เราเป็นแม่ หนึ่งในอีกหลายคนที่มีปัญหากับการเลี้ยงลูก
กลุ้มใจมาก ปัญหาหลักๆคือลูก ไม่พูด ไม่สบตา ไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ เครียดจนต้องนั่งร้องไห้
หาทางแก้สาระพัด ข้อมูลก็หาเอาจากในพันทิป ก็มีดีมั่งไม่ดีมั่ง ( แม่มือใหม่เนอะ ลองทุกอย่างที่คิดว่าดี )
สรุปเบ็ดเสร็จ จนได้ทางแก้ไขที่เหมาะกับลูก และเรา ( แม่ต้องทำงานด้วยเลี้ยงด้วย ) ผลค่อนข้างน่าพอใจ
อยากเอามาแชร์ให้ พ่อ แม่ที่เครียดค่ะ เข้าใจหัวอกเลย ยิ่งมีคนมาทักเรื่องลูก ใจเสียไปหมด
ทางแก้ไขที่โอเค เรียงตามขั้นตอนเลยเนอะ
1. งดดูทีวีค่ะ เด็ดขาด เอาประมาณ 1 อาทิตย์ก็พอ ระหว่างนั้นพ่อแม่ต้องพูดกับลูกนะค่ะ พูดมากๆ ช้า เวลาพูดสบตากันด้วย ยิ้มให้ด้วยนะ
2. เอาของเล่นของลูกมานั่งเล่นค่ะ เล่นแบบให้สนุกเลยนะ ใส่แอ็คติ้งประมาณว่าเราเป็นเด็ก มีบรื้นๆ เฟี้ยงๆ อะไรก็ว่าไป ( จุดนี้ลูกจะสนใจมากนะค่ะ
เพราะไม่มีทีวีและ บ้านเงียบๆ นี่ใช่เลย พอลูกสนใจเราชวนเล่นเลยค่ะ ลูกเล่นตาม 100%
3. หาของเล่นที่ลูกชอบค่ะ เลือกที่ชอบมากจริงๆ ( อันนี้เอามาเป็นเงื่อนไขในการสอนพูด )
4. ลูกเราชอบเล่นเป่าฟองสบู่ค่ะ การเป่าอต่ละครั้งจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยนค่ะ เริ่มจากเรื่องง่ายๆก่อน เช่น หอมแก้ม กอดกัน ตบมือ ลูกจะเริ่มรู้ว่าการเล่น
แบบมีเงื่อนไขคืออะไร พอเริ่มทำได้ เริ่มสั่งยากขึ้น เช่น ให้ชี้ แมว หมา นก ไก่ ( มีรูปให้เค้าดู ครั้งแรกเราบอกก่อนแล้วค่อยให้เค้าชี้ตาม ) หลังจากนั้นก็
ร้องตามเสียงสัตว์ เหมียวๆ โฮ่ง แฮ่ๆ อะไรก็ว่าไป
5. การปฏิบัติต่อลูก ต้องทำเหมือนเค้าเป็นเด็กโตแล้ว ( ลูกเรา 2.6 ขวบ ณ ปัจจุบัน ) ให้กินข้าวเอง น้ำเอง ถอดเสื้อผ้าเอง เรื่องนี้ช่วยได้มากในเรื่องการพูด
อยากบอกพ่อแม่ทุกคนที่กำลังกลุ้มใจ เราต้องอดทนให้มาก พยามยามให้มาก เค้าเป็นลูกเรา ไม่มีใครรักและห่วงได้มากเท่าเรา เมื่อก่อน เคยเอาลูกไป
เตรียมอนุบาล เพื่อหวังให้ลูกเจอเพื่อน จะได้หัดพูด แต่เปล่าเลย ที่โรงเรียนให้นั่งดูแต่การ์ตูน ลูกเรานอกจาากไม่พูดแล้ว สมาธิสั้นเพิ่มไปอีก แต่ก็ไม่โทษ
ใคร เราผิดเอง ลูกเราเองจะผลักความรับผิดชอบไปให้คนอื่นได้งัย
ทุกอย่างจะดีขึ้นตามลำดับ ขอให้ใจเย็นหน่อย เป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกคน มีปัญหาก็สอบถามได้ ว่างๆจะมาตอบเน้อ
ผลของการอดทน กับการที่ลูกไม่พูด จนเริ่มเถียงได้
กลุ้มใจมาก ปัญหาหลักๆคือลูก ไม่พูด ไม่สบตา ไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ เครียดจนต้องนั่งร้องไห้
หาทางแก้สาระพัด ข้อมูลก็หาเอาจากในพันทิป ก็มีดีมั่งไม่ดีมั่ง ( แม่มือใหม่เนอะ ลองทุกอย่างที่คิดว่าดี )
สรุปเบ็ดเสร็จ จนได้ทางแก้ไขที่เหมาะกับลูก และเรา ( แม่ต้องทำงานด้วยเลี้ยงด้วย ) ผลค่อนข้างน่าพอใจ
อยากเอามาแชร์ให้ พ่อ แม่ที่เครียดค่ะ เข้าใจหัวอกเลย ยิ่งมีคนมาทักเรื่องลูก ใจเสียไปหมด
ทางแก้ไขที่โอเค เรียงตามขั้นตอนเลยเนอะ
1. งดดูทีวีค่ะ เด็ดขาด เอาประมาณ 1 อาทิตย์ก็พอ ระหว่างนั้นพ่อแม่ต้องพูดกับลูกนะค่ะ พูดมากๆ ช้า เวลาพูดสบตากันด้วย ยิ้มให้ด้วยนะ
2. เอาของเล่นของลูกมานั่งเล่นค่ะ เล่นแบบให้สนุกเลยนะ ใส่แอ็คติ้งประมาณว่าเราเป็นเด็ก มีบรื้นๆ เฟี้ยงๆ อะไรก็ว่าไป ( จุดนี้ลูกจะสนใจมากนะค่ะ
เพราะไม่มีทีวีและ บ้านเงียบๆ นี่ใช่เลย พอลูกสนใจเราชวนเล่นเลยค่ะ ลูกเล่นตาม 100%
3. หาของเล่นที่ลูกชอบค่ะ เลือกที่ชอบมากจริงๆ ( อันนี้เอามาเป็นเงื่อนไขในการสอนพูด )
4. ลูกเราชอบเล่นเป่าฟองสบู่ค่ะ การเป่าอต่ละครั้งจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยนค่ะ เริ่มจากเรื่องง่ายๆก่อน เช่น หอมแก้ม กอดกัน ตบมือ ลูกจะเริ่มรู้ว่าการเล่น
แบบมีเงื่อนไขคืออะไร พอเริ่มทำได้ เริ่มสั่งยากขึ้น เช่น ให้ชี้ แมว หมา นก ไก่ ( มีรูปให้เค้าดู ครั้งแรกเราบอกก่อนแล้วค่อยให้เค้าชี้ตาม ) หลังจากนั้นก็
ร้องตามเสียงสัตว์ เหมียวๆ โฮ่ง แฮ่ๆ อะไรก็ว่าไป
5. การปฏิบัติต่อลูก ต้องทำเหมือนเค้าเป็นเด็กโตแล้ว ( ลูกเรา 2.6 ขวบ ณ ปัจจุบัน ) ให้กินข้าวเอง น้ำเอง ถอดเสื้อผ้าเอง เรื่องนี้ช่วยได้มากในเรื่องการพูด
อยากบอกพ่อแม่ทุกคนที่กำลังกลุ้มใจ เราต้องอดทนให้มาก พยามยามให้มาก เค้าเป็นลูกเรา ไม่มีใครรักและห่วงได้มากเท่าเรา เมื่อก่อน เคยเอาลูกไป
เตรียมอนุบาล เพื่อหวังให้ลูกเจอเพื่อน จะได้หัดพูด แต่เปล่าเลย ที่โรงเรียนให้นั่งดูแต่การ์ตูน ลูกเรานอกจาากไม่พูดแล้ว สมาธิสั้นเพิ่มไปอีก แต่ก็ไม่โทษ
ใคร เราผิดเอง ลูกเราเองจะผลักความรับผิดชอบไปให้คนอื่นได้งัย
ทุกอย่างจะดีขึ้นตามลำดับ ขอให้ใจเย็นหน่อย เป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกคน มีปัญหาก็สอบถามได้ ว่างๆจะมาตอบเน้อ