ก่อนหน้านี้เราได้คุยกันเกี่ยวกับการใช้โคมไฟ 1 ดวง ถ่ายของบนโต๊ะแบบง่ายๆ กันไปแล้ว
อันนั้นเป็นแทคนิคที่ไม่ซับซ้อนอะไร
พี่หาวแนะนำไว้ เพื่อช่วยในการทำความเข้าใจกับแสงแบบง่าย
เน้นการมองทิศทางแสงเป็นหลัก
ในตอนนี้จะมีเรื่องราวอื่นๆ เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อให้เราได้เข้าใจในการควบคุมแสงมากขึ้น
รวมถึงการใช้เลนส์ และการควบคุมฉากหลัง
พี่หาวใช้การถ่ายขนมเป็นตัวอย่าง เพราะขนมไม่ใช่อาหารที่ต้องวุ่นวายในการเตรียมมาก
ขนมที่พี่หาวเอามาใช้ เป็น Muffin เล็กๆ ซื้อมาจากร้านชิ้นละ 5 บาท
ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก ... สามารถใช้ของที่มีอยู่ในบ้านมาประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน
เรื่องของกล้องและเลนส์ พี่หาวทำตัวอย่างให้ด้วยเลนส์ 3 ตัว
คือ เลนส์ Macro ช่วง 100mm F/2.8
เลนส์ Normal 50mm F/1.4
และสุดท้ายเป็นเลนส์ Kit 18-55 F 3.5-5.6 IS STM ซึ่งเป็นเลนส์ที่ติดกล้องทั่วๆไป
เพื่อให้เห็นว่าเราสามารถทำงานได้ โดยไม่ต้องไปวุ่นวายกับอุปกรณ์มาก
ถ้าเราเข้าใจ เรื่องการจัดวางองค์ประกอบ การควบคุมแสง รวมถึงระยะเลนส์ที่เราใช้
เราก็สามารถสร้างสรรคผลงานให้ออกมาดูดีได้
เอาหละ พร้อมแล้วเรามาเริ่มกัน
เริ่มต้นที่ ... [แสง]
พี่หาวใช้แสงจากหน้าต่างในห้องทำงาน ... และทิศทางของแสงที่อยากได้
เป็นแสงที่มาเฉียงๆ จากทางด้านหลังของตัวแบบ
เป็นการถ่ายในลักษณะย้อนแสงนิดๆ ... แต่ในงานนี้จะไม่ย้อนแบบตรงๆ
เพราะว่าเราจะมีการกดมุมกล้องเข้าช่วย
หน้าต่างจะไม่เข้ามาอยู่ใน Frame ของภาพ หลีกเลี่ยงการถ่ายให้เห็นแหล่งกำเนิดแสง
ตอนนี้เราได้แสงหลักหรือ Main Light แล้วนะ ... ซึ่งเป็นแสงจากหน้าต่างง่ายๆ
แต่ยังมีเรื่องการใช้ควบคุมแสง และการใช้แสงอื่นช่วยในงานนี้ด้วย
แต่พี่หาวขออธิบายเรื่องอื่นๆก่อน แล้วค่อยกลับมาดูเรื่องแสงอีกที
อ่อ ... พี่หาวลืมบอกไปเรื่องนึงคือ พี่หาวถ่ายตอนเช้า หน้าต่างบานนี้อยู่ทางทิศตะวันตกของบ้าน
เพราะฉะนั้นจะไม่มีแดดส่องผ่านมาตรงๆนะครับ
ทำให้เราได้แสงที่นุ่มนวล เหมาะกับขนมที่เราจะถ่ายพอดิบพอดี
....
ต่อมาคือเรื่องการจัดวาง ...
พี่หาวไปซื้อหน้าต่างเก่า จากร้านขายไม้เก่าแถวอ่อนนุช ... มาวางเป็นพื้นสำหรับถ่าย
... เพราะพื้นผิวของไม้เก่า เวลาเอามาถ่ายพวกอาหาร หรือขนม
มันค่อนข้างให้อารมณืที่อบอุ่นดูเป็นธรรมชาติ
เหมือนขนมของเราเพิ่งออกมาจากเตาอบแล้ววางบนโต๊ะไม้ในครัว
หน้าต่างแบบนี้ไม่แพงนะครับ พี่หาว ซื้อทีก็ 2-3 บาน เลือกพื้นผิว และสีสันของไม้ คละๆกันไป
... บานละ 100-200 บาท แล้วแต่ขนาด และความสมบูรณ์ของไม้
ซึ่งพี่หาวไม่ได้ต้องการความสมบูรณ์อะไรอยู่แล้ว
บางทียิ่งเก่า ยิ่งดูดีดว้ยนะ
... ตัวขนมบอกไปแล้วนะว่าซื้อจากร้านชิ้นละ 5 บาท ซื้อมา 9 ชิ้น ...
... เพื่อมาวางบนถาดสี่เหลี่ยมจตุรัสเหล็กสีเงิน ซึ่งซื้อจากร้าน Daiso 60 บาท
ช้อนที่วางเป็นองค์ประกอบก็ซื้อจาก Daiso เช่นกัน
...
ส่วนฉากหลัง ... พี่หาวไม่ต้องการอะไรมาก
อยากได้โทนทึมๆ กลมกลืนกับโทนสีของขนม
... ก็เลยไปหาเสื้อเชิ๊ตสีน้ำตาลของพี่หาวมาวางเอาไว้บนกระเป๋ากล้อง
แล้วพยายามทำให้มันเป็นพื้นผิวที่ให้แสงเงาไม่เท่ากัน ...
เวลาถ่ายเราเปิดหน้ากล้องกว้างๆ ก็ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นเสื้อเชิ๊ต แหะ แหะ
.....
ตอนนี้เราจะมาเริ่มควบคุมแสงกันแล้วนะ ... น้องๆพยายามดูรูป อ่านคำอธิบายของพี่หาว แล้วค่อยๆคิดตามไปด้วยนะครับ
รูปหมายเลข 1
เป็นรูปที่พี่หาวใช้แสงจากหน้าต่าง ไม่ได้จัดวางแสงอะไรเพิ่มเติม
... ตัวแบบได้รับแสงที่เป็น Ambient ของห้องทำงานพี่หาวอย่างเต็มที่
ประมาณว่าเปิดโล่งรับแสงในห้องเต็มที่
ซึ่งก็ดูดีนะครับ ... จะจบงานตรงนี้เลยก็ได้
แต่พี่หาวอยากแนะนำให้เห็นเรื่องการควบคุมแสง พี่หาวเลยยังไม่จบตรงนี้
เลยต้องดูที่ภาพที่ [2] ต่อ
ภาพที่สองนี้ พี่หาวเอาโฟมมาวางตรงข้ามหน้าต่างซึ่งเป็นแสงหลัก
ซึ่งโฟมในรูปนี้จะทำหน้าที่ 2 อย่างคือ
1.สะท้อนแสงจากหน้าต่างเข้าไปที่ตัวขนม ซึ่งให้แงาด้านหน้าขนมสว่าง และได้แสงนุ่มๆยิงไปที่ขนม
2.โฟมจะทำหน้าที่กันแสงจากหน้าต่างอีกบานทางด้านซ้ายของห้องพี่หาว
ไม่ให้เขามาแข่งกับแสงจากหน้าต่างหลักที่ใช้
ทำให้ตอนนี้เรามีแสงหลักจากหน้าต่างบานเดียว และมี Fill Light เป็นโฟมที่สะท้อนกลับไป
... ตอนนี้เราเริ่มควบคุมแสงได้บ้างแล้วเนอะ ...
แต่พี่หาวก็ยังไม่ชอบแสงที่เข้ามากระทบกับด้านขวาของขนม
พี่หาวว่ามันแรงไป ... รวมถึงตัวฉากหลังที่ดูสว่างไปหน่อย
ก็เลยเป็นที่มาของผ้ากำมะหยี่สีดำภาพนี้
พี่หาวเอาผ้าสีดำมาแขวนบนราวไมโครโฟน แล้วบังแสงจากประตูบานใหญ่ในห้อง
ที่ติดอยู่กับหน้าต่างซึ่งเป็นแสงหลักของเรา
ที่ทำเช่นนี้เพราะว่าไม่ต้องการให้แสงจากประตู ส่องไปที่ขนม
และการกั้นแสงจากประตูก็ทำให้แสงที่ฉากหลังบริเวณเสื้อมีความสว่างน้อยลงด้วย
....
รูปที่ 3 กับรูปที่ 4 ต่างกันที่ รูปที่ 3 ไม่ได้ใช้โฟมสะท้อน
รูปที่ 4 ใช้โฟมสะท้อนเป็น Fill Light ....
....
ตอนนี้เรามาร้อง .... ว้าว! ดังๆพร้อมกัน
ใช้อุปกรณ์ง่ายๆที่หาได้ทั่วไป ... ก็สามารถทำงานให้ออกมาดูดีได้เหมือนกัน ... แฮะ
แต่ยังไม่หมดครับ ... ถ้าเราไม่มีเลนส์ 100mm Macro แบบพี่หาว
จะถ่ายแบบนี้ได้หรือเปล่า ...
ได้ครับ ...แต่เราต้องมีการจัดวางมุมกล้องแล้วองค์ประกอบใหม่
ตัวแสงไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับมันแล้ว
แต่เปลี่ยนเลนส์ แล้วลองวางมุมกล้องแบบต่างๆดู เช่น
ถ้าเราเปลี่ยนเป็นใช้เลนส์ 50mm ซึ่งมีทางยาวโฟกัสสั้นกว่า 100mm
ถ้าเราวางกล้องไปที่เดิม ... จะทำให้ตัวแบบเล็กลง และฉากหลัง เข้ามาเยอะแยะมากมาย
เหมือนในภาพตัวอย่างหมายเลข 1
ถ้าอยากให้ตัวแบบใหญ่ขึ้น เราก็ต้องขยับกล้องเข้าไปมากขึ้นกว่าเดิม
การทำแบบนี้จะได้ฉากหลังที่แคบลงตามไปด้วย เหมือนภาพตัวอย่างหมายเลข 2
หรือจะวางองค์ประกอบใหม่ แล้วถ่ายมาเหมือนภาพตัวอย่างหมายเลข 3 ก็ได้ครับ
^ ภาพนี้ใช้ 100mm Macro จะเห็นว่าวางกล้องซะไกลเลย
^ภาพนี้ใช้ 50mm F/1.4 จะเห็นว่ามีการขยับกล้องเข้าใกล้ตัวแบบมากขึ้น
...................................................................................................................
และสำหรับใครที่ไม่มีทั้ง 100mm Macro และ 50mm
จะลองถ่ายจากเลนส์ Kit 18-55mm ที่ติดมากับกล้องตอนซื้อก็ได้นะครับ
พี่หาวลองถ่ายมาเป็นตัวอย่างโดยตั้งระยะเลนส์ไว้ที่ 55mm
แล้วปิด F ไว้ที่ 5.6 ....
ก็สามารถถ่ายได้เหมือนในรูปข้างล่างนี้
และข้อดีของพวกเลนส์ Kit 18-55mm ก็คือมันสามารถที่จะเป็น Macro ได้ด้วย
อย่างตัวที่พี่หาวมี สามารถถ่ายได้ใกล้สุด 25cm ...
เราอาจนำเสนอขนมของเราในมุมอื่นๆได้อีกเยอะเลยครับ
เป็นไงบ้างครับ .... การถ่ายภาพมันมีเรื่องสนุกๆเยอะแยะให้เราได้เล่นได้ลอง
... ค่อยๆทำความเข้าใจ และค่อยๆฝึกฝนครับ
การควบคุมกล้องมันไม่ใช่เรื่องยากอะไร
พอรู้แล้วมันก็ไม่มีอะไร
แต่การทำงานกับแสง การจัดวางองค์ประกอบ
มันมีให้เราเรียนรู้ได้อีกเรื่อยๆ ... พอเราชำนาญก็จะยิ่งสนุก
สามารถประยุกต์เอาไปถ่ายอะไรต่างๆได้อย่างไม่รู้จบครับ
ก่อนจะจากกันพี่หาวขอลงรายละเอียดของอุปกรณ์กับการปรับค่าเอาไว้ให้แล้วกันนะครับ
Camera : Canon EOS 70D
Lens :
-Canon 100mm Macro F2.8 (ตัวเก่า)
-Sigma 50mm F1.4 DG HSM Art
-Canon 18-55mm F3.5-5.6 IS STM
ขาตั้ง : Manfrotto 190T Cabon + หัวบอลรุ่นอะไรจำไม่ได้
อันนี้จำเป็นมากนะครับ ต้องมีไม่งั้นจะถ่ายงานแบบนี้ยากมากๆ
เพราะเราต้องตั้งกล้องไว้ จัดแสง จัดวางองค์ประกอบ
และเราต้องใช้ ISO ต่ำๆ ทำให้แสงแบบนี้ได้ Speed Shutter ที่ต่ำถือด้วยมือไม่ไหว
Remote Shutter : Canon RC-6
พี่หาวใช้ Remote เพราะว่าจะช่วยทำให้กล้องนิ่งไม่ต้องไปกดปุ่ม Shutter บนกล้อง
และช่วยในเรื่องของการทำงานระยะไกล
จัดของบนโต๊ะ หันจอ LCD มาที่เรา มองว่าได้หรือยัง
ถ้าได้แล้วก็ใช้ Remote กดถ่ายได้เลย
ตั้งกล้องไว้ที่ Mode Av เลือกรูรับแสง กว้างๆหน่อย เพื่อให้ได้ระยะชัดลึกที่ต้องการ
เปิด ISO 100 (ต่ำสุด) เพื่อให้ได้ภาพที่มี Noise น้อยๆ
ส่วน Speed Shutter ก็ ... ปล่อยให้กล้องคำนวณไป
Metering Mode : ใช้แบบเฉลี่ยน มืดหรือสว่างไว้ใช้ชดเชยแสง +/- เข้าช่วย
....
ภาพที่ได้มาพี่หาวเอามาปรับใน Lightroom ทำโทนนิดหน่อย เพื่อให้ได้โทนสี และอารมณ์แบบฟิล์มนิดๆ
ตามรูปครับ
ในตอนนี้พี่หาวขอลาไปก่อนนะครับ ... ไว้จะหาอะไรสนุกๆมาแนะนำอีกเรื่อยๆนะครับ
[แสง] ถ่ายขนมด้วยแสงธรรมชาติ [1]
ก่อนหน้านี้เราได้คุยกันเกี่ยวกับการใช้โคมไฟ 1 ดวง ถ่ายของบนโต๊ะแบบง่ายๆ กันไปแล้ว
อันนั้นเป็นแทคนิคที่ไม่ซับซ้อนอะไร
พี่หาวแนะนำไว้ เพื่อช่วยในการทำความเข้าใจกับแสงแบบง่าย
เน้นการมองทิศทางแสงเป็นหลัก
ในตอนนี้จะมีเรื่องราวอื่นๆ เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อให้เราได้เข้าใจในการควบคุมแสงมากขึ้น
รวมถึงการใช้เลนส์ และการควบคุมฉากหลัง
พี่หาวใช้การถ่ายขนมเป็นตัวอย่าง เพราะขนมไม่ใช่อาหารที่ต้องวุ่นวายในการเตรียมมาก
ขนมที่พี่หาวเอามาใช้ เป็น Muffin เล็กๆ ซื้อมาจากร้านชิ้นละ 5 บาท
ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก ... สามารถใช้ของที่มีอยู่ในบ้านมาประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน
เรื่องของกล้องและเลนส์ พี่หาวทำตัวอย่างให้ด้วยเลนส์ 3 ตัว
คือ เลนส์ Macro ช่วง 100mm F/2.8
เลนส์ Normal 50mm F/1.4
และสุดท้ายเป็นเลนส์ Kit 18-55 F 3.5-5.6 IS STM ซึ่งเป็นเลนส์ที่ติดกล้องทั่วๆไป
เพื่อให้เห็นว่าเราสามารถทำงานได้ โดยไม่ต้องไปวุ่นวายกับอุปกรณ์มาก
ถ้าเราเข้าใจ เรื่องการจัดวางองค์ประกอบ การควบคุมแสง รวมถึงระยะเลนส์ที่เราใช้
เราก็สามารถสร้างสรรคผลงานให้ออกมาดูดีได้
เอาหละ พร้อมแล้วเรามาเริ่มกัน
เริ่มต้นที่ ... [แสง]
พี่หาวใช้แสงจากหน้าต่างในห้องทำงาน ... และทิศทางของแสงที่อยากได้
เป็นแสงที่มาเฉียงๆ จากทางด้านหลังของตัวแบบ
เป็นการถ่ายในลักษณะย้อนแสงนิดๆ ... แต่ในงานนี้จะไม่ย้อนแบบตรงๆ
เพราะว่าเราจะมีการกดมุมกล้องเข้าช่วย
หน้าต่างจะไม่เข้ามาอยู่ใน Frame ของภาพ หลีกเลี่ยงการถ่ายให้เห็นแหล่งกำเนิดแสง
ตอนนี้เราได้แสงหลักหรือ Main Light แล้วนะ ... ซึ่งเป็นแสงจากหน้าต่างง่ายๆ
แต่ยังมีเรื่องการใช้ควบคุมแสง และการใช้แสงอื่นช่วยในงานนี้ด้วย
แต่พี่หาวขออธิบายเรื่องอื่นๆก่อน แล้วค่อยกลับมาดูเรื่องแสงอีกที
อ่อ ... พี่หาวลืมบอกไปเรื่องนึงคือ พี่หาวถ่ายตอนเช้า หน้าต่างบานนี้อยู่ทางทิศตะวันตกของบ้าน
เพราะฉะนั้นจะไม่มีแดดส่องผ่านมาตรงๆนะครับ
ทำให้เราได้แสงที่นุ่มนวล เหมาะกับขนมที่เราจะถ่ายพอดิบพอดี
....
ต่อมาคือเรื่องการจัดวาง ...
พี่หาวไปซื้อหน้าต่างเก่า จากร้านขายไม้เก่าแถวอ่อนนุช ... มาวางเป็นพื้นสำหรับถ่าย
... เพราะพื้นผิวของไม้เก่า เวลาเอามาถ่ายพวกอาหาร หรือขนม
มันค่อนข้างให้อารมณืที่อบอุ่นดูเป็นธรรมชาติ
เหมือนขนมของเราเพิ่งออกมาจากเตาอบแล้ววางบนโต๊ะไม้ในครัว
หน้าต่างแบบนี้ไม่แพงนะครับ พี่หาว ซื้อทีก็ 2-3 บาน เลือกพื้นผิว และสีสันของไม้ คละๆกันไป
... บานละ 100-200 บาท แล้วแต่ขนาด และความสมบูรณ์ของไม้
ซึ่งพี่หาวไม่ได้ต้องการความสมบูรณ์อะไรอยู่แล้ว
บางทียิ่งเก่า ยิ่งดูดีดว้ยนะ
... ตัวขนมบอกไปแล้วนะว่าซื้อจากร้านชิ้นละ 5 บาท ซื้อมา 9 ชิ้น ...
... เพื่อมาวางบนถาดสี่เหลี่ยมจตุรัสเหล็กสีเงิน ซึ่งซื้อจากร้าน Daiso 60 บาท
ช้อนที่วางเป็นองค์ประกอบก็ซื้อจาก Daiso เช่นกัน
...
ส่วนฉากหลัง ... พี่หาวไม่ต้องการอะไรมาก
อยากได้โทนทึมๆ กลมกลืนกับโทนสีของขนม
... ก็เลยไปหาเสื้อเชิ๊ตสีน้ำตาลของพี่หาวมาวางเอาไว้บนกระเป๋ากล้อง
แล้วพยายามทำให้มันเป็นพื้นผิวที่ให้แสงเงาไม่เท่ากัน ...
เวลาถ่ายเราเปิดหน้ากล้องกว้างๆ ก็ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นเสื้อเชิ๊ต แหะ แหะ
.....
ตอนนี้เราจะมาเริ่มควบคุมแสงกันแล้วนะ ... น้องๆพยายามดูรูป อ่านคำอธิบายของพี่หาว แล้วค่อยๆคิดตามไปด้วยนะครับ
รูปหมายเลข 1
เป็นรูปที่พี่หาวใช้แสงจากหน้าต่าง ไม่ได้จัดวางแสงอะไรเพิ่มเติม
... ตัวแบบได้รับแสงที่เป็น Ambient ของห้องทำงานพี่หาวอย่างเต็มที่
ประมาณว่าเปิดโล่งรับแสงในห้องเต็มที่
ซึ่งก็ดูดีนะครับ ... จะจบงานตรงนี้เลยก็ได้
แต่พี่หาวอยากแนะนำให้เห็นเรื่องการควบคุมแสง พี่หาวเลยยังไม่จบตรงนี้
เลยต้องดูที่ภาพที่ [2] ต่อ
ภาพที่สองนี้ พี่หาวเอาโฟมมาวางตรงข้ามหน้าต่างซึ่งเป็นแสงหลัก
ซึ่งโฟมในรูปนี้จะทำหน้าที่ 2 อย่างคือ
1.สะท้อนแสงจากหน้าต่างเข้าไปที่ตัวขนม ซึ่งให้แงาด้านหน้าขนมสว่าง และได้แสงนุ่มๆยิงไปที่ขนม
2.โฟมจะทำหน้าที่กันแสงจากหน้าต่างอีกบานทางด้านซ้ายของห้องพี่หาว
ไม่ให้เขามาแข่งกับแสงจากหน้าต่างหลักที่ใช้
ทำให้ตอนนี้เรามีแสงหลักจากหน้าต่างบานเดียว และมี Fill Light เป็นโฟมที่สะท้อนกลับไป
... ตอนนี้เราเริ่มควบคุมแสงได้บ้างแล้วเนอะ ...
แต่พี่หาวก็ยังไม่ชอบแสงที่เข้ามากระทบกับด้านขวาของขนม
พี่หาวว่ามันแรงไป ... รวมถึงตัวฉากหลังที่ดูสว่างไปหน่อย
ก็เลยเป็นที่มาของผ้ากำมะหยี่สีดำภาพนี้
พี่หาวเอาผ้าสีดำมาแขวนบนราวไมโครโฟน แล้วบังแสงจากประตูบานใหญ่ในห้อง
ที่ติดอยู่กับหน้าต่างซึ่งเป็นแสงหลักของเรา
ที่ทำเช่นนี้เพราะว่าไม่ต้องการให้แสงจากประตู ส่องไปที่ขนม
และการกั้นแสงจากประตูก็ทำให้แสงที่ฉากหลังบริเวณเสื้อมีความสว่างน้อยลงด้วย
....
รูปที่ 3 กับรูปที่ 4 ต่างกันที่ รูปที่ 3 ไม่ได้ใช้โฟมสะท้อน
รูปที่ 4 ใช้โฟมสะท้อนเป็น Fill Light ....
....
ตอนนี้เรามาร้อง .... ว้าว! ดังๆพร้อมกัน
ใช้อุปกรณ์ง่ายๆที่หาได้ทั่วไป ... ก็สามารถทำงานให้ออกมาดูดีได้เหมือนกัน ... แฮะ
แต่ยังไม่หมดครับ ... ถ้าเราไม่มีเลนส์ 100mm Macro แบบพี่หาว
จะถ่ายแบบนี้ได้หรือเปล่า ...
ได้ครับ ...แต่เราต้องมีการจัดวางมุมกล้องแล้วองค์ประกอบใหม่
ตัวแสงไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับมันแล้ว
แต่เปลี่ยนเลนส์ แล้วลองวางมุมกล้องแบบต่างๆดู เช่น
ถ้าเราเปลี่ยนเป็นใช้เลนส์ 50mm ซึ่งมีทางยาวโฟกัสสั้นกว่า 100mm
ถ้าเราวางกล้องไปที่เดิม ... จะทำให้ตัวแบบเล็กลง และฉากหลัง เข้ามาเยอะแยะมากมาย
เหมือนในภาพตัวอย่างหมายเลข 1
ถ้าอยากให้ตัวแบบใหญ่ขึ้น เราก็ต้องขยับกล้องเข้าไปมากขึ้นกว่าเดิม
การทำแบบนี้จะได้ฉากหลังที่แคบลงตามไปด้วย เหมือนภาพตัวอย่างหมายเลข 2
หรือจะวางองค์ประกอบใหม่ แล้วถ่ายมาเหมือนภาพตัวอย่างหมายเลข 3 ก็ได้ครับ
^ ภาพนี้ใช้ 100mm Macro จะเห็นว่าวางกล้องซะไกลเลย
^ภาพนี้ใช้ 50mm F/1.4 จะเห็นว่ามีการขยับกล้องเข้าใกล้ตัวแบบมากขึ้น
...................................................................................................................
และสำหรับใครที่ไม่มีทั้ง 100mm Macro และ 50mm
จะลองถ่ายจากเลนส์ Kit 18-55mm ที่ติดมากับกล้องตอนซื้อก็ได้นะครับ
พี่หาวลองถ่ายมาเป็นตัวอย่างโดยตั้งระยะเลนส์ไว้ที่ 55mm
แล้วปิด F ไว้ที่ 5.6 ....
ก็สามารถถ่ายได้เหมือนในรูปข้างล่างนี้
และข้อดีของพวกเลนส์ Kit 18-55mm ก็คือมันสามารถที่จะเป็น Macro ได้ด้วย
อย่างตัวที่พี่หาวมี สามารถถ่ายได้ใกล้สุด 25cm ...
เราอาจนำเสนอขนมของเราในมุมอื่นๆได้อีกเยอะเลยครับ
เป็นไงบ้างครับ .... การถ่ายภาพมันมีเรื่องสนุกๆเยอะแยะให้เราได้เล่นได้ลอง
... ค่อยๆทำความเข้าใจ และค่อยๆฝึกฝนครับ
การควบคุมกล้องมันไม่ใช่เรื่องยากอะไร
พอรู้แล้วมันก็ไม่มีอะไร
แต่การทำงานกับแสง การจัดวางองค์ประกอบ
มันมีให้เราเรียนรู้ได้อีกเรื่อยๆ ... พอเราชำนาญก็จะยิ่งสนุก
สามารถประยุกต์เอาไปถ่ายอะไรต่างๆได้อย่างไม่รู้จบครับ
ก่อนจะจากกันพี่หาวขอลงรายละเอียดของอุปกรณ์กับการปรับค่าเอาไว้ให้แล้วกันนะครับ
Camera : Canon EOS 70D
Lens :
-Canon 100mm Macro F2.8 (ตัวเก่า)
-Sigma 50mm F1.4 DG HSM Art
-Canon 18-55mm F3.5-5.6 IS STM
ขาตั้ง : Manfrotto 190T Cabon + หัวบอลรุ่นอะไรจำไม่ได้
อันนี้จำเป็นมากนะครับ ต้องมีไม่งั้นจะถ่ายงานแบบนี้ยากมากๆ
เพราะเราต้องตั้งกล้องไว้ จัดแสง จัดวางองค์ประกอบ
และเราต้องใช้ ISO ต่ำๆ ทำให้แสงแบบนี้ได้ Speed Shutter ที่ต่ำถือด้วยมือไม่ไหว
Remote Shutter : Canon RC-6
พี่หาวใช้ Remote เพราะว่าจะช่วยทำให้กล้องนิ่งไม่ต้องไปกดปุ่ม Shutter บนกล้อง
และช่วยในเรื่องของการทำงานระยะไกล
จัดของบนโต๊ะ หันจอ LCD มาที่เรา มองว่าได้หรือยัง
ถ้าได้แล้วก็ใช้ Remote กดถ่ายได้เลย
ตั้งกล้องไว้ที่ Mode Av เลือกรูรับแสง กว้างๆหน่อย เพื่อให้ได้ระยะชัดลึกที่ต้องการ
เปิด ISO 100 (ต่ำสุด) เพื่อให้ได้ภาพที่มี Noise น้อยๆ
ส่วน Speed Shutter ก็ ... ปล่อยให้กล้องคำนวณไป
Metering Mode : ใช้แบบเฉลี่ยน มืดหรือสว่างไว้ใช้ชดเชยแสง +/- เข้าช่วย
....
ภาพที่ได้มาพี่หาวเอามาปรับใน Lightroom ทำโทนนิดหน่อย เพื่อให้ได้โทนสี และอารมณ์แบบฟิล์มนิดๆ
ตามรูปครับ
ในตอนนี้พี่หาวขอลาไปก่อนนะครับ ... ไว้จะหาอะไรสนุกๆมาแนะนำอีกเรื่อยๆนะครับ