ต่อมาจากกระทู้คำถาม http://pantip.com/topic/33159253 ที่ถามเกี่ยวกับแผนการเดินทางคร่าวๆของพวกผมครับ
ต้องขอขอบคุณทุกๆคำตอบครับ จากที่วางแผนไว้ทั้งหมด 9 วัน กับการเที่ยวเวียดนามเหนือและเวียดนามกลาง
มีการปรับเปลี่ยนแผนกันเนื่องจากข้อจำกัดเรื่องงบประมาณและการเดินทางเล็กน้อย
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่านี่คือครั้งแรกที่เขียนรีวิวในพันทิป อาจจะมีผิดพลาดบ้างนะครับ
เริ่มแรกทริปนี้เกิดจากความตั้งใจของกลุ่มเพื่อนสมัยมัธยมที่มีอุดมการณ์เดียวกันที่อยากจะออกเดินทางไปเปิดโลกกว้างโดยการไปแบบแบ็คแพ็คเกอร์ เดินทางด้วยรถ เป็นการแบ็คแพ็คครั้งแรกของพวกเราทั้งหมดหกคน มีแพลนคร่าวๆ แต่ไม่มีการจองตั๋วและโรงแรมล่วงหน้า สื่อสารภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยบางคนไม่รู้เรื่องเลย ฮ่าๆๆๆ ... แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา คิดที่จะลุยก็ต้องลุยไปด้วยกัน ทริปนี้แพลนไว้คร่าวๆ ประมาณ 8 วัน โดยรถประจำทางเท่านั้น
รอติดตามนะครับจะเล่าเรื่องราว การผจญภัย ในเวียดนาม และรูปภาพสวยๆ ให้ชมกันครับ
ปล. หัวข้อกระทู้นี้มีที่มา เดี๋ยวเล่าให้ฟังครับ

วันแรกของการเดินทางพวกเรานัดเจอกันตอนเช้าที่ จ.หนองคาย เพื่อที่จะข้ามแดนที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ทำเรื่องแจ้งออกจากประเทศไทยที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ ใช้เวลาไม่นานนักเพราะคนไม่เยอะเท่าไหร่

จากด่านไทยข้ามไปฝั่งลาวจะมีรถมินิบัสรับ-ส่งข้ามสะพานมิตรภาพ ค่าบริการคนละ 20 บาท ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็มาถึงด่านเข้าประเทศลาว ทำเรื่องเขียนบัตรเข้าประเทศลาวเสียค่าเหยียบแผ่นดินคนละ45บาท และรับบัตรที่คล้ายๆบัตรรถไฟฟ้าเป็นบัตรผ่านเข้าสู่ประเทศลาวอย่างเป็นทางการ

หลังจากผ่านจุดนี้มาได้จะต้องเจอกับเหล่าสามล้อรับจ้าง,รถตู้รับส่ง เดินเข้ามาถามว่า “ตลาดเช้าบ่” ส่วนมากจะเป็นการเหมารถไปยังที่ต่างๆ ตามที่เราต้องการแต่ราคาก็สูงตามความสะดวกสะบาย ถ้าอยากประหยัดขึ้นอีกลองเดินตรงไปทางขวามือซัก200เมตรจะเห็นร้านค้าจะมีรถบัสแอร์สีเขียวคันใหญ่จอดอยู่รถ ปอ. คันนี้จะพาเราไปสู่ใจกลางเมืองหรือตลาดเช้า ด้วยราคาคนละ 20 บาท แต่ทริปนี้เราต้องหาตั๋วรถทัวร์จากเวียงจันทร์-ไปฮานอยก่อน จึงต้องเหมารถตู้ไปยังสถานีขนส่งสายใต้ ของเวียงจันทร์ ต่อราคารถตู้ได้ 400 บาท/หกคน ไปแบบไพรเวทถึงสายใต้เลยครับ ในภาพโชวเฟอร์คันที่เราเหมาครับ

ถึงสายใต้ปุ้บก้อมาเต็มเหมือนเดิมครับนายหน้าทั้งหลาย วิ่งเข้ารุมเราทั้งหกคน ถามสิไปไสๆ ก็ต้องตอบปฏิเสธไปตามระเบียบ เดินหาเองดีกว่า มีขายตั๋วแค่ไม่กี่ช่อง อยู่ซ้ายมือสุดเลยครับ เวียงจันทร์-ฮานอย รถออกประมาณ 19.30 น. ซื้อที่ช่องขายตั๋วชัวร์สุดครับ เลือกที่นั่งได้ รถนอนมาตรฐานมีห้องน้ำ มีWiFiบริการตลอดการเดินทาง (แต่บางคันไม่มีนะครับ) ค่าโดยสาร 200000 กีบ หรือประมาณ 800 บาท/คน จ่ายได้ทั้งเงินไทยบาทและเงินกีบครับ ได้ตั๋วครบแล้ว ยังมีเวลาอีกเยอะ ฝากกระเป๋าไว้ที่ช่องขายตั๋ว แล้วไปเที่ยวในตัวเมืองเวียงจันทร์กัน

จากสายใต้มีรถประจำทางเข้าเมืองครับ คนละ 3000 กีบ ตลอดสาย อย่าลืมบอกกระเป๋ารถเมล์นะว่าจะลงจุดไหน

ที่แรกในเวียงจันทร์เราเลือกไปลงที่ ประตูชัย เมืองเวียงจันทร์ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
ประตูชัยที่เวียงจันทร์เป็นเหมือนที่ประเทศฝรั่งเศษ เนื่องจากลาวเคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศษมาก่อน

สามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงได้ครับ แต่เราไม่ขึ้นไปเพราะกลัวความเสียวว เอ้ยยย ความสูง แต่เลือกที่จะมายืนถ่ายรูปกันกลางถนนกัน รอจังหวะที่รถติดไฟแดง เดินไปถ่ายกันกลางถนนกันเลยยย

อากาศบ่ายๆนี่ร้อนยิ่งนัก เดินหาร้านกาแฟนั่งอยู่นานประมาณสามกิโลได้(เพราะเดินอ้อม ฮ่าๆๆ เดินมาเจอร้านกาแฟดาว เอิ้นดาวกะด้าย อยู่ในตึกห้างสรรพสินค้าIT นั่งตากแอร์เย็นๆ รสชาติกาแฟเข้มใช้ได้เลยยแต่หวานไปนิด

เติมคาเฟอีนกันเรียบร้อยพร้อมลุยต่อ ด้วยสองเท้าเดินๆๆๆๆ แล้วก้อเดิน ไปวัดพระธาตุหลวง
ถามคนแถวนั้นบอกว่าอยู่ห่างจากประตูชัยประมาณ 1 กิโลเมตร ชายฉกรรณ์หกคน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที แต่ก้อเหนื่อยใช้ได้

ค่าเข้าชมคนละ 10000กีบ ภายในวัดจะมีเจดีย์สีทองขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เป็นจุดเด่น

หลังจากเดินชมรอบๆถ่ายรูปเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องกลับไปรอขึ้นรถที่สายใต้อีกครั้ง
ระหว่างรอเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นรถถ้าพอมีเวลาแนะนำให้ถามร้านค้าแถวนั้น แล้วถามหารีสอร์ทใกล้ๆ เพื่อที่จะอาบน้ำให้สดชื่นก่อนขึ้นรถจะดีกว่า เพราะว่ารถที่เราจะไปฮานอนยนั้นใช้เวลาถึง 24 ชม. เลยนะคร้าบบบ

ก่อนขึ้นรถอย่าลืมตุนของกินและน้ำดื่มไว้ด้วยนะครับเผื่อหิว และอีกอย่างคือแปรงสีฟัน ผ้าผืนเล็กๆไว้เช็ดหน้าตอนเช้าของวันรุ่นขึ้น
รถจะถึงด่านพรมแดนน้ำพาว ประมาณ ตี 2 เราก็ต้องนอนรอบนรถจนกว่าจะเช้า เด็กรถจะเรียกเราเอง

คันนี้แหลครับ จะพาเราไปฮานอย สภาพรถภายนอกใหม่ สีสันสดใส เป็นรถนอนของบริษัทจากประเทศเวียดนาม
ส่วนมากคนขับและเด็กรถจะพูดลาวได้นิดหน่อย ภาษามือเริ่มได้ใช้ละคับ ฮ่าาาา

เผื่อใครจะไปลองสอบถามบริษัทนี้ได้นะครับ ที่สถานีขนส่งสายใต้เวียงจันทร์

นี่แหละครับที่นอนของเรา ภายในรถเป็นเตียงสองชั้น ขนาดกว้างพอดีตัว ยาวพอดีขาสำหรับผม174ซม. พร้อมผ้าห่ม 1 ผืน น้ำเปล่า 1 ขวด
ในนี้ฟรี WiFi ตลอดเส้นทางครับ ไม่พลาดสำหรับการติดต่อโลกโซเชียลแน่ๆ เตรียมพาวเวอร์แบงค์มาให้พร้อม หูฟังให้ครบ เราจะต้องอยู่บนรถคันนี้ 24 ชม. สำหรับวันแรกนี้ปิดท้ายวันแรกบนรถคันนี้นะครับ พรุ่งนี้รอติดตามตอนต่อไปได้เลยครับ
[CR] เก็บกระเป๋านั่งรถข้ามภูเขา 2 ประเทศ ลาว-เวียดนาม-ฮานอย-ซาปา-ฮาลองเบย์ Six People Follow Me @ Vietnam
ต้องขอขอบคุณทุกๆคำตอบครับ จากที่วางแผนไว้ทั้งหมด 9 วัน กับการเที่ยวเวียดนามเหนือและเวียดนามกลาง
มีการปรับเปลี่ยนแผนกันเนื่องจากข้อจำกัดเรื่องงบประมาณและการเดินทางเล็กน้อย
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่านี่คือครั้งแรกที่เขียนรีวิวในพันทิป อาจจะมีผิดพลาดบ้างนะครับ
เริ่มแรกทริปนี้เกิดจากความตั้งใจของกลุ่มเพื่อนสมัยมัธยมที่มีอุดมการณ์เดียวกันที่อยากจะออกเดินทางไปเปิดโลกกว้างโดยการไปแบบแบ็คแพ็คเกอร์ เดินทางด้วยรถ เป็นการแบ็คแพ็คครั้งแรกของพวกเราทั้งหมดหกคน มีแพลนคร่าวๆ แต่ไม่มีการจองตั๋วและโรงแรมล่วงหน้า สื่อสารภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยบางคนไม่รู้เรื่องเลย ฮ่าๆๆๆ ... แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา คิดที่จะลุยก็ต้องลุยไปด้วยกัน ทริปนี้แพลนไว้คร่าวๆ ประมาณ 8 วัน โดยรถประจำทางเท่านั้น
รอติดตามนะครับจะเล่าเรื่องราว การผจญภัย ในเวียดนาม และรูปภาพสวยๆ ให้ชมกันครับ
ปล. หัวข้อกระทู้นี้มีที่มา เดี๋ยวเล่าให้ฟังครับ
วันแรกของการเดินทางพวกเรานัดเจอกันตอนเช้าที่ จ.หนองคาย เพื่อที่จะข้ามแดนที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ทำเรื่องแจ้งออกจากประเทศไทยที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ ใช้เวลาไม่นานนักเพราะคนไม่เยอะเท่าไหร่
จากด่านไทยข้ามไปฝั่งลาวจะมีรถมินิบัสรับ-ส่งข้ามสะพานมิตรภาพ ค่าบริการคนละ 20 บาท ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็มาถึงด่านเข้าประเทศลาว ทำเรื่องเขียนบัตรเข้าประเทศลาวเสียค่าเหยียบแผ่นดินคนละ45บาท และรับบัตรที่คล้ายๆบัตรรถไฟฟ้าเป็นบัตรผ่านเข้าสู่ประเทศลาวอย่างเป็นทางการ
ถึงสายใต้ปุ้บก้อมาเต็มเหมือนเดิมครับนายหน้าทั้งหลาย วิ่งเข้ารุมเราทั้งหกคน ถามสิไปไสๆ ก็ต้องตอบปฏิเสธไปตามระเบียบ เดินหาเองดีกว่า มีขายตั๋วแค่ไม่กี่ช่อง อยู่ซ้ายมือสุดเลยครับ เวียงจันทร์-ฮานอย รถออกประมาณ 19.30 น. ซื้อที่ช่องขายตั๋วชัวร์สุดครับ เลือกที่นั่งได้ รถนอนมาตรฐานมีห้องน้ำ มีWiFiบริการตลอดการเดินทาง (แต่บางคันไม่มีนะครับ) ค่าโดยสาร 200000 กีบ หรือประมาณ 800 บาท/คน จ่ายได้ทั้งเงินไทยบาทและเงินกีบครับ ได้ตั๋วครบแล้ว ยังมีเวลาอีกเยอะ ฝากกระเป๋าไว้ที่ช่องขายตั๋ว แล้วไปเที่ยวในตัวเมืองเวียงจันทร์กัน
จากสายใต้มีรถประจำทางเข้าเมืองครับ คนละ 3000 กีบ ตลอดสาย อย่าลืมบอกกระเป๋ารถเมล์นะว่าจะลงจุดไหน
ที่แรกในเวียงจันทร์เราเลือกไปลงที่ ประตูชัย เมืองเวียงจันทร์ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
ประตูชัยที่เวียงจันทร์เป็นเหมือนที่ประเทศฝรั่งเศษ เนื่องจากลาวเคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศษมาก่อน
สามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงได้ครับ แต่เราไม่ขึ้นไปเพราะกลัวความเสียวว เอ้ยยย ความสูง แต่เลือกที่จะมายืนถ่ายรูปกันกลางถนนกัน รอจังหวะที่รถติดไฟแดง เดินไปถ่ายกันกลางถนนกันเลยยย
อากาศบ่ายๆนี่ร้อนยิ่งนัก เดินหาร้านกาแฟนั่งอยู่นานประมาณสามกิโลได้(เพราะเดินอ้อม ฮ่าๆๆ เดินมาเจอร้านกาแฟดาว เอิ้นดาวกะด้าย อยู่ในตึกห้างสรรพสินค้าIT นั่งตากแอร์เย็นๆ รสชาติกาแฟเข้มใช้ได้เลยยแต่หวานไปนิด
เติมคาเฟอีนกันเรียบร้อยพร้อมลุยต่อ ด้วยสองเท้าเดินๆๆๆๆ แล้วก้อเดิน ไปวัดพระธาตุหลวง
ถามคนแถวนั้นบอกว่าอยู่ห่างจากประตูชัยประมาณ 1 กิโลเมตร ชายฉกรรณ์หกคน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที แต่ก้อเหนื่อยใช้ได้
ค่าเข้าชมคนละ 10000กีบ ภายในวัดจะมีเจดีย์สีทองขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เป็นจุดเด่น
หลังจากเดินชมรอบๆถ่ายรูปเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องกลับไปรอขึ้นรถที่สายใต้อีกครั้ง
ระหว่างรอเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นรถถ้าพอมีเวลาแนะนำให้ถามร้านค้าแถวนั้น แล้วถามหารีสอร์ทใกล้ๆ เพื่อที่จะอาบน้ำให้สดชื่นก่อนขึ้นรถจะดีกว่า เพราะว่ารถที่เราจะไปฮานอนยนั้นใช้เวลาถึง 24 ชม. เลยนะคร้าบบบ
ก่อนขึ้นรถอย่าลืมตุนของกินและน้ำดื่มไว้ด้วยนะครับเผื่อหิว และอีกอย่างคือแปรงสีฟัน ผ้าผืนเล็กๆไว้เช็ดหน้าตอนเช้าของวันรุ่นขึ้น
รถจะถึงด่านพรมแดนน้ำพาว ประมาณ ตี 2 เราก็ต้องนอนรอบนรถจนกว่าจะเช้า เด็กรถจะเรียกเราเอง
คันนี้แหลครับ จะพาเราไปฮานอย สภาพรถภายนอกใหม่ สีสันสดใส เป็นรถนอนของบริษัทจากประเทศเวียดนาม
ส่วนมากคนขับและเด็กรถจะพูดลาวได้นิดหน่อย ภาษามือเริ่มได้ใช้ละคับ ฮ่าาาา
เผื่อใครจะไปลองสอบถามบริษัทนี้ได้นะครับ ที่สถานีขนส่งสายใต้เวียงจันทร์
นี่แหละครับที่นอนของเรา ภายในรถเป็นเตียงสองชั้น ขนาดกว้างพอดีตัว ยาวพอดีขาสำหรับผม174ซม. พร้อมผ้าห่ม 1 ผืน น้ำเปล่า 1 ขวด
ในนี้ฟรี WiFi ตลอดเส้นทางครับ ไม่พลาดสำหรับการติดต่อโลกโซเชียลแน่ๆ เตรียมพาวเวอร์แบงค์มาให้พร้อม หูฟังให้ครบ เราจะต้องอยู่บนรถคันนี้ 24 ชม. สำหรับวันแรกนี้ปิดท้ายวันแรกบนรถคันนี้นะครับ พรุ่งนี้รอติดตามตอนต่อไปได้เลยครับ