คือดิฉันว่าจะเขียนหลายทีแล้วยังไม่มีโอกาส เห็นกำลังจะมีการปรับผังเดือนมีนาคมเลยถือโอกาสซะเลยนะคะ
คือรายการข่าวเช้า ช่อง 7 ตอนนี้หลายคนบ่นมากว่ามีเยอะเกิน ตั้งแต่ตี 5 ถึง 8.45 น. และอนาคตอาจถึง 9.00 น.
เรียกว่า เกือบ 4 ชั่วโมงเต็มกับการรายงานข่าว เข้าใจว่าอาจจะคนละกลุ่มคนดูที่ออกจากบ้านไม่พร้อมกัน แต่สุดท้าย
แล้วก็ต้องยอมรับว่าข่าวทั้งสามช่วงแทบไม่มีอะไรแตกต่างกัน ข่าวตีห้าเป็นข่าวที่เอาของเมื่อวานมาผลิตใหม่ ข่าวใหม่
มีเพียงเล็กน้อยถึงไม่มีเลย ในขณะที่เช้านี้ที่หมอชิตก็เหมือนคัดลอกข่าวตีห้ามา เพียงแต่อธิบายมากขึ้นอีกเล็กน้อย
โดยเฉพาะประเด็นการเมืองหรือเศรษฐกิจ และรายการสุดท้ายคือสนามข่าว 7 สี ที่ก็เอางานของเมื่อวานและเมื่อคืน
มาผลิตซ้ำ อาจเพิ่มเติมสกู้ปข่าวที่เป็นเรื่องในกระแสบ้าง จะเห็นว่า 3 ชั่วโมงนี้อัดแน่นไปด้วยข่าว ข่าว ข่าว และข่าว
ข่าวเช้าตีห้า เมื่อก่อนที่มีผู้ประกาศที่ตอนนี้ไปอยู่ในรายการสนามข่าวแล้ว มีประสบการณ์เยอะถือว่าเอาอยู่ แต่ตอนหลัง
ใช้ผู้ประกาศชุดใหม่เข้ามาทำ ต้องยอมรับว่ายังไม่ค่อยรู้ข่าว ถนัดงานประกาศข่าวอย่างเดียว ไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วม
เหมือนเมื่อก่อนที่มีเล่นหยอกล้อบ้างตามอารมณ์ข่าว ไม่ซีเรียสมาก แต่ถือเป็นเวทีฝึกงานน้องรุ่นใหม่ที่ดี
เช้านี้ที่หมอชิต เห็นช่วงที่ผู้ประกาศข่าวชายย้ายช่องมา มีกระแสฮือฮา แต่สุดท้ายก็เงียบหายไป และถือว่าอาจได้ไม่
คุ้มเสียที่ย้ายช่องมา เพราะของเดิมถือว่าอยู่ในช่วงไพรม์ไทม์ และเป็นลักษณะของการรายงานข่าว พอย้ายมาเจอ
รายการกึ่งเล่าข่าว และมีการพูดคุยกัน ยังรู้สึกเกร็งๆ ถึงแม้จะทำมานานแล้ว แต่ยังขาดความเป็นธรรมชาติ และอ่าน
ด้วยน้ำเสียงโมโนโทน ติดตา แต่ไม่ติดใจ ในขณะที่ผู้ประกาศข่าวหญิงถือว่าเป็นระดับมืออาชีพทั้งคู่ และถือเป็นจุด
น่าสนใจของรายการเช้านี้ที่หมอชิตที่ยังเอาอยู่
สนามข่าว 7 สี รายการสุดท้าย ลงสนามมาได้เกือบปีแล้ว ข้อเสียคือการที่ฝ่ายข่าวของช่อง 7 เป็นผู้ผลิตเอง ทำให้ติด
กรอบการรายงานข่าวแบบเดิมๆ ช่วงแรกอาจมีการพยายามทำให้เป็นแนวเล่าข่าว แต่สุดท้ายก็กลายเป็นการแบ่งกัน
รายงานข่าว ติดรูปแบบที่มีการแบ่งกันอ่านชัดเจน ถือเป็นการเดินกลับเข้าสู่กรอบเดิมๆ ของฝ่ายข่าว ที่ไม่กล้าทำอะไร
นอกกรอบ การมีคุณอนุวัต คุณเปรมสุดา คุณศจี ฯลฯ ซึ่งสามารถใช้ความเป็นตัวตนในการทำรายการเชิงวาไรตี้ได้
แต่กลับสร้างกรอบให้ผู้ประกาศข่าวอ่านกันแบบเกร็งๆ จะหัวเราะก็ทำได้ไม่เต็มที่ ทุกคนใส่เสื้อแจ็กเกตให้ความรู้สึกว่า
ลงสนามข่าว แต่ถามว่ามันจำเป็นไหมกับการใส่เสื้อเพื่อสื่อออกมาแบบนี้ และผู้ประกาศได้ลงสนามข่าวจริงหรือไม่
ทางออกของรายการนี้ควรคิดนอกกรอบ อาจทำรายการเชิงวาไรตี้ ไม่ต้องมานั่งโต๊ะรายงานอย่างเดียว เสียดายผู้ประกาศ
ท่านอื่นๆ ในสถานีที่มีฝีมือในการเล่าข่าว หรือทำให้ข่าวมีสีสันขึ้นได้ เพราะช่องใช้ผู้ประกาศลักษณะแพคเกจ จะ
โปรโมททีทั้งแผง แต่คุณภาพและความสามารถอาจยังไม่ถึง ซึ่งถือเป็นจุดที่ทำให้รายการไม่น่าสนใจ ลองสังเกตวันที่
มีแขกรับเชิญในรายการแล้วจะเข้าใจดีขึ้น เช่น วันที่มีทีมฟุตบอลมา ฯลฯ จะเห็นว่าบรรยากาศดูผ่อนคลาย เป็นกันเอง
และเรตติ้งจะมาเอง เพราะตอนนี้ลำพังข่าวก็เครียดแล้ว มาเจอรูปแบบเครียดอีก คนไทยไม่ค่อยชอบ อาจมีการเชิญแขก
รับเชิญมาอ่านบ้าง ช่อง 7 มีดารา นักแสดงตั้งมากมาย สามารถสร้างสีสันได้ไม่ยาก
การมีพิธีกรถึง 5-6 คน ควรเป็นการผสมผสานเพื่อดึงดูดคนให้ได้หลายกลุ่ม หากท่านเอาแต่คนที่มีคุณลักษณะคล้ายๆ
กันมาอยู่ร่วมกัน ก็จะจับได้เพียงเป้าหมายกลุ่มเดียว อาจต้องมีหล่อบ้าง สวยบ้าง บ้านๆบ้าง เฮฮาบ้าง หวังว่าคงเข้าใจ
ประเด็นนี้ เพราะต้องยอมรับว่าคนเก่ง ดี มีความสามารถ แต่อาจมองนานๆ แล้วเบื่อ เปลี่ยนช่องไปดูอะไรที่เจริญหูเจริญตา
ที่ช่องอื่นบ้างก็ไม่แปลก สังเกตคุณเปรมสุดาเมื่อมาอยู่รายการนี้ ไม่สามารถสร้างสีสันได้เทียบเท่ากับการไปอยู่ในรายการอื่นๆ
เหมือนนำคนมีของ แต่ไม่ให้โอกาสได้ปล่อยของ บางคนที่ไม่เหมาะก็ต้องตัดสินใจเด็ดขาด อย่ามัวแต่ห่วงหน้าพะวงหลัง
อาจเสียทั้งตัวผู้ประกาศที่โดนตำหนิ และรายการโดยรวมดูไม่น่าสนใจ บางครั้งเค้าอาจจะเหมาะกับรูปแบบรายการอื่นก็ได้
ยังไม่ต้องเชื่อดิฉันทั้งหมดก็ได้ แต่เชื่อว่าท่านคงทราบแก่ใจดีว่าเรตติ้ง ข่าวช่วงเช้าเป็นอย่างไรในตอนนี้ และถึงเวลาหรือ
ยังที่จะทวงแชมป์คืน ยังไงก็ฝากผู้บริหารลองคิดดูนะคะ ดิฉันก็อยากเห็นช่อง 7 โดยเฉพาะรายการข่าวเช้ากลับมาเป็นที่
หนึ่งให้ได้ แต่ดูเหมือนทางช่องเองจะยังไม่ค่อยกล้าคิดนอกกรอบกันเลย สู้ๆค่ะ จะรอดูการเปลี่ยนแปลงนะคะ
เพื่อนสมาชิกมีอะไรเพิ่มเติม เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เชิญวิจารณ์ได้เลยค่ะ
ข้อเสนอแนะถึงรายการข่าวเช้า ช่อง 7
คือรายการข่าวเช้า ช่อง 7 ตอนนี้หลายคนบ่นมากว่ามีเยอะเกิน ตั้งแต่ตี 5 ถึง 8.45 น. และอนาคตอาจถึง 9.00 น.
เรียกว่า เกือบ 4 ชั่วโมงเต็มกับการรายงานข่าว เข้าใจว่าอาจจะคนละกลุ่มคนดูที่ออกจากบ้านไม่พร้อมกัน แต่สุดท้าย
แล้วก็ต้องยอมรับว่าข่าวทั้งสามช่วงแทบไม่มีอะไรแตกต่างกัน ข่าวตีห้าเป็นข่าวที่เอาของเมื่อวานมาผลิตใหม่ ข่าวใหม่
มีเพียงเล็กน้อยถึงไม่มีเลย ในขณะที่เช้านี้ที่หมอชิตก็เหมือนคัดลอกข่าวตีห้ามา เพียงแต่อธิบายมากขึ้นอีกเล็กน้อย
โดยเฉพาะประเด็นการเมืองหรือเศรษฐกิจ และรายการสุดท้ายคือสนามข่าว 7 สี ที่ก็เอางานของเมื่อวานและเมื่อคืน
มาผลิตซ้ำ อาจเพิ่มเติมสกู้ปข่าวที่เป็นเรื่องในกระแสบ้าง จะเห็นว่า 3 ชั่วโมงนี้อัดแน่นไปด้วยข่าว ข่าว ข่าว และข่าว
ข่าวเช้าตีห้า เมื่อก่อนที่มีผู้ประกาศที่ตอนนี้ไปอยู่ในรายการสนามข่าวแล้ว มีประสบการณ์เยอะถือว่าเอาอยู่ แต่ตอนหลัง
ใช้ผู้ประกาศชุดใหม่เข้ามาทำ ต้องยอมรับว่ายังไม่ค่อยรู้ข่าว ถนัดงานประกาศข่าวอย่างเดียว ไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วม
เหมือนเมื่อก่อนที่มีเล่นหยอกล้อบ้างตามอารมณ์ข่าว ไม่ซีเรียสมาก แต่ถือเป็นเวทีฝึกงานน้องรุ่นใหม่ที่ดี
เช้านี้ที่หมอชิต เห็นช่วงที่ผู้ประกาศข่าวชายย้ายช่องมา มีกระแสฮือฮา แต่สุดท้ายก็เงียบหายไป และถือว่าอาจได้ไม่
คุ้มเสียที่ย้ายช่องมา เพราะของเดิมถือว่าอยู่ในช่วงไพรม์ไทม์ และเป็นลักษณะของการรายงานข่าว พอย้ายมาเจอ
รายการกึ่งเล่าข่าว และมีการพูดคุยกัน ยังรู้สึกเกร็งๆ ถึงแม้จะทำมานานแล้ว แต่ยังขาดความเป็นธรรมชาติ และอ่าน
ด้วยน้ำเสียงโมโนโทน ติดตา แต่ไม่ติดใจ ในขณะที่ผู้ประกาศข่าวหญิงถือว่าเป็นระดับมืออาชีพทั้งคู่ และถือเป็นจุด
น่าสนใจของรายการเช้านี้ที่หมอชิตที่ยังเอาอยู่
สนามข่าว 7 สี รายการสุดท้าย ลงสนามมาได้เกือบปีแล้ว ข้อเสียคือการที่ฝ่ายข่าวของช่อง 7 เป็นผู้ผลิตเอง ทำให้ติด
กรอบการรายงานข่าวแบบเดิมๆ ช่วงแรกอาจมีการพยายามทำให้เป็นแนวเล่าข่าว แต่สุดท้ายก็กลายเป็นการแบ่งกัน
รายงานข่าว ติดรูปแบบที่มีการแบ่งกันอ่านชัดเจน ถือเป็นการเดินกลับเข้าสู่กรอบเดิมๆ ของฝ่ายข่าว ที่ไม่กล้าทำอะไร
นอกกรอบ การมีคุณอนุวัต คุณเปรมสุดา คุณศจี ฯลฯ ซึ่งสามารถใช้ความเป็นตัวตนในการทำรายการเชิงวาไรตี้ได้
แต่กลับสร้างกรอบให้ผู้ประกาศข่าวอ่านกันแบบเกร็งๆ จะหัวเราะก็ทำได้ไม่เต็มที่ ทุกคนใส่เสื้อแจ็กเกตให้ความรู้สึกว่า
ลงสนามข่าว แต่ถามว่ามันจำเป็นไหมกับการใส่เสื้อเพื่อสื่อออกมาแบบนี้ และผู้ประกาศได้ลงสนามข่าวจริงหรือไม่
ทางออกของรายการนี้ควรคิดนอกกรอบ อาจทำรายการเชิงวาไรตี้ ไม่ต้องมานั่งโต๊ะรายงานอย่างเดียว เสียดายผู้ประกาศ
ท่านอื่นๆ ในสถานีที่มีฝีมือในการเล่าข่าว หรือทำให้ข่าวมีสีสันขึ้นได้ เพราะช่องใช้ผู้ประกาศลักษณะแพคเกจ จะ
โปรโมททีทั้งแผง แต่คุณภาพและความสามารถอาจยังไม่ถึง ซึ่งถือเป็นจุดที่ทำให้รายการไม่น่าสนใจ ลองสังเกตวันที่
มีแขกรับเชิญในรายการแล้วจะเข้าใจดีขึ้น เช่น วันที่มีทีมฟุตบอลมา ฯลฯ จะเห็นว่าบรรยากาศดูผ่อนคลาย เป็นกันเอง
และเรตติ้งจะมาเอง เพราะตอนนี้ลำพังข่าวก็เครียดแล้ว มาเจอรูปแบบเครียดอีก คนไทยไม่ค่อยชอบ อาจมีการเชิญแขก
รับเชิญมาอ่านบ้าง ช่อง 7 มีดารา นักแสดงตั้งมากมาย สามารถสร้างสีสันได้ไม่ยาก
การมีพิธีกรถึง 5-6 คน ควรเป็นการผสมผสานเพื่อดึงดูดคนให้ได้หลายกลุ่ม หากท่านเอาแต่คนที่มีคุณลักษณะคล้ายๆ
กันมาอยู่ร่วมกัน ก็จะจับได้เพียงเป้าหมายกลุ่มเดียว อาจต้องมีหล่อบ้าง สวยบ้าง บ้านๆบ้าง เฮฮาบ้าง หวังว่าคงเข้าใจ
ประเด็นนี้ เพราะต้องยอมรับว่าคนเก่ง ดี มีความสามารถ แต่อาจมองนานๆ แล้วเบื่อ เปลี่ยนช่องไปดูอะไรที่เจริญหูเจริญตา
ที่ช่องอื่นบ้างก็ไม่แปลก สังเกตคุณเปรมสุดาเมื่อมาอยู่รายการนี้ ไม่สามารถสร้างสีสันได้เทียบเท่ากับการไปอยู่ในรายการอื่นๆ
เหมือนนำคนมีของ แต่ไม่ให้โอกาสได้ปล่อยของ บางคนที่ไม่เหมาะก็ต้องตัดสินใจเด็ดขาด อย่ามัวแต่ห่วงหน้าพะวงหลัง
อาจเสียทั้งตัวผู้ประกาศที่โดนตำหนิ และรายการโดยรวมดูไม่น่าสนใจ บางครั้งเค้าอาจจะเหมาะกับรูปแบบรายการอื่นก็ได้
ยังไม่ต้องเชื่อดิฉันทั้งหมดก็ได้ แต่เชื่อว่าท่านคงทราบแก่ใจดีว่าเรตติ้ง ข่าวช่วงเช้าเป็นอย่างไรในตอนนี้ และถึงเวลาหรือ
ยังที่จะทวงแชมป์คืน ยังไงก็ฝากผู้บริหารลองคิดดูนะคะ ดิฉันก็อยากเห็นช่อง 7 โดยเฉพาะรายการข่าวเช้ากลับมาเป็นที่
หนึ่งให้ได้ แต่ดูเหมือนทางช่องเองจะยังไม่ค่อยกล้าคิดนอกกรอบกันเลย สู้ๆค่ะ จะรอดูการเปลี่ยนแปลงนะคะ
เพื่อนสมาชิกมีอะไรเพิ่มเติม เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เชิญวิจารณ์ได้เลยค่ะ