♥.•*´¨`*•. ♥ วาเลนไทน์ ♥.•*´¨`*•. ♥
1.
เด็กสาวนั่งช่วยแม่เด็ดผักอยู่กับพื้นในห้องครัว ละมือจากผักที่เด็ด ขยับเข้าไปหาแม่ บีบต้นขาไปมา ก่อนจะอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวาน
“แม่บอกว่าจะให้เงินหนู ไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่วันนี้ แม่คงไม่ลืมหรอกนะ”
ประโยคนั้นของเด็กสาว ทำให้ผู้เป็นพ่อที่กำลังยืนล้างผักอยู่ที่อ่างล้างจานใกล้กัน หันมามองด้วยสีหน้าเคร่งขรึม คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากัน
เขากับภรรยา เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง สี่ปีเข้าปีนี้ ร้านเปิดแปดโมงเช้า เลิกร้านไม่แน่นอน บางทีหกโมง บางครั้งก็ทุ่มกว่า ขึ้นกับจำนวนลูกค้าที่มาอุดหนุน หยุดวันเดียวคือวันอาทิตย์ และทุกวันหลังจากปิดร้าน เขากับภรรยาจะต้องเตรียมไว้ขายในวันต่อไป โดยมีลูกสาวคนเดียวของเขาที่เรียนอยู่มหาลัยของเอกชนปีหนึ่งจะช่วยบ้างนานๆครั้ง เพราะลูกสาวจะบอกกับเขาทุกครั้ง ที่เขาเอ่ยปากให้มาช่วย
หนูต้องท่องหนังสือ นะพ่อ
“ไม่ลืมหรอกลูก แต่รออีกสองสามวันได้มั้ย ช่วงนี้ ขายไม่ค่อยดี หนูก็เห็นอยู่ ” เสียงของภรรยาดึงความคิดของสามีกลับมา เขามองหน้าลูกสาว อยากรู้ว่าลูกสาวจะตอบแม่ว่าอย่างไร
“อีกแล้ว” ลูกสาวร้องดังๆออกมาอย่างขัดใจ “ แม่จะผิดสัญญาก็บอกมาเถอะ แม่เป็นคนบอกหนูเองนะ ถ้าหนูได้เกรดดีๆ จะซื้อโทรศัพท์มือถือให้หนู “ เอ่ยอย่างหงุดหงิด แต่ที่คิดไม่ได้พูดออกมานั้นยาวเหยียด
น่ารำคาญอ่ะ ขอให้เอ่ยปากขอเงินแต่ละที เป็นต้องอ้างโน้นอ้างนี่ ถ้าบ้านเรา ขัดสนอย่างบ้านอื่นก็ไปอย่าง นี่บ้านก็ไม่ต้องเช่า ขายของวันละหลายพัน แถมเราก็เป็นลูกคนเดียว เออถ้าแม่กับพ่อ มีลูกเป็นโหลอย่างน้าจุ๋มข้างบ้านก็ไปอย่าง อยากรู้จริงๆพ่อกับแม่จะเก็บเงินไปไหนนะ
ผู้เป็นพ่อ อดรนทนไม่ไหวแทรกขึ้นมา
“ทำไมพูดกับแม่เขาอย่างนั้นล่ะฟ้า แม่เขาบอกว่าอีกสองวัน ไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าจะไม่ให้”
“อาทิตย์ก่อนแม่ก็บอกว่าสองวัน พอถามวันนี้ ก็สองวันอีกตามเคย “
“แล้วถ้าอีกสองวัน มันจะเป็นอะไรไป โทรศัพท์เครื่องเก่าก็ยังใช้ได้ ไม่ได้เสียสักหน่อย” พ่อว่าให้เสียงขุ่นๆ นานๆจะว่าให้เสียที
“ใช้นะใช้ได้อยู่หรอกพ่อ แต่มันดีๆเสียๆ เพราะมันเก่า แถมถ่ายรูปก็ไม่ได้ ควักออกมาใช้แต่ละที หนูนี่อายเพื่อนแทบจะแทรกแผ่นดิน”
“แล้วคนที่เขาไม่มีใช้ เขาไม่ยิ่งแย่กว่าเราหรอกเหรอ” ผู้เป็นพ่อกล่าวจบ ก็มองหน้าลูกสาวเหมือนจะว่า
เรานี่ ชักจะไม่เข้าท่าขึ้นทุกวัน
“ พ่อลูก หยุดได้แล้ว ไม่ต้องเถียงกัน” ผู้เป็นภรรยา และแม่ ร้องห้ามคู่กรณี ยืดตัวลุกขึ้นช้าๆ ร้องบอกกับลูกสาว
“รอเดี๋ยว แม่จะไปหยิบเงินให้”
ผู้เป็นสามีเห็นอย่างนั้นก็ติงอย่างอ่อนใจ
“แม่ก็เป็นซะอย่างนี้ ใจอ่อนกับลูกทุกที “
“จะให้วันนี้ หรืออีกสองวัน มันจะต่างกันตรงไหนล่ะพ่อ “ ภรรยาที่ยืนข้างสามีที่อ่างล้างจาน บอกเรียบๆ เปิดก๊อกน้ำ ล้างมือลวกๆ ล้างมือเสร็จปิดก๊อก สะบัดมือเร็วๆ เดินออกจากห้องครัวขึ้นบันไดไปยังห้องนอนชั้นบนเพื่อเอาเงินให้ลูก
ลูกสาวเห็นอย่างนั้น ก็ยิ้มแฉ่ง แต่ผู้เป็นพ่อยิ้มไม่ออก หันไปทำสิ่งที่ตนทำค้างอยู่พร้อมกับถอนใจเบาๆ
สองวันต่อมา ซึ่งตรงกับวันแห่งความรัก เด็กสาวเอาโทรศัพท์เครื่องใหม่ของตนไปอวดคู่รัก อีกฝ่ายพลอยตื่นเต้นไปกับเด็กสาว เพราะตัวเขายังใช้โทรศัพท์แบบเก่า ที่ถ่ายรูปไม่ได้
เด็กสาว และคู่รัก ทำอย่างคู่รักทั่วไป ฉลองวันแห่งความรัก ด้วยการเดินเล่นในห้างดัง พอหิวก็แวะเข้าร้านพิทซ่าชื่อดัง
เด็กสาวเลี้ยงพิทซ่าคู่รัก ชุดใหญ่หมดร่วมห้าร้อย คู่รักของให้กุหลาบแดงหนึ่งดอก ฉลองวันแห่งความรัก จากนั้นทั้งสองก็พากันเกี่ยวก้อยเดินชมข้าวของในห้าง
อีกมุมหนึ่งที่ร้านอาหารตามสั่ง
หลังจากปิดร้าน สองสามีภรรยาก็ช่วยกันล้างถ้วยชาม ทำความสะอาด กว่าจะเรียบร้อยก็ปาเข้าไปสองทุ่มกว่า สามีเรียกภรรยาให้ไปกินข้าวที่เขาเตรียมไว้ให้ อาหารง่ายๆ ผัดกระเพรา ไข่ดาว และข้าวที่เหลือจากการขาย ที่ทั้งแข็งและเย็น
“พ่อกินไปก่อนเถอะ ฉันจะไปดูลูกที่ป้ายรถก่อน ลูกไปแต่ก่อนเที่ยง ป่านนี้ยังไม่กลับ โทรไปก็ไม่รับ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า“
“งั้นพ่อไปด้วย “ สามีกล่าวแค่นั้น พอภรรยาเดินนำ ก็ก้าวตามไป
ครู่ต่อมา สองสามีกับภรรยาก็มายืนอยู่เคียงข้างกันที่ป้ายรถ ไม่ได้พูดอะไรกัน ได้แต่ชะเง้อชะแง้ รอการกลับมาของลูกสาวอย่างห่วงใย
ที่ป้ายรถหน้าห้าง….
เด็กสาวนั่งราวกับรูปปั้นอยู่ที่เก้าอี้ ปล่อยให้รถโดยสารสายที่เด็กสาวจะโดยสารผ่านไปหลายคัน ที่เป็นเช่นนั้น เพราะเจ้าตัวยังไม่กล้าที่จะกลับไปสู้หน้าพ่อกับแม่ในเวลานี้
ว่าจะไม่คิด แต่สุดท้ายก็อดคิดไม่ได้ หลังจากออกจากร้านพิทซ่า เด็กสาวกับคู่รักเดินไปรอบห้าง คุยกันกระหนุงกระหนิง แต่ช่วงหนึ่งที่เด็กสาวขอตัวไปเข้าห้องน้ำ กลับออกมาดันมาได้ยินคู่รักใช้โทรศัพท์ของตนคุยกับสาวอื่น
เพราะโกรธจัด เด็กสาวเลยกระชากโทรศัพท์จากมือคู่รัก จะขว้างใส่หน้า แต่คู่รักตัวดีหลบทัน โทรศัพท์เลยลอยไปในอากาศก่อนจะตกกับพื้นแตกกระจาย
คิดขึ้นมาตอนนี้ น้ำตาที่เหือดแห้งไปก่อนหน้านั้น ก็พรั่งพรูออกมาไม่หยุด แค้นใจคนรักนอกใจ ในเวลาเดียวกัน ก็ให้สับสน เพราะคิดไม่ออกว่าจะกลับไปบอกพ่อกับแม่เรื่องโทรศัพท์เครื่องใหม่อย่างไรดี.
2.
ณ ร้านอาหารมีชื่อ
หญิงสาวนั่งเซ็งๆ รอคู่รัก อีกฝ่ายโทรไปยังที่ทำงานหล่อนเมื่อตอนเที่ยง บอกว่าเย็นนี้กินข้าวกันหน่อยเพื่อฉลองวันวาเลนไทน์
ตอนแรกที่ได้ยิน หญิงสาวเกือบจะหัวเราะออกมาดังๆ ดีแต่ยั้งไว้ทัน จะไม่ให้ขำได้ไง ในเมื่อคู่รักของตน วันๆยุ่งอยู่แต่งาน ใครจะเป็นอะไร ทำอะไร ไม่สน ไม่ต้องดูอื่นดูไกล ขนาดคนใกล้ตัวอย่างหล่อน ที่เป็นคู่รัก เขายังลืมวันเกิดของหล่อน จำไม่ได้ว่าหล่อนพบกันวันไหน เดือนอะไร แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเขา จู่ๆมาเอ่ยปากชวนให้ออกมากินข้าวในวันแห่งความรัก ทั้งที่ปีก่อนๆที่ผ่านมา หล่อนชวนเขาให้ออกไปเฉลิมฉลอง แต่เขากลับบอกปัด มิหนำซ้ำยังว่าให้เจ็บใจ ว่าวัน แห่งความรัก หรือวาเลนไทน์ มันเป็นอะไรที่เหลวไหล ไร้สาระที่สุด
หญิงสาวถอนใจยาว คิดในใจเงียบๆ คู่รักของตนนอกจากจะไม่ใส่ใจวันเกิด วันครบรอบที่พบกัน วันแห่งความรัก เขายังเป็นคนที่ขี้ลืมอย่างร้ายกาจ แถมเป็นคนผิดเวลาอย่างไม่น่าให้อภัย
เราคิดถูกหรือเปล่านะ ที่มาเป็นแฟนเขา หญิงสาวถามตัวเอง ในประโยคเดิมๆ ที่เพียรถามตัวเองมาตลอดระยะเวลาห้าปีที่คบกัน
จะไม่ให้หล่อนคิดมากได้อย่างไร ในเมื่อหันไปมองไปรอบๆ คู่รักหลายคู่ นั่งจู๋จี๋ หวานจ๋อย ฝ่ายชายหอบกุหลาบ ให้กับคู่รักของเขาที่ยิ้มหน้าบาน พวกเขานั่งดื่ม กิน และคุยกันไปอย่างมีความสุข เห็นแล้วน่าอิจฉา
ความคิดของหญิงสาวสะดุด เมื่อเด็กหนุ่มสาวร่วมสิบคน เดินผ่านตนเอง ไปนั่งยังโต๊ะถัดไป พอนั่งลงได้ พวกเขาก็พูดคุย แย้มยิ้ม แถมยังเผื่อแผ่รอยยิ้มมาให้ตัวเองอีกด้วย หญิงสาวเห็นเช่นนั้น ก็เลยยิ้มตอบ พร้อมกับลืมเรื่องขุ่นมัวไปชั่วขณะ
สัญญาณเมทเซทเรียกเข้า ดึงความคิดของหญิงสาวกลับมา หญิงสาวคว้าโทรศัพท์มือถือที่วางบนโต๊ะตรงหน้าขึ้นมา ไม่ต้องดูก็รู้ว่าต้องเป็นเขาที่ส่งเมทเซทมาแก้ตัว เขาจะทำอย่างนี้ทุกครั้งที่เลท
เพราะคราวหนึ่ง เขาปล่อยให้หล่อนรอร่วมสองชั่วโมง พอเขาโทรมาขอโทษ หล่อนไม่เพียงแต่ต่อว่าต่อขาน หากยังบอกกับเขาว่าไม่ต้องมา เพราะหล่อนกำลังจะกลับ แล้วหล่อนก็กลับจริงๆ
หญิงสาวไม่รอช้า กดดูข้อความในเมทเซท อยากรู้ว่าคราวนี้เขาจะแก้ตัวอย่างไร แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเป็นล้นพ้น เมื่อเห็นเมทเซทของเขาที่ยาวเป็นหางว่าว
ผมถึงแล้วนะ
แต่ก่อนจะพบกันวันนี้ ผมมีอะไรอยากจะบอกคุณ
ขอบคุณนะ ที่อดทนกับคู่รักไม่เอาไหน อย่างผม ถึงห้าปี
ขอบคุณ ที่ดูแล เอาใจใส่ ตอนผมป่วย
ขอบคุณ ที่เป็นปราการให้ผมพิงพัก ยามที่ผมท้อแท้ เหนื่อยหน่าย และทุกครั้งที่ผมบ่นว่าเบื่องาน อยากจะถอย คุณก็บอกให้ผมสู้ๆ บอกให้ผมใจเย็น แล้วทุกอย่างก็จะดีเอง
วันนี้ เป็นวันแห่งความรัก
ผมเลยอยากจะบอกกับคุณว่า ไม่เพียงแต่ผมจะรักคุณแค่วันนี้ หากแต่จะขอรักคุณอย่างนี้ตลอดไป
ว่าแต่ คุณจะว่าอะไรมั้ย หากผมจะขออนุญาต ดูแลคุณไปตลอดชีวิต
เมทเซทจบลงเพียงนั้น เสียงเรียกชื่อดังๆก็ตามมา
“คุณกุ๊ก”
หญิงสาวสาวเงยหน้าขึ้นมามองงงๆ โทรศัพท์ในมือร่วงลงบนโต๊ะดื้อๆเพราะมือไม้อ่อนขึ้นมา แต่หล่อนไม่สนใจ เอาแต่จ้องมองเขาซึ่งในชุดทำงานคุ้นตา ที่ก้าวมาหา พร้อมกับกุหลาบช่อใหญ่ หล่อนเห็นเขาไม่ชัดนักหรอก เพราะสองตาพร่ามัว ด้วยหยาดน้ำใสๆที่เอ่อขึ้นมากลบตา
“สุขสันต์วันแห่งความรักครับ กุ๊ก ” เขาบอก พร้อมกับยื่นกุหลาบมาให้เมื่อมายืนตรงหน้า หญิงสาวยื่นมือไปรับกุหลาบด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนข้างที่เหลือก็คอยปาดน้ำตา
เขายิ้มให้ ก่อนจะบอกกับหญิงสาวเรียบๆ แต่หนักแน่นว่า
“ตอนแรก ผมตั้งใจจะมาคุกเข่า ขอคุณแต่งงาน พร้อมกับสวมแหวนให้คุณอย่างใครๆเขาทำกัน แต่พอดีผมจำที่คุณบอกได้ ถ้าผมคุกเข่า สวมแหวนให้คุณต่อหน้าคนเยอะๆละก้อ นอกจากคุณจะไม่ยอมแต่งงานกับผม คุณจะเดินหนี ให้ผมอาย
ผมก็เลยหอบดอกไม้มาแทนแหวน พร้อมกับมีความในใจมาบอกคุณ “ เขาหยุดพูดแค่นั้น ก็หันไปทางเด็กนักศึกษากลุ่มใหญ่ พอเขาพยักหน้าให้เด็กพวกเท่านั้น พวกเขาก็ลุกจากโต๊ะ กรูมาห้อมล้อม หล่อนกับเขา
เขาบอกกับหญิงสาวที่มองเขา สลับกับเด็กกลุ่มนั้นอย่างงงๆ
“ยังไม่ต้องตอบรับข้อเสนอของผมตอนนี้ ขอแค่คุณนั่งอยู่กับผม รับฟังเมทเซทของผม ที่น้องๆพวกนี้จะมาบอกแทนผมก่อน หลังจากนั้นคุณจะตอบรับ หรือปฏิเสธ อันนั้นก็สุดแล้วแต่ความเมตตาของคุณ“ เขาพูดจบก็ทรุดตัวนั่งลงใกล้ๆ พลางหันไปพยักหน้าให้เด็กหนุ่มสาวกลุ่มนั้น
ครู่ต่อมา เด็กหนุ่มสาวที่ยืนล้อมรอบเขากับเธอ ก็ประสานเสียงเป็นเพลง อันไพเราะ ซึ่งเป็นเพลงโปรดของหล่อนและเขา
I give her all my love
That's all I do
And if you saw my love
You'd love her too
I love her
เสียงเพลงประสานเสียงจากเด็กหนุ่มสาวกลุ่มนั้น ดำเนินไปได้เพียงท่อนเดียว หญิงสาวก็โน้มตัวไปหาคู่รักที่ไม่เอาไหนของตัวเอง พร้อมกระซิบข้างหูเขาเบาๆ ได้ยินเพียงหล่อนกับเขาเพียงสองคน
“ตกลงค่ะ ฉันจะแต่งงานกับคุณ”
3.
อาจารย์สาวให้รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เพราะเช้านั้นทันทีที่ก้าวเข้ามาในชั้นเรียนซึ่งตัวเองเป็นอาจารย์ประจำชั้น ก็พบกุหลาบสีแดงดอกนั้นวางทับกระดาษสี่เหลียมที่พับเรียบร้อยอยู่บนโต๊ะทำงาน
อาจารย์สาวทรุดตัวนั่งที่เก้าอี้ช้าๆ ยื่นมือไปหยิบกุหลาบที่วางทับกระดาษแผ่นนั้นมาดูใกล้ๆ บางกลีบจะเริ่มช้ำ แต่กุหลาบก็คือกุหลาบ จะสด จะช้ำ ก็ยังสวยอยู่ดี
อาจารย์สาวยิ้มบางๆ วางกุหลาบลงตรงหน้า จัดแจงหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมา คลี่ออกช้าๆ คิ้วทั้งสองเลิกสูง เมื่อเห็นลายมือคุ้นๆ รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นบนใบหน้าช้าๆ และเปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้อ่านข้อความไม่กี่บรรทัดที่ปรากฏอยู่บนนั้น
อาจารย์ครับ
ผมส่งกุหลาบ มาแทนคำว่าขอโทษ ที่ผ่านมาผมทำให้อาจารย์หนักใจ เพราะเวลาเรียนถ้าผมไม่หลับ ก็คุย การบ้านส่งบ้าง ไม่ส่งบ้าง
ผมขอโทษครับอาจารย์ จากนี้ต่อไป ผมจะพยายามปรับปรุงตัวให้ดีกว่าเดิม
ความจริงผมอยากจะบอกกับอาจารย์หลายครั้งแล้ว แต่ไม่กล้า จนกระทั่งวันนี้ ที่เป็นวันดี เพราะเป็นวันวาเลนไทน์
ผมก็เลยตัดสินใจบอกกับอาจารย์ นอกจากผมต้องการขอโทษอาจารย์แล้ว ผมก็อยากจะบอกกับอาจารย์ว่า ผมรักอาจารย์ที่สุด เพราะอาจารย์ใจดีที่สุดในโลกเลย
จากลูกศิษย์ผู้ไม่ประสงค์ออกนามของอาจารย์
อาจารย์สาวอ่านจบ ก็หัวเราะคิกคักออกมาอย่างลืมตัว ดีนะว่าโรงเรียนยังไม่เข้า ในชั้นเรียนไม่มีนักเรียนสักคน เพราะถ้ามีนักเรียนนั่งกันหน้าสลอน ตัวเองมีหวังได้อายเด็กแน่ๆ
แต่มัน น่าขำนี่นา เขียนมาได้
“จากลูกศิษย์ผู้ไม่ประสงค์ออกนามของอาจารย์ ”
ที่ป้ายรถ หลังโรงเรียนเลิก ….
อาจารย์สาวยืนรอรถจะกลับบ้าน มือข้างหนึ่งถือกระเป๋าสาน ส่วนอีกข้างถือกุหลาบดอกนั้น
“กุหลาบ สวยดีนะครับ อาจารย์ ” เด็กหนุ่มหน้าแหลมในเครื่องแบบนักเรียนม. ปลาย ยืนห่างออกไปหน่อย เอ่ยยิ้มๆ ตาทั้งสองของเขา จ้องกุหลาบที่อยู่ในมืออาจารย์
“ใช่ สวยดี”
♥.•*´¨`*•. ♥ วาเลนไทน์ ♥.•*´¨`*•. ♥
1.
เด็กสาวนั่งช่วยแม่เด็ดผักอยู่กับพื้นในห้องครัว ละมือจากผักที่เด็ด ขยับเข้าไปหาแม่ บีบต้นขาไปมา ก่อนจะอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวาน
“แม่บอกว่าจะให้เงินหนู ไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่วันนี้ แม่คงไม่ลืมหรอกนะ”
ประโยคนั้นของเด็กสาว ทำให้ผู้เป็นพ่อที่กำลังยืนล้างผักอยู่ที่อ่างล้างจานใกล้กัน หันมามองด้วยสีหน้าเคร่งขรึม คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากัน
เขากับภรรยา เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง สี่ปีเข้าปีนี้ ร้านเปิดแปดโมงเช้า เลิกร้านไม่แน่นอน บางทีหกโมง บางครั้งก็ทุ่มกว่า ขึ้นกับจำนวนลูกค้าที่มาอุดหนุน หยุดวันเดียวคือวันอาทิตย์ และทุกวันหลังจากปิดร้าน เขากับภรรยาจะต้องเตรียมไว้ขายในวันต่อไป โดยมีลูกสาวคนเดียวของเขาที่เรียนอยู่มหาลัยของเอกชนปีหนึ่งจะช่วยบ้างนานๆครั้ง เพราะลูกสาวจะบอกกับเขาทุกครั้ง ที่เขาเอ่ยปากให้มาช่วย
หนูต้องท่องหนังสือ นะพ่อ
“ไม่ลืมหรอกลูก แต่รออีกสองสามวันได้มั้ย ช่วงนี้ ขายไม่ค่อยดี หนูก็เห็นอยู่ ” เสียงของภรรยาดึงความคิดของสามีกลับมา เขามองหน้าลูกสาว อยากรู้ว่าลูกสาวจะตอบแม่ว่าอย่างไร
“อีกแล้ว” ลูกสาวร้องดังๆออกมาอย่างขัดใจ “ แม่จะผิดสัญญาก็บอกมาเถอะ แม่เป็นคนบอกหนูเองนะ ถ้าหนูได้เกรดดีๆ จะซื้อโทรศัพท์มือถือให้หนู “ เอ่ยอย่างหงุดหงิด แต่ที่คิดไม่ได้พูดออกมานั้นยาวเหยียด
น่ารำคาญอ่ะ ขอให้เอ่ยปากขอเงินแต่ละที เป็นต้องอ้างโน้นอ้างนี่ ถ้าบ้านเรา ขัดสนอย่างบ้านอื่นก็ไปอย่าง นี่บ้านก็ไม่ต้องเช่า ขายของวันละหลายพัน แถมเราก็เป็นลูกคนเดียว เออถ้าแม่กับพ่อ มีลูกเป็นโหลอย่างน้าจุ๋มข้างบ้านก็ไปอย่าง อยากรู้จริงๆพ่อกับแม่จะเก็บเงินไปไหนนะ
ผู้เป็นพ่อ อดรนทนไม่ไหวแทรกขึ้นมา
“ทำไมพูดกับแม่เขาอย่างนั้นล่ะฟ้า แม่เขาบอกว่าอีกสองวัน ไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าจะไม่ให้”
“อาทิตย์ก่อนแม่ก็บอกว่าสองวัน พอถามวันนี้ ก็สองวันอีกตามเคย “
“แล้วถ้าอีกสองวัน มันจะเป็นอะไรไป โทรศัพท์เครื่องเก่าก็ยังใช้ได้ ไม่ได้เสียสักหน่อย” พ่อว่าให้เสียงขุ่นๆ นานๆจะว่าให้เสียที
“ใช้นะใช้ได้อยู่หรอกพ่อ แต่มันดีๆเสียๆ เพราะมันเก่า แถมถ่ายรูปก็ไม่ได้ ควักออกมาใช้แต่ละที หนูนี่อายเพื่อนแทบจะแทรกแผ่นดิน”
“แล้วคนที่เขาไม่มีใช้ เขาไม่ยิ่งแย่กว่าเราหรอกเหรอ” ผู้เป็นพ่อกล่าวจบ ก็มองหน้าลูกสาวเหมือนจะว่า
เรานี่ ชักจะไม่เข้าท่าขึ้นทุกวัน
“ พ่อลูก หยุดได้แล้ว ไม่ต้องเถียงกัน” ผู้เป็นภรรยา และแม่ ร้องห้ามคู่กรณี ยืดตัวลุกขึ้นช้าๆ ร้องบอกกับลูกสาว
“รอเดี๋ยว แม่จะไปหยิบเงินให้”
ผู้เป็นสามีเห็นอย่างนั้นก็ติงอย่างอ่อนใจ
“แม่ก็เป็นซะอย่างนี้ ใจอ่อนกับลูกทุกที “
“จะให้วันนี้ หรืออีกสองวัน มันจะต่างกันตรงไหนล่ะพ่อ “ ภรรยาที่ยืนข้างสามีที่อ่างล้างจาน บอกเรียบๆ เปิดก๊อกน้ำ ล้างมือลวกๆ ล้างมือเสร็จปิดก๊อก สะบัดมือเร็วๆ เดินออกจากห้องครัวขึ้นบันไดไปยังห้องนอนชั้นบนเพื่อเอาเงินให้ลูก
ลูกสาวเห็นอย่างนั้น ก็ยิ้มแฉ่ง แต่ผู้เป็นพ่อยิ้มไม่ออก หันไปทำสิ่งที่ตนทำค้างอยู่พร้อมกับถอนใจเบาๆ
สองวันต่อมา ซึ่งตรงกับวันแห่งความรัก เด็กสาวเอาโทรศัพท์เครื่องใหม่ของตนไปอวดคู่รัก อีกฝ่ายพลอยตื่นเต้นไปกับเด็กสาว เพราะตัวเขายังใช้โทรศัพท์แบบเก่า ที่ถ่ายรูปไม่ได้
เด็กสาว และคู่รัก ทำอย่างคู่รักทั่วไป ฉลองวันแห่งความรัก ด้วยการเดินเล่นในห้างดัง พอหิวก็แวะเข้าร้านพิทซ่าชื่อดัง
เด็กสาวเลี้ยงพิทซ่าคู่รัก ชุดใหญ่หมดร่วมห้าร้อย คู่รักของให้กุหลาบแดงหนึ่งดอก ฉลองวันแห่งความรัก จากนั้นทั้งสองก็พากันเกี่ยวก้อยเดินชมข้าวของในห้าง
อีกมุมหนึ่งที่ร้านอาหารตามสั่ง
หลังจากปิดร้าน สองสามีภรรยาก็ช่วยกันล้างถ้วยชาม ทำความสะอาด กว่าจะเรียบร้อยก็ปาเข้าไปสองทุ่มกว่า สามีเรียกภรรยาให้ไปกินข้าวที่เขาเตรียมไว้ให้ อาหารง่ายๆ ผัดกระเพรา ไข่ดาว และข้าวที่เหลือจากการขาย ที่ทั้งแข็งและเย็น
“พ่อกินไปก่อนเถอะ ฉันจะไปดูลูกที่ป้ายรถก่อน ลูกไปแต่ก่อนเที่ยง ป่านนี้ยังไม่กลับ โทรไปก็ไม่รับ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า“
“งั้นพ่อไปด้วย “ สามีกล่าวแค่นั้น พอภรรยาเดินนำ ก็ก้าวตามไป
ครู่ต่อมา สองสามีกับภรรยาก็มายืนอยู่เคียงข้างกันที่ป้ายรถ ไม่ได้พูดอะไรกัน ได้แต่ชะเง้อชะแง้ รอการกลับมาของลูกสาวอย่างห่วงใย
ที่ป้ายรถหน้าห้าง….
เด็กสาวนั่งราวกับรูปปั้นอยู่ที่เก้าอี้ ปล่อยให้รถโดยสารสายที่เด็กสาวจะโดยสารผ่านไปหลายคัน ที่เป็นเช่นนั้น เพราะเจ้าตัวยังไม่กล้าที่จะกลับไปสู้หน้าพ่อกับแม่ในเวลานี้
ว่าจะไม่คิด แต่สุดท้ายก็อดคิดไม่ได้ หลังจากออกจากร้านพิทซ่า เด็กสาวกับคู่รักเดินไปรอบห้าง คุยกันกระหนุงกระหนิง แต่ช่วงหนึ่งที่เด็กสาวขอตัวไปเข้าห้องน้ำ กลับออกมาดันมาได้ยินคู่รักใช้โทรศัพท์ของตนคุยกับสาวอื่น
เพราะโกรธจัด เด็กสาวเลยกระชากโทรศัพท์จากมือคู่รัก จะขว้างใส่หน้า แต่คู่รักตัวดีหลบทัน โทรศัพท์เลยลอยไปในอากาศก่อนจะตกกับพื้นแตกกระจาย
คิดขึ้นมาตอนนี้ น้ำตาที่เหือดแห้งไปก่อนหน้านั้น ก็พรั่งพรูออกมาไม่หยุด แค้นใจคนรักนอกใจ ในเวลาเดียวกัน ก็ให้สับสน เพราะคิดไม่ออกว่าจะกลับไปบอกพ่อกับแม่เรื่องโทรศัพท์เครื่องใหม่อย่างไรดี.
2.
ณ ร้านอาหารมีชื่อ
หญิงสาวนั่งเซ็งๆ รอคู่รัก อีกฝ่ายโทรไปยังที่ทำงานหล่อนเมื่อตอนเที่ยง บอกว่าเย็นนี้กินข้าวกันหน่อยเพื่อฉลองวันวาเลนไทน์
ตอนแรกที่ได้ยิน หญิงสาวเกือบจะหัวเราะออกมาดังๆ ดีแต่ยั้งไว้ทัน จะไม่ให้ขำได้ไง ในเมื่อคู่รักของตน วันๆยุ่งอยู่แต่งาน ใครจะเป็นอะไร ทำอะไร ไม่สน ไม่ต้องดูอื่นดูไกล ขนาดคนใกล้ตัวอย่างหล่อน ที่เป็นคู่รัก เขายังลืมวันเกิดของหล่อน จำไม่ได้ว่าหล่อนพบกันวันไหน เดือนอะไร แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเขา จู่ๆมาเอ่ยปากชวนให้ออกมากินข้าวในวันแห่งความรัก ทั้งที่ปีก่อนๆที่ผ่านมา หล่อนชวนเขาให้ออกไปเฉลิมฉลอง แต่เขากลับบอกปัด มิหนำซ้ำยังว่าให้เจ็บใจ ว่าวัน แห่งความรัก หรือวาเลนไทน์ มันเป็นอะไรที่เหลวไหล ไร้สาระที่สุด
หญิงสาวถอนใจยาว คิดในใจเงียบๆ คู่รักของตนนอกจากจะไม่ใส่ใจวันเกิด วันครบรอบที่พบกัน วันแห่งความรัก เขายังเป็นคนที่ขี้ลืมอย่างร้ายกาจ แถมเป็นคนผิดเวลาอย่างไม่น่าให้อภัย
เราคิดถูกหรือเปล่านะ ที่มาเป็นแฟนเขา หญิงสาวถามตัวเอง ในประโยคเดิมๆ ที่เพียรถามตัวเองมาตลอดระยะเวลาห้าปีที่คบกัน
จะไม่ให้หล่อนคิดมากได้อย่างไร ในเมื่อหันไปมองไปรอบๆ คู่รักหลายคู่ นั่งจู๋จี๋ หวานจ๋อย ฝ่ายชายหอบกุหลาบ ให้กับคู่รักของเขาที่ยิ้มหน้าบาน พวกเขานั่งดื่ม กิน และคุยกันไปอย่างมีความสุข เห็นแล้วน่าอิจฉา
ความคิดของหญิงสาวสะดุด เมื่อเด็กหนุ่มสาวร่วมสิบคน เดินผ่านตนเอง ไปนั่งยังโต๊ะถัดไป พอนั่งลงได้ พวกเขาก็พูดคุย แย้มยิ้ม แถมยังเผื่อแผ่รอยยิ้มมาให้ตัวเองอีกด้วย หญิงสาวเห็นเช่นนั้น ก็เลยยิ้มตอบ พร้อมกับลืมเรื่องขุ่นมัวไปชั่วขณะ
สัญญาณเมทเซทเรียกเข้า ดึงความคิดของหญิงสาวกลับมา หญิงสาวคว้าโทรศัพท์มือถือที่วางบนโต๊ะตรงหน้าขึ้นมา ไม่ต้องดูก็รู้ว่าต้องเป็นเขาที่ส่งเมทเซทมาแก้ตัว เขาจะทำอย่างนี้ทุกครั้งที่เลท
เพราะคราวหนึ่ง เขาปล่อยให้หล่อนรอร่วมสองชั่วโมง พอเขาโทรมาขอโทษ หล่อนไม่เพียงแต่ต่อว่าต่อขาน หากยังบอกกับเขาว่าไม่ต้องมา เพราะหล่อนกำลังจะกลับ แล้วหล่อนก็กลับจริงๆ
หญิงสาวไม่รอช้า กดดูข้อความในเมทเซท อยากรู้ว่าคราวนี้เขาจะแก้ตัวอย่างไร แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเป็นล้นพ้น เมื่อเห็นเมทเซทของเขาที่ยาวเป็นหางว่าว
ผมถึงแล้วนะ
แต่ก่อนจะพบกันวันนี้ ผมมีอะไรอยากจะบอกคุณ
ขอบคุณนะ ที่อดทนกับคู่รักไม่เอาไหน อย่างผม ถึงห้าปี
ขอบคุณ ที่ดูแล เอาใจใส่ ตอนผมป่วย
ขอบคุณ ที่เป็นปราการให้ผมพิงพัก ยามที่ผมท้อแท้ เหนื่อยหน่าย และทุกครั้งที่ผมบ่นว่าเบื่องาน อยากจะถอย คุณก็บอกให้ผมสู้ๆ บอกให้ผมใจเย็น แล้วทุกอย่างก็จะดีเอง
วันนี้ เป็นวันแห่งความรัก
ผมเลยอยากจะบอกกับคุณว่า ไม่เพียงแต่ผมจะรักคุณแค่วันนี้ หากแต่จะขอรักคุณอย่างนี้ตลอดไป
ว่าแต่ คุณจะว่าอะไรมั้ย หากผมจะขออนุญาต ดูแลคุณไปตลอดชีวิต
เมทเซทจบลงเพียงนั้น เสียงเรียกชื่อดังๆก็ตามมา
“คุณกุ๊ก”
หญิงสาวสาวเงยหน้าขึ้นมามองงงๆ โทรศัพท์ในมือร่วงลงบนโต๊ะดื้อๆเพราะมือไม้อ่อนขึ้นมา แต่หล่อนไม่สนใจ เอาแต่จ้องมองเขาซึ่งในชุดทำงานคุ้นตา ที่ก้าวมาหา พร้อมกับกุหลาบช่อใหญ่ หล่อนเห็นเขาไม่ชัดนักหรอก เพราะสองตาพร่ามัว ด้วยหยาดน้ำใสๆที่เอ่อขึ้นมากลบตา
“สุขสันต์วันแห่งความรักครับ กุ๊ก ” เขาบอก พร้อมกับยื่นกุหลาบมาให้เมื่อมายืนตรงหน้า หญิงสาวยื่นมือไปรับกุหลาบด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนข้างที่เหลือก็คอยปาดน้ำตา
เขายิ้มให้ ก่อนจะบอกกับหญิงสาวเรียบๆ แต่หนักแน่นว่า
“ตอนแรก ผมตั้งใจจะมาคุกเข่า ขอคุณแต่งงาน พร้อมกับสวมแหวนให้คุณอย่างใครๆเขาทำกัน แต่พอดีผมจำที่คุณบอกได้ ถ้าผมคุกเข่า สวมแหวนให้คุณต่อหน้าคนเยอะๆละก้อ นอกจากคุณจะไม่ยอมแต่งงานกับผม คุณจะเดินหนี ให้ผมอาย
ผมก็เลยหอบดอกไม้มาแทนแหวน พร้อมกับมีความในใจมาบอกคุณ “ เขาหยุดพูดแค่นั้น ก็หันไปทางเด็กนักศึกษากลุ่มใหญ่ พอเขาพยักหน้าให้เด็กพวกเท่านั้น พวกเขาก็ลุกจากโต๊ะ กรูมาห้อมล้อม หล่อนกับเขา
เขาบอกกับหญิงสาวที่มองเขา สลับกับเด็กกลุ่มนั้นอย่างงงๆ
“ยังไม่ต้องตอบรับข้อเสนอของผมตอนนี้ ขอแค่คุณนั่งอยู่กับผม รับฟังเมทเซทของผม ที่น้องๆพวกนี้จะมาบอกแทนผมก่อน หลังจากนั้นคุณจะตอบรับ หรือปฏิเสธ อันนั้นก็สุดแล้วแต่ความเมตตาของคุณ“ เขาพูดจบก็ทรุดตัวนั่งลงใกล้ๆ พลางหันไปพยักหน้าให้เด็กหนุ่มสาวกลุ่มนั้น
ครู่ต่อมา เด็กหนุ่มสาวที่ยืนล้อมรอบเขากับเธอ ก็ประสานเสียงเป็นเพลง อันไพเราะ ซึ่งเป็นเพลงโปรดของหล่อนและเขา
I give her all my love
That's all I do
And if you saw my love
You'd love her too
I love her
เสียงเพลงประสานเสียงจากเด็กหนุ่มสาวกลุ่มนั้น ดำเนินไปได้เพียงท่อนเดียว หญิงสาวก็โน้มตัวไปหาคู่รักที่ไม่เอาไหนของตัวเอง พร้อมกระซิบข้างหูเขาเบาๆ ได้ยินเพียงหล่อนกับเขาเพียงสองคน
“ตกลงค่ะ ฉันจะแต่งงานกับคุณ”
3.
อาจารย์สาวให้รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เพราะเช้านั้นทันทีที่ก้าวเข้ามาในชั้นเรียนซึ่งตัวเองเป็นอาจารย์ประจำชั้น ก็พบกุหลาบสีแดงดอกนั้นวางทับกระดาษสี่เหลียมที่พับเรียบร้อยอยู่บนโต๊ะทำงาน
อาจารย์สาวทรุดตัวนั่งที่เก้าอี้ช้าๆ ยื่นมือไปหยิบกุหลาบที่วางทับกระดาษแผ่นนั้นมาดูใกล้ๆ บางกลีบจะเริ่มช้ำ แต่กุหลาบก็คือกุหลาบ จะสด จะช้ำ ก็ยังสวยอยู่ดี
อาจารย์สาวยิ้มบางๆ วางกุหลาบลงตรงหน้า จัดแจงหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมา คลี่ออกช้าๆ คิ้วทั้งสองเลิกสูง เมื่อเห็นลายมือคุ้นๆ รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นบนใบหน้าช้าๆ และเปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้อ่านข้อความไม่กี่บรรทัดที่ปรากฏอยู่บนนั้น
อาจารย์ครับ
ผมส่งกุหลาบ มาแทนคำว่าขอโทษ ที่ผ่านมาผมทำให้อาจารย์หนักใจ เพราะเวลาเรียนถ้าผมไม่หลับ ก็คุย การบ้านส่งบ้าง ไม่ส่งบ้าง
ผมขอโทษครับอาจารย์ จากนี้ต่อไป ผมจะพยายามปรับปรุงตัวให้ดีกว่าเดิม
ความจริงผมอยากจะบอกกับอาจารย์หลายครั้งแล้ว แต่ไม่กล้า จนกระทั่งวันนี้ ที่เป็นวันดี เพราะเป็นวันวาเลนไทน์
ผมก็เลยตัดสินใจบอกกับอาจารย์ นอกจากผมต้องการขอโทษอาจารย์แล้ว ผมก็อยากจะบอกกับอาจารย์ว่า ผมรักอาจารย์ที่สุด เพราะอาจารย์ใจดีที่สุดในโลกเลย
จากลูกศิษย์ผู้ไม่ประสงค์ออกนามของอาจารย์
อาจารย์สาวอ่านจบ ก็หัวเราะคิกคักออกมาอย่างลืมตัว ดีนะว่าโรงเรียนยังไม่เข้า ในชั้นเรียนไม่มีนักเรียนสักคน เพราะถ้ามีนักเรียนนั่งกันหน้าสลอน ตัวเองมีหวังได้อายเด็กแน่ๆ
แต่มัน น่าขำนี่นา เขียนมาได้
“จากลูกศิษย์ผู้ไม่ประสงค์ออกนามของอาจารย์ ”
ที่ป้ายรถ หลังโรงเรียนเลิก ….
อาจารย์สาวยืนรอรถจะกลับบ้าน มือข้างหนึ่งถือกระเป๋าสาน ส่วนอีกข้างถือกุหลาบดอกนั้น
“กุหลาบ สวยดีนะครับ อาจารย์ ” เด็กหนุ่มหน้าแหลมในเครื่องแบบนักเรียนม. ปลาย ยืนห่างออกไปหน่อย เอ่ยยิ้มๆ ตาทั้งสองของเขา จ้องกุหลาบที่อยู่ในมืออาจารย์
“ใช่ สวยดี”