สวัสดีคะ วันนี้ขอมาเปิดประสบการณ์ใหม่ให้เพื่อน ๆ ที่รักการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้รับรู้กันนะคะ ถ้าใครเบื่อออนเซ็นฝั่งญี่ปุ่นแล้ว
เรามาแช่น้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาติทางฝั่งยุโรปกันบ้างค่ะ
แถมอาหารก็การันตีระดับมิชลินสตาร์เลยทีเดียว เป็นอาหารไทยที่คิดค้นเมนูจากเชฟไทยที่มีชื่อเสียง ดังนั้น หากมาเที่ยวยุโรป
แต่อยากรับประทานอาหารไทยพลาดไม่ได้กับที่ Panacée Grand Hotel Römerbad ณ บาเด็นไวเลอร์ เยอรมนี
ความพิเศษของที่นี่ อยากแรกเลยคือ เจ้าของโรงแรมที่เยอรมันแห่งนี้เป็นคนไทย ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน คุณแซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี
ความคิดที่คุณแซมอยากจะทำธุรกิจนี้ก็เนื่องมากจากกลัวป่วย ซึ่งตรงกับการทำงานของคนยุคนี้ที่ต้องแข่งขันทางด้านธุรกิจอยู่ตลอดเวลา
จึงเกิดโปรเจคนี้ขึ้นกลายเป็นโมเดลใหม่ เรียกว่า "Wellness Hotel" หรือโรงแรมสุขภาพ
อีกความพิเศษมาก ๆ อย่างหนึ่งที่นักเดินทางต้องร้องว้าว คือ โรงแรม Panacée Grand Hotel Römerbad แห่งนี้ ตั้งอยู่ในดินแดน
ที่ได้ชื่อว่า “สามเหลี่ยมทองคำ” เพราะมีอาณาเขตติดกับประเทศฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ จึงทำให้สามารถเดินทางไปยังประเทศต่างๆ
ในยุโรปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เราไม่ต้องไปหาที่พักที่ไหนเพิ่มเลย อีกทั้งยังสามารถชื่นชมทัศนียภาพของสามเหลี่ยมทองคำที่
สามารถมองเห็นประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมความสวยงามของเทือกเขาแอลป์และแม่น้ำไรน์ รวมทั้งชมพระอาทิตย์ตกดิน ณ ป้อมปราสาทอันเก่าแก่ของเมืองที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1080 ที่แห่งนี้จึงเปรียบดั่งสวรรค์แห่งการฟื้นฟูดูแลร่างกายของผู้รักสุขภาพ ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว การพักผ่อน แต่ยังได้ในเรื่องสุขภาพควบคู่กันไปอีกด้วย เรามาชมบรรยากาศกันไปพร้อม ๆ กันค่ะ ^^

เขตของป่าดำ (Black Forest) ซึ่งถือเป็นแหล่งโอโซนที่สำคัญของโลก มีความอุดมสมบูรณ์ของแมกไม้นานาพรรณ จึงทำให้มีอากาศอันบริสุทธิ์ ปลอดโปร่งและเย็นสบาย ซึ่งผู้ที่รักสุขภาพมักจะเดินทางมาพักผ่อน ณ ที่แห่งนี้อยู่เสมอ

รวมทั้งเมืองแห่งนี้ยังมีแหล่งน้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาติ ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุนานาชนิด ซึ่งดีต่อสุขภาพในด้านการบำบัดและผ่อนคลาย ดังจะเห็นได้จากโรงอาบน้ำโรมันที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง PANACÉE GRAND HOTEL RÖMERBAD ได้รับอนุญาตให้นำน้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาติมาใช้ภายในโรงแรมด้วย
กิจกรรมที่นี่สร้างความผ่อนคลายได้มาก อาทิ ว่ายน้ำในสระว่ายน้ำทั้งภายในอาคารและกลางแจ้ง เพื่อให้คุณเลือกดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ตามที่ต้องการ การทำสปาในบ่อน้ำแร่ธรรมชาติเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ และกิจกรรมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ได้แก่
- การเล่นนอร์ดิกส์ วอล์ค (Nordic Walker) : การเดินระยะไกลด้วยการใช้ไม้ค้ำยัน 1 คู่ เพื่อประคองลำตัวขณะเดินทำให้เดินได้ไกลกว่าปกติ ช่วยเสริมสร้างการทรงตัวที่ดี ช่วยเผาผลาญพลังงานและเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ

- การนั่งสมาธิ : การฝึกฝนจิตใจให้มีความสงบ
- การเล่นโยคะ : การผสานร่างกายและจิตใจเข้าด้วยกัน เพื่อมอบสมดุลภายในร่างกาย ช่วยพัฒนาจิตใจพร้อมฝึกฝนการควบคุมตนเอง
- ชี่กง : การผสมผสานกันระหว่างสมาธิ ลมหายใจ และการเคลื่อนไหว ช่วยให้ร่างกายและจิตใจมีสภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง

- การปั่นจักรยานเสือภูเขา ที่ได้ทั้งความสนุกสนาน ได้ดื่มด่ำกับอากาศที่บริสุทธิ์และธรรมชาติที่สวยงามของป่าดำ (Black Forest) ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งโอโซนที่สำคัญของโลก
การเดินทาง : เนื่องจากโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยูกึ่งกลาง 3 ประเทศ ดังรูป เราจึงมีโอกาสได้เที่ยวถึง 3 ประเทศ เลยคะ
ถ้าไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนบ้างมีคำแนะนำ ด้านล่างค่ะ

เริ่มจาก BADEN-BADEN ถือเป็นเมืองของผู้ที่มีฐานะมั่งคั่งร่ำรวยในเยอรมนี มีแหล่งคาสิโนที่โด่งดัง มีโรงแรม สปา และสนามม้าสุดหรู
ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มั่งคั่งจากทั่วโลก
ต่อกันด้วยอีกเมืองของเยอรมนี ไฟรบวร์ก และ ชตุทท์การ์ท
ไฟรบวร์ก เป็นเมืองที่ยังคงความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบเยอรมันโบราณ และยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เพราะอยู่ติดกับเขต
ป่าดำ (Black Forest)ซึ่งถือเป็นแหล่งโอโซนที่สำคัญของโลก

ส่วนชตุทท์การ์ทก็ไม่แพ้กัน เป็นเมืองแห่งศิลปะการแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากมาย อาทิ คณะบัลเล่ต์ คณะอุปรากร และคณะประสานเสียงและเป็นเมืองอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีพิพิธภัณฑ์ยานยนต์ชื่อดังอย่าง Mercedes-Benz และ Porsche ทั้งยังมี outlet ที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมันอย่าง Outletcity Metzingenที่เต็มไปด้วยสินค้าแบรนด์ดังมากมายให้คุณเลือกสรรได้อย่างเต็มที่
(การเดินทางจาก Panacee Grand Hotel Roemerbad ไป Baden-Baden ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที
จาก Panacee Grand Hotel Roemerbad ไป Freiburg ใช้เวลา 35 นาที)

ต่อกันด้วยเมืองสตราสบูร์ก เป็นเมืองที่มีมหาวิหารที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพูดูสง่างามระหง แกะสลักอย่างอ่อนช้อย สวยงามไม่แพ้วิหารอื่น ๆ ในยุโรป และเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของฝรั่งเศสอย่าง Galleries Lafayette ที่มีร้านสินค้าแบรนด์ดังต่างๆ เป็นจำนวนมาก อาทิ Hermes และ Louis Vuitton เป็นต้น รวมทั้งมีร้านขายสินค้าแบรนด์เนมต่าง ๆ ทั่วเมือง ให้ผู้ที่รักการช้อปปิ้งได้เลือกสรรสินค้า
ที่ชื่นชอบได้อย่างเต็มที่
(การเดินทางจาก Panacee Grand Hotel Roemerbad ไป Strasbourg ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที)

ใครที่อยากไปสวิตเซอร์แลนด์ แนะนำลูเซิร์น เป็นเมืองที่มีบรรยากาศสบายๆ สามารถล่องเรือไปตามทะเลสาบที่สวยงาม เพื่อชื่นชม
วิวภูเขาที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ เมืองนี้โดดเด่นด้วยสะพานไม้ชาแปล (Chapel bridge) ซึ่งถือที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง และ
รูปสลักสิงโต (The Lion Monument) ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงทหารชาวสวิตฯ ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจเพื่อประเทศชาติใน
การปฏิวัติฝรั่งเศส และเป็นแหล่งช้อปปิ้งนาฬิกาแบรนด์ชั้นนำที่โด่งดังของโลกอีกด้วย
(การเดินทางจาก Panacee Grand Hotel Roemerbad ไป Luzernใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที)

อีกที่ของสวิตเซอร์แลนด์..บาเซิล เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำไรน์ ทำให้มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และมีอากาศที่เย็นสบาย อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติ (EuroAirport) ทำให้สามารถเดินทางไปยังเมืองสำคัญของยุโรปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และเป็นศูนย์กลางของการจัดงานนิทรรศการชั้นนำของโลก เช่น Watch Fair และ Art Fair เป็นต้น รวมทั้งเป็นแหล่งผลิตสินค้าขนาดใหญ่ ที่สามารถช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังอย่าง Bally ได้ในราคาถูก
(การเดินทางจาก Panacee Grand Hotel Roemerbad ไป Basel ใช้เวลา 35 นาที)

หรือใครอยากสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แบบชนบทหน่อย กอลมาร์ เป็นเมืองชนบทของฝรั่งเศสที่ให้ความสำคัญกับการปลูกดอกไม้
หลากหลายสีสัน ประดับประดาไปตามบ้านเรือนสไตล์ฝรั่งเศสที่มีสีสันสดใส ทำให้เมืองเก่าแก่ดูน่ารักสดใสและกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง ด้วยลักษณะของบ้านเรือนที่ตั้งอยู่บนสองฝั่งคลอง ที่สามารถล่องเรือเพื่อชมบ้านเรือนสมัยโบราณ จึงได้รับขนานนามว่า “เวนิสน้อย”
(LITTLE VENICE) ว้าว พลาดไม่ได้เลยค่ะ
(การเดินทางจาก Panacee Grand Hotel Roemerbad ไป Colmar ใช้เวลา 45 นาที)
--------------------------------------------------------
ลองเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมกันได้ที่นี่คะ
http://www.facebook.com/panaceewellnesstravel
http://www.panacee.com
ใครไปเที่ยวแถว ๆ 3 ประเทศนี้ อย่าลืมแวะไปพักกันได้นะคะ ^^
เที่ยวสนุก สุขภาพดี แบบมีสไตล์ ณ เมืองบาเด็นไวเลอร์ ประเทศเยอรมนี
เรามาแช่น้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาติทางฝั่งยุโรปกันบ้างค่ะ
แถมอาหารก็การันตีระดับมิชลินสตาร์เลยทีเดียว เป็นอาหารไทยที่คิดค้นเมนูจากเชฟไทยที่มีชื่อเสียง ดังนั้น หากมาเที่ยวยุโรป
แต่อยากรับประทานอาหารไทยพลาดไม่ได้กับที่ Panacée Grand Hotel Römerbad ณ บาเด็นไวเลอร์ เยอรมนี
ความพิเศษของที่นี่ อยากแรกเลยคือ เจ้าของโรงแรมที่เยอรมันแห่งนี้เป็นคนไทย ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน คุณแซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี
ความคิดที่คุณแซมอยากจะทำธุรกิจนี้ก็เนื่องมากจากกลัวป่วย ซึ่งตรงกับการทำงานของคนยุคนี้ที่ต้องแข่งขันทางด้านธุรกิจอยู่ตลอดเวลา
จึงเกิดโปรเจคนี้ขึ้นกลายเป็นโมเดลใหม่ เรียกว่า "Wellness Hotel" หรือโรงแรมสุขภาพ
อีกความพิเศษมาก ๆ อย่างหนึ่งที่นักเดินทางต้องร้องว้าว คือ โรงแรม Panacée Grand Hotel Römerbad แห่งนี้ ตั้งอยู่ในดินแดน
ที่ได้ชื่อว่า “สามเหลี่ยมทองคำ” เพราะมีอาณาเขตติดกับประเทศฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ จึงทำให้สามารถเดินทางไปยังประเทศต่างๆ
ในยุโรปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เราไม่ต้องไปหาที่พักที่ไหนเพิ่มเลย อีกทั้งยังสามารถชื่นชมทัศนียภาพของสามเหลี่ยมทองคำที่
สามารถมองเห็นประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมความสวยงามของเทือกเขาแอลป์และแม่น้ำไรน์ รวมทั้งชมพระอาทิตย์ตกดิน ณ ป้อมปราสาทอันเก่าแก่ของเมืองที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1080 ที่แห่งนี้จึงเปรียบดั่งสวรรค์แห่งการฟื้นฟูดูแลร่างกายของผู้รักสุขภาพ ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว การพักผ่อน แต่ยังได้ในเรื่องสุขภาพควบคู่กันไปอีกด้วย เรามาชมบรรยากาศกันไปพร้อม ๆ กันค่ะ ^^
เขตของป่าดำ (Black Forest) ซึ่งถือเป็นแหล่งโอโซนที่สำคัญของโลก มีความอุดมสมบูรณ์ของแมกไม้นานาพรรณ จึงทำให้มีอากาศอันบริสุทธิ์ ปลอดโปร่งและเย็นสบาย ซึ่งผู้ที่รักสุขภาพมักจะเดินทางมาพักผ่อน ณ ที่แห่งนี้อยู่เสมอ
รวมทั้งเมืองแห่งนี้ยังมีแหล่งน้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาติ ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุนานาชนิด ซึ่งดีต่อสุขภาพในด้านการบำบัดและผ่อนคลาย ดังจะเห็นได้จากโรงอาบน้ำโรมันที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง PANACÉE GRAND HOTEL RÖMERBAD ได้รับอนุญาตให้นำน้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาติมาใช้ภายในโรงแรมด้วย
กิจกรรมที่นี่สร้างความผ่อนคลายได้มาก อาทิ ว่ายน้ำในสระว่ายน้ำทั้งภายในอาคารและกลางแจ้ง เพื่อให้คุณเลือกดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ตามที่ต้องการ การทำสปาในบ่อน้ำแร่ธรรมชาติเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ และกิจกรรมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ได้แก่
- การเล่นนอร์ดิกส์ วอล์ค (Nordic Walker) : การเดินระยะไกลด้วยการใช้ไม้ค้ำยัน 1 คู่ เพื่อประคองลำตัวขณะเดินทำให้เดินได้ไกลกว่าปกติ ช่วยเสริมสร้างการทรงตัวที่ดี ช่วยเผาผลาญพลังงานและเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ
- การนั่งสมาธิ : การฝึกฝนจิตใจให้มีความสงบ
- การเล่นโยคะ : การผสานร่างกายและจิตใจเข้าด้วยกัน เพื่อมอบสมดุลภายในร่างกาย ช่วยพัฒนาจิตใจพร้อมฝึกฝนการควบคุมตนเอง
- ชี่กง : การผสมผสานกันระหว่างสมาธิ ลมหายใจ และการเคลื่อนไหว ช่วยให้ร่างกายและจิตใจมีสภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง
- การปั่นจักรยานเสือภูเขา ที่ได้ทั้งความสนุกสนาน ได้ดื่มด่ำกับอากาศที่บริสุทธิ์และธรรมชาติที่สวยงามของป่าดำ (Black Forest) ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งโอโซนที่สำคัญของโลก
การเดินทาง : เนื่องจากโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยูกึ่งกลาง 3 ประเทศ ดังรูป เราจึงมีโอกาสได้เที่ยวถึง 3 ประเทศ เลยคะ
ถ้าไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนบ้างมีคำแนะนำ ด้านล่างค่ะ
เริ่มจาก BADEN-BADEN ถือเป็นเมืองของผู้ที่มีฐานะมั่งคั่งร่ำรวยในเยอรมนี มีแหล่งคาสิโนที่โด่งดัง มีโรงแรม สปา และสนามม้าสุดหรู
ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มั่งคั่งจากทั่วโลก
ต่อกันด้วยอีกเมืองของเยอรมนี ไฟรบวร์ก และ ชตุทท์การ์ท
ไฟรบวร์ก เป็นเมืองที่ยังคงความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบเยอรมันโบราณ และยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เพราะอยู่ติดกับเขต
ป่าดำ (Black Forest)ซึ่งถือเป็นแหล่งโอโซนที่สำคัญของโลก
ส่วนชตุทท์การ์ทก็ไม่แพ้กัน เป็นเมืองแห่งศิลปะการแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากมาย อาทิ คณะบัลเล่ต์ คณะอุปรากร และคณะประสานเสียงและเป็นเมืองอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีพิพิธภัณฑ์ยานยนต์ชื่อดังอย่าง Mercedes-Benz และ Porsche ทั้งยังมี outlet ที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมันอย่าง Outletcity Metzingenที่เต็มไปด้วยสินค้าแบรนด์ดังมากมายให้คุณเลือกสรรได้อย่างเต็มที่
(การเดินทางจาก Panacee Grand Hotel Roemerbad ไป Baden-Baden ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที
จาก Panacee Grand Hotel Roemerbad ไป Freiburg ใช้เวลา 35 นาที)
ต่อกันด้วยเมืองสตราสบูร์ก เป็นเมืองที่มีมหาวิหารที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพูดูสง่างามระหง แกะสลักอย่างอ่อนช้อย สวยงามไม่แพ้วิหารอื่น ๆ ในยุโรป และเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของฝรั่งเศสอย่าง Galleries Lafayette ที่มีร้านสินค้าแบรนด์ดังต่างๆ เป็นจำนวนมาก อาทิ Hermes และ Louis Vuitton เป็นต้น รวมทั้งมีร้านขายสินค้าแบรนด์เนมต่าง ๆ ทั่วเมือง ให้ผู้ที่รักการช้อปปิ้งได้เลือกสรรสินค้า
ที่ชื่นชอบได้อย่างเต็มที่
(การเดินทางจาก Panacee Grand Hotel Roemerbad ไป Strasbourg ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที)
ใครที่อยากไปสวิตเซอร์แลนด์ แนะนำลูเซิร์น เป็นเมืองที่มีบรรยากาศสบายๆ สามารถล่องเรือไปตามทะเลสาบที่สวยงาม เพื่อชื่นชม
วิวภูเขาที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ เมืองนี้โดดเด่นด้วยสะพานไม้ชาแปล (Chapel bridge) ซึ่งถือที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง และ
รูปสลักสิงโต (The Lion Monument) ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงทหารชาวสวิตฯ ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจเพื่อประเทศชาติใน
การปฏิวัติฝรั่งเศส และเป็นแหล่งช้อปปิ้งนาฬิกาแบรนด์ชั้นนำที่โด่งดังของโลกอีกด้วย
(การเดินทางจาก Panacee Grand Hotel Roemerbad ไป Luzernใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที)
อีกที่ของสวิตเซอร์แลนด์..บาเซิล เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำไรน์ ทำให้มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และมีอากาศที่เย็นสบาย อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติ (EuroAirport) ทำให้สามารถเดินทางไปยังเมืองสำคัญของยุโรปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และเป็นศูนย์กลางของการจัดงานนิทรรศการชั้นนำของโลก เช่น Watch Fair และ Art Fair เป็นต้น รวมทั้งเป็นแหล่งผลิตสินค้าขนาดใหญ่ ที่สามารถช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังอย่าง Bally ได้ในราคาถูก
(การเดินทางจาก Panacee Grand Hotel Roemerbad ไป Basel ใช้เวลา 35 นาที)
หรือใครอยากสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แบบชนบทหน่อย กอลมาร์ เป็นเมืองชนบทของฝรั่งเศสที่ให้ความสำคัญกับการปลูกดอกไม้
หลากหลายสีสัน ประดับประดาไปตามบ้านเรือนสไตล์ฝรั่งเศสที่มีสีสันสดใส ทำให้เมืองเก่าแก่ดูน่ารักสดใสและกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง ด้วยลักษณะของบ้านเรือนที่ตั้งอยู่บนสองฝั่งคลอง ที่สามารถล่องเรือเพื่อชมบ้านเรือนสมัยโบราณ จึงได้รับขนานนามว่า “เวนิสน้อย”
(LITTLE VENICE) ว้าว พลาดไม่ได้เลยค่ะ
(การเดินทางจาก Panacee Grand Hotel Roemerbad ไป Colmar ใช้เวลา 45 นาที)
--------------------------------------------------------
ลองเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมกันได้ที่นี่คะ
http://www.facebook.com/panaceewellnesstravel
http://www.panacee.com
ใครไปเที่ยวแถว ๆ 3 ประเทศนี้ อย่าลืมแวะไปพักกันได้นะคะ ^^