คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
สวดมนต์และอ่านธรรมมะ จนบางครั้งอยากปล่อยวางทุกอย่าง
ผมคิดว่าคุณกำลังหนีปัญหาต่างหาก สิ่งที่ไม่ได้ดังใจ สิ่งที่คาดหวังในเรื่องราวต่างๆ นั้นไม่ใช่แนวทางการปฏิบัติธรรมเลย
คุณเองเป็นแม่ก็ควรทำหน้าที่ให้ดี มีสติ เจอปัญหาแล้วก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ ส่วนสามีคุณก็ต้องปล่อยวางลง เป็นภรรยาที่ดี ต้องหนักแน่น นักปฎิบัติที่ดีจะต้องฝึกใจตรงนี้ให้ได้ ไม่ใช่แค่รู้ในข้อธรรมะ แต่ยังปฏิบัติตนไม่ได้อยู่ดี เปรียบเหมือนทับพีตักน้ำแกง แต่ก็ไม่รู้รสชาติอยู่ดี
อย่างงี้คนหูหนวก ตาบอด เป็นใบ้ก็บรรลุธรรมกันหมดแล้วซิ ถือว่าเป็นการดีที่ต้องทำใจให้เป็นธรรมชาติ ฝึกสติ ฝึกปัญญา เดี๋ยวก็ผ่านพ้นไปได้เอง โปรดอย่าละทิ้งหน้าที่ ผู้เป็นแม่, ภรรยา, ลูก ควรทำตรงนี้ให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง สวดมนต์ไม่ใช่แค่สวด บ่นๆๆๆ ต้องสวดอย่างมีสติ มีปัญญา และนำปัญญาที่ฝึกเอามาใช้ในข้อวัตรในแต่ละวัน ปัญหานั้นมีไว้แก้ไข ไม่ใช่มีไว้เพื่อกักเก็บเรื่องราวแห่งกองทุกข์
ทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ ตั้งอยู่ เกิดขึ้น และดับไป มีแต่สิ่งสมมุติกันทั้งนั้น ซักวันทุกๆคนที่เกิดก็ต้องตายจากกันไปว่าไหม และอยู่มีทุกข์ทำไม
โชคดี....
ผมคิดว่าคุณกำลังหนีปัญหาต่างหาก สิ่งที่ไม่ได้ดังใจ สิ่งที่คาดหวังในเรื่องราวต่างๆ นั้นไม่ใช่แนวทางการปฏิบัติธรรมเลย
คุณเองเป็นแม่ก็ควรทำหน้าที่ให้ดี มีสติ เจอปัญหาแล้วก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ ส่วนสามีคุณก็ต้องปล่อยวางลง เป็นภรรยาที่ดี ต้องหนักแน่น นักปฎิบัติที่ดีจะต้องฝึกใจตรงนี้ให้ได้ ไม่ใช่แค่รู้ในข้อธรรมะ แต่ยังปฏิบัติตนไม่ได้อยู่ดี เปรียบเหมือนทับพีตักน้ำแกง แต่ก็ไม่รู้รสชาติอยู่ดี
อย่างงี้คนหูหนวก ตาบอด เป็นใบ้ก็บรรลุธรรมกันหมดแล้วซิ ถือว่าเป็นการดีที่ต้องทำใจให้เป็นธรรมชาติ ฝึกสติ ฝึกปัญญา เดี๋ยวก็ผ่านพ้นไปได้เอง โปรดอย่าละทิ้งหน้าที่ ผู้เป็นแม่, ภรรยา, ลูก ควรทำตรงนี้ให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง สวดมนต์ไม่ใช่แค่สวด บ่นๆๆๆ ต้องสวดอย่างมีสติ มีปัญญา และนำปัญญาที่ฝึกเอามาใช้ในข้อวัตรในแต่ละวัน ปัญหานั้นมีไว้แก้ไข ไม่ใช่มีไว้เพื่อกักเก็บเรื่องราวแห่งกองทุกข์
ทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ ตั้งอยู่ เกิดขึ้น และดับไป มีแต่สิ่งสมมุติกันทั้งนั้น ซักวันทุกๆคนที่เกิดก็ต้องตายจากกันไปว่าไหม และอยู่มีทุกข์ทำไม
โชคดี....
แสดงความคิดเห็น
สวดมนต์และอ่านธรรมมะ จนบางครั้งอยากปล่อยวางทุกอย่าง
จนตอนนี้ก็เป็นเวลา 20 กว่าปีแล้ว
หลังจากสวดมนต์เสร็จเราก็จะขออโหสิกรรมให้เจ้ากรรมนายเวรและตัวเอง
ถวายพระพรให้ในหลวงและราชวงศ์ทุกพระองค์ (ขออภัยถ้าใช้คำผิด)
ขอให้ประเทศไทยสงบสุข (เริ่มขอช่วงที่ประเทศมีปัญหา ไม่รู้จะช่วยยังไงทำได้แค่นี้)
แผ่เมตตาให้ครอบครัว สามี ลูก แม่ พี่น้อง
จนเราแต่งงานก็ไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นอะไรกับเรื่องเพศ
และทุกวันนี้ก็มีปัญหาสามีไปมีกิ๊ก แรก ๆ เราก็เสียใจแต่ไม่นานก็ทำใจได้
คิดซะว่าถ้าเขารักกันจริงก็ดี เราก็ขอให้เขามีความสุขกัน
เพราะเราคิดว่าเขาไม่ใช่ของ ๆ เรา เขาไม่มีใจให้เราแล้วก็ควรปล่อยให้เขาไปมีความสุข
โดยลืมคิดไปว่าลูกควรจะต้องมีพ่อ แม่ อยู่ครบหรือไม่
ปัจจุบันในบางขณะ เรารู้สึกว่าเราอยากไปใช้ชีวิตศึกษาธรรมะ อยากไปปฏิบัติธรรม
ปล่อยวางกับเรื่องลูก ไม่อยากไปเคี่ยวเข็ญให้เขาเรียนมาก ๆ อ่านหนังสือมาก ๆ
(เพราะโดยนิสัยไม่ชอบบังคับใคร) แต่เมื่อเพื่อนผู้ปกครองรู้ถึงการปล่อยวาง
ไม่เคี่ยวเข็ญลูก เขาก็บอกว่าไม่ได้ ลูกยังเล็กปล่อยให้คิดเองไม่ได้ แม่ต้องจัดการให้
เราก็จะเริ่มสับสนอีก แต่พอไปอ่านหนังสือก็จะรู้สึกอีกอย่าง
ว่าทำไมเราต้องทุกข์กับเรื่องโน้นเรื่องนี้ ถ้าเราตายไปลูกก็ย่อมต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเอง
เราคงไม่สามารถไปคอยดูแลเขาได้จนเขาแก่แน่นอน
รู้สึกสับสนค่ะ กับการจะให้สามีไปมีความสุขกับกิ๊ก
แต่โดนทักว่า ทำไมเราถึงไม่คิดถึงลูกเป็นที่ตั้ง ทำไมถึงเอาความสบายใจของเราเป็นที่ตั้ง
แต่ถ้าฝืนอยู่ด้วยกัน ตัวสามีก็ไม่มีความสุข ทำอารมณ์บูดใส่เรา ใส่ลูก ยิ่งหาความสุขไม่ได้อีก
เราเชื่อว่าคนที่จะอยู่ด้วยกันได้ต้องมีศีลเสมอกัน แต่สามีเราไม่เคยปฏิบัติตัวให้อยู่ในศีลเท่าไหร่
เราเลยคิดว่าเรากับเขาไม่เหมาะกัน
สับสนจังเลยค่ะ
อยากขอคำแนะนำด้วยค่ะ
ข้อความอาจจะอ่านแล้ววกวนนะคะ เพราะกำลังสับสนค่ะ