ที่จริง เป็นบทความแรกที่ได้เขียนขึ้นมา ลองติชมกันได้นะคะ
เมื่อพูดถึงจังวัดนราธิวาส ทุกคนจะนึกถึงความไม่สงบเป็นอันดับแรก ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าเป็นเพราะอะไร ครั้นจะโทษสื่อฝ่ายเดียวก็ไม่ได้เพราะหน้าที่ของสื่อก็คือการรายงานข่าว แต่มันแปลกก็ตรงที่ว่าข่าวดีๆมักจะไม่ค่อยถูกตีพิมพ์มากนัก อาจเป็นเพราะคนในสังคมมักให้ความสนใจกับเรื่องด้านลบมากกว่าเรื่องที่ราวดีๆกระมัง หลายคนจึงติดภาพของสามจังหวัดนี้ในด้านของความรุนแรง มากกว่าความงามที่สังคมที่นี่อยู่ร่วมกันได้อย่างไรบนความแตกต่างที่เป็นอยู่ ซึ่งหลายคนไม่เคยได้ตั้งคำถามกับมัน
หลายคนมองว่าความขัดแย้งในปัจจุบันเกิดจากศาสนาที่แตกต่างกัน คนที่พูดเขาก็พูดไป เอาสนุกปากไว้ก่อน ซึ่งความจริงแล้วสังคมที่นี่เราก็อยู่ร่วมกันได้ แม้จะต่างความเชื่อต่างศาสนาเราไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกันอยู่แล้ว บางชุมชนมีหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายศาสนาที่มาอยู่ร่วมกัน เกื้อกูลและยอมรับความแตกต่าง ตัวดิฉันเองเป็นเด็กมุสลิมคนหนึ่งที่เติบโตมาพร้อมๆกับเพื่อนไทยพุทธ ฉันเรียนวิชาพุทธศาสนา ฉันจบโรงเรียนสามัญ ทั้งๆที่พ่อแม่ของฉันเป็นครูสอนศาสนาอิสลาม แต่พวกท่านก็เลือกให้ฉันเรียนโรงเรียนสามัญมากกว่าโรงเรียนสอนศาสนา ที่มาตรฐานก็เทียบเท่ากับโรงเรียนสามัญทั่วไป การที่พ่อแม่ฉันส่งมาเรียนโรงเรียนสามัญนั่นก็หมายความว่าท่าน อยากให้ฉันได้เรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมในการอยู่ร่วมกันกับเพื่อนต่างศาสนา เราเรียนรู้ความแตกต่าง ทำความเข้าใจ และยอมรับวัฒนธรรมของกันและกัน ฉะนั้นประเด็นของความขัดแย้งไม่ใช่เรื่องของศาสนาเสมอไป ดิฉันเคยเข้าไปอ่านการรายงานข่าวจากเพจหนึ่งซึ่งเป็นเพจที่เปิดทางเฟซบุ้ค อ่านแล้วไม่ค่อยรู้สึกดีนัก เมื่อสื่อที่เป็นเหมือนกระบอกเสียงให้กับประชาชน แต่กลับใช้อำนาจของตัวเองสร้างความแตกแยกให้กับสังคม เช่นการรายงานข่าวที่ว่า คนศาสนานี้โดนยิงเสียชีวิต และผู้ก่อการร้ายก็คือคนศาสนานี้.. ซึ่งมันไม่ใช่แค่การรายงานข่าวแต่มันเป็นการสร้างความขัดแย้งให้มันแย่กว่าเดิม แค่การรายงานข่าวธรรมดาก็สร้างความหดหู่ใจอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับสื่อที่มีการรายงานข่าวเอนเอียงไปอีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าสื่อไม่ใช่ตัวกลางในการรายงานข่าว ประชาชนจะไว้ใจใครได้
ความงามเหล่านี้เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อสื่อทำหน้าที่แค่รายงานข่าวความไม่สงบ จนมองข้ามแง่มุมดีๆที่คนในสังคมควรจะได้รับ กลับกลายเป็นช่องโหว่และสร้างบาดแผลมากขึ้นกว่าเดิม สื่อมีหน้าที่เสนอความจริง และอีกหน้าที่หนึ่งก็คือสมานบาดแผลให้กับคนในสังคม และหวังว่าสักวันความรักความเข้าใจจะเกิดกับพื้นที่นี้อีกครั้ง
สื่อ กับ ความขัดแย้ง
เมื่อพูดถึงจังวัดนราธิวาส ทุกคนจะนึกถึงความไม่สงบเป็นอันดับแรก ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าเป็นเพราะอะไร ครั้นจะโทษสื่อฝ่ายเดียวก็ไม่ได้เพราะหน้าที่ของสื่อก็คือการรายงานข่าว แต่มันแปลกก็ตรงที่ว่าข่าวดีๆมักจะไม่ค่อยถูกตีพิมพ์มากนัก อาจเป็นเพราะคนในสังคมมักให้ความสนใจกับเรื่องด้านลบมากกว่าเรื่องที่ราวดีๆกระมัง หลายคนจึงติดภาพของสามจังหวัดนี้ในด้านของความรุนแรง มากกว่าความงามที่สังคมที่นี่อยู่ร่วมกันได้อย่างไรบนความแตกต่างที่เป็นอยู่ ซึ่งหลายคนไม่เคยได้ตั้งคำถามกับมัน
หลายคนมองว่าความขัดแย้งในปัจจุบันเกิดจากศาสนาที่แตกต่างกัน คนที่พูดเขาก็พูดไป เอาสนุกปากไว้ก่อน ซึ่งความจริงแล้วสังคมที่นี่เราก็อยู่ร่วมกันได้ แม้จะต่างความเชื่อต่างศาสนาเราไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกันอยู่แล้ว บางชุมชนมีหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายศาสนาที่มาอยู่ร่วมกัน เกื้อกูลและยอมรับความแตกต่าง ตัวดิฉันเองเป็นเด็กมุสลิมคนหนึ่งที่เติบโตมาพร้อมๆกับเพื่อนไทยพุทธ ฉันเรียนวิชาพุทธศาสนา ฉันจบโรงเรียนสามัญ ทั้งๆที่พ่อแม่ของฉันเป็นครูสอนศาสนาอิสลาม แต่พวกท่านก็เลือกให้ฉันเรียนโรงเรียนสามัญมากกว่าโรงเรียนสอนศาสนา ที่มาตรฐานก็เทียบเท่ากับโรงเรียนสามัญทั่วไป การที่พ่อแม่ฉันส่งมาเรียนโรงเรียนสามัญนั่นก็หมายความว่าท่าน อยากให้ฉันได้เรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมในการอยู่ร่วมกันกับเพื่อนต่างศาสนา เราเรียนรู้ความแตกต่าง ทำความเข้าใจ และยอมรับวัฒนธรรมของกันและกัน ฉะนั้นประเด็นของความขัดแย้งไม่ใช่เรื่องของศาสนาเสมอไป ดิฉันเคยเข้าไปอ่านการรายงานข่าวจากเพจหนึ่งซึ่งเป็นเพจที่เปิดทางเฟซบุ้ค อ่านแล้วไม่ค่อยรู้สึกดีนัก เมื่อสื่อที่เป็นเหมือนกระบอกเสียงให้กับประชาชน แต่กลับใช้อำนาจของตัวเองสร้างความแตกแยกให้กับสังคม เช่นการรายงานข่าวที่ว่า คนศาสนานี้โดนยิงเสียชีวิต และผู้ก่อการร้ายก็คือคนศาสนานี้.. ซึ่งมันไม่ใช่แค่การรายงานข่าวแต่มันเป็นการสร้างความขัดแย้งให้มันแย่กว่าเดิม แค่การรายงานข่าวธรรมดาก็สร้างความหดหู่ใจอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับสื่อที่มีการรายงานข่าวเอนเอียงไปอีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าสื่อไม่ใช่ตัวกลางในการรายงานข่าว ประชาชนจะไว้ใจใครได้
ความงามเหล่านี้เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อสื่อทำหน้าที่แค่รายงานข่าวความไม่สงบ จนมองข้ามแง่มุมดีๆที่คนในสังคมควรจะได้รับ กลับกลายเป็นช่องโหว่และสร้างบาดแผลมากขึ้นกว่าเดิม สื่อมีหน้าที่เสนอความจริง และอีกหน้าที่หนึ่งก็คือสมานบาดแผลให้กับคนในสังคม และหวังว่าสักวันความรักความเข้าใจจะเกิดกับพื้นที่นี้อีกครั้ง