ประมาณปลายเดือนมกราคม 2558 ผมได้รับแจ้งว่าทางหน่วยงานหนึ่งของ UN (United Nation) ตอบรับการขอเข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับการส่งเสริมเทคโนโลยีเกษตรในประเทศในภูมิภาคเอเชีย ในช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ที่กรุงดักกา (Dhaka) ประเทศบังคลาเทศ ตอนแรกที่ทราบว่าเขาตอบรับมาแล้วก็ยังสงสัยตัวเองอยู่ว่าจะไปดีหรือไม่ เพราะการประชุมครั้งนี้หัวหน้างานของผมเขาบังคับกลายๆว่าให้ไป เพราะว่าอาจจะไม่มีคนอยากไปเท่าไหร่ การท่องเที่ยวประเทศนี้ก็ไม่ค่อยมี ประเทศก็ดูไม่เจริญ ไม่สะอาด แต่เมื่อทาง UN เขาตอบรับมาแล้วก็ต้องไป ทีนี้ถือว่ามันเป็นหน้าที่ ไม่ใช่ไปเที่ยว
การเข้าประเทศบังคลาเทศต้องขอวีซ่าด้วยนะครับ ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ ไปขอวีซ่าได้ที่สถานฑูตบังคลาเทศ ซอยเอกมัย 30 เจ้าหน้าที่ในสถานฑูตสุภาพและน่ารักมาก ให้คำแนะนำขั้นตอนต่างๆ ตลอดจนถึงการชำระค่าวีซ่าประมาณพันกว่าบาท (วีซ่าประเภทต่างๆเสียค่าวีซ่าไม่เท่ากัน กรณีพาสปอร์ตราชการที่มีหนังสือรับรองจากกระทรวงต่างประเทศและมีหนังสือเชิญจากหน่วยงานภาครัฐของบังคลาเทศได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียค่าวีซ่า) ส่วนตั๋วเครื่องบินนั้น ทาง UN จัดส่งมาให้เลย ผมไม่ต้องทำอะไร ซึ่งผมได้ตั๋ว กรุงเทพฯ-ดักกา ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ นอกจากนี้ UN ยังส่งค่าใช้จ่ายในการประชุมมาให้อีก 1,200 USD (39,000 บาท) ซึ่งเงินจำนวนนี้ผมต้องถือไปบังคลาเทศด้วยเพราะต้องใช้ชำระค่าโรงแรม ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายจิปาถะ ตลอดเวลา 5-6 วันในบังคลาเทศ
บังคลาเทศ 2015
การเข้าประเทศบังคลาเทศต้องขอวีซ่าด้วยนะครับ ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ ไปขอวีซ่าได้ที่สถานฑูตบังคลาเทศ ซอยเอกมัย 30 เจ้าหน้าที่ในสถานฑูตสุภาพและน่ารักมาก ให้คำแนะนำขั้นตอนต่างๆ ตลอดจนถึงการชำระค่าวีซ่าประมาณพันกว่าบาท (วีซ่าประเภทต่างๆเสียค่าวีซ่าไม่เท่ากัน กรณีพาสปอร์ตราชการที่มีหนังสือรับรองจากกระทรวงต่างประเทศและมีหนังสือเชิญจากหน่วยงานภาครัฐของบังคลาเทศได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียค่าวีซ่า) ส่วนตั๋วเครื่องบินนั้น ทาง UN จัดส่งมาให้เลย ผมไม่ต้องทำอะไร ซึ่งผมได้ตั๋ว กรุงเทพฯ-ดักกา ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ นอกจากนี้ UN ยังส่งค่าใช้จ่ายในการประชุมมาให้อีก 1,200 USD (39,000 บาท) ซึ่งเงินจำนวนนี้ผมต้องถือไปบังคลาเทศด้วยเพราะต้องใช้ชำระค่าโรงแรม ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายจิปาถะ ตลอดเวลา 5-6 วันในบังคลาเทศ