ใครเชียร์จีน เชียร์รัสเซียมาดูปวศ เป็นประเทศคอมมิวนิสเหมือนกันยังทะเลาะกันเองเลย จนเกือบยิงนิวเคลียร์ใส่กันด้วย?

1. เป็นความเข้าใจผิดของคนทั่วไป (และผมด้วย)ที่ว่า สงครามเย็นคือความขัดแย้งระหว่างประเทศเฉพาะสองกลุ่มใหญ่ ๆ คือเสรีนิยม และคอมมิวนิสต์ เพราะความจริงแล้ว ประเทศที่มีลัทธิการเมืองเหมือนกันก็สามารถเป็นศัตรูได้  





2. การที่เหมาขึ้นเป็นผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ ก็เพราะเขาเอาชนะพวกคอมมิวนิสต์ด้วยกันที่หัวนิยมโซเวียตคือ พวก 28 Bolshevik การเอาชนะเช่นนี้ถือเป็นการสร้างลักษณะเฉพาะตนของพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่าไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับอาณัติของพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียตอีกต่อไป ถึงแม้สตาลินจะให้ความช่วยเหลือแก่เหมา แต่เหมาเป็นคนดื้อ มั่นใจในตัวเองสูง ไม่ยอมใต้ภายใต้อาณัติใคร นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาในการตีความอุดมการณ์ของ Marxism ขึ้น สายรัสเซียเห็นว่า จะต้องใช้กรรมกรโรงงานในการยึดอำนาจจากรัฐ ในขณะที่จีน (เหมา) เห็นว่าต้องใช้ชาวนา เพราะจีนเป็นประเทศเกษตรกรรม ต่างฝ่ายต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายเป็น Revisionist (พวกลัทธิแก้หรือ พวกชอบบิดเบือนทฤษฎีของ Karl Marx ) และจีนมักจะกล่าวหาโซเวียตว่าเป็นพวก ศัตรูของการปฏิวัติของชาวโลก  






3.คนมักเข้าใจผิดว่าช่วงที่เหมากับเจียง ไคเช็คต่อสู้กัน สตาลินต้องเข้าข้างเหมาเพราะเป็นคอมมิวนิสต์ด้วยกัน แต่ความจริงแล้ว สตาลินตีสองหน้า คือเชียร์เจียง อยู่ลับ ๆ จึงแนะนำให้สนธิ เอ้ย เหมา สงบศึกกับ เจียง เพราะว่าสตาลินแอบเซ็นสัญญาเป็นมิตรกับเจียงในช่วงกลางปี 1945







4 สตาลินถึงแก่อสัญกรรมในปี 1953 และ Nikita Khrushchev คนหัวล้านที่ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ คิวบา (บทความที่สาม) ขึ้นมามีอำนาจแทนแล้วก็เริ่มต้นขบวนการ De-Stalinization หรือประณามสตาลินแบบเสีย ๆ หาย ๆ (ถ้าเราได้เรียนรู้การกวาดล้างครั้งใหญ่ของสตาลินกับพวกเดียวกันตั้งแต่ทศวรรษที่ 30 เราก็จะคิดทันทีว่า ถ้าเราเป็นครูซชอฟก็ต้องทำเช่นนั้นเหมือนกัน) ทำให้เหมาโกรธมาก เพราะสตาลินเหมือนกับเหมาที่พยายามสร้าง Cult of Personality หรือลัทธิเชิดชูบุรุษเหมือนกัน เหมาซึ่งถือว่าตัวเองมีสถานภาพเทียบเท่ากับสตาลินก็ต้องกระทบกระเทือนไปด้วย ถึงแม้ในปี 1954 ครูซชอพจะเดินทางไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการก็ตาม มีเรื่องเล่าว่า เหมาต้อนรับการมาเยือนของครูซชอฟโดยนอนพุงป่องอยู่บนห่วงยางในสระน้ำแล้วชวนให้ครูซเชฟร่วมด้วย สร้างความอับอายให้กับครูซชอฟเป็นอย่างมากเพราะไม่มีชุดว่ายน้ำ ต่อมาเหมาบอกกับนายแพทย์ประจำตัวของเขาว่า “เป็นการสั่งสอนครูซชอฟ”






5.ในช่วงทศวรรษที่ ห้าสิบ โซเวียต ให้ความช่วยเหลือแก่จีนด้านต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรม เกษตรกรรม โดยการส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเหลือจีน ที่สำคัญคือช่วยจีนสร้างระเบิดนิวเคลียร์ แต่เมื่อเหมา วางนโยบายทฤษฎีการกระโดดไกล (Great leap forward) มุ่งนำจีนไปสู่ความยิ่งใหญ่ทางอุตสาหกรรม ประกอบกับเมื่อโซเวียตได้ประชุมเจรจากับสหรัฐ ฯ ในปี 1959 โซเวียตจึงเอาใจสหรัฐ ฯ และดัดหลังจีนที่ทะเยอทะยาน โดยการยกเลิกไม่ยอมช่วยเหลือจีนเรื่องการสร้างระเบิดนิวเคลียร์อีก แต่จีนก็เด็ดเดี่ยวที่จะสร้างระเบิดมหาภัยนี้ขึ้นมาอีกจนสำเร็จในปี 1964 ทำให้จีนเป็นประเทศที่ห้าของโลกที่มีระเบิดนิวเคลียร์เป็นของตัวเอง ตัวแทนของทั้งจีนและโซเวียตมักจะทะเลาะกันอย่างรุนแรงเวลามีการประชุมของพวกคอมมิวนิสต์นานาชาติ (สหรัฐ ฯ ยิ้มแฉ่ง) เมื่อวิกฤตการณ์ คิวบา (ดูบทความที่ 4) สิ้นสุดลง เหมาก็ด่าครูซชอฟว่า เป็นพวกขี้แพ้ และครูซชอฟก็สวนกลับไปทำนองว่า “ถ้าคิดแบบเอ็ง ก็เกิดสงครามนิวเคลียร์นะสิ"






6.เรื่องตลกอีกเรื่องหนึ่งก็คือ จีนมักจะมีความขัดแย้งกับอินเดียในเรื่องพรมแดนจนต้องทำสงครามกันบ่อยครั้ง แต่โซเวียตกลับเข้าข้างอินเดีย ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลกแทนที่จะช่วยจีน







7.ความขัดแย้งระหว่างจีนกับโซเวียตก็เบาบางลงบ้างเมื่อจีนยอมให้โซเวียตผ่านดินแดนของตัวเองเพื่อขนส่งอาวุธไปให้เวียดนามในสงครามเวียดนาม แต่แล้วปัญหาเรื่องพรมแดนอันยาวเหยียด นำความเกลียดชังระหว่างจีนกับโซเวียตเข้าถึงขีดสุดช่วงปี 1968 – 1969 เมื่อโซเวียตและจีนเคลื่อนกำลังพลและอาวุธจำนวนมหาศาล เข้าประชิดพรมแดนของกันและกัน หลังจากที่มีการปะทะกันทางทหารอยู่ประปราย และมีท่าทีจะทำสงครามนิวเคลียร์กัน แต่ทั้งสองฝ่ายก็ล่าถอยไปในนาทีสุดท้าย

ถึงแม้จะไม่รุนแรงเท่ากับวิกฤตการณ์คิวบา แต่ว่าลองมานึกดูว่าถ้าจีนทำสงครามนิวเคลียร์กับโซเวียตซึ่งเทคโนโลยีสูงกว่ามาก คนจีนจะล้มตายกันเท่าไร นายแพทย์ประจำตัวเหมาแฉว่า เหมาเคยปรารภด้วยคำพูดอันน่าขนลึกว่า คนจีนมีอยู่หลายร้อยล้าน จะตายสักล้านสองล้านเป็นไรไป กระนั้นมีเรื่องเล่าว่าใต้ดินของกรุงปักกิ่งมีบังเกอร์ขนาดใหญ่ มีความสามารถเคลื่อนย้ายประชาชนจีนนับล้านเข้าไปได้ในเวลาไม่นานหากเกิดสงครามขึ้น  




http://thaicafe.blogspot.com/2012/08/1947-1991.html
-------------------


ไม่ว่าใครจะชนะการถกกันในบอร์ดนี้ ในกท แนว รัสเซีย vs อเมริกา ต่อให้คนเชียร์รัสเซียชนะ ในโลกแห่งความเป็นจริง คนรัสเซียก็กำลังเป็นทุกข์เพราะความเห็นแก่ตัวของปูติน ทำให้ ศก แย่ ส่วนคนอเมริกันชนคนเสรีก็อยู่ในประเทศเขาอย่างมีความสุข คุณภาพชีวิตที่ดีกว่า มีผู้คนทั่วโลกอิจฉา american dream และอยากมาใช้ชีวิตที่นี่จำนวนมาก แต่ไม่มีใครอยากไปใช้ชีวิตในรัสเซียหรอก เชื่อสิ แม้แต่คนที่เชียร์รัสเซีย

ก็คิดพิจารณากันเอาเองแล้ว กัน ส่วนผมขอเป็นติ่งอเมริกา เป็นทุนนิยมสามานย์ ใช้เทคโนโลยีอเมริกา ดูหนังอเมริกา ฟังเพลงอเมริกา อ่านตำราเทกบุคอเมริกา  ใช้ของแบนด์อเมริกา และมีความสุขต่อไปจนนิรันดร์ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
----------------------------