บทความหนึ่งจากเด็กผีอย่างผม - การทดลองเพื่อตามหา "ความสมดุล" ของหลุยส์ ฟานกัล

ตอนนี้ผมเชื่อว่าแฟนแมนยูส่วนใหญ่คงกำลังหงุดหงิดกับอะไรหลายอย่างของทีมเช่น
1.หงุดหงิดกับฟอร์มการเล่นของทีมตัวเอง
2.หงุดหงิดกับการจัดตัวผู้เล่นที่ดูจะไม่เหมาะสม
3.แทคติคการทำเกมที่คิดไม่ออกก็โยนเอา

ผมว่าทั้งหมดนี้ มันมีที่มานะ ที่มาที่ผมหมายถึง และที่ใครหลายคนได้ยินกันบ่อยๆ คือการได้มาซึ่งความสมดุลภายในทีม

ทำไม หลุยส์ ฟานกัล ถึง "กระเหี้ยนกระหือรือ" ในการไฝ่หาความสมดุลกันนัก

ผมว่าคำตอบมันก็คือ ความสมดุลภายในทีม ก่อให้เกิดความลงตัวในการเล่นบอลในทุกภาคส่วนของทีมแมนยูไนเต็ด
เมื่อมีความสมดุล
เกมรุกก็มีประสิทธิภาพ เกมรับก็เข้มแข็ง
(ถึงในทีมจะมีนักเตะที่ไม่เก่ง แต่พอเล่นด้วยกันก็สามารถเอาชนะทุกทีมได้ เหมือนช่วงที่ป๋ามีจตุรเทพไง)
มันเป็นวิธีการเล่นที่ดีที่สุด และสร้างความมั่นใจให้กับผู้เล่นของตัวเองด้วย ทำให้ทีมมีผลงานที่ดีในระยะยาว

ที่นี้ มาดูกันว่าที่ผ่านมา ฟานกัลทดลองอะไรบ้างกับการหาสมดุลในทีม

1. ทดลอง ด้วยระบบ 3-5-2
สิ่งที่คาดหวัง  - การที่มีกองกลาง 5 ตัวและกองกลาง 2 ตัว จะทำให้ทีมสามารถครองบอลได้ดีขึ้น และมีโอกาสยิงได้มากขึ้น และหากกองหลัง 3 ตัวมีความเข้าใจในการยืนตำแหน่ง และมีสมาธิระดับสูงในการเล่น (เพราะมีกองหลังยืนแค่ 3 คนเท่านั้น)  ก็จะยิ่งทำให้ระบบนี้ เป็นระบบน่ากลัวเอามากๆ

ความเป็นจริง - นักเตะแมนยูเกือบทุกคน "งง" กับแผนนี้  คือได้แค่ครองบอลแต่ยิงไม่ได้ กองหลังที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ ต้องมาเล่นหลัง 3 คน นี่มันนรกชัดๆ                      

ผลการทดลอง  -  ไม่ผ่าน

2.ทดลอง การจัดตัว เปลี่ยนตัวผู้เล่น แบบขัดใจแฟนบอล - เช่น   เอารูนีย์ไปยืนกองกลาง เอาดิมาเรียไปยืนกองหน้า  เอาฟิลโจนส์ไปเตะมุม
สิ่งที่คาดหวัง  -  1.รูนีย์เป็นนักเตะที่เปิดขวางสนามดีมาก จะช่วยให้ทีมเปลี่ยนแกนบุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ  
                      2.ดิมาเรียมีความเร็ว สามารถวิ่งแซงกองหลังเวลาสวนกลับได้รวดเร็ว  
                      3.โปรดอย่ามองว่ากองหลังไม่ควรเล่นลูกเซตพีช ลองมองที่ตัวคน
                         ฟิล โจนส์เป็นพวกเปิดบอลวิถีโค้งครับ เพราะขาโก่งมาก คล้ายๆ RVP กับ Beckham
                        

ความเป็นจริง -  1.ใช่ครับ รูนีย์เปิดบอลขวางสนามได้ดีก็จริงและวิ่งไม่มีหมด  แต่นอกจากนั้นในฐานะกองกลาง
                        รูนีย์สอบตกหมด ครองบอลไม่ได้ จ่ายบอลไม่คม เสียบอลง่ายมาก
                     2. ดิมาเรีย วิ่งเร็วก็จริง แต่ยิงไม่คมเลย เปราะด้วย ปะทะกองหลังก็ปลิวหมด เอามายืนเป็นกองหน้า ก็เสียตัวผู้เล่นเปล่าๆ
                     3.ฟิลโจนส์ ถึงเป็นพวกเปิดบอลวิถีโค้ง แต่งานเตะมุมมันต้องเป็นพวกที่ทำตำแหน่งนี้บ่อยๆ ถึงจะได้ผลที่ดี

ผลการทดลอง  -  ไม่ผ่าน

ในการทดลองหาความสมดุลของ ฟานกัลนั้น เพื่อให้ได้การครองบอลแบบเบ็ดเสร็จบางครั้งก็ต้องแลกมาด้วยสิ่งที่ขัดใจกับแฟนบอลสุดๆ
คือการเล่นบอลแบบเซฟตัวเองให้มากที่สุด คิดไม่ออกให้ส่งหลัง  ไม่บ้าบุกตะลุยค่อยๆตะล่อมครองบอลไปเรื่อย เพราะการเล่นแบบนี้จะทำให้ทีมที่เพิ่งเซ็ทตัวใหม่ๆ (หลังจากที่เดวิดมอยส์ทำทุกอย่างพังพินาศ) ทำความเข้าใจการเล่นบอลของเพื่อนร่วมทีม เป็นการสร้างความเข้าใจในระยะยาว และจะนำมาซึ่งความสมดุล ตามที่ฟานกัลต้องการ

ทีนี้มาดูกันว่า สิ่งที่ฟานกัลต้องทำ เพื่อให้ได้ความสมดุลคืออะไร

1.รู้จักนักเตะของตัวเองให้มากที่สุด  หลุยส์ ฟานกัลต้องทำให้คนพวกนี้มาเล่นบอลร่วมกันให้ได้  ตอนนี้ผมขอแบ่งนักเตะของแมนยูเป็นประเภทดังนี้ครับ

      - "พวกเล่นได้หลายตำแหน่ง เอนกประสงค์" มีแนวโน้มที่ดี แต่อาจเป็นดาบสองผมเพราะการเล่นได้หลายตำแหน่ง ทีมอาจเสียสมดุลได้    

          
            17.ดาลีย์ บลินด์ (กลางรับ กองหลัง )
            31.เฟไลนี่ (กองกลาง หน้าต่ำ)
            4.ฟิลโจนส์ (แบคขวา เซ็นเตอร์)  
            18.ยัง (ปีก แบค - ยังในยุค ฟานกัล ผมว่าดีขึ้นกว่ายุคเซอร์กับมอยส์ เลยให้อยู่ในกลุ่มนี้)
            5.โรโฮ (แบคซ้าย เซนเตอร์)
            33.แมคแนร์ (แบคขวา เซนเตอร์)

     - "พวกเล่นได้แค่ตำแหน่งเดียว มิติเดียว เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย"

         2.ราฟาเอล (อารมณ์ร้อนล้วนๆ คือปัญหา)
         3.ลุคชอว์ (ต้องเพิ่มประสบการณ์ความฟิต)
         6.อีแวนส์ (อายุปานนี้ยังเป็นที่พึ่งไม่ได้ )  
         11.ยานาไซ (บอลชายเดียวไม่เป็นผลดีกับชีวิตตัวเองนะน้อง เพราะทีมต้องการความสมดุล)
         12.สมอลลิ่ง (คนนี้มีแววดีที่สุดแต่กลับโชว์รั่วบ่อยๆไม่เข้าใจ)
         20.RVP (คมนะ แต่คิดช้าทำช้า)
         25.วาเลนเซีย (ลากบอลน่ากลัว แต่เปิดบอลแย่มาก ดีที่เป็นคนมีวินัย เล่นตามแผนได้ดี)
         9.ฟัลเกา (ความพยายามทุกอย่างแล้ว แต่ยังดีไม่พอกับทีม เจอกองหลังสไตล์อังกฤษ ไปไม่เป็นปรับกับบอลอังกฤษไม่ได้)

     - พวกที่เก่งแต่ไม่เหมาะกับทีม
        7.ดิมาเรีย (เก่งมากนะ แต่ยังปรับกับบอลอังกฤษไม่ได้)
        8.มาต้า (เก่งเหมือนกัน แต่เสียที่ตัวเล็กพอมาเล่นกองกลางแล้วไม่แข็งแกร่งเอาเสียเลย)
        21.เอเรร่า (คนนี้ชิ่งบอลสนุกมาก จ่ายทะลุช่องดี แข็งแกร่งแต่ ทีมต้องการการครองบอลชิ่งบอลบ่อยไปอาจทำให้ทีมเสียสมดุล แต่ควรมีไว้ในทีมนะ)

     -พวกเทพ
        1.เด เกอา (ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆซักคำให้ลึกซึ้ง)
        16. คารริค (นิ่ง ใจเย็น จ่ายบอลได้เปรียบ ครองบอลดีมาก)
        10.รูนีย์ (วิ่งไม่มีหมด ยิงคม เล่นบอลมีวิสัยทัศน์ แต่ชอบลงต่ำมาเล่นในตำแหน่งที่ไม่ควรเล่นเท่านั้นเอง)


2.เก็บดาวิด เดเกอาไว้
   ไม่มีเขา แมนยูจะเป็นทีมที่อยู่กลางตารางแน่นอน เพราะการควานหาสมดุลบางที่ย่อมมีความผิดพลาดในการเล่น เป็นหน้าที่ของโกล์ที่จะต้องทำทุกอย่างไม่ให้เสียประตู เพราะสุดท้ายทีมที่เสียประตูมากกว่า ทีมนั้นก็คือผู้แพ้

3.หามิดฟิลด์มาแทนคารริก
    คารริกทำให้ทีมสมดุลได้จริงๆด้วยการครองบอล และจ่ายบอลแล้วเพื่อนเล่นง่าย การแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า การจ่ายบอลที่ได้เปรียบ
  คนแบบนี้หาได้ไม่ง่ายนัก  ถ้าในทีมเราที่ใกล้เคียงที่สุดคือบลินด์ แต่ที่คล้ายคลึงกับคารริกที่สุดก็คงเป็น ฆาบี้ มาติเนช เควิน สรูทมัน ไม่ก็ต้องแบบปอล พอกบา ยาย่าตูเร่ไปเลย

4.หาพี่ใหญ่ในแดนหลัง
   ต้องเป็นคนที่กล้าลุย มีความเป็นผู้นำ ชนเป็นชนเจ็บเป็นเจ็บ แบบวิดิช ริโอ ผมยังไม่เห็นใครที่ใกล้เคียงนะ ฟิลโจนส์ อาจจะคล้ายคลึงแต่ก็ยังไม่ใช่
คนที่เหมาะมากคือ "แนคแนร์"  ขอให้รักษาการเล่นแบบนี้เข้าไว้ มีสติในการเล่น  รับรองว่าไปได้ไกล (ไม่ก็ติอาโก้ ซิลวา กอมปานี ไปเลย)

5.หากองหน้าตัวใหม่ซะ
   ผมชอบในความพยายามของฟัลเกานะ แต่ปรับกับบอลอังกฤษไม่ได้ RVP ก็ยังไม่เข้าที ในส่วนนี้ผมว่าควรจับรูนีย์มาเล่นหน้า หรือถ้าเป็นไปได้อยากเห็นอิบราฮิโมวิช เหมือนกันนะ คนนี้อาจเป็นคนที่ใช่ของทีมก็ได้ เพราะเขาทำเองยิงเองได้ จะเป็นผลดีต่อทีมมากถ้ามีใครแบบนี้ในทีม


และถ้าแฟนแมนยูคิดว่า เราจะกลับไปเป็นแมนยู ในยุคมอยส์ไหม ผมว่าไม่นะ
เพราะพวกเขากำลังสร้างทีมใหม่ และนักเตะทุกคนคงรู้แล้วว่าความตกต่ำความทุกข์ระทมในยุคเดวิดมอยส์ มันเป็นอย่างไร
พวกเขาคงจะไม่มีวันกลับไปจมอยู่กับอะไรแบบนั้นอีก

แต่สิ่งที่แฟนบอลต้องติดตามคือ แมนยูจะหาความสมดุลที่ว่านั้นได้ไหม ตัวผมก็ขอให้พวกเขาค้นหาได้ไวๆนะ
เพราะตอนนี้ความสมดุลจะเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เรากลับไปแย่งความยิ่งใหญ่ให้กลับมาอีกครั้ง

แต่เหนือสิ่งอื่นใด คงต้องให้เวลา ฟานกัล ซักนิดนึงนะครับ อย่างน้อยคิดว่าตอนนี้ก็ดีกว่ายุคมอยส์

The count of tuscany เขียนและเรียบเรียง