ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์จี้ "ณรงค์ชัย" ออกมาตรการสนับสนุนใช้สินค้าในประเทศ หลังโดนสินค้าจากจีนคุณภาพต่ำดัมพ์ราคา โดยเฉพาะโซลาร์ฟาร์มของหน่วยราชการฯ 800 เมกะวัตต์ ให้ยึดระเบียบสำนักนายก หวังเป็นการช่วยผู้ผลิตแผงเซลล์ในประเทศให้อยู่รอด ด้าน "วันดี" เผยต้นทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ต่ำมากแล้ว เชื่อภาครัฐจะเลิกการอุดหนุนค่าไฟฟ้าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
นายภาวัน สยามชัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า นโยบายส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทนตามแผน หรือ AEDP ของกระทรวงพลังงาน เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจพลังงานทดแทน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์เซลล์ เพราะมีต้นทุนติดตั้งที่ต่ำลงอย่างมาก ประกอบกับภาครัฐเปิดโอกาสให้เอกชนลงทุนเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานตั้งเป้าไว้ที่ 3.8 พันเมกะวัตต์ ภายในปี 2558 และจะเพิ่มเป็น 4.5-5 พันเมกะวัตต์ในอีก 10 ปีข้างหน้า
โดยส่วนตัวมองว่าการส่งเสริมโซลาร์เซลล์ นอกจากจะขยายกำลังการผลิตติดตั้งแล้ว ควรมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ผลิตแผงเซลล์ในประเทศด้วย เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ผลิตแผงเซลล์ของไทย 5 ราย รวมกำลังการผลิตไม่ถึง 300 เมกะวัตต์ นับว่าน้อยเมื่อเทียบกับเป้าส่งเสริมของกระทรวงพลังงาน ดังนั้นภาครัฐควรส่งเสริมโดยยึดตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ กำหนดให้หน่วยงานราชการต้องซื้อสินค้าในประเทศก่อน โดยเฉพาะโครงการโซลาร์เซลล์ในหน่วยงานราชการและสหกรณ์ จำนวน 800 เมกะวัตต์ ที่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนด้านกฎระเบียบ ซึ่งควรเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการในประเทศก่อน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาผู้ผลิตแผงเซลล์ในประเทศ เคยทำหนังสือร้องเรียนไปยังกระทรวงพลังงานแล้ว โดยผ่านกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานหรือพพ. เพราะที่ผ่านมาจะเห็นว่าระเบียบดังกล่าวไม่ได้ถูกใช้มากนัก ทำให้ภาคเอกชนเลือกสินค้าคุณภาพต่ำจากต่างประเทศเข้ามา เพราะมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับสินค้าของไทยที่มีมาตรฐาน มอก.
ข่าวนี้ ไม่ใหม่ ไม่ เก่า แต่ น่า สนมั้ก มาก อ่านไปสองไพ เบี้ยนะครับ
เพิ่งรู้ว่าเราผลิตกันใน ปท ได้แค่ ปีละ 300MW
นายภาวัน สยามชัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า นโยบายส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทนตามแผน หรือ AEDP ของกระทรวงพลังงาน เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจพลังงานทดแทน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์เซลล์ เพราะมีต้นทุนติดตั้งที่ต่ำลงอย่างมาก ประกอบกับภาครัฐเปิดโอกาสให้เอกชนลงทุนเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานตั้งเป้าไว้ที่ 3.8 พันเมกะวัตต์ ภายในปี 2558 และจะเพิ่มเป็น 4.5-5 พันเมกะวัตต์ในอีก 10 ปีข้างหน้า
โดยส่วนตัวมองว่าการส่งเสริมโซลาร์เซลล์ นอกจากจะขยายกำลังการผลิตติดตั้งแล้ว ควรมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ผลิตแผงเซลล์ในประเทศด้วย เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ผลิตแผงเซลล์ของไทย 5 ราย รวมกำลังการผลิตไม่ถึง 300 เมกะวัตต์ นับว่าน้อยเมื่อเทียบกับเป้าส่งเสริมของกระทรวงพลังงาน ดังนั้นภาครัฐควรส่งเสริมโดยยึดตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ กำหนดให้หน่วยงานราชการต้องซื้อสินค้าในประเทศก่อน โดยเฉพาะโครงการโซลาร์เซลล์ในหน่วยงานราชการและสหกรณ์ จำนวน 800 เมกะวัตต์ ที่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนด้านกฎระเบียบ ซึ่งควรเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการในประเทศก่อน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาผู้ผลิตแผงเซลล์ในประเทศ เคยทำหนังสือร้องเรียนไปยังกระทรวงพลังงานแล้ว โดยผ่านกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานหรือพพ. เพราะที่ผ่านมาจะเห็นว่าระเบียบดังกล่าวไม่ได้ถูกใช้มากนัก ทำให้ภาคเอกชนเลือกสินค้าคุณภาพต่ำจากต่างประเทศเข้ามา เพราะมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับสินค้าของไทยที่มีมาตรฐาน มอก.
ข่าวนี้ ไม่ใหม่ ไม่ เก่า แต่ น่า สนมั้ก มาก อ่านไปสองไพ เบี้ยนะครับ