อยากทราบข่าวเกี่ยวกับ ดราม่าvrzo ตั้งแต่แรดครับ

อ่านให้จบ ถ้ารักจะเผือกกกก > <

>บ้าน ทท ขายครีม
>ครีมมีการโฆษณาขายตัวเองอย่างเวอร์ รักษาได้ตั้งแต่ หมา ขาโก่ง ยันเส้นเลือดในสมองแตก (ทั้งๆที่เป็นครีมทาผิว ที่เคยบอกว่าใช้แล้วหน้าเรียว)
>มีเพจเพจนึงเอาไปลง ว่ามันอันตราย หากมีใครที่ชื่นชอบ เค้ามีอาการเหล่านี้ มันควรไปพบแพทย์ แล้วถ้าเค้าเชื่อว่าครีมรักษาได้ จนไม่ไปพบแพทย์มันอันตรายถึงชีวิตได้เลย

>มีคนเข้ามาด่าครีมกันถล่มทลาย
>มีติ่งออกมาปกป้อง
>ป ออกมาโพสปกป้อง ทท ว่านี่ทำงานสุจริตนะ ไม่ได้ขายยาบ้า ซะหน่อย ทำอะไรที่มันไม่ได้เบียดเบียนใคร ไม่ได้โกงใคร ทำไปเถอะเราทำมาหากิน

>อดีตทีมงานออกมาโพสสวนว่า แน่ใจเหรอว่าไม่เคยเอาเปรียบใคร ไม่เคยโกงใคร แล้วที่มืงเคยทำกะกรุว์ล่ะ ???
>คนในกลุ่มเพื่อน ป หลายๆคน ไปกดไลค์ การโพสต์โจมตีครั้งนี้
>ชาวพันทิปและชาวโซเชี่ยวหลายๆทาง เริ่มขุดคุ้ยอดีต (ซึ่งตรงนี้ไม่เกี่ยวกับประเด็นครีมแล้ว) เนื่องจากไม่ชอบตัวบุคคลเป็นการส่วนตัว
>โดนขุดลากยาวไปถึงบริษัท เรื่อง โปรเจกต์หนัง ที่เคยเรี่ยไรเงินจากแฟนคลับไปหลายปีแล้วเป็นจำนวนหลักแสน แต่ตอนนี้โปรเจกต์เงียบหายไป
>มีออแกนไนซ์เซอร์ที่เคยว่าจ้างงานออกมาแฉพฤติกรรมของทีมงานนี้อีกหนึ่งดอก ว่าเอาสินค้าตัวอื่นมาแอบ ไทอิน ในงานของเค้าโดยที่ไม่บอก มีการเหยียบข้าวกล่องของทีมงานกันระเนระนาด มีการกินเหล้าเมาเบียร์กันระหว่างงาน มีการหยิบชุดคลุมอาบน้ำไปโดยที่ไม่บอก มีการขึ้นเวทีโดยไม่ฟังบรีฟคิว มีการมาถึงงานช้า ทำให้เวลางานเคลื่อน มีคำพูดจาก ป ว่า พี่จะเอายังไงกกับผม

>>VRZO ออกมาแถลง (เอาคร่าวๆที่จำได้ ดูรอบเดียวเอง)
>> เรื่องข้าวกล่อง ไม่ทราบจริงๆ แต่มั่นใจว่าไม่ได้ทำ เพราะถ้าข้าวกล่องมันเยอะขนาดนั้น เราต้องรู้ แต่ถ้าผิดจริง เราขอโทษ
>> เรื่อง ไทอิน สินค้าอื่น เรายังอ่อนประสบการณ์ ตอนนั้นยังมีพนักงานอยู่ สิบคน บริษัทเพิ่งตั้ง เราไม่เคยรับงานสเตจมาก่อน เราผิดจริงๆ เราขอโทษ
>> เรื่องหยิบชุดไปโดยไม่บอก เราไม่ทราบจริงๆ คิดว่าทางทีมออแกนไนซ์เตรียมไว้ให้ เนื่องจากมันเมกเซ้นส์ว่า มันเป็นงานสงกรานต์ ถ้ามีชุดคลุมอาบน้ำเตรียมไว้ให้ก็ไม่แปลก ถ้าติดอะไรยังไง ทางเรายินดีชดใช้ค่าเสื้อคลุมอาบน้ำให้ เราขอโทษ
>> เรื่องที่ ป พูดคำว่า พี่จะเอายังไงกับผม ทาง ป ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้พูด แต่บอกว่า ในอารมณ์นั้นไม่ได้มีเจตนาจะชวนทะเลาะ และยืนยันว่า เราไม่เคยรับงานเสตจ ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ว่า ผมจะกล้าไม่ฟังบรีฟ และขึ้นไปพังงานใคร พี่ให้ขึ้นผมขึ้น พี่ให้ลงผมลง ยืนยันว่า ส่วนนี้ไม่เป็นความจริง
>> เรื่อง โปรเจกต์หนัง เงินที่เรี่ยไรไป ไม่เคยคิดจะหลอกเอาไปทำอะไร เพียงแต่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองนอกอีกที ที่เค้ามีการเรี่ยไรเงินมาทำหนัง เลยอยากจะทำบ้าง แต่ด้วยความที่ยังอ่อนประสบการณ์ บวกกับ คนเดิมๆที่วางไว้ ได้มีการออกไป และอีกหลายๆอย่าง ทำให้โปรเจกต์มันล่าช้าไปสุดๆ ยืนยันว่ายังทำงานอยู่ยังไม่ได้ทิ้ง ส่วนเงินที่ได้มายังอยู่ครบ แยกบัญชีไว้ และเงินมันยังน้อยเกินไปที่จะสร้างหนังซักเรื่องนึง คนอื่นอาจจะใช้ได้ แต่สำหรับตัวเค้า เค้ามีมาตรฐานในการทำงาน เงินเท่านี้สำหรับเค้าไม่พอ กำลังหาสปอนเซอร์อยู่ ทำแน่ๆไม่ต้องกลัว
>> เรื่อง ป กับอดีตทีมงาน ป บอกว่าเสียใจที่มาทำอย่างงี้กับตน เพราะไม่คิดมาก่อน ว่าจะคิดแบบนี้ เนื่องจากเจอกันครั้งล่าสุดยังคุยกันดีๆอยุ่เลย
ส่วนตัวทำงานหนักมาก ไม่ได้เล่นเฟซบุ้ค เลยไม่ทราบการเคลื่อนไหว ของอีกฝ่าย ว่ากำลังเดือดร้อนมาก ทั้งสุขภาพ และเรื่อง ฐานะ และไม่รู้มาก่อนว่าจะคิดแบบนี้กับตน ในเวลาที่กำลังมีปัญหารุมเร้า กลับออกมาโพสโจมตีกันแบบนี้ ตนสึกเสียใจมาก
>> เรื่องขุดอดีตส่วนตัวบุคคล ทั้ง ทท และ ป มีการจ้างทนายความแล้ว รวบรวมหลักฐานแล้ว สิ่งไหนที่ไม่เป็นความจริง เราจะฟ้อง เราจะเอากฎหมายเข้าสู้ เพราะเถียงกันไปไม่มีประโยชน์ เอากฎหมายให้ช่วยตัดสินไปเลย ใครถูกใครผิด รวมถึง เวปไซต์ที่ร่วมเผยแพร่ข้อมูลด้วย


จบคลิปแถลงข่าว ปล พูดถึงไม่มีเรื่องครีมนะครับ เพราะอันนี้เป็นแถลงของ VRZO ไม่เกี่ยวกับเรื่องครีม เคลียร์เฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับบริษัทล้วนๆ

ขอเป็นความเห็นผมบ้างนะครับ

ส่วนตัวคิดว่าสังคมโซเชี่ยลไม่มีการแยกประเด็นกันเลย เริ่มมาจากเรื่องครีมของทับทิมที่บอกสรรพคุณเวอร์มากๆเกินไป ลามไปถึงเรื่องในอดีตต่างๆนานา ของทั้งสองฝ่าย

แรกๆตั้งคำถามเรื่องครีม ผมเห็นด้วยว่า เออ มันโอเวอร์เกินไป แต่พอลามไปถึงเรื่องส่วนตัวเรื่องขุดอดีต คิดว่าเริ่มไม่น่าใช่แล้ว นี่มันตามกระแส เอาสนุกปากแล้ว บางคนเข้ามาไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง คิดว่าการเสพย์ดราม่าในจอคอมพิวเตอร์เพียงไม่กี่หน้า ทำให้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเค้าเหล่านั้น
คือด่าเหมือนเกลียดกันมานาน ทั้งๆที่ตัวเค้าเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องราวเมื่อสอง ชม ที่แล้วเนี่ยแหล่ะ แถมเรื่องที่อ่านมา จริงหมดรึเปล่าก็ไม่รู้
เสพย์เอาสนุกกันอย่างเดียวเลย ร้ายไปกว่านั้นยังร่วมด่าแบบสนุกปากอีกด้วย ในจุดนี้ผมเชียร์ให้ทางทีมงานฟ้องให้เข็ดหลาบเหมือนกันนะ
คือมันไม่ควรเอาเรื่องเค้ามาด่ากันสะบัดขนาดนี้ทั้งๆที่ยังไม่รู้ความจริงแน่นอน (ส่วนตอนนี้กระทู้โจมตีต่างๆปิดทั้งกระทู้ ทั้งเฟสบุ้ค เผ่นแน่บไปเยอะแล้ว หลังจากที่เค้าประกาศว่าจะฟ้อง) ก็ลองคิดดูเอาครับ ว่าถ้าเป็นเรื่องจริงมีหลักฐาน คิดว่าการที่ด่าๆๆๆๆเค้ามันเป็นเรื่องถูกต้องเรื่องสนุก ทำไมต้องหนีด้วย แล้วงานนี้ใครจะผิดจะถูก ลองคำนวนเอา

เรื่องครีม โฆษณาโอเวอร์เกินจริง อันนี้ครับประเด็นที่ควรโจมตี ผมเคยเห็น ทท ในรายการชอบพูดอะไรมั่วๆ เป็นสไตล์ของเค้า (ลองไปหาตอนแรกๆที่ ไปเที่ยวเชียงใหม่กันแล้ว ทท พูดถึง ดอกไม้ชนิดต่างๆ คือมันมั่วหมดเลย เข้าใจว่าขำขำในรายการ) แต่ไม่คิดว่าจะเอามาใช้กับสินค้าที่ทำขายจริงๆจังๆแบบนี้ เนื่องจากเห็นมีโพสตอบกลับคนที่สงสัยเรื่องครีมไปว่า

ครีมมันเป็นยาดี พอมันซึมเข้าร่างกาย มันก็ไปบำรุงรักษาส่วนต่างๆได้ เพราะมันเป็นของดี  เพราะงั้นครีมบางตัวถึงบอกว่าห้ามสตรีมีครรภ์ใช้ เพราะมันอาจจะซึมลงไปจากแม่สู่ลูก

ผมนี่อ่านแล้วแบบ เฮ้ยยย มันใช่เหรอวะ !!! เรื่องครีมซึม ไม่มีความเห็นผมไม่ทราบ แต่ไอ่ที่รักษาอาการหลายๆอย่างได้นี่ผมว่ามันไม่ใช่ และ เค้าเองก็ควรจะคิดได้ ไม่ใช่เอาสไตล์พูดมั่วๆขำขำ มาใช้ในการขายของจริงๆจังๆแบบนี้ ซึ่งเรื่องทั้งหมด เป็นเพียงการบรรยายสรรพคุณที่เวอร์เกินไป

ถามว่ามันเรื่องใหญ่มั้ย มันใหญ่ครับ ถ้ามีคนหลงเชื่อจำนวนมาก แต่ในขณะนั้นยังเป็นเรื่องเล็ก ซึ่ง ทท พลาดในจุดนี้ ที่ไม่รีบออกมาขอโทษขอโพย
แต่กลับต่อสู้และเถียงไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่มันไม่น่าจะไปรอด ตรงนี้เลยทำให้มีคนเข้าไปถล่ม รวมถึงบรรดาแฟนคลับเค้า ก็ออกมาโพสโจมตีคนที่เข้าไปด่า ทท จากที่ ทท vs ปชช กลายเป็น fcทท vs ปชช สงครามเลยบานปลายใหญ่ขึ้น โดยปราศจากคำขอโทษจาก ทท สุดท้ายคุณแม่ต้องออกมาแถลง ผ่านคลิป ซึ่งชี้แจงว่า ทท ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เพียงแต่อยากช่วยโฆษณาให้ครีมที่คุณแม่ทำเท่านั้น นี่แหล่ะครับ จุดเริ่มต้นทั้งหมด

ซึ่งมันน่าจะคุยกันแค่เรื่องนี้ แต่กลับไปขุดคุ้ยอดีตกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับเรื่องครีมที่คุณๆ ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมกันแล้ว

ขอจบๆห้วนๆแต่เพียงเท่านี้เลยละกัน นู๋กลัวปลิว ถ้าเยอะไปกว่านี้