ธรรมทูตแห่งพระเจ้า ได้เกิดขึ้นแล้ว ธรรมทุกศาสนาจะรวมเป็นหนึ่ง

กระทู้สนทนา
สมมุติว่ามีผู้ มีความอัศจรรย์อิทธิฤทธิ์ อภินิหาร หายตัว เหาะ เหิน
เดินอากาศ ดำน้ำ ดำดิน และทำอะไรได้หลายอย่างที่ นักบวชอื่น
ในทุกศาสนาเวลานี้ทำไม่ได้ เพราะด้วยบุญฤทธิ์ บารมีที่มีอยู่หรือ
ด้วยสิ่งที่มีผู้ประธานมาให้แล้วอย่างยิ่งยวด หาผู้เปรียบได้ในยุคสมัยนี้
เป็นที่ประจักษ์แล้วซึ่งความ มี อยู่ เป็น ของบุญบารมีพร อันประเสริฐ
ยิ่งแล้ว เป็นผู้ฝึกตนเองอย่างเคร่งครัด ในธรรมที่มีอยู่ ประกอบด้วย
คุณงามความดีอันเป็นที่น่า ศรัทธา ยกย่องสรรเสริญ ปฏิบัติดี ชอบ
ด้วยธรรมของทุกศาสนา เป็นผู้ซึ่งแล้วด้วยความทะลุ ปรุโปร่งแห่ง
ศาสนาธรรมที่มีอยู่ทั้งปวง เป็นผู้รู้แล้วซึ่งนรก สวรรค์ ถิ่นกำเหนิดต่างๆ
เข้าถึงความเป็นผู้มีอยู่ที่ขึ้นชื่อว่า พระผู้เป็นเจ้า หรือพระเจ้าสูงสุดองค์นั้นแล้ว
    แล้วประกาศธรรมออกไปว่า ท่านผู้ประเสริฐทั้งหลายจงฟังเรา เราเป็นผู้เข้า
ถึงแล้วศาสนาธรรมที่มีอยู่นั้นในโลกนี้ทั้งปวง เราเป็นผู้มีมาก มาด้วยบารมีธรรม
และได้รับพรอันประเสริฐนั้นแล้ว ยากมีผู้ใดเสมอเหมือนได้ ในอนันตจักวาลนี้
สิ่งที่ท่านทั้งหลายในสากลโลกนี้ ที่มีความเชื่อ ศรัทธา เคารพ และนับถือนั้น
มีอยู่เป็นจริงเป็น ตามนั้นทุกประการ ทุกชาติ ศาสนา ทั้งความดี ความเลว
บุญ บาป กรรม นรก สวรรค์ ผู้ประทาน ผู้สร้าง ผู้ทำลาย ดินแดนแห่งพระเจ้า และอีก ฯลฯ
  บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่สมควรรู้ตามจริงนั้นให้เป็นอเนกอนันต์หนึ่งเดียว ด้วยธรรมที่แยก
แตกหมวดหมู่ที่กระจายอยู่นั้น เราได้รับบัญชามาแล้วซึ่งผู้เป็นใหญ่หนึ่งเดียวในโลกธาตุ
อนันตจักวาลนี้ที่ท่านทั้งหลาย เชื่อ เคารพ ศรัทธานั้น มีอยู่จริง และเราได้รับอนุญาติ
แล้วให้รู้จริงตามนั้น ว่า คำว่าธรรม หรือพระธรรมนั้น มีหนึ่งเดียวที่มีผู้รู้และเข้าถึงได้ยาก
ยิ่ง มันเป็นของยากสำหรับผู้มีกิเลสหนา มีความหลงไหลในสิ่งยั่วยวนทั้งหลาย
มันเป็นสิ่งที่ถูกปกปิด ปิดบังมานานแสนนาน จนหาค่าเวลาอันประมาณมิได้
บัดนี้สิ่งที่หลบ ซ่อนเร้นนั้น จริงๆแล้วมันได้ถูกเปิดเผยมาแล้วตั้ง 2500กว่าปีแล้ว
ด้วยศาสดาองค์หนึ่งที่มากด้วยบุญบารมีอันยิ่งยวดหาผู้ใดเสมอเหมือนอีกแล้วใน
อนันตจักวาล หมื่นโลกธาตุนี้ แม้เราผู้เป็นยิ่งแล้ว เหนือแล้วกว่าสรรพสิ่ง สัตว์ทั้งหลาย
และเรายังเป็นผู้ด้วยมีความสามารถ สร้าง ทำลาย ประทาน เรารู้อยู่แล้วด้วยธรรมนั้น
มีอยู่ แต่รู้ได้ยากด้วยสัตว์ทั้งหลายผู้มีกิเลศหนา เราจึงแยกธรรม ส่งธรรมทูต ออกไป
แสดงธรรมสิ่งนั้นตามกำลังอินทรีย์ สมควร แห่งปัญญาของสัตว์ ที่มีกิเลส หนา บาง
ตามลำดับขั้นของสัตว์
  บัดนี้ได้ถึงเวลานั้นแล้ว ที่จะได้รับรู้กันถ้วนหน้า ด้วยความรู้ที่รับรู้ถึงกันได้หมด
ด้วยเทคโนโลยี ยุคสมัยนี้ ท่านทั้งหลายจงรับรู้ถึงธรรมนั้น ที่มีอยู่อย่างนี้ว่า
เราอนุญาติให้ท่านทั้งหลายเข้าถึงธรรม ที่เป็นที่สุดของธรรมทั้งหลาย ที่ท่าน
เคารพและศรัทธา นับถือ ว่ามีธรรมอยู่แบบหนึ่ง ซึ่งหลุดจากสิ่งทั้งปวงเป็นนิรันดร์
มั่นคง ถาวร ไม่มีเปลี่ยน แปรสภาพ ไปไหนได้อีก เป็นสภาวะที่อยู่เหนือเรา
คือหมดไปจากดินแห่งปกครองด้วยธรรมของเรา สลายไปจากเรา สลัดทิ้งแล้ว
ซึ่งเรา ซึ่งเขา ไม่มีเกี่ยวข้องแล้วด้วยธรรมของเรา ซึ่งเป็นผู้สร้าง ประทาน ทำลาย
เป็นสิ่งประเสริฐที่เราเห็นด้วย ไม่เหนี่ยวรั้งท่านทั้งหลายไว้แล้วในแดนธรรมของเรา
แต่ถ้าท่านทั้งหลายยังเคารพ เชื่อมั่น ศรัทธาในเรา จงกระทำต่อไปอย่างผู้ศรัทธา
เคารพ เชื่อมั่น จงเคร่งครัด กันต่อไป แต่ท่านเหล่าใดมีพลังอินทรีย์แก่กล้า เป็นผู้
อยากหาความเป็นนิจนิรันดร์ ความเปนสุข ที่แท้ เป็นผู้ที่ไม่ต้องการมาอยู่ในแดนธรรม
ของเรา ซึ่งถือว่ายังต้องเกี่ยวข้องอยู่กับ การกระทำทั้งหลาย ที่ยังหาแก่นแท้มิได้
จงไปหาความสุขนั้น ด้วยคำสอนแห่งศาสดาองค์เอกนั้น ที่มีอยู่ ด้วยแก่นธรรม
อันพิศดาร รู้ลึกซึ้ง ละเอียด ยากยิ่งด้วยธรรมที่มีอยู่ทั้งปวง ซึ่งเป็นธรรมที่หลุดแล้ว
ซึ่งทุกสิ่ง ไม่มีคำถาม คำตอบ หมดสงสัย สิ้นแล้วด้วยธรรมทั้งปวง สุขแท้ นิรันดร์
อมตะ หมดสงสัยไปแล้วด้วยการกระทำทั้งปวง ท่านจงเดินไปหาธรรมนั้นเถิด



ถ้ามีเป็น ได้จริงตามนี้ ท่านทั้งหลายมีความคิดต่าง ว่า อย่างไร
ท่านจะเชื่อ เคารพ ศรัทธา ได้สนิทเชื่อใจอย่างไร เชิญท่านทั้งหลาย
วิจารณ์ตามอัธยาศัยเลยครับ มันจะเปลี่ยนความศรัทธาท่านที่มีอยู่
ได้หรือไม่


เป็นการแสดงความคิดเห็นน่ะครับว่าถ้าเกิดสิ่งนี้ สิ่งนี้จะไปทำลาย
กำแพงความเชื่อ เคารพ ศรัทธา ของชนในชาติ ศาสนาได้ หรือไม่
แม้มันเป็นไปไม่ได้ สมมุติถ้าวันนึงมันเป็นไปได้ ท่านทั้งหลายคิดว่าประโยชน์
ที่จะมี หรือได้ มันจะบังเกิดได้มากน้อยแค่ไหน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่