ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวเองก่อนสักเล็กน้อยนะครับ ว่า จขกท. รับราชการส่วนท้องถิ่น (ก็ทำงานแนวเทศบาล อบต.นี่แหละครับ) เงินเดือนก็ไม่มากสักเท่าไหร่ แต่ก็มีความฝันที่จะเที่ยวต่างประเทศให้ได้บ่อยๆ ซึ่งมันอาจจะดูเป็นเรื่องลำบากสักนิดของข้าราชการที่เพิ่งจะทำงาน แต่ถ้ารู้จักจัดสรรเงินเก็บให้ดีๆ การไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ พอดีช่วงสงกรานต์ปีนี้มีวันหยุดยาวๆติดต่อกันหลายวัน นั่นจึงเป็นที่มาของการไปเที่ยวยุโรปตะวันออก ประเทศฮังการี สาธารณรัฐเช็ก และออสเตรีย (จริงๆผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเรียกประเทศแถบนี้ว่ายุโรปตะวันออกสักเท่าไหร่) ข้าราชการอย่างเราๆเวลาจะไปเที่ยวต่างประเทศนานๆ ก็ต้องอาศัยช่วงจังหวะที่มีวันหยุดยาวๆแบบนี้ละครับ อย่างเช่น ทริปนี้ ผมจะไปเที่ยวตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. ถึง 15 เม.ย. ถ้านับดูแล้ว สิริรวม 11 วันพอดี แต่เราขอใช้วันลาพักผ่อนเพียง 4 วันเท่านั้นเอง ซึ่งโอกาสที่ผู้บังคับบัญชาจะอนุญาตมีโอกาสสูงเลยแหละครับ นี่จึงเป็นที่มาของการไปยื่นขอวีซ่าออสเตรีย สำหรับทริปนี้
การขอวีซ่า
การขอวีซ่าเชงเก้นของประเทศออสเตรียต้องขอผ่านเอเจนซี่นะครับ นั่นคือ บริษัท วีเอฟเอส นั่นเอง เข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับการขอวีซ่า ได้ที่
http://www.vfsglobal.com/austria/thailand/thai/index.html สิ่งสำคัญอย่างแรกในการขอวีซ่าออสเตรีย คือ เข้าไปศึกษาใน website ของบริษัทก่อนนะครับ ว่า ลักษณะของวีซ่าที่เราจะขอเป็นแบบไหน ต้องเตรียมเอกสารสำคัญอะไรบ้าง เราจะได้จัดการตัวเราเองให้ถูกต้อง อย่างวีซ่าที่ จขกท. จะขอก็คือวีซ่าระยะสั้นสำหรับการท่องเที่ยว พอได้รายละเอียดเรื่องเกี่ยวกับเอกสารสำคัญครบ เราก็เตรียมเอกสารกันเลย
ใบคำร้องขอวีซ่าที่กรอกข้อมูลทุกอย่างโดยสมบูรณ์
เราสามารถ Download ใบคำร้องขอวีซ่า ได้จาก website ของบริษัทได้เลยนะครับ และจัดการกรอกข้อมูลต่างๆ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์นะครับ
http://www.vfsglobal.com/austria/thailand/thai/tourist_visa_form.html พอดาวน์โหลดเสร็จก็จะได้แบบฟอร์มให้กรอกด้วยกัน 3 แผ่น
ประกันภัยการเดินทาง
การทำประกันภัยการเดินทางนั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้เดินทางไปเยือนประเทศออสเตรียและประเทศอื่นๆในกลุ่มประเทศเชงเก้น ทุกท่านต้องทำก่อนการเดินทาง ซึ่งท่านสามารถเลือกใช้บริการจากบริษัทประกันภัยในประเทศไทยหรือในยุโรปก็ได้ โปรดทราบว่ามีบริษัทประกันภัยเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทยเท่านั้นที่ได้รับการยอมรับจากสถานทูตออสเตรีย
วงเงินในการประกันจะต้องครอบคลุมไม่น้อยกว่า 30,000 ยูโร หรือ 1,500,000 บาท และจะต้องรวมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล การค้างคืนในโรงพยาบาล และการส่งตัวกลับประเทศไทยอันเนื่องมาจากการบาดเจ็บหรือเหตุผลทางการแพทย์อื่นๆ การประกันสุขภาพจะต้องสามารถใช้ได้กับทุกประเทศในกลุ่มประเทศเชงเก้นและจะต้องคุ้มครองท่านได้ตลอดระยะเวลาในการเดินทาง การชดใช้จากบริษัทประกันภัยจะต้องชำระได้ในประเทศใดๆ ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป สวิสเซอร์แลนด์ และลิกเคนสไตน์ ทั้งนี้ ให้ยื่นหนังสือรับรองประกันการเดินทางพร้อมกันกับการยื่นคำขอร้องวีซ่าด้วย
โปรดทราบว่าท่านจะต้องนำเอกสารเกี่ยวกับการประกันการเดินทางติดตัวไปกับท่านในขณะเดินทางด้วย เพราะอาจจะมีการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ ณ จุดตรวจพรมแดนเมื่อท่านเดินทางเข้ากลุ่มประเทศเชงเก้น
ซึ่งเท่าที่หาประกันภัยการเดินทางตามที่ทางสถานทูตกำหนด ราคาประกัน ในช่วงการเดินทาง 11 วัน ราคาจะตกประมาณ 600 -1,000 บาท ตามแต่ละบริษัท และออฟชั่นของการรับประกันที่เพิ่มขึ้น แต่มีบริษัทประกันบริษัทหนึ่งซึ่งราคาประกันจ่ายถูกมาก (อันนี้ต้องยกความดีความชอบในอาแปะ) นั่นคือ บริษัทซิกน่าประกันภัย จขกท.จ่ายเบี้ยประกันเพียง 374 บาทเท่านั้น แต่เรื่องของการเคลมประกันดีเราเปล่าอันนี้ไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆมันถูกที่สุดละ และสามารถทำการซื้อประกันการเดินทางแบบออนไลน์ได้เลย แถม บริษัทซิกน่า ยังอยู่ในลิสของบริษัทประกันการเดินทางที่ทางสถานทูตให้การรับรองว่าใช้ในการขอวีซ่าได้ จขกท.จึงจัดไปเพราะด้วยเหตุผลของราคาแค่นั้นเอง เข้าไปส่องราคาประกันกันได้ที่
http://www.cigna.co.th/
ขั้นตอนการซื้อออนไลน์ ซึ่งส่วนตัวผมว่าสะดวกดี
หลังจากที่เราซื้อผ่านออนไลน์ บริษัทก็จะส่งกรมธรรม์มาให้ซึ่งเราต้อง ปริ้นใบส่วนนี้ที่มีภาษาอังกฤษไว้สำหรับการยื่นขอวีซ่า
หนังสือรับรองการทำงาน
หนังสือรับรองการทำงานในส่วนนี้จะคล้ายๆกับพนักงานบริษัทนั่นแหละครับ คือให้ผู้มีอำนาจเซ็นต์รับรอง (นายกเทศมนตรีลงนาม) แต่ในส่วนของข้าราชการอาจจะแตกต่างจากพนักงานบริษัทอยู่สักนิดหน่อยเพราะข้าราชการเวลาไปต่างประเทศต้องทำหนังสือขออนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดก่อนนะครับ ขั้นตอนในการขอใบรับรองการทำงาน อาจจะต้องขอรวมกับ ใบขออนุญาตลาพักผ่อนและเดินทางไปต่างประเทศ โดยในส่วนนี้ต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดท่านเซ็นลงนามอนุมัตินะครับ ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัด……….. เรื่องหลักเกณฑ์การลาของพนักงานเทศบาล พ.ศ. ๒๕๕๖ ข้อ ๑๑
อันนี้เป็นหนังสือรับรองการทำงานที่ที่ทำงานออกให้ครับ
เอกสารทางการเงิน
จขกท. เตรียมบัญชีธนาคารเอาไว้ 2 เล่มพร้อมอัพเดทล่าสุด คือ บัญชีธนาคารที่เป็นบัญชีที่มีเงินเดือนเข้า และอีกเล่มคือบัญชีธนาคารที่เป็นบัญชีประเภทเงินเก็บพร้อมสำเนา ซึ่งเงินในบัญชีรวมๆกันก็น่าจะเพียงพอต่อการขอวีซ่าในครั้งนี้ รึป่าวไม่ทราบ
ใบจองตั๋วเครื่องบิน
จากที่หาข้อมูลมามีหลากหลายความคิดเห็นเกี่ยวกับใบจองตั๋วเครื่องบิน บ้างก็บอกว่าให้เอเจนซี่ออกใบจองตั๋วเครื่องบินมาก่อนโดยที่ยังไม่ต้องชำระเงิน บ้างก็บอกว่าถ้าแน่ใจ profile ของตัวเองให้ซื้อตั๋วเดินทางเลย ซึ่งอันนี้แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านนะครับ เพราะ ค่าตั๋วเครื่องบิน คิดเป็น ครึ่งหนึ่งของการเดินทางตลอดทั้งทริปเลยนะครับ ประเมินกันเอาเอง ไม่มีใครสามารถประเมินได้ดีกว่าตัวท่านเองนะครับ ในส่วนของ จขกท. เป็นพวกนิยมล่าตั๋วเครื่องบินราคาถูก และมั่นใจในตัวเองเล็กน้อย เลยจัดการจองมันซะเลย ซึ่งก็ถือว่ามันก็มีความเสี่ยงอยู่นะครับ ถ้าพลาดก็เท่ากับ 0 ทันที อาจจะคืนเงินได้นิดหน่อย
ช่วงสงกรานต์ต้องยอมรับเลยว่าตั๋วไปยุโรปจากเมืองไทย ราคาแอบโหดแทบทั้งนั้น ซึ่ง จขกท. ใจร้อนไปหน่อย รีบสอยตั๋วของการ์ต้าในช่วงที่ออกโปรลด 30% จึงได้ตั๋วมาในราคา 27,700 บาท ซึ่งถือว่าราคาอยู่ในช่วงที่พอรับได้ โดยลงเครื่องที่ บุดาเพลส และกลับทางเวียนนา แต่ๆๆ ถ้าใจเย็นไม่รีบมากแบบ จขกท. เราอาจะได้ตั๋วในราคาที่ถูกกว่านี้ แบบเพื่อน จขกท.ที่เดินทางไปในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยใช้เวปเอเจนซี่ หาราคาตั๋วราคาถูก ซึ่งได้ในราคา 18,000 กว่าๆเท่านั้นเอง แต่ต้องไปขึ้นเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งหาเครื่องบินโลคอสบินไปแบบชิวๆได้เลย สิริรวมจ่ายไปไม่ถึงสองหมื่นบาท ผมนี่อยากจะร้องไห้
ปริ้นใบจองตั๋วเครื่องบินออกมา
เอกสารเกี่ยวกับที่พัก
จำเป็นต้องครอบคลุมตลอดระยะเวลาการเดินทาง ให้ต่อเนื่องกับตั๋วเครื่องบินของผู้สมัคร ในกรณีที่ผู้สมัคร เดินทางมากกว่า 1 ประเทศ ให้ระบุว่าผู้สมัครจะมีเดินทางไปที่ไหนบ้าง.
อันนี้แผนการเดินทางจริงๆของ จขกท.เองนะครับ
จขกท.ใช้การจองห้องพักผ่านเอเจนซี่นะครับ ทั้ง Agoda , booking และ Hostelbooker นะครับ ถ้าเดินทางไปเป็นกลุ่ม ควรจะเช็คราคาที่พักจากหลายๆเวป เพราะราคาอาจจะแตกต่างกันอยู่บ้าง เอเจนซี่ไหนให้ราคาดีที่สุดก็จองอันนั้น ในความคิดเห็นส่วนตัวจองผ่าน booking.com โอเครสุดเพราะสะดวกต่อการยกเลิก (แต่ต้องอ่านเงื่อนไขการจองให้ดีๆนะครับ บางที่เค้าจะหักเงินเราผ่านบัตรไปเลย บางที่เค้าจะกันเงินเอาไว้เฉยๆ) แถมออกเอกสารใบจองออกมาแบบดูดีด้วย
agoda
booking
Hostelbooker
เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้ว ก็ตามผมไปขอวีซ่ากันเลย
[CR] ไปขอวีซ่าออสเตรียกันเถอะ
การขอวีซ่า
การขอวีซ่าเชงเก้นของประเทศออสเตรียต้องขอผ่านเอเจนซี่นะครับ นั่นคือ บริษัท วีเอฟเอส นั่นเอง เข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับการขอวีซ่า ได้ที่ http://www.vfsglobal.com/austria/thailand/thai/index.html สิ่งสำคัญอย่างแรกในการขอวีซ่าออสเตรีย คือ เข้าไปศึกษาใน website ของบริษัทก่อนนะครับ ว่า ลักษณะของวีซ่าที่เราจะขอเป็นแบบไหน ต้องเตรียมเอกสารสำคัญอะไรบ้าง เราจะได้จัดการตัวเราเองให้ถูกต้อง อย่างวีซ่าที่ จขกท. จะขอก็คือวีซ่าระยะสั้นสำหรับการท่องเที่ยว พอได้รายละเอียดเรื่องเกี่ยวกับเอกสารสำคัญครบ เราก็เตรียมเอกสารกันเลย
ใบคำร้องขอวีซ่าที่กรอกข้อมูลทุกอย่างโดยสมบูรณ์
เราสามารถ Download ใบคำร้องขอวีซ่า ได้จาก website ของบริษัทได้เลยนะครับ และจัดการกรอกข้อมูลต่างๆ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์นะครับ http://www.vfsglobal.com/austria/thailand/thai/tourist_visa_form.html พอดาวน์โหลดเสร็จก็จะได้แบบฟอร์มให้กรอกด้วยกัน 3 แผ่น
ประกันภัยการเดินทาง
การทำประกันภัยการเดินทางนั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้เดินทางไปเยือนประเทศออสเตรียและประเทศอื่นๆในกลุ่มประเทศเชงเก้น ทุกท่านต้องทำก่อนการเดินทาง ซึ่งท่านสามารถเลือกใช้บริการจากบริษัทประกันภัยในประเทศไทยหรือในยุโรปก็ได้ โปรดทราบว่ามีบริษัทประกันภัยเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทยเท่านั้นที่ได้รับการยอมรับจากสถานทูตออสเตรีย
วงเงินในการประกันจะต้องครอบคลุมไม่น้อยกว่า 30,000 ยูโร หรือ 1,500,000 บาท และจะต้องรวมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล การค้างคืนในโรงพยาบาล และการส่งตัวกลับประเทศไทยอันเนื่องมาจากการบาดเจ็บหรือเหตุผลทางการแพทย์อื่นๆ การประกันสุขภาพจะต้องสามารถใช้ได้กับทุกประเทศในกลุ่มประเทศเชงเก้นและจะต้องคุ้มครองท่านได้ตลอดระยะเวลาในการเดินทาง การชดใช้จากบริษัทประกันภัยจะต้องชำระได้ในประเทศใดๆ ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป สวิสเซอร์แลนด์ และลิกเคนสไตน์ ทั้งนี้ ให้ยื่นหนังสือรับรองประกันการเดินทางพร้อมกันกับการยื่นคำขอร้องวีซ่าด้วย
โปรดทราบว่าท่านจะต้องนำเอกสารเกี่ยวกับการประกันการเดินทางติดตัวไปกับท่านในขณะเดินทางด้วย เพราะอาจจะมีการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ ณ จุดตรวจพรมแดนเมื่อท่านเดินทางเข้ากลุ่มประเทศเชงเก้น
ซึ่งเท่าที่หาประกันภัยการเดินทางตามที่ทางสถานทูตกำหนด ราคาประกัน ในช่วงการเดินทาง 11 วัน ราคาจะตกประมาณ 600 -1,000 บาท ตามแต่ละบริษัท และออฟชั่นของการรับประกันที่เพิ่มขึ้น แต่มีบริษัทประกันบริษัทหนึ่งซึ่งราคาประกันจ่ายถูกมาก (อันนี้ต้องยกความดีความชอบในอาแปะ) นั่นคือ บริษัทซิกน่าประกันภัย จขกท.จ่ายเบี้ยประกันเพียง 374 บาทเท่านั้น แต่เรื่องของการเคลมประกันดีเราเปล่าอันนี้ไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆมันถูกที่สุดละ และสามารถทำการซื้อประกันการเดินทางแบบออนไลน์ได้เลย แถม บริษัทซิกน่า ยังอยู่ในลิสของบริษัทประกันการเดินทางที่ทางสถานทูตให้การรับรองว่าใช้ในการขอวีซ่าได้ จขกท.จึงจัดไปเพราะด้วยเหตุผลของราคาแค่นั้นเอง เข้าไปส่องราคาประกันกันได้ที่ http://www.cigna.co.th/
หนังสือรับรองการทำงาน
หนังสือรับรองการทำงานในส่วนนี้จะคล้ายๆกับพนักงานบริษัทนั่นแหละครับ คือให้ผู้มีอำนาจเซ็นต์รับรอง (นายกเทศมนตรีลงนาม) แต่ในส่วนของข้าราชการอาจจะแตกต่างจากพนักงานบริษัทอยู่สักนิดหน่อยเพราะข้าราชการเวลาไปต่างประเทศต้องทำหนังสือขออนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดก่อนนะครับ ขั้นตอนในการขอใบรับรองการทำงาน อาจจะต้องขอรวมกับ ใบขออนุญาตลาพักผ่อนและเดินทางไปต่างประเทศ โดยในส่วนนี้ต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดท่านเซ็นลงนามอนุมัตินะครับ ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัด……….. เรื่องหลักเกณฑ์การลาของพนักงานเทศบาล พ.ศ. ๒๕๕๖ ข้อ ๑๑
เอกสารทางการเงิน
จขกท. เตรียมบัญชีธนาคารเอาไว้ 2 เล่มพร้อมอัพเดทล่าสุด คือ บัญชีธนาคารที่เป็นบัญชีที่มีเงินเดือนเข้า และอีกเล่มคือบัญชีธนาคารที่เป็นบัญชีประเภทเงินเก็บพร้อมสำเนา ซึ่งเงินในบัญชีรวมๆกันก็น่าจะเพียงพอต่อการขอวีซ่าในครั้งนี้ รึป่าวไม่ทราบ
ใบจองตั๋วเครื่องบิน
จากที่หาข้อมูลมามีหลากหลายความคิดเห็นเกี่ยวกับใบจองตั๋วเครื่องบิน บ้างก็บอกว่าให้เอเจนซี่ออกใบจองตั๋วเครื่องบินมาก่อนโดยที่ยังไม่ต้องชำระเงิน บ้างก็บอกว่าถ้าแน่ใจ profile ของตัวเองให้ซื้อตั๋วเดินทางเลย ซึ่งอันนี้แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านนะครับ เพราะ ค่าตั๋วเครื่องบิน คิดเป็น ครึ่งหนึ่งของการเดินทางตลอดทั้งทริปเลยนะครับ ประเมินกันเอาเอง ไม่มีใครสามารถประเมินได้ดีกว่าตัวท่านเองนะครับ ในส่วนของ จขกท. เป็นพวกนิยมล่าตั๋วเครื่องบินราคาถูก และมั่นใจในตัวเองเล็กน้อย เลยจัดการจองมันซะเลย ซึ่งก็ถือว่ามันก็มีความเสี่ยงอยู่นะครับ ถ้าพลาดก็เท่ากับ 0 ทันที อาจจะคืนเงินได้นิดหน่อย
ช่วงสงกรานต์ต้องยอมรับเลยว่าตั๋วไปยุโรปจากเมืองไทย ราคาแอบโหดแทบทั้งนั้น ซึ่ง จขกท. ใจร้อนไปหน่อย รีบสอยตั๋วของการ์ต้าในช่วงที่ออกโปรลด 30% จึงได้ตั๋วมาในราคา 27,700 บาท ซึ่งถือว่าราคาอยู่ในช่วงที่พอรับได้ โดยลงเครื่องที่ บุดาเพลส และกลับทางเวียนนา แต่ๆๆ ถ้าใจเย็นไม่รีบมากแบบ จขกท. เราอาจะได้ตั๋วในราคาที่ถูกกว่านี้ แบบเพื่อน จขกท.ที่เดินทางไปในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยใช้เวปเอเจนซี่ หาราคาตั๋วราคาถูก ซึ่งได้ในราคา 18,000 กว่าๆเท่านั้นเอง แต่ต้องไปขึ้นเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งหาเครื่องบินโลคอสบินไปแบบชิวๆได้เลย สิริรวมจ่ายไปไม่ถึงสองหมื่นบาท ผมนี่อยากจะร้องไห้
เอกสารเกี่ยวกับที่พัก
จำเป็นต้องครอบคลุมตลอดระยะเวลาการเดินทาง ให้ต่อเนื่องกับตั๋วเครื่องบินของผู้สมัคร ในกรณีที่ผู้สมัคร เดินทางมากกว่า 1 ประเทศ ให้ระบุว่าผู้สมัครจะมีเดินทางไปที่ไหนบ้าง.
จขกท.ใช้การจองห้องพักผ่านเอเจนซี่นะครับ ทั้ง Agoda , booking และ Hostelbooker นะครับ ถ้าเดินทางไปเป็นกลุ่ม ควรจะเช็คราคาที่พักจากหลายๆเวป เพราะราคาอาจจะแตกต่างกันอยู่บ้าง เอเจนซี่ไหนให้ราคาดีที่สุดก็จองอันนั้น ในความคิดเห็นส่วนตัวจองผ่าน booking.com โอเครสุดเพราะสะดวกต่อการยกเลิก (แต่ต้องอ่านเงื่อนไขการจองให้ดีๆนะครับ บางที่เค้าจะหักเงินเราผ่านบัตรไปเลย บางที่เค้าจะกันเงินเอาไว้เฉยๆ) แถมออกเอกสารใบจองออกมาแบบดูดีด้วย
เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้ว ก็ตามผมไปขอวีซ่ากันเลย