บันทึกประจำวันศุกร์ที่ 13 เดือนxxx ปีxxxx
ฉันกลับถึงบ้านตอนห้าทุ่มกว่า หลังจากกินข้าวปลา อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้วก็มานั่งเล่นคอมพิวเตอร์เหมือนปรกติที่ทำทุกวัน
ฉันเปิดเว็บไซต์อ่านข่าวสารที่น่าสนใจตลอดจนกระทู้ตามเว็บบอร์ดต่าง ๆ กระทั่งสะดุดตากับกระทู้ที่จั่วหัวว่าเป็นเรื่องเล่าประสบการณ์สยองขวัญ
แน่นอน... ว่าฉันไม่ลังเลที่จะเลื่อนเมาส์ไปคลิ๊กเพื่อเปิดอ่าน เรื่องเล่าสยองขวัญหรือที่เรียกสั้น ๆ กันว่าเรื่อง ‘ผี‘ นั้นเป็นสิ่งที่ฉันโปรดปรานยิ่ง
ทว่าสำหรับฉัน เรื่องเล่าก็คือเรื่องเล่า ไม่มีอะไรพิสูจน์หรือรับประกันว่ามันคือเรื่องจริง
ฉันอ่านเรื่องเล่าเหล่านั้นอย่างสนุกสนาน เห็นมันเป็นเพียงสื่อบันเทิงเพื่อสร้างความสำราญแก่ตนเองอย่างหนึ่ง ผีเผออะไรกัน วิญญาณสยองขวัญแบบนั้นมันมีจริงที่ไหน ถ้ามีจริง ๆ แล้วทำไมฉันไม่เคยเห็นสักครั้งเลยล่ะ
ไม่มีใช่ไหม ก็เพราะมันเป็นแค่เรื่องเล่า เขาว่ามา เขาเคยเห็น แต่ฉันไม่เห็นนี่นา แล้วจะทำใจเชื่อได้อย่างไร ลองปรากฏออกมาให้เห็นสักครั้งเสียก่อนสิ
ฉันเหลือบมองนาฬิกา ตีสามกว่าแล้วหรือนี่ จึงคิดปิดคอมพิวเตอร์หลังจากอ่านเรื่องเล่าไปหลายเรื่องก็ยังไม่ทำให้ฉันสยองได้ ฉันนั่งอ้อยอิ่งระหว่างรอไฟบนมอร์นิเตอร์ดับลงและมองไปยังจอด้านหน้า
ทันใดที่ไฟดับ ฉันเห็นเงาตัวเองทอดทับอยู่บนหน้าจอสีเทาหม่นและเงาของใครบางคนอยู่ด้านหลัง ฉันหันขวับกลับไปมองทันที แต่ก็ไม่พบอะไร
แน่ล่ะสิ ก็ห้องนี้ฉันอยู่คนเดียวนี่นา
หลังจากกวาดตาไปทั่วห้อง ฉันหันกลับมามองที่หน้าจอมอนิเตอร์อีกครั้ง เงานั้นยังคงอยู่ ยืนอยู่ด้านหลังไม่ห่างไม่ไกล
นั่งมองเงานั้นอยู่พักใหญ่ มันไม่ไปไหน ฉันก็ลุกออกจากเก้าอี้ไปไม่ได้เหมือนกัน
ครั้นเมื่อเงานั้นขยับใกล้เข้ามา ฉันจึงกลั้นหายใจ กดเปิดคอมพิวเตอร์อีกครั้ง จรดปลายนิ้วรัวเร็วลงบนคีย์บอร์ดด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ ไม่ตรวจสอบสักนิดว่าพิมพ์ถูกผิดหรือไม่ แล้วส่งเนื้อหาเข้าหน้าเว็บไซต์ที่เพิ่งอ่านไปเมื่อครู่ จั่วหัวกระทู้เอาว่า...
ช่วยฉันที ฉันเจอผีในห้องของตัวเอง
เรื่องเล่าของฉันในคืนวันศุกร์ที่ 13
ฉันกลับถึงบ้านตอนห้าทุ่มกว่า หลังจากกินข้าวปลา อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้วก็มานั่งเล่นคอมพิวเตอร์เหมือนปรกติที่ทำทุกวัน
ฉันเปิดเว็บไซต์อ่านข่าวสารที่น่าสนใจตลอดจนกระทู้ตามเว็บบอร์ดต่าง ๆ กระทั่งสะดุดตากับกระทู้ที่จั่วหัวว่าเป็นเรื่องเล่าประสบการณ์สยองขวัญ
แน่นอน... ว่าฉันไม่ลังเลที่จะเลื่อนเมาส์ไปคลิ๊กเพื่อเปิดอ่าน เรื่องเล่าสยองขวัญหรือที่เรียกสั้น ๆ กันว่าเรื่อง ‘ผี‘ นั้นเป็นสิ่งที่ฉันโปรดปรานยิ่ง
ทว่าสำหรับฉัน เรื่องเล่าก็คือเรื่องเล่า ไม่มีอะไรพิสูจน์หรือรับประกันว่ามันคือเรื่องจริง
ฉันอ่านเรื่องเล่าเหล่านั้นอย่างสนุกสนาน เห็นมันเป็นเพียงสื่อบันเทิงเพื่อสร้างความสำราญแก่ตนเองอย่างหนึ่ง ผีเผออะไรกัน วิญญาณสยองขวัญแบบนั้นมันมีจริงที่ไหน ถ้ามีจริง ๆ แล้วทำไมฉันไม่เคยเห็นสักครั้งเลยล่ะ
ไม่มีใช่ไหม ก็เพราะมันเป็นแค่เรื่องเล่า เขาว่ามา เขาเคยเห็น แต่ฉันไม่เห็นนี่นา แล้วจะทำใจเชื่อได้อย่างไร ลองปรากฏออกมาให้เห็นสักครั้งเสียก่อนสิ
ฉันเหลือบมองนาฬิกา ตีสามกว่าแล้วหรือนี่ จึงคิดปิดคอมพิวเตอร์หลังจากอ่านเรื่องเล่าไปหลายเรื่องก็ยังไม่ทำให้ฉันสยองได้ ฉันนั่งอ้อยอิ่งระหว่างรอไฟบนมอร์นิเตอร์ดับลงและมองไปยังจอด้านหน้า
ทันใดที่ไฟดับ ฉันเห็นเงาตัวเองทอดทับอยู่บนหน้าจอสีเทาหม่นและเงาของใครบางคนอยู่ด้านหลัง ฉันหันขวับกลับไปมองทันที แต่ก็ไม่พบอะไร
แน่ล่ะสิ ก็ห้องนี้ฉันอยู่คนเดียวนี่นา
หลังจากกวาดตาไปทั่วห้อง ฉันหันกลับมามองที่หน้าจอมอนิเตอร์อีกครั้ง เงานั้นยังคงอยู่ ยืนอยู่ด้านหลังไม่ห่างไม่ไกล
นั่งมองเงานั้นอยู่พักใหญ่ มันไม่ไปไหน ฉันก็ลุกออกจากเก้าอี้ไปไม่ได้เหมือนกัน
ครั้นเมื่อเงานั้นขยับใกล้เข้ามา ฉันจึงกลั้นหายใจ กดเปิดคอมพิวเตอร์อีกครั้ง จรดปลายนิ้วรัวเร็วลงบนคีย์บอร์ดด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ ไม่ตรวจสอบสักนิดว่าพิมพ์ถูกผิดหรือไม่ แล้วส่งเนื้อหาเข้าหน้าเว็บไซต์ที่เพิ่งอ่านไปเมื่อครู่ จั่วหัวกระทู้เอาว่า...
ช่วยฉันที ฉันเจอผีในห้องของตัวเอง