ที่บ้านคิดยังไงเมื่อรู้ว่าเป็น(เกย์)

กระทู้คำถาม
ผมเป็นลูกคนที่ 2 ครับมีพี่สาวแล้วผมก็เป็นผู้ชาย หลายคนคงรู้นะครับว่าหากบ้านไหนมีลูกชาย เขาก็จะฝากความหวังไว้ที่ลูกชาย
บ้านผมก็เป็นหนึ่งในนั้น พ่อแม่ของผมก็ทำงานหาเช้ากินค่ำนี่แหละครับ ผมก็เรียนไปเล่นไปตามประสาวัยรุ่น
พ่อของผมเป็นคนที่ไม่ชอบ ตุ๊ด เกย์ กระเทย ไรพวกนี้เลย เวลาเจอพ่อก็มักจะพูดว่า "ถ้าเป็นลูกกูนะ จะถีบกระเด็นเลย"
ผมได้ยินแบบนี้ก็ "เฮือก" แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร ส่วนม่ของผม ถึงแม่จะเป็นคนหัวโบราณ แต่แม่ของผมก็ไม่ยึดติดกับเรื่องเพศสักเท่าไร
แม่มักพูดเสมอว่า "อยากเป็นไรก็เป็น ขอแค่เป็นคนดีก็พอ" อาจเป็นคำพูดที่ฟังแล้วมันดูดีนะครับ หลายคนคิดว่าพ่อแม่ใครก็พูด
แต่สำหรับ (เกย์) อย่างผม ผมได้ยินแบบนี้ทีไรผมมีความสุขนะครับ ยังดีที่มีคนเข้าใจคนอย่างพวกผม
แม่ผมรู้ว่าผมเป็น (เกย์) มาตั้งแต่ผมอยู่ ม.ต้นเลยครับ ฟังดูอาจตลก คนอะไรจะค้นพบตัวเองไวขนาดนั้น
ส่วนพ่อของผมก็รู้มานานพอสมควรแล้วละครับ พ่อก็พยายามชวนผมไปเตะบอล พาผมไปออกงานกับเพื่อนพ่อที่มีแต่ผู้ชายนั่นละครับ
อ่อลืมบอกไป พ่อผมทำงานเกี่ยวกับพวกช่างกลึงไรงี้ เพื่อนพ่อรวมถึงลูกน้องของพ่อก็ล่ำกันทั้งนั้น พ่อคงคิดว่าการที่พาลูกชายไป
สถานที่แบบนี้ คงจะเปลี่ยนใจลูกชายได้ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นสิครับ ผมยิ่งเจอแบบนี้ผมก็ยิ่งใจแตก ๕๕๕
พ่อของผมมักคิดว่าการที่เป็นเพศที่ต่างจะสร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวไม่รู้จบรู้สิ้น โดยเฉพาะเรื่องตบเรื่องตี เรื่องผู้ชายไรงี้
พ่อของผมก็มักจะพูดกรอกหูเสมอว่าไม่ชอบเลยพวก ตุ๊ด กระเทย เกย์ ผมได้ยินแบบนี้ผมก็เสียใจนะครับ แต่อยู่มาวันนึง
ผมก็ได้คุยกับผู้ชายคนนึงนี่ละครับ เป็นครั้งแรกที่ผมกล้าพาผู้ชายเข้าบ้าน คำแรกที่พ่อกับแม่ถาม "ใคร" ก็ธรรมชาติก็ต้องตอบว่า "เพื่อน"
มาทำงานกันประมาณนี้ พ่อแม่ผมก็อือออไป ผมพาเพื่อนผู้ชายคนนี้มานนอนที่บ้านครับ เป็นผู้ชายคนแรกเลยที่รู้สึกดีมากมากมาก
รู้สึกว่าเข้ากันได้ดีทุกอย่าง พ่อกับแม่ก็ดูแลเพื่อนผู้ชายที่พามาเหมือนเป็นลูกตัวเองนี่ละครับ กินข้าวมั้ย ไปนุ้นมั้ยไปนี่มั้ย
จนวันนึงไม่รู้นึกไรกัน ผมกับเพื่อนผู้ชายเลยยืนจูบกันกลางบ้าน "ลืมไปครับว่าพ่อก็อยู่" ที่เลวร้ายกว่านั้น พ่อเห็นด้วยครับ
แต่ก็ไม่ได้ว่าไร พ่อก็ทำเสียงแข็ง "มากินข้าวกันสิ" ผมคิดในใจว่าโดนแน่กู แต่ความจริงมันก็ไม่ได้เลวร้ายไรขนาดนั้น
อยู่อยู่พ่อก็บอกว่า "พ่อรู้ว่าพ่อคงเปลี่ยนอีกคนให้เป็นอีกคนไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็อย่าทำให้ใครเดือดร้อนแล้วกัน"
ผมได้ยินแบบนี้ น้ำตาผมไหลพรากเลยครับ และทุกวันนี้ พ่อของผมก็รับได้แล้วว่าผมเป็น (เกย์) แต่พ่อก็ยังย้ำเตือนเสมอว่า
"อย่าทำให้ใครเดือดร้อนล่ะ เป็นแบบที่เราเป็นมันมีความสุขก็เป็นไปเถอะ" ทุกวันนี้ผมรักพ่อกับแม่มาก ขอบคุณที่ท่านไม่รังเกียดผม
แล้วก็ยังดูแลผมมาดีตลอด ตอนนี้ผมอยู่มหาลัยแล้วครับ ท่านก็โทรมาถามบ้างว่าไงสบายดีมั้ยแถมยังแซวอีก "เรียนนะอย่ามองผู้ชาย"
อดขำไม่ได้นะครับ "ผมรักพ่อกับแม่ของผมมากอะ" ทิ้งท้ายไว้สำหรับคนที่กลัวที่บ้านรับไม่ได้ "ไม่มีอะไรที่มันเปลี่ยนแปลงอนาคตไม่ได้หรอกครับ"
ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเปลี่ยนไปยังไงบ้าง คำพูดและการกระทำของเราทั้งนั้นละที่กำหนดอนาคต "เอาใจช่วยนะครับสำหรับคนที่กลัว
ว่าที่บ้านจะรับไม่ได้" ผมคิดว่ายังไงเราก็เป็นลูก พ่อแม่เกียจเราไม่ลงหรอก หัวเราะ ขอบคุณพื้นที่ตรงนี้นะครับ ที่มีพื้นที่ให้ผมได้ระบาย
แล้วก็เป็นพื้นที่ที่ให้ผมได้แชร์ประสบการณ์ของผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่