ตั้งแต่ประกาศสถานะเหลือเพียงพี่น้องก็ดูจะห่างกันมาได้พักใหญ่ๆ สำหรับ “มิน พีชญา วัฒนามนตรี” และ “ไฮโซกัญจน์ จิระเกียรติวัฒนา” ถึงแม้สาว “มิน” จะไม่เคยออกปากว่ากำลังคบเป็นแฟนแต่ความสนิทสนมของเมื่อก่อนกับตอนนีต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แถมสาวมินก็เอาเวลาหันไปทุ่มกับการเรียนต่อปริญญาโทแล้วด้วย สงสัยความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็คงจบลงที่เป็นพี่น้องเสียจริงๆ พอมีโอกาสได้เจอ “มิน” ในงาน “Fruttare Summer Explosion” ณ ลานด้านหน้าอาคารยูไนเต็ด เซ็นเตอร์ สีลม เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ว่า
“ละครถ่ายไปได้ประมาณหนึ่งค่ะ เราถ่ายและเริ่มเตรียมเรียนปริญญาโทแล้ว พูดเลยว่าหนักมากเพราะว่างจากอะไรก็ตามเราก็ไปเรียนพิเศษ ขนาดเพื่อนจะนัดเจอกันยังต้องมาเจอที่เรียนพิเศษเลยค่ะ ก็เรียนบริหารค่ะ เผื่อจะได้เก่งๆ แบบคนอื่นเขาบ้าง ก็คิดว่าจะนำมาใช้ในธุรกิจของเราและที่บ้านด้วย ตอนนี้ก็สอบเข้าแล้วค่ะ เหลือยื่นเรื่องและรอสอบสัมภาษณ์ (เพราะช่วงนี้เราโสดเลยทุ่มเวลาให้กับการเรียน) ก็เต็มที่ค่ะ อยากทำอะไรเราก็ทำได้เต็มที่และไม่ต้องห่วงอะไรมาก จุดนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้โสดด้วยเพราะตอนอ่านหนังสือเราค่อนข้างเครียดแล้วเราไม่อยากจะเห็นแก่ตัวเอาใครมาพ่วงกับชีวิตเรา”
“แล้วที่บอกเห็นมาลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์จริงๆ ก็กำลังฝึกค่ะ เรียกว่ายังไม่เก่งค่ะ ยังเด็กมาก เพิ่งเริ่ม แต่ด้วยวัยของเรายังมีโอกาสได้เรียนรู้อีกเยอะ การเรียนปริญญาโทนี้ก็เหมือนเป็นการเรียงร้อยประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาให้ก้าวเดินต่อไปได้อีก ตอนนี้มินยังรู้สึกว่ายังไม่เก่งเท่ารุ่นพี่คนอื่นๆ ตัวคุณพ่อเองก็พยายามจะสอนเราหลายๆ อย่างที่ค่อนข้างโตแล้วเรายังไม่เข้าใจเราก็เลยรู้สึกว่าเราต้องเรียน (เราลงทุนเองใช่ไหม) ใช่ค่ะ เงินคุณพ่อไม่เคยกระเด็นค่ะ มินดูแลตัวเองมาตั้งแต่เรียนแล้ว”
“ส่วนความสัมพันธ์ “ไฮโซกัญจน์” เหลือแค่เป็นพี่น้องตัวเขาก็เข้าใจนะ พี่เขาน่ารัก เขาก็ให้คำปรึกษาเราเหมือนเดิม อีกอย่างตัวเขาก็ต้องไปทำงานต่างประเทศบ่อยๆ ด้วยเลยไม่ค่อยได้เจอ จริงๆ เราให้เกียรติซึ่งกันและกันมาตั้งแต่ต้นก็เลยไม่ได้มีปัญหาอะไร (เข้ากับประโยคมีรักในวัยเรียนเหมือนจุดเทียนกลางสายฝน) (หัวเราะ) ก็ไม่เชิงขนาดนั้นนะ เหมือนเราต้องเลือกว่าเราอยากทำอะไรมากกว่า ความสัมพันธ์ก็ไม่ถึงกับตัดขาดค่ะ คนรู้จักกันยังไงก็ต้องทำงานร่วมกันต้องได้เจอกัน อย่างที่มินเรียนต่อนี่ก็อาจจะต้องปรึกษาเขาบ้าง ตอนนี้ก็แทบจะไม่ได้คุยกับเขาเลย นานๆ คุยที คุยเฉพาะตอนที่มีเรื่องจะปรึกษาเขา สถานะตอนนี้ก็เป็นพี่น้องกันค่ะ”
“คุณพ่อคุณแม่ก็ถามเหมือนกันว่าเป็นยังไงบ้างแต่ท่านไม่ได้ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวอะไรค่ะ (ไม่มีโอกาสพัฒนาแล้วใช่ไหม) จริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสพัฒนา แต่อย่างที่มินบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าเราเลือกที่จะทำหน้าที่ของเรา 2 คนให้ดีที่สุดก่อน อนาคตเราบอกไม่ได้เพราะเราทั้งคู่ก็ยังมีโอกาสที่จะได้เจอกับคนอื่นๆ มินก็ไม่อยากเห็นแก่ตัวในส่วนนั้นก็ต้องปล่อยไป เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก่อนส่วนอนาคตก็ปล่อยให้เป็นไปตามทาง”
“เรื่องกิ๊กกั๊กในกองนี่ไม่มีแน่นอนค่ะ ตัวพี่วีเองก็เป็นพี่ อีกอย่างมินก็เป็นเพื่อนสนิทกับปุ๊กลุกค่ะ เพราะฉะนั้นแบ็คมินดีค่ะ(หัวเราะ) มินก็รักและเคารพทั้ง 2 คนนะคะ ปุ๊กลุกก็ไม่ได้มีเตือนอะไรนะ เขาน่ารักมากๆ ช่วงนี้ปุ๊กลุกทำงานหนักมากเพราะถ่ายละคร 3 เรื่อง แล้วล่าสุดที่เป็นข่าวเราก็ให้กำลังใจกันค่ะ (เขาปรึกษาอะไรเราไหม) ก็มีคุยเมื่อวานนิดหน่อย ตอนแรกก็นัดโทรคุยกันแต่จู่ๆ เขาก็ไปอยู่โรงพักซะแล้ว คือดำเนินการเต็มที่ค่ะ มินคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นอะไรที่ไม่ค่อยเหมาะสมแต่ก็เป็นกำลังใจให้กับทุกฝ่ายแล้วกันค่ะ(ยิ้ม)”
ข่าวจาก : รักดารา
http://www.rakdara.net/home/?p=136096
“มิน”งดเรื่องรักขอทุ่มเรียนโท รับห่าง”ไฮโซกัญจน์”เหตุต่างคนต่างยุ่งย้ำสัมพันธ์พี่น้อง
ตั้งแต่ประกาศสถานะเหลือเพียงพี่น้องก็ดูจะห่างกันมาได้พักใหญ่ๆ สำหรับ “มิน พีชญา วัฒนามนตรี” และ “ไฮโซกัญจน์ จิระเกียรติวัฒนา” ถึงแม้สาว “มิน” จะไม่เคยออกปากว่ากำลังคบเป็นแฟนแต่ความสนิทสนมของเมื่อก่อนกับตอนนีต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แถมสาวมินก็เอาเวลาหันไปทุ่มกับการเรียนต่อปริญญาโทแล้วด้วย สงสัยความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็คงจบลงที่เป็นพี่น้องเสียจริงๆ พอมีโอกาสได้เจอ “มิน” ในงาน “Fruttare Summer Explosion” ณ ลานด้านหน้าอาคารยูไนเต็ด เซ็นเตอร์ สีลม เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ว่า
“ละครถ่ายไปได้ประมาณหนึ่งค่ะ เราถ่ายและเริ่มเตรียมเรียนปริญญาโทแล้ว พูดเลยว่าหนักมากเพราะว่างจากอะไรก็ตามเราก็ไปเรียนพิเศษ ขนาดเพื่อนจะนัดเจอกันยังต้องมาเจอที่เรียนพิเศษเลยค่ะ ก็เรียนบริหารค่ะ เผื่อจะได้เก่งๆ แบบคนอื่นเขาบ้าง ก็คิดว่าจะนำมาใช้ในธุรกิจของเราและที่บ้านด้วย ตอนนี้ก็สอบเข้าแล้วค่ะ เหลือยื่นเรื่องและรอสอบสัมภาษณ์ (เพราะช่วงนี้เราโสดเลยทุ่มเวลาให้กับการเรียน) ก็เต็มที่ค่ะ อยากทำอะไรเราก็ทำได้เต็มที่และไม่ต้องห่วงอะไรมาก จุดนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้โสดด้วยเพราะตอนอ่านหนังสือเราค่อนข้างเครียดแล้วเราไม่อยากจะเห็นแก่ตัวเอาใครมาพ่วงกับชีวิตเรา”
“แล้วที่บอกเห็นมาลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์จริงๆ ก็กำลังฝึกค่ะ เรียกว่ายังไม่เก่งค่ะ ยังเด็กมาก เพิ่งเริ่ม แต่ด้วยวัยของเรายังมีโอกาสได้เรียนรู้อีกเยอะ การเรียนปริญญาโทนี้ก็เหมือนเป็นการเรียงร้อยประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาให้ก้าวเดินต่อไปได้อีก ตอนนี้มินยังรู้สึกว่ายังไม่เก่งเท่ารุ่นพี่คนอื่นๆ ตัวคุณพ่อเองก็พยายามจะสอนเราหลายๆ อย่างที่ค่อนข้างโตแล้วเรายังไม่เข้าใจเราก็เลยรู้สึกว่าเราต้องเรียน (เราลงทุนเองใช่ไหม) ใช่ค่ะ เงินคุณพ่อไม่เคยกระเด็นค่ะ มินดูแลตัวเองมาตั้งแต่เรียนแล้ว”
“ส่วนความสัมพันธ์ “ไฮโซกัญจน์” เหลือแค่เป็นพี่น้องตัวเขาก็เข้าใจนะ พี่เขาน่ารัก เขาก็ให้คำปรึกษาเราเหมือนเดิม อีกอย่างตัวเขาก็ต้องไปทำงานต่างประเทศบ่อยๆ ด้วยเลยไม่ค่อยได้เจอ จริงๆ เราให้เกียรติซึ่งกันและกันมาตั้งแต่ต้นก็เลยไม่ได้มีปัญหาอะไร (เข้ากับประโยคมีรักในวัยเรียนเหมือนจุดเทียนกลางสายฝน) (หัวเราะ) ก็ไม่เชิงขนาดนั้นนะ เหมือนเราต้องเลือกว่าเราอยากทำอะไรมากกว่า ความสัมพันธ์ก็ไม่ถึงกับตัดขาดค่ะ คนรู้จักกันยังไงก็ต้องทำงานร่วมกันต้องได้เจอกัน อย่างที่มินเรียนต่อนี่ก็อาจจะต้องปรึกษาเขาบ้าง ตอนนี้ก็แทบจะไม่ได้คุยกับเขาเลย นานๆ คุยที คุยเฉพาะตอนที่มีเรื่องจะปรึกษาเขา สถานะตอนนี้ก็เป็นพี่น้องกันค่ะ”
“คุณพ่อคุณแม่ก็ถามเหมือนกันว่าเป็นยังไงบ้างแต่ท่านไม่ได้ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวอะไรค่ะ (ไม่มีโอกาสพัฒนาแล้วใช่ไหม) จริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสพัฒนา แต่อย่างที่มินบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าเราเลือกที่จะทำหน้าที่ของเรา 2 คนให้ดีที่สุดก่อน อนาคตเราบอกไม่ได้เพราะเราทั้งคู่ก็ยังมีโอกาสที่จะได้เจอกับคนอื่นๆ มินก็ไม่อยากเห็นแก่ตัวในส่วนนั้นก็ต้องปล่อยไป เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก่อนส่วนอนาคตก็ปล่อยให้เป็นไปตามทาง”
“เรื่องกิ๊กกั๊กในกองนี่ไม่มีแน่นอนค่ะ ตัวพี่วีเองก็เป็นพี่ อีกอย่างมินก็เป็นเพื่อนสนิทกับปุ๊กลุกค่ะ เพราะฉะนั้นแบ็คมินดีค่ะ(หัวเราะ) มินก็รักและเคารพทั้ง 2 คนนะคะ ปุ๊กลุกก็ไม่ได้มีเตือนอะไรนะ เขาน่ารักมากๆ ช่วงนี้ปุ๊กลุกทำงานหนักมากเพราะถ่ายละคร 3 เรื่อง แล้วล่าสุดที่เป็นข่าวเราก็ให้กำลังใจกันค่ะ (เขาปรึกษาอะไรเราไหม) ก็มีคุยเมื่อวานนิดหน่อย ตอนแรกก็นัดโทรคุยกันแต่จู่ๆ เขาก็ไปอยู่โรงพักซะแล้ว คือดำเนินการเต็มที่ค่ะ มินคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นอะไรที่ไม่ค่อยเหมาะสมแต่ก็เป็นกำลังใจให้กับทุกฝ่ายแล้วกันค่ะ(ยิ้ม)”
ข่าวจาก : รักดารา
http://www.rakdara.net/home/?p=136096