกันทีหลังค่ะ ซึ่งวิธีที่ตามไปจะต้องถูกที่สุด ประหยัดที่สุด ซึ่งที่พวกเราเลือกกันก็คือ รถไฟฟรี
ถ้าสำหรับคนไม่รีบก็นับว่าโอเคอยู่นะคะ ได้นั่งกินลมชมวิวเมื่อยก้นกันไปเรื่อยๆ มีหลายสถานีมากๆ ที่น่าแวะ แต่ก็แวะไม่ได้ค่ะ ทุกคนรอคอยทีมงานที่ไม่ค่อยมีประโยชน์อีกสองสามชีวิตให้ตามไปสมทบอยู่ ก็เลยต้องรีบไป
ไปถึงเชียงใหม่ก็ตอนตีสี่กว่าๆ รถรายังไม่มี แถมเพิ่งเคยมาครั้งแรก ไปไหนกันไม่ถูก 55555 ก็เลยถามคุณลุงที่ขับสองแถวเหมาแถวๆ นั้นน่ะค่ะ คุณลุงก็เลยแนะนำให้ไปที่ประตูเมืองเชียงใหม่แล้วต่อรถไป สาย "เชียงใหม่-บ้านกาด"
กว่ารถที่จะต่อเข้าแม่วางมาก็ 7 โมงค่ะ ตอนนั้นเพิ่งตี 5 ก็เลยต้องนั่งๆ นอนๆ อยู่ข้างทางรอรถมา ซึ่งกว่ารถจะมาก็เกือบ 7 โมงครึ่ง ขึ้นรถกันไปก็หาจุดที่จะต้องลงกันไม่ถูก เลยไปลงหน้าโรงพยาบาลแม่วาง โชคดีมากๆ ที่มีบ้านอ.ท่านอยู่แถวนั้น ก็เลยลงแล้วขอให้อ.ท่านพาไปที่ค่ายค่ะ
มาถึงค่ายก็ประมาณสิบโมง แล้วก็เริ่มทำตามกิจกรรมกันค่ะ ขออนุญาตข้ามในส่วนนี้ไปนะคะ
ที่อยากจะนำเสนอจริงๆ แล้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ พอดีจขกทได้มีโอกาสคุยกับผู้ใหญ่บ้านที่ดูแลในส่วนนี้ เขาเล่าให้ฟังว่าความจริงแล้วหมู่บ้านแม่สะป๊อกนี้ก็จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งเหมือนกัน เพียงแต่ว่ามันค่อนข้างไกลและต้องขึ้นเขา บวกกับเป็นที่ที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเหมือนที่อื่นๆ คนที่มาพักส่วนมากจะจึงเป็นกลุ่มคนที่ไกด์นำเที่ยวเป็นคนมาพา ซึ่งเป็นชาวต่างชาติค่ะ
เรื่องที่พัก จะต้องติดต่อกับทางผู้ใหญ่เองเขาจะเป็นคนจัดหาให้ โดยเฉลี่ยจากจำนวนบ้านที่เปิดให้พักทั้งหมด แล้วจัดการบริหารให้ในแต่ละบ้านนั้นมีรายได้หมุนเวียนในอัตราส่วนที่เท่าๆ กัน ถือเป็นความเท่าเทียมกันกับแต่ละบ้าน
ส่วนเรื่องราคา บอกเลยค่ะว่า “ถูกมาก” มากจนไม่คิดว่าจะหาได้จากที่ไหนอีกแล้วค่ะ(สนใจหลังไมค์ได้นะคะ) แถมที่นี่ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ทำกันในครัวเรือนเอาไว้ขายเป็นที่ระลึกด้วยนะคะ ราคาก็มีตั้งแต่ 80 บาท จนถึง 500 บาท ไม่เกินนี้ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ว่านั้นก็คือ
ผ้าพันคอมีทั้งแบบที่ทอเองและรับมาค่ะ มีผ้าปูโต๊ะ และปอกหมอนด้วยนะ มีหลายแบบให้เลือกสรรจริงๆ
กลับมาที่เรื่องสถานที่นะคะ ที่หมู่บ้านแม่สะป๊อกนี้พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นป่าค่ะ เป็นพื้นที่ป่าจริงๆ ที่มีทั้งในส่วนของกรมป่าไม้ดูแล และในส่วนที่ชาวบ้านช่วยกันดูแล เที่ยวชมได้ด้วยนะคะ แต่ผู้ใหญ่บอกว่าส่วนใหญ่ที่ไปเยี่ยมชมพื้นที่ป่าจะเป็นชาวต่างชาติ เพราะคนไทยชอบอะไรที่แบบ…ลงรถมาแล้วถึงเลยมากกว่าการเดินไกลๆ 5555 (เห็นด้วยอะ)
ที่นี่มีน้ำตกด้วยค่ะ มีหลายที่มาก แต่ที่เป็นจุดเด่นๆ จริงๆ มีอยู่ทั้งหมด 4 ที่ด้วยกัน อยู่ไม่ไกลกันมากด้วย ถ้าจากที่พักเราก็สามารถเดินไปได้ทุกที่เลยค่ะ (มีที่พักแบบที่ติดน้ำตกด้วย) น่าเสียดายที่จขกทไปไม่หมดทุกที่ค่ะ เนื่องจากติดฝนไปถึง 2 วันเต็มๆ ก็เลยได้ไปจริงๆ แค่ 2 ที่เท่านั้น
ที่แรกที่ไป “น้ำตกแม่สะป๊อก”
เป็นน้ำตกที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบเป็นทางการค่ะ คือมีจุดบอกชัดเจนว่าตั้งอยู่ที่ไหน และต้องเดินเข้าไปอีกเท่าไหร่จึงจะถึง
ระยะทางไม่ไกลมากจริงๆ ค่ะ ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาทีก็ถึง
ถึงน้ำตกแล้วววว แวะไหว้พระก่อน
ตอนไปทีแรกไม่มีใครตั้งใจจะเล่นน้ำเลย แค่จะไปดูเฉยๆ เดี๋ยวก็กลับอะไรแบบนี้ แต่พอทุกคนไปเห็นน้ำตกเท่านั้นล่ะ…
สวยค่ะ และแลดูเป็นส่วนตัวมาก ที่ไปวันนั้นมีแค่พวกของจขกทกลุ่มเดียวเอง น้ำตกไม่ใหญ่ แต่น้ำใสและเย็นมากกกก(เล่นไปตัวสั่นไป สู้น้ำสุดๆ 5555)
วิวถ่ายรูปก็สวยดีนะคะ เดินถ่ายกันไม่หมดเลย
พอเล่นน้ำตกเสร็จก็กลับมา ไอพวกที่บอกไม่เล่นน้ำๆ เดินตัวเปียกออกมากันทุกคน อากาศก็หนาว 555 ที่ด้านหน้าทางเข้าของน้ำตกมีแปลงผักที่เป็นของโครงการหลวงอยู่ด้วยค่ะ ติดต่อขอซื้อผักได้นะคะ ผักสดๆ กรอบๆเลย
อันนี้เพื่อนเข้าไปคุยในที่ที่เขาขายผักมา เขาเลยให้กลับมากินฟรีเลย ชาวบ้านใจดี น่ารักกก
เล่นกันจนเหน็ดเหนื่อยก็กลับมาพักผ่อนค่ะ หลังจากนั้นฝนก็ตกติดต่อกันข้ามวันข้ามคืนเลย แล้วพอฝนหยุดเราก็ออกมาทำกิจกรรมกัน และตกเย็นก็ได้เวลาพิชิตน้ำตกต่อไปค่ะ
น้ำตกนี้จขกทไปสองรอบเลยค่ะ รอบแรกไปไม่ได้เล่น เจ็บใจ กลับไปเล่นอีกวันนึงแทน 5555
น้ำตกที่ไปอีกที่นึงเป็นน้ำตกที่เป็นเหมือนจุดพักเล่นน้ำค่ะ จขกทจำชื่อไม่ได้ แต่อยู่แถบบ้านแม่สะป๊อกเหนือ
นี่คือที่พักค่ะ อยู่ติดกับน้ำตก เดินไปเดินมาใกล้นิดเดียว บรรยากาศก็ดีมาก ชาวบ้านก็น่ารัก
ถ่ายจากทางเดินก่อนลงไปถึงน้ำตกค่ะ น้ำที่นี่ค่อนข้างแรง แต่ไม่ถึงกับอันตราย
สะพานข้ามฝั่งไปอีกฝั่งนึงค่ะ น้องหมาตัวนี้ฉลาด น่ารักมาก จขกทชอบ 555
เจอคุณฝรั่งด้วยยย 5555 ได้คุยกันเยอะเลยค่ะ ตอนกลางคืนก็มานั่งปาร์ตี้ผิงไฟด้วยกัน ^^
อีกฝั่งนึงของน้ำตกค่ะ ทอกันให้เห็นจะๆ แบบนี้เลย
นี่เป็นบรรยากาศรอบๆ ค่ะ จขกทไปตกน้ำครั้งแรกในชีวิตมาด้วย 5555 หันหลังคุยกับเพื่อนอยู่ดีๆ โดนกระแสน้ำพัดไหลไปเลย ตอนนั้นกลัวมาก แต่ก็รอดมาได้เพราะแค่ไหลตามน้ำมาเฉยๆ แถมน้ำไม่ค่อยลึกเท่าไหร่ หลังจากนั้นพวกเพื่อนๆ ก็มาไหลตามเป็นพรวนเลยค่ะ ชวนฝรั่งแถวนั้นสองสามคนมาเล่นด้วยอีกต่างหาก สนุกสนานไปอีก 555
โดยรวมที่นี่ค่อยข้างโอเคเลยค่ะ ติดใจจนอยากจะไปอีก(ทีนี้ต้องไปน้ำตกให้ครบให้ได้) เป็นสถานที่ที่น้อยคนจะรู้จัก แต่รับรองว่าใครที่ได้ไปแล้วจะติดใจแน่นอนค่ะ ชาวบ้านที่นี่เป็นมิตรมาก(แต่จขกทฟังภาษาเหนือไม่ออก เลยลำบากนิดนึง) ผู้ใหญ่บ้านของที่นี่ให้ความรู้เยอะมากค่ะ เรียบเรียงออกมาให้อ่านกันไม่ถูกเลย เอาเป็นว่าถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรถามได้นะคะ อยากให้ไปลองสัมผัสกันดู ^^
ปล.แก้ไขข้อมูลผิดพลาดนิดหน่อยค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น