สวัสดีคะ สุขสันต์ย้อนหลังวันวาเลนไทน์นะคะ
วันนี้มีประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง เล่ายาวหน่อยนะคะ ประสบการณ์นี้เราอยากจะจำให้ได้ละเอียดที่สุด เพื่อเตือนใจเรา เพื่อช่วยน้องแมวตัวอื่นๆ ต่อไปด้วย
วาเลนไทน์หลายคนอาจไปกับแฟน มีโปรแกรมหวานๆ เรากับแฟนก็มีโปรแกรมเหมือนกัน เนื่องจากเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 เรากับแฟนได้ไปเที่ยวงานประกวดและแสดงสัตว์เลี้ยงที่โรงพยาบาลสัตว์เล็กมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดขึ้น (เกษตรแฟร์) และเห็นมีการประชาสัมพันธ์โครงการรับบริจาคเลือด เราเลยตัดสินใจเอาแมวไปเข้าร่วมคะ เพราะว่า เราสงสารน้องแมว แล้วตัวเรากับแมวเราอาศัยอยู่ระแวก ม.เกษตรด้วย เดินทางสะดวก เราเห็นในเฟสบ่อยๆ ขอรับบริจาคเลือดแมว เราอยากไปช่วย แต่พิกัดอยู่กันคนละที่ คราวนี้ได้โอกาสดีเลยตั้งใจเต็มที่
พอถึงวันที่ 14 เราเลยเอาแมวเราไปร่วมบริจาค ปรากฏว่า มีแต่น้องหมาเต็มไปหมด กลายเป็นงานบริจาคเลือดของน้องหมาซะอย่างนั้น เราเป็นแมวแค่ตัวเดียวที่ไป ตอนแรกก็เกือบจะไม่เข้าร่วมโครงการแล้ว เนื่องจากเกรงใจทั้งคุณหมอกับเจ้าหน้าที่มาก เพราะเป็นแมวตัวเดียว กลัวว่าจะลำบากกัน แต่คุณหมอและเจ้าหน้าที่ใจดีมากๆ เลย พยามยามดูแล ช่วยบริการทุกอย่าง คอยให้คำแนะนำ สุดท้ายเลยรู้ว่าเลือดแมวเก็บไม่ได้ คือ ถ้าบริจาคแล้วต้องให้เลย ไม่เหมือนเลือดน้องหมา คุณหมอเลยทำการเจาะเลือดแล้วตรวจเลือดให้ บอกว่าถ้าเลือดผ่าน ภายใน 2 อาทิทย์นี้ถ้ามีน้องแมวให้เลือดก็สามารถให้ได้เลย ไม่ต้องตรวจแล้ว...เรารอผลเลือดประมาณชั่วโมงหนึ่งคะ ค่าเลือดออกมาแมวเราแข็งแรงมาก สามารถให้เลือดได้ เราดีใจมากๆ เลย แถมก่อนกลับยังได้ใบประกาศนียบัตรกับอาหารมาด้วย
หลังจากตรวจเลือด รอผลเสร็จเรียบร้อย เราก็กลับบ้านประมาณเที่ยงกว่าคะ เอาแมวเข้ามาไว้ในบ้านแล้ว กำลังจะออกไปกินข้าวกับแฟน แต่!!!! กลับต้องเปลี่ยนโปรแกรมกระทันหัน เนื่องจากมีแมวต้องการเลือดด่วนมาก(เพิ่งกลับมา เข้าบ้านยังไม่ถึง 5 นาทีเลย) เจ้าของน้องโอโซน(น้องแมวพิการขาที่ต้องผ่าตัดด่วน เนื่องจากท่อปัสสาวะฉีก) ดีใจมากที่เราสามารถเอาแมวไปช่วยได้ เราเลยต้องเข้าบ้านไปอุ้มแมวออกมาอีกรอบ เราเดินทางเพียง 30 นาทีก็ถึงที่โรงพยาบาลสัตว์เกษตรแล้ว(จริงๆ ถ้ารถไม่ติดจะเร็วกว่านี้มาก) ไปถึงปุ๊ป หมอจัดการเอาเลือดไปตรวจ cross match เลย เพราะผลตรวจคุณภาพผ่านแล้ว
โชคดีเป็นของน้องโอโซนที่เลือดเข้ากันได้ แต่ดันโชคร้ายอีกที่น้องร่างกายไม่พร้อม คุณหมอต้องทำหลายอย่างมากเพื่อให้ร่างกายน้องพร้อม รอเวลากันนานหลายชั่วโมง ตั้งแต่บ่ายสองยัน 1 ทุ่มกว่าร่างกายจะพอทนกับการผ่าตัดไหว ทุกคนลุ้นแทบแย่ แถมหมอยังบอกอีกว่า ให้ทำใจเลยโอกาสรอด 50/50 เจ้าของน้องโอโซนได้ยินร้องไห้เลย เราก็แอบร้องตาม แต่ไม่มีทางเลือกถ้าไม่ผ่าต้ดน้องโอโซนก็ตายสถานเดียว สุดท้ายน้องโอโซนก็พร้อมคะ พร้อมที่สุดเท่าที่หมอจะช่วยได้ และแล้ว น้องก็ได้เลือด น้องได้เข้าผ่าตัด
การผ่าตัดสำเร็จไปได้ด้วยดีคะ ตอนนี้อาการของน้องโอโซนน่าจะรอดแล้วนะคะ เจ้าของโทรมาบอกว่า วันนี้น้องกินข้าวได้แล้ว แต่แผลยังอักเสบอยู่ เพราะเพิ่งผ่าตัดมาเมื่อวาน เราหวังว่าน้องจะรอด เราจะจำเหตุการณ์นี้ไปตลอด และถ้าเรามีโอกาสเราจะช่วยเหลือน้องแมวต่อไป
ส่วนแมวเราตอนนี้สบายดีคะกินอิ่ม นอนหลับ ซนเหมือนเดิม
ตอนนี้ทางเจ้าของน้องบอกอาการล่าสุดน้องดีขึ้น จากกระทู้ที่เราตั้ง เดิมแต่แรกไม่มีเจตนาจะพูดเรื่องค่ารักษาน้องนะคะ แต่พอได้คุยกับเจ้าของน้องโอโซน เจ้าของน้องบอกว่า ค่ารักษาพยาบาล ณ วันที่ 14 กุมภา นั้น ทั้งหมด 8xxx จ่ายไปแล้วรอบแรก(เราคิดว่าราคานี้ถูกแล้วนะคะ เพราะอาการน้องหนักมากจริงๆ) ตอนนี้น้องยัง admit อยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์เล็ก ม.เกษตร คิดว่าค่าใช้จ่ายก็คงพอตัว ที่เอามาเขียนต่อเพราะเห็นว่าเพื่อนๆ และคนรู้จักของเจ้าของโอโซนช่วยกันบริจาคมาส่วนหนึ่ง เลยคิดว่ากระทู้นี้จะเป็นสิ่งยืนยันว่าน้องอาการหนักจริงๆ ไม่ได้หลอกลวง อาจจะพอช่วยเรื่องค่ารักษาน้องได้ไม่มากก็น้อย
ไหนๆ แมวเราก็ช่วยให้น้องโอโซนรอดมาได้ เราก็จะช่วยจนถึงที่สุด เท่าที่เราจะช่วยได้ เราสงสารเจ้าของน้องโอโซนด้วยคะ ต้องขับรถมาจากปราจีนบุรี เพื่อพาน้องมารักษาที่นี้ แล้วตอนนี้ก็ยังคงต้องไปกลับระหว่างกรุงเทพฯ กับปราจีนบุรีอีกสักพักใหญ่ๆ เลยคะ ถึงไม่ได้มาทุกวัน แต่ค่านัำมันแต่ละครั้งคงเยอะน่าดู
เราไม่ได้มีเจตนามาขอรับเงินค่าช่วยน้องจากคนในพันธุ์ทิพย์นะคะ(คิดว่าเจ้าของน้องโอโซนก็เช่นกัน) ...กลัวจะโดนลบกระทู้จัง พูดถึงเรื่องค่ารักษาน้อง...
เราหวังว่ากระทู้เล็กๆ ของเราจะเป็นเหตุการณ์สะท้อนการช่วยเหลือหนึ่งชีวิตในวินาทีสุดท้ายให้รอดจากความตายนะคะ
สุดท้ายนี้ผิดพลาดอะไร ขออภัยด้วยนะคะ เราเพิ่งตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรก
เพราะความรักคือการให้...ให้ชีวิตใหม่ในนาทีสุดท้ายกับน้องแมวพิการ
วันนี้มีประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง เล่ายาวหน่อยนะคะ ประสบการณ์นี้เราอยากจะจำให้ได้ละเอียดที่สุด เพื่อเตือนใจเรา เพื่อช่วยน้องแมวตัวอื่นๆ ต่อไปด้วย
วาเลนไทน์หลายคนอาจไปกับแฟน มีโปรแกรมหวานๆ เรากับแฟนก็มีโปรแกรมเหมือนกัน เนื่องจากเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 เรากับแฟนได้ไปเที่ยวงานประกวดและแสดงสัตว์เลี้ยงที่โรงพยาบาลสัตว์เล็กมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดขึ้น (เกษตรแฟร์) และเห็นมีการประชาสัมพันธ์โครงการรับบริจาคเลือด เราเลยตัดสินใจเอาแมวไปเข้าร่วมคะ เพราะว่า เราสงสารน้องแมว แล้วตัวเรากับแมวเราอาศัยอยู่ระแวก ม.เกษตรด้วย เดินทางสะดวก เราเห็นในเฟสบ่อยๆ ขอรับบริจาคเลือดแมว เราอยากไปช่วย แต่พิกัดอยู่กันคนละที่ คราวนี้ได้โอกาสดีเลยตั้งใจเต็มที่
พอถึงวันที่ 14 เราเลยเอาแมวเราไปร่วมบริจาค ปรากฏว่า มีแต่น้องหมาเต็มไปหมด กลายเป็นงานบริจาคเลือดของน้องหมาซะอย่างนั้น เราเป็นแมวแค่ตัวเดียวที่ไป ตอนแรกก็เกือบจะไม่เข้าร่วมโครงการแล้ว เนื่องจากเกรงใจทั้งคุณหมอกับเจ้าหน้าที่มาก เพราะเป็นแมวตัวเดียว กลัวว่าจะลำบากกัน แต่คุณหมอและเจ้าหน้าที่ใจดีมากๆ เลย พยามยามดูแล ช่วยบริการทุกอย่าง คอยให้คำแนะนำ สุดท้ายเลยรู้ว่าเลือดแมวเก็บไม่ได้ คือ ถ้าบริจาคแล้วต้องให้เลย ไม่เหมือนเลือดน้องหมา คุณหมอเลยทำการเจาะเลือดแล้วตรวจเลือดให้ บอกว่าถ้าเลือดผ่าน ภายใน 2 อาทิทย์นี้ถ้ามีน้องแมวให้เลือดก็สามารถให้ได้เลย ไม่ต้องตรวจแล้ว...เรารอผลเลือดประมาณชั่วโมงหนึ่งคะ ค่าเลือดออกมาแมวเราแข็งแรงมาก สามารถให้เลือดได้ เราดีใจมากๆ เลย แถมก่อนกลับยังได้ใบประกาศนียบัตรกับอาหารมาด้วย
หลังจากตรวจเลือด รอผลเสร็จเรียบร้อย เราก็กลับบ้านประมาณเที่ยงกว่าคะ เอาแมวเข้ามาไว้ในบ้านแล้ว กำลังจะออกไปกินข้าวกับแฟน แต่!!!! กลับต้องเปลี่ยนโปรแกรมกระทันหัน เนื่องจากมีแมวต้องการเลือดด่วนมาก(เพิ่งกลับมา เข้าบ้านยังไม่ถึง 5 นาทีเลย) เจ้าของน้องโอโซน(น้องแมวพิการขาที่ต้องผ่าตัดด่วน เนื่องจากท่อปัสสาวะฉีก) ดีใจมากที่เราสามารถเอาแมวไปช่วยได้ เราเลยต้องเข้าบ้านไปอุ้มแมวออกมาอีกรอบ เราเดินทางเพียง 30 นาทีก็ถึงที่โรงพยาบาลสัตว์เกษตรแล้ว(จริงๆ ถ้ารถไม่ติดจะเร็วกว่านี้มาก) ไปถึงปุ๊ป หมอจัดการเอาเลือดไปตรวจ cross match เลย เพราะผลตรวจคุณภาพผ่านแล้ว
โชคดีเป็นของน้องโอโซนที่เลือดเข้ากันได้ แต่ดันโชคร้ายอีกที่น้องร่างกายไม่พร้อม คุณหมอต้องทำหลายอย่างมากเพื่อให้ร่างกายน้องพร้อม รอเวลากันนานหลายชั่วโมง ตั้งแต่บ่ายสองยัน 1 ทุ่มกว่าร่างกายจะพอทนกับการผ่าตัดไหว ทุกคนลุ้นแทบแย่ แถมหมอยังบอกอีกว่า ให้ทำใจเลยโอกาสรอด 50/50 เจ้าของน้องโอโซนได้ยินร้องไห้เลย เราก็แอบร้องตาม แต่ไม่มีทางเลือกถ้าไม่ผ่าต้ดน้องโอโซนก็ตายสถานเดียว สุดท้ายน้องโอโซนก็พร้อมคะ พร้อมที่สุดเท่าที่หมอจะช่วยได้ และแล้ว น้องก็ได้เลือด น้องได้เข้าผ่าตัด
การผ่าตัดสำเร็จไปได้ด้วยดีคะ ตอนนี้อาการของน้องโอโซนน่าจะรอดแล้วนะคะ เจ้าของโทรมาบอกว่า วันนี้น้องกินข้าวได้แล้ว แต่แผลยังอักเสบอยู่ เพราะเพิ่งผ่าตัดมาเมื่อวาน เราหวังว่าน้องจะรอด เราจะจำเหตุการณ์นี้ไปตลอด และถ้าเรามีโอกาสเราจะช่วยเหลือน้องแมวต่อไป
ส่วนแมวเราตอนนี้สบายดีคะกินอิ่ม นอนหลับ ซนเหมือนเดิม
ตอนนี้ทางเจ้าของน้องบอกอาการล่าสุดน้องดีขึ้น จากกระทู้ที่เราตั้ง เดิมแต่แรกไม่มีเจตนาจะพูดเรื่องค่ารักษาน้องนะคะ แต่พอได้คุยกับเจ้าของน้องโอโซน เจ้าของน้องบอกว่า ค่ารักษาพยาบาล ณ วันที่ 14 กุมภา นั้น ทั้งหมด 8xxx จ่ายไปแล้วรอบแรก(เราคิดว่าราคานี้ถูกแล้วนะคะ เพราะอาการน้องหนักมากจริงๆ) ตอนนี้น้องยัง admit อยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์เล็ก ม.เกษตร คิดว่าค่าใช้จ่ายก็คงพอตัว ที่เอามาเขียนต่อเพราะเห็นว่าเพื่อนๆ และคนรู้จักของเจ้าของโอโซนช่วยกันบริจาคมาส่วนหนึ่ง เลยคิดว่ากระทู้นี้จะเป็นสิ่งยืนยันว่าน้องอาการหนักจริงๆ ไม่ได้หลอกลวง อาจจะพอช่วยเรื่องค่ารักษาน้องได้ไม่มากก็น้อย
ไหนๆ แมวเราก็ช่วยให้น้องโอโซนรอดมาได้ เราก็จะช่วยจนถึงที่สุด เท่าที่เราจะช่วยได้ เราสงสารเจ้าของน้องโอโซนด้วยคะ ต้องขับรถมาจากปราจีนบุรี เพื่อพาน้องมารักษาที่นี้ แล้วตอนนี้ก็ยังคงต้องไปกลับระหว่างกรุงเทพฯ กับปราจีนบุรีอีกสักพักใหญ่ๆ เลยคะ ถึงไม่ได้มาทุกวัน แต่ค่านัำมันแต่ละครั้งคงเยอะน่าดู
เราไม่ได้มีเจตนามาขอรับเงินค่าช่วยน้องจากคนในพันธุ์ทิพย์นะคะ(คิดว่าเจ้าของน้องโอโซนก็เช่นกัน) ...กลัวจะโดนลบกระทู้จัง พูดถึงเรื่องค่ารักษาน้อง...
เราหวังว่ากระทู้เล็กๆ ของเราจะเป็นเหตุการณ์สะท้อนการช่วยเหลือหนึ่งชีวิตในวินาทีสุดท้ายให้รอดจากความตายนะคะ
สุดท้ายนี้ผิดพลาดอะไร ขออภัยด้วยนะคะ เราเพิ่งตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรก