[CR] 3 สาว ตะลุยเจแปน แดนอาทิตย์อุทัย

กระทู้รีวิว

สวัสดีค่ะเพื่อน วันนี้ได้กลับมาเขียนรีวิว จรองแล้วเรียกว่าบันทึกการเดินทางน่าจะเหมาะสม เจ้าของกระทู้เป็นคนที่ชอบอ่านมากกว่าการเขียน

เริ่มกันเลยดีกว่า  มีโอกาสได้ไปต่างประเทศทั้งที เราก็ตัดสินใจไปญี่ปุ่นกันเลยเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก  แต่เพื่อนนางเคยไปแล้วคือประเทศจีน   ก่อนที่ตัดจะตัดสินใจไปญี่ปุ่นเจ้าของกระทู้เอง เคยคิดจะไปเกาหลีใต้ และเดินทางไปกับทัวร์ แต่ติดที่ตอนนั้นไม่มีใครไปด้วยเลย ก็เลยพับโครงการไว้ก่อน แต่ตอนนั้นคืออยากเที่ยวต่างประเทศซักครั้ง อ่านรีวิว เข้าห้องบลูวันละหลายๆรอบ ก็ตัดสินใจเออาหละ ไหนๆก็เสียตังแล้ว ก็ไป ที่ที่อยากไปมากที่สุดเลยแล้วกัน เลยตัดสินใจหาข้อมูลเกี่ยวกับ ญี่ปุ่น  อ่านเยอะ อารมณ์อยาก (อยากเจอ อยากเที่ยว ) ยิ่งมีมาก

   แต่พอดูโปรแกรมกับทัวร์แล้ว ราคา อยู่ประมาณ 6-7 หมื่นกันเลยทีเดียว ( ลมแทบจับ )  แต่เจ้าของกระทู้เป็นคนชอบอ่าน เลยเห็นข้อมูลว่าส่วนมาก ญี่ปุ่น
คนไทยไปเที่ยวเองกันเยอะ  แถม มีรีวิวมาให้ชม กันก็หลายกระทู้

   วันนี้มีโอกาสได้ไปเที่ยวก็เลยอยากแชร์ประสบการณ์ ให้เพื่อนๆได้ อ่านและได้ชม อ้อ อีกอย่างเจ้าของกระทู้ เคยมาตั้งกระทู้ แชร์ประสบการณ์ผ่าน ตม ญี่ปุ่นด้วยนะ
http://pantip.com/topic/32746204
เนื่องจากบางคนไปเที่ยวแต่ก็โดนส่งกลับก็เยอะ เลยแอบกังวล  แต่ก็มีเพื่อนชาวห้องบลูมาแชร์ประสบการณ์ ของตัวเองที่พบเจอมา อีกอย่างเพื่อนที่อ่านกระทู้แล้ว ก็บอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่อง ตม.แล้วหละ ให้เจ้าของกระทู้กังวลกับโปรแกรมเที่ยวของเจ้าของกระทู้เอง   ทั้งหมดทั้งมวล  ต้องขอบคุณมา ณ กระทู้นี้อีกครั้ง

   ช่วงเดือนตุลาคม 2557 เลยลองหยอดไปที่เพื่อนสาว ว่าจะไปญี่ปุ่นไปด้วยกันมั้ย ลองหยอดเล่นๆนะ ผิดคาด เพื่อนสาวตอบตกลงแถมพาคุณแม่ไปอีกหนึ่ง หมด ปัญหาเรื่องเพื่อนเดินทาง ....แล้วจะไปวันไหน ไปกี่วัน...เที่ยวไหน ... งบเท่าไหร่ .... เออนั่นซิ

วันแรกของการวางแผนการเดินทาง

ขั้นแรกเลือกวันเดินทางก่อนเลย ด้วยความที่เกิดมายังไม่เคยสัมผัสหิมะ ก็อยากเห็นว่าว่ามันจะสวยและหนาวเย็นแค่ไหน เพื่อนก็เห็นดีด้วย ก็เลือกช่วง

เดือน มกราคม 2558 คือ วันที่ 18-23 มกราคม 2558 ช่วงนั้นโปรการบินไทยออก บินตรงลงโตเกียวภายใน 31 มกราคม ราคา 10000 ต้นๆ(ยังไม่รวมภาษีและอื่นๆ) แต่ต้องจอง 2 คนขึ้นไป

กลัวไรมี 3 คนแล้วนี่เนอะ ก็ทำการจองเรียบร้อย เฉลี่ย 17,675 บาท

ขั้นที่สองเลือกที่พัก

โรงแรมในญี่ปุ่นราคาค่อนข้างแพงนะค่ะ ตัวเลือกของเรา เลยเลือกแบบโฮสเทลเอา แต่เลือกแบบเป็นส่วนตัวนิดนึง ห้องน้ำในตัว

หาข้อมูลพร้อมวันที่ว่างตรงกับวันเดินทางพอดี เลยได้ KHAOSAN WORLD ASAKUSA RYOKAN ที่พักที่นี่เป็นที่พักไม่ใหญ่ แขกที่มาพักส่วนมากเป็นพวกแบกเป้ เช่นพวกชาวยุโรป เกาหลีก็มีนะ

พวกเราเลือกพักแบบ สไตล์เรียวกัง ตกเฉลี่ย 1100บาท/คน/คืน ไม่รวมอาหารเช้าแต่ มีห้องครัวส่วนกลางให้ ทำอาหารกินเองได้

ขั้นที่สามโปรแกรมเที่ยว

ยังไงดีเริ่มยังไง อ่านรีวิวก็เยอะ ไปตามรอยเค้าดีกว่า ง่ายอย่างน้อยคงไม่หลง ถามเพื่อนสาวอยากไปไหน คำตอบคือ ชั้นอยากเล่นสกี ชั้นอยากเจอหิมะ ชั้นอยากกินขาปูยักษ์ ชั้นอยากแช่ออนเซ็น ชั้นอยากเห็นฟูจิ ชั้นจะไปช็อปปิ้งขนม ฯลฯ เอ่อออ ...(คิดในใจ ตูอยากจะบอก ไป 5 วัน )

สุดท้ายตามความต้องการของนางแผนที่ได้เลยเป็นแบบนี้

ช่วงก่อนเดินทางคือช่วงเตรียมตัว ยอมรับเลยช่วงนั้นกังวลทุกอย่าง ตอนนั้นนอนไม่หลับเลย สะดุ้งตื่นมาก็ถามอากู๋ หาข้อมูลทุกอย่าง ... ถ้า ไม่ผ่าน ตม. ตูจะได้เที่ยวตามที่วางมั้ย มันจะหนาวแค่ไหน เสื้อหนาวมันจะพอไหม รองเท้ายังไงถึงจะกันหนาวได้ เอ่อ อีกอย่าง ดู เส้นทางรถไฟของเมืองโตเกียวแล้ว

       อยากบอกว่า ....ตูจะหลงมั้ย ตูจะขึ้นไงหว่า เอาน่า คนอื่นก็ยังไปได้ ภาษาอังกฤษก็ไม่น่าจะใช่ปัญหา เพราะที่รู้ๆ คน ญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยได้เหมือนกัน คนอื่นไปไม่หลง เราก็ต้องไม่หลง

            3 วันก่อนเดินทาง และแล้วปัญหาก็เกิดขึ้น เนื่องจากใช้บัตรเครดิตของพี่ใช้ซื้อตั๋วเครื่องบิน ทางการบินไทยต้องให้เจ้าของบัตรเป็นคนติดต่อเพื่อปลดล็อคตามระเบียบของเค้า และวันนั้น ถึงได้รู้ ว่า เราต้องเช็คอินที่สนามบินฮาเนดะ ในคืนวันที่ 22/1/2015 ไม่ใช่ คืนวันที่ 23/1/2015 อย่างที่เข้าใจ (เตือนทุกคนเลยนะ อย่าเอาความเคยชินในการนับเวลาของเรา ไปจองหรือทำธุรกรรม ที่เกี่ยวกับเวลาโดยเด็ดขาด ให้จำเสมอเสมอเลยว่า 1 วัน มี 24 ชั่วโมง )

              chipหาย!!! วันเที่ยวหายไปหนึ่งวัน อาการนอยซ์เริ่มบังเกิด ตัดโปรแกรมไหนดี อยากไปทุกที่ เอิ่ม...สุดท้ายเลือกตัดโปรแกรม เก็บสตอเบอรี่ เพราะลองให้เพื่อนสาวเช็ควันที่ทางไร่สตอเบอรี่สามารถเปิดได้ คือวันที่ 22/1/2015 ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่ทันเด๋วมันจะกระทบกับการจัดกระเป๋า เตรียมตัวกลับ เลยต้องตัดใจ เปลี่ยนเป็นการช็อปปิ้ง พิชิตมิชชั่น ตามล่าหา Onisuka ให้กับเจ้าของบัตรเครดิต (เสียใจมาก เพราะจริงแล้ว อยากไปมากๆเหมือนกัน )

(อ้ออย่าลืม ซื้อประกันภัยการเดินทางเพิ่มด้วยนะ ข่าวช่วงนี้มีเยอะ กันไว้ก่อน เพื่อคนข้างหลัง และ เรื่องสุขภาพของเราตลอดทริป )

วันที่ 18/1/2015

           และแล้ววันเดินทางก็มาถึง พอมาถึงวันนี้จริงๆแล้วไม่ตื่นเต้นเท่ากับวันที่คิดว่าจะไป วันที่เริ่มจองตั๋ว จองที่พัก แพลนการเที่ยว วันนั้นตื่นเต้นกว่า

           นัดเจอกับเพือนสาว ที่สนามบิน สุวรรณภูมิ ตอนเที่ยง ( เราไปถึงตั้ง 5 โมงเช้าแหนะ ก่อนเวลา 1 ชั่วโมง ) คิดในใจรถไม่ติดอย่างที่คิด จะได้นั่งเครื่องบินแล้ว ตูจะเดินทางไกลข้ามประเทศครั้งแรก อาการตื่นเต้นเริ่มเกิดขึ้นทีละนิด ...จนเพื่อนสาวกับคุณแม่มาถึง ก็ไป เช็คอินที่เคาร์เตอร์การบินไทย เขียนใบขาเข้าเข้าขาออก ทำตามขั้นตอน เพื่อไปนั่งรอเครื่องที่ เกตของการบินไทย

          ตอนเข้ามารอที่เกตเรียบร้อย เมื่อถึงเวลา ราชรถของเราก็ มารอเราแล้วว เอาบรรยากาศมาให้ชมพอหอมปากหอมคอ

ได้เวลาเครื่องออก ตื่นเต้นดีจัง ได้นั่งมองปีกเครื่องบิน เครื่องค่อยปรับระดับความสูง (ชั้นบินได้แล้ว ) บรรยากาศจากข้างบนมองลงข้างล่างนี่มันสุดยอดจริง ( นั่งเครื่องครั้งแรกก็ปล่อยไก่ จนได้ ดีที่มีหนุ่มญี่ปุ่นหน้าตาดี ช่วย ๕๕๕ พอกรุบกริบ )

มุมโปรดของใครหลายๆคน

เส้นของฟ้าก่อนจะหมดแสง

และแล้วกก็มาถึง 22.30 น (18/1/2015) เครื่องลงจอดที่สนามบิน ฮาเนดะ เรียบร้อยปลอดภัย สบายใจจริงๆ ( เยๆ ถึงซักที ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น ) เดินตามทางมาเรื่อยๆ ...เพื่อไปที่ตรวจคนเข้าเมือง อาการตื่นเต้นปนกังวลมาอีกแล้ว
มาถึงญี่ปุ่น แล้ว สิ่งแรกที่แวะ คือห้องน้ำ (ขึ้นชื่อว่า สะอาด ไฮเทค ต้องพิสูจน์ ) สะอาดอย่างที่คิด แทบไม่ต้องทำอะไร

สะอาด ไฮเทค สมคำร่ำลือ

และแล้วก็มาถึง ตม. ด่านที่จะวัดว่าเราได้เที่ยวหรือไม่ได้เที่ยวอยู่ที่เค้านี่แหละ ไปถึง ยื่นๆพาสฯกับใบขอเข้าเมือง เช็ค ปั๊มๆ ได้มา 15 วัน (เอ่อ..ไม่ถามซักคำ ไม่ถึง 1 นาที กังวลเพื่อ!!! )

ปัญหาจริงๆ ไม่ได้อยู่ที่ ตม. อยู่ที่ ด่านศุลกากร He งง พอดีพาสปอร์ตเรามีปั๊มข้ามไปฝั่งปอยเปตสองครั้งแบบเข้าออกภายในวันเดียวกัน He งง ถาม มาเราตอบไป Heยิ่งงง (เอิ๋ม ว่าชั้นภาษาอังกฤษ งูๆปลาๆแล้ว สำเนียงภาษาอังกฤษ He เนี๊ย ข้อยฟังบ่รู้เรื่องเลยจริงๆ ) สุดท้ายก็ให้ผ่านไปด้วยดีเพราะ เพื่อนกับแม่เข้าไปยืนรอก่อนแล้ว เฮียแกเลยใจดี (คงคิดในใจ ขืนกักไว้ ตูก็คงไม่รู้เรื่อง ประกอบกับดึกแล้วด้วยมั้ง ) ในที่สุดชั้นก็ได้เหยียบแผนดิน ญี่ปุ่นแบบเต็มเท้าซักที ....หาที่นอนกันเถอะ พรุ่งนี้จะเจออะไรบ้างก็ยังไม่รู้