เกาะสีชัง : น้ำทะเลใสมาก...ร้อนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

เกาะสีชัง....ทริปง่ายๆสั้นๆ ไม่กดดันเวลา 2 วัน 1 คืน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
...อีกหนึ่งทางเลือกที่เกาะสีชัง ไม่ไกลจากกรุงเทพ น้ำทะเลใสมาก ภาพสวยกว่าตาเห็น ร้อนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว...

ภาพถ่ายโดย กล้องฉัน I5s และ กล้องเธอ Sony A7s

เราขับรถจากกรุงเทพฯไปเรื่อยๆ ประมาณ 1ชั่วโมงได้ ก็มาถึงท่าเทียบเรือ ชึ่งเป็นเวลาประมาณ 6 โมงเย็น
ทันได้เห็นพระอาทิตย์ตกดิน ตรงสะพานเข้าท่าเทียบเรือเกาะลอยพอดี ต่างคนต่างรีบคว้ากล้อง ชิงถ่ายกันมาก่อนเลย
แต่เพียงแค่เราก้มหน้าลงไปเซ็ครูปไม่ทันถึงเสี้ยววินาที เงยหน้ามาพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้า ถ่ายช็อตอื่นไม่ทันไปเสียแล้ว อมยิ้ม11


และเราก็ยังคงต้องเสียเวลาอยู่ตรงท่าเรือนั้นอีกประมาณนึงเลย ไม่ใช่เพราะหาที่จอดรถหรือปัญหาหน้างานอะไรนะคะ
ที่จอดรถบริเวณนั้นสะดวกมาก แต่...แต่ เนื่องจากรอคุณชายถ่ายรูปก้อนเมฆและท้องฟ้าก่อนค่ะ นั่งรอไปสิเรา อารมณ์ศิลปินเขามาเต็ม

ถ่ายรูปจุใจเขาแล้ว เราก็ไปซื้อตั๋วเตรียมขึ้นเรือค่ะ ราคา 50 บาท/คน ทันขึ้นเรือเที่ยวสุดท้าย ไปลั๊ลลาที่เกาะสีชังพอดิบพอดีจริง แหม


เรือออกทุ่มนึง ตรงเวลาใช้ได้ วิวสองข้างทางในยามค่ำคืนนี้ เป็นเรือขนส่งสินค้าต่างๆ เพลินตาดีค่ะ เราก็นั่งมองโน่นนี่นั่นไปเรื่อย

และแล้วก็มาถึง 45 นาที เป๊ะเว่อ

โทรแจ้งที่พักให้เรียกรถสกายแล็ปมารับ (ทางที่พักไม่ได้มีบริการรับ-ส่งนะคะ ต้องแจ้งไว้ เขาหารถให้อย่างเดียวค่ะ)
แต่ก่อนเข้าที่พักทางคนขับก็จะถามนะคะว่าทานอะไรมายัง จะแวะเซเว่นก่อนไหม เราก็หิวอ่ะเนอะ เลยบอกแวะร้านข้าวก่อนก็ได้ค่ะ
เข้าทางเขาสิคะ อมยิ้ม24 คนขับจึงพาไปร้านอาหารที่น่าจะมีดีลกันไว้ บอกทานเสร็จให้โทรมานะจะมารับอีกรอบ

เราก็จัดเลย อิ่มท้องเสร็จ ก็เลยเดินเล่นนิดนึงก่อนจะโทรให้พี่เขามารับเพื่อเข้าที่พักค่ะ จัดไปค่ารถเบาๆรอบแรก 100 บาท

ร้านถูกๆนี่ไม่ได้กินหรอก มองตาละห้อยไปสิ พี่แกพาไปแวะให้กิน มันก็ดี แต่ไปแวะให้ร้านแพงไง ทำไงได้ ก็มันดึกแล้ว


ตัดสินใจพลาดไป เนื่องจากไปถึงดึกจึงไม่ได้ตัดสินใจเช่ามอเตอร์ไซต์ไว้ตั้งแต่แรก จริงๆพี่คนที่ติดต่อรถให้ก็แนะนำแล้วว่าเช่ามอเตอร์ไซต์ทีเดียวเลยไหมจะคุ้มกว่า แต่เราก็แอบกังวลไงเห็นว่าดึกดื่นมืดค่ำ ยังไม่มั่นใจในเส้นทาง เลยเลือกเป็นสกายแล็ปไป ความปลอดภัยมาก่อน 555
ให้สกายแล็ปมารับเลยต้องเสียค่าเช่ารถ 2 รอบเลย เช่ามอเตอร์ไซต์ขับเองแต่แรกก็จบแล้ว อมยิ้ม08
เรานั่งมโนกันว่าวันรุ่งขึ้นต้องตื่นให้เช้าหน่อยนะ จะได้มีเวลาเที่ยวให้รอบเกาะ มาสะดึกดื่น ไม่ได้เห็นรอบข้างอะไรเล้ย
แถมยังสะเทือนใจน้อง น้ำร้อนน้ำอุ่นก็ไม่มี ไม่อาบแล้วน้ำ นอนดีกว่า ค่อยตื่นมาจัดการตอนเช้า

นี่คือที่พักที่เราจองไว้ มาลีบลู รีสอร์ท ให้ความรู้สึกเก่า เงียบ มีมุมให้ถ่ายรูปก็แปลกตาดีค่ะ


ห้องพักเล็กกะทัดรัด ไม่ใหญ่มาก แอบเดินชนกันอยู่

เตียงแข็ง ปวดหลัง แต่หลับได้ก็ไม่แย่

มีระเบียงนอกห้อง สำหรับนั่งชมวิวด้วย


ความเป็นจริงนั้นมันไม่เหมือนที่เราฝันไว้ เราตื่นสายค่ะ!!! ตื่นมาแบบเอ๋อๆ แถมไม่ได้มีการวางแผนการเที่ยวไว้อีกต่างหาก
พังค่ะพัง เลยลงมาทานข้าวต้มของที่พักก่อนละกัน นั่งรับลมและไอแดดเพิ่มความฟรุ้งฟริ้งไปก่อน


ก่อนที่เจ้าของจะบอกให้เราเดินไปที่ตึกด้านหลังของเขา
มีมุมให้ถ่ายรูปจากดาดฟ้า สวยนะ ลองไปดู เราก็ว่าง่าย อ่ะเดินไปดูกัน

ผ่านห้องพักด้านล่างที่ไม่ได้อยู่ในตัวตึก ให้ความรู้สึกสลัวๆ น่ากลัวนิดหน่อย

ตึกพักด้านหลังก้เป็นห้องพักด้วยนะคะ เดินขึ้นบันไดไปประมาณ 4 ชั้น ก็เป็นดาดฟ้า โอ้...แดดมันช่างจ้าสะเหลือเกิน

และนี่ก็คือมุมมองจากดาดฟ้าของรีสอร์ทค่ะ


บรรยากาศแปลกตาให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในหนังสงครามที่เป็นฉากรบแบบมีกองทัพเรืออยู่เต็มพื้นที่ จริงๆน่าจะเป็นเรือส่งสินค้านะ ก็ว่าไปนั่น



เห็นวิวทิวทัศน์แล้วเริ่มฮึกเหิม ไม่ได้การแล้ว ติดต่อเช่ามอเตอร์ไซต์กันเถอะแก ก่อนเราจะเฉาตาย
ติดต่อพี่จากร้านเช่ารถคนเดิมไม่เกิน 10 นาที ได้ฟีโน่ 1 คัน มาส่งถึงที่พักแถมแผนที่ของเกาะ อธิบายเส้นทางเล็กน้อย ก็พร้อมลุย
นี่เราเริ่ม 10 โมง (ไหน 6 โมงเช้าของพวกแกห๊ะ) มีเวลาช่วงเช้า 3 ชั่วโมงก่อนเที่ยง แล้วกลับมา อาบน้ำ check out ฝากของ แวะทานข้าว
แล้วเริ่มครึ่งบ่ายใหม่อีกสัก 3 ชั่วโมง น่าจะพอดีวัน ฮิ้ววว เริ่มเลย เฟี้ยวสะไม่มี จัดไปค่ารถอีก 250 บาท นั่นไง! เที่ยวได้สักที เย้


มาแล้วช่วงเช้า...จุดที่ 1 พระราชวังจุฑาธุชราชฐาน
พอเริ่มเข้าเขตมา บรรยากาศและทิวทัศน์ตราตรึงใจมากค่ะ




น้ำทะเลใสจริงๆ ตื้นตัน



เดินมาถึงเรือนไม้สีเขียวริมทะเล มีบริการชา กาแฟ และขนมจุกจิกจำหน่ายด้วยนะคะ


เดินต่อไปยัง สะพานอัษฎางค์ ซึ่งเป็นที่สุดแล้วของที่นี่


แถมมุมมองเล็กๆจากกล้องฉันบ้าง


และนี่คือเบื้องหลังภาพงามๆค่ะ ให้เครดิตเขาหน่อยนิ อมยิ้ม07



ไปต่อกันเลย ช่วงเช้า...จุดที่ 2 ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ทำบุญ ไหว้พระและชมวิว
ขับมอเตอร์ไซต์ต๊อกแต๊กไปต่อยัง ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ แวะซื้อล็อตเตอรี่ด้วยที่ต้นทาง

งานบุญก็มาค่ะ

เด็นน้อยนายแบบ บอกยิ้มหน่อยนะพี่ขอถ่ายรูป น้องก็จัดให้

จุดชมวิวที่เห็นเกือบรอบทั้งเกาะ


คนเยอะพอประมาณ

ไหว้พระกันค่ะ




หลังจากไหว้พระเสร็จแล้ว ก็เกือบเที่ยงพอดี เราก็ไปแวะทานข้าวที่ร้านแถวนั้น และกลับไปอาบน้ำ เก็บของกันที่ที่พักค่ะ
เพื่อที่จะได้ check out ฝากของ ทันเวลา และไม่โดนปรับ จะได้เที่ยวช่วงบ่ายต่อย่างสบายใจค่ะ อมยิ้ม16
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่