ผมได้เจอเหตุการณ์แบบที่ไม่ได้เป็นคนกระทำครับ ยังไงก็ฝากระวังตัว หรือให้คำแนะนำได้นะครับ ดังเหตุด้านล่างนี้ครับ
คือผมได้รับใบสั่งจาก ส.ทล. พิษณุโลก ถนนพิษณุโลก-หล่มสัก เลขที่ 195 หมู่ 4 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งตัวและรถผมอยู่ กทม. นะครับ
ผมได้รับใบสั่งจับความเร็วส่งมาที่บ้าน ได้แจ้งข้อหากระทำผิดผมว่า ผมได้ขับรถเร็วเกินกำหนดในวันที่ 2 ม.ค. 58 เวลา 10.57 น. ที่ ทล.11 กม.260-261 ต.ทับยายเชียง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก 65000
*** ข้อมูลทั้งหมดตามใบสั่งที่คุณตำรวจสั่งมาให้ผมนั้น "ผมขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้นครับ" ***
ผมขอชี้แจงดังนี้ครับ : เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 57 ผมได้เดินทางพาภรรยากับลูกจากกรุงเทพฯ ไปหาคุณแม่ที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ค้างที่บ้านแม่ 1 คืน โดยมีญาติพี่น้องอยู่กันเป็นพยานหลายคน และวันที่ 1 ม.ค. 58 ผมได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ ซึ่งคนละทางกับ จ.พิษณุโลก เพื่อรีบกลับมาทำงานต่อที่บ้าน (คือผมทำอาชีพอิสระครับ ต้องส่งงานลูกค้าเมื่อเปิดปีใหม่) ซึ่งวันเกิดเหตุที่คุณตำรวจแจ้งมานั้น ผมได้ทำงานอยู่บ้านทั้งวันครับ รถก็จอดอยู่ในบ้านไม่ได้หายไปไหน
แล้ววันหนึ่งก็มีใบสั่งมาว่าผมไปขับรถเร็วเกินกำหนดที่ ต.ทับยายเชียง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ผม งง มากครับ เพราะ "ไม่เป็นความจริงครับ"
สิ่งที่ผมอึ้ง และงงมากว่าเป็นไปได้อย่างไร คือ
1. มีรูปรถผมปรากฎในวันเกิดเหตุได้อย่างไร (ยอมรับว่ารถรุ่นนี้ และทะเบียนนี้เป็นรถผมจริง) ซึ่งความเป็นไปได้ที่จะมีรูปรถผม คงเป็นเมื่อประมาณต้น ปี 57 ถึง กลางปี 57 ซึ่งผมเดินทางผ่าน จ.พิษณุโลก บ้าง แต่ผ่านเฉพาะทางหลักเส้นเอเชียครับ ไม่แน่ใจว่า ต.ทับยายเชียง นี้อยู่เส้นหลักหรือไม่ และถ้าเป็นช่วงนั้นจริง ควรแจ้งปรับตามวันเวลาช่วงนั้นถูกไหมครับ
2. อันนี้อึ่งที่สุด คือ ข้อมูลในกล้องตรวจจับความเร็ว ทำไมเป็นวันที่ผมกับรถอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหนเลย (ซึ่งในทางทษฎี "มันทำได้ไม่ยากครับ" ผมยังทำได้เลย แต่ผมไม่ทำ)
3. อาจเป็นไปได้ที่ผมถูกสวมทะเบียนครับ เสียดายที่แถบดำและข้อมูลไปบังกระจกตรงคนขับไว้หมดเลย ไม่งั้นคงเห็นกันชัดเจนกว่านี้ครับ หากเป็นกรณีนี้จริง ขอความกรุณาคุณตำรวจจับ "คนผิดจริง" มาลงโทษด้วยครับ
** ว่ากันด้วยเรื่องหลักฐานว่าผมกับรถไม่ได้ไปที่เกิดเหตุจริง แล้วจะเอาอะไรมายืนยัน?
ใช่ครับผมไม่มีหลักฐานเป็นรูปภาพยืนยันหรอกครับว่าผมอยู่ที่ไหน ใครจะมาถ่ายรูปรถตัวเองได้ทุกวัน จริงไหมครับ ผมจะมีก็แต่ภรรยา, แม่, และญาติๆ ที่ผมเดินทางไปหาพวกเค้านั่นแหล่ะครับ หรือถ้าคุณตำรวจสามารถตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์เบอร์ผมย้อนหลังได้ ซึ่งผมเชื่อว่าทำได้ ผมก็ยินดีให้ท่านตรวจสอบได้อย่างเต็มที่เลยครับ อยากได้ข้อมูลอะไรติดต่อผมมาได้เลยครับ ยินดีให้ความช่วยหลือเต็มที่ **
* ถ้าผมผิดจริง เงิน 400 บาท ผมจ่ายให้ท่านได้แน่นอนครับ เจตนาที่ผมขอความเป็นธรรมกับท่านนี้ เพราะผมเชื่อว่าคงมีประชาชนอีกหลายคนที่ถูกใบสั่งผิดพลาดแบบผม 1 คน 400 บาท แล้ว 100 คน 1,000 คน มันมากมายโดยที่เขาไม่ได้ผิดจริงใช่ไหมครับ *
* ดังนั้นผมรบกวนขอความกรุณาจากท่านๆ ตำรวจ สน. แห่งใดก็ตาม ที่เกิดการณ์แบบนี้ขึ้นรบกวนตรวจสอบใหม่และให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนของท่านที่ทำมาหากินสุจริตด้วยครับ
สุดท้าย : ผมขอชี้แจงอีกเรื่องครับ รถคันนี้เป็นชื่อพ่อบุญธรรมผมนะครับ แต่ผมเป็นคนซื้อและใช้รถอยู่ที่กรุงเทพฯ
ล่าสุดผมแฟ็กซ์หนังสือถึงท่าน พตท.ที่แจ้งมาในใบสั่งเรียบร้อยแล้วครับ รอดูผลกันต่อไปครับ
ขอบคุณที่ติดตาม อ่านไว้เป็นเคสเรียนรู้ ไม่เสียหลายครับ
ผมเป็นสมาชิกใหม่ ยังไม่สามารถลงลงรูปใน Pantip ได้ครับ หากมีท่านใดจะกรุณาลงรูปให้ รบกวนไปดึงรูปได้ที่
http://board.postjung.com/851663.html ได้เลยครับ ...ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ผมไม่ได้ทำ! จริงๆ นะครับ คุณตำรวจ
คือผมได้รับใบสั่งจาก ส.ทล. พิษณุโลก ถนนพิษณุโลก-หล่มสัก เลขที่ 195 หมู่ 4 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งตัวและรถผมอยู่ กทม. นะครับ
ผมได้รับใบสั่งจับความเร็วส่งมาที่บ้าน ได้แจ้งข้อหากระทำผิดผมว่า ผมได้ขับรถเร็วเกินกำหนดในวันที่ 2 ม.ค. 58 เวลา 10.57 น. ที่ ทล.11 กม.260-261 ต.ทับยายเชียง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก 65000
*** ข้อมูลทั้งหมดตามใบสั่งที่คุณตำรวจสั่งมาให้ผมนั้น "ผมขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้นครับ" ***
ผมขอชี้แจงดังนี้ครับ : เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 57 ผมได้เดินทางพาภรรยากับลูกจากกรุงเทพฯ ไปหาคุณแม่ที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ค้างที่บ้านแม่ 1 คืน โดยมีญาติพี่น้องอยู่กันเป็นพยานหลายคน และวันที่ 1 ม.ค. 58 ผมได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ ซึ่งคนละทางกับ จ.พิษณุโลก เพื่อรีบกลับมาทำงานต่อที่บ้าน (คือผมทำอาชีพอิสระครับ ต้องส่งงานลูกค้าเมื่อเปิดปีใหม่) ซึ่งวันเกิดเหตุที่คุณตำรวจแจ้งมานั้น ผมได้ทำงานอยู่บ้านทั้งวันครับ รถก็จอดอยู่ในบ้านไม่ได้หายไปไหน
แล้ววันหนึ่งก็มีใบสั่งมาว่าผมไปขับรถเร็วเกินกำหนดที่ ต.ทับยายเชียง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ผม งง มากครับ เพราะ "ไม่เป็นความจริงครับ"
สิ่งที่ผมอึ้ง และงงมากว่าเป็นไปได้อย่างไร คือ
1. มีรูปรถผมปรากฎในวันเกิดเหตุได้อย่างไร (ยอมรับว่ารถรุ่นนี้ และทะเบียนนี้เป็นรถผมจริง) ซึ่งความเป็นไปได้ที่จะมีรูปรถผม คงเป็นเมื่อประมาณต้น ปี 57 ถึง กลางปี 57 ซึ่งผมเดินทางผ่าน จ.พิษณุโลก บ้าง แต่ผ่านเฉพาะทางหลักเส้นเอเชียครับ ไม่แน่ใจว่า ต.ทับยายเชียง นี้อยู่เส้นหลักหรือไม่ และถ้าเป็นช่วงนั้นจริง ควรแจ้งปรับตามวันเวลาช่วงนั้นถูกไหมครับ
2. อันนี้อึ่งที่สุด คือ ข้อมูลในกล้องตรวจจับความเร็ว ทำไมเป็นวันที่ผมกับรถอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหนเลย (ซึ่งในทางทษฎี "มันทำได้ไม่ยากครับ" ผมยังทำได้เลย แต่ผมไม่ทำ)
3. อาจเป็นไปได้ที่ผมถูกสวมทะเบียนครับ เสียดายที่แถบดำและข้อมูลไปบังกระจกตรงคนขับไว้หมดเลย ไม่งั้นคงเห็นกันชัดเจนกว่านี้ครับ หากเป็นกรณีนี้จริง ขอความกรุณาคุณตำรวจจับ "คนผิดจริง" มาลงโทษด้วยครับ
** ว่ากันด้วยเรื่องหลักฐานว่าผมกับรถไม่ได้ไปที่เกิดเหตุจริง แล้วจะเอาอะไรมายืนยัน?
ใช่ครับผมไม่มีหลักฐานเป็นรูปภาพยืนยันหรอกครับว่าผมอยู่ที่ไหน ใครจะมาถ่ายรูปรถตัวเองได้ทุกวัน จริงไหมครับ ผมจะมีก็แต่ภรรยา, แม่, และญาติๆ ที่ผมเดินทางไปหาพวกเค้านั่นแหล่ะครับ หรือถ้าคุณตำรวจสามารถตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์เบอร์ผมย้อนหลังได้ ซึ่งผมเชื่อว่าทำได้ ผมก็ยินดีให้ท่านตรวจสอบได้อย่างเต็มที่เลยครับ อยากได้ข้อมูลอะไรติดต่อผมมาได้เลยครับ ยินดีให้ความช่วยหลือเต็มที่ **
* ถ้าผมผิดจริง เงิน 400 บาท ผมจ่ายให้ท่านได้แน่นอนครับ เจตนาที่ผมขอความเป็นธรรมกับท่านนี้ เพราะผมเชื่อว่าคงมีประชาชนอีกหลายคนที่ถูกใบสั่งผิดพลาดแบบผม 1 คน 400 บาท แล้ว 100 คน 1,000 คน มันมากมายโดยที่เขาไม่ได้ผิดจริงใช่ไหมครับ *
* ดังนั้นผมรบกวนขอความกรุณาจากท่านๆ ตำรวจ สน. แห่งใดก็ตาม ที่เกิดการณ์แบบนี้ขึ้นรบกวนตรวจสอบใหม่และให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนของท่านที่ทำมาหากินสุจริตด้วยครับ
สุดท้าย : ผมขอชี้แจงอีกเรื่องครับ รถคันนี้เป็นชื่อพ่อบุญธรรมผมนะครับ แต่ผมเป็นคนซื้อและใช้รถอยู่ที่กรุงเทพฯ
ล่าสุดผมแฟ็กซ์หนังสือถึงท่าน พตท.ที่แจ้งมาในใบสั่งเรียบร้อยแล้วครับ รอดูผลกันต่อไปครับ
ขอบคุณที่ติดตาม อ่านไว้เป็นเคสเรียนรู้ ไม่เสียหลายครับ
ผมเป็นสมาชิกใหม่ ยังไม่สามารถลงลงรูปใน Pantip ได้ครับ หากมีท่านใดจะกรุณาลงรูปให้ รบกวนไปดึงรูปได้ที่ http://board.postjung.com/851663.html ได้เลยครับ ...ขอบคุณล่วงหน้าครับ