แก้ที่ต้นเหตุ

ผมฟังคุณประยุทธิ ตอบนักข่าวที่ญี่ปุ่นแล้ว ก็ต้องบอกว่าผิดหวังมาก
ประชาธิปไตย ที่คุณประยุทธิกำลังจะสร้างกำลังจะพัฒนาขึ้นเพื่อขจัด
ในสี่งที่เกิดความวุ่นวายขัดแย้งกัน ซึ่งแน่ใจว่า การมีประชาธิปไตย ต้องมี
ความขัดแย้งแน่ ๆ หนีไม่พ้น

แต่การแก้ความขัดแย้ง ด้วยการรัฐประหาร ที่จะไม่จบสี้น ก็ต้องทำแบบที่คุณประยุทธิบอก
ต้องเขียนรัฐธรรมนูญกันเรื่อยไป  คุณบวรศักดิ ก็คงต้องเหลาดินสอเตรียมเขียนกัน เป็นหลายโหล

ในฐานะที่ผมเป็นคนไทยคนหนึ่ง ก้อยากจะบอกว่า การแก้ความขัดแย้งของเรา นั้นใช้คำของพระพุทธิองค์
มาใช้ไม่ได้หรือครับ นั่นคือเราต้องมอง ที่ต้นเหตุ ตรามแบบที่พระพุทธิองค์ ทรงเสนอแนะ  อริยสัจสี่ ไงครับ
ทุกขื สมุทัย นิโร และมรรค

ทุกข์ สี่งที่เป็นทุกข์  ครับ การเมืองบ้านเรามีเหตุความวุ่นวายมาจากไหน  นักการเมือง ข้าราชการ ประชาชน
ใครครับื ที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย เอาที่ประชาชน ถ้า ที่พรรคการเมืองบางพรรค นักวิชาการอ้างว่า ไม่มีความรู้
ซื้อเสียงได้ เลือกไม่เป็น ก็แก้ที่ประชาชน ระดมให้ความรู้กับประชาชน จะเริ่มที่ เด้ก ๆก็ได้

นักการเมือง ถ้าเกิดที่จุดนี้ ต้องแก้ที่นักการเมืองคนนั้น ๆ ไม่ใช่แก้ทั้งหมด แก้ที่พรรคการเมืองนั้น ๆ เพราะตราบใด
ที่จะยุบพรรค ตัดสิทธินักการเมือง ไปทั้งหมด ก็ยังมีตัวตายตัวแทน กันตลอด แล้ว ก็ต้องทำอย่างคุณประยุทิว่าหรือครับ

ที่ข้าราชการ นักวิชาการ ก้ต้องแก้ที่จุดนั้น จะไล่ออก จะทำโทษอย่างไร ก็ว่ากันไป
นั่นคือแก้ที่ต้นเหตุ อย่างที่ อริยสัจสี่ว่าไว้ มิฉนั้น จะหลงทางกันอย่างทุกวันนี้ แม้แต่ สปช ที่กระทำอยู่ทุกวันนี้ ก้เป็นอันหลงทาง
ยี่งแก้ยี่งหนักขึ้นทุกที เพราะไปมองผิดมุม

ตัวอย่างชัดคือการถอดถอน คุณยี่งลักษณ์ ทำไป แล้วเป็นไงครับ บางคนที่ไม่เคยมองเรื่องนี้ ก้กลับมามอง
ก้เพราะ ไม่เอาคำของพระพุทธิองค์ มาไตร่ตรองให้ดี

มองเห็นทางสว่างหรือยังครับ