วันนี้เราจะมารีวิว
การโอนลอยข้ามจังหวัด สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยโอนมาก่อน
เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้เราพยายามหาข้อมูลจากหลายทางแล้วค่อนข้างสับสน
ทั้งเอกสารที่ต้องเตรียมก็บอกไม่เหมือนกัน ค่าใช้จ่ายก็ไม่เท่ากัน
เราเลยหวังว่าข้อมูลของกรณีเรา อาจจะช่วยเพิ่มความชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังจะโอนรถทั้งหลายนะคะ
ก่อนอื่นเลย ขอพูดถึงรถเราก่อน
[สภาพรถ]
รถเราเป็นรถ ยามาฮ่า ฟีโน่ ปี 2008 มือสาม ไม่เคยเปลี่ยนเครื่อง ไม่แต่งรถ สภาพเดิมเหมือนตอนซื้อมาทุกอย่าง (มีแค่โทรมลง ฮ่าๆ)
เพิ่งต่อภาษีและพรบ. เมื่อเดือนเมษาปีที่แล้ว หมดเมษาปีนี้ค่ะ

โดยเราได้รถคันนี้มาจากฐาติผู้ใหญ่แบบฟรีๆ (ญาติเป็นเจ้าของมือที่สอง)
**ที่ต้องกล่าวถึงเรื่องนี้เพราะ ทั้งสภาพ รุ่น และราคารถจะเป็นข้อมูลที่ทางขนส่งประเมินค่าใช้จ่ายในการโอนด้วย**
ซึ่งตรงนี้นี่เองที่ทำให้ค่าใช้จ่ายในการโอนของแต่ละคนไม่เท่ากัน
[เอกสารที่ต้องเตรียม]
เอกสารต่าง Download ได้จากเวบไซค์ของกรมการขนส่งทางบก ตาม Link นี้นะคะ
http://www.dlt.go.th/th/eform/
1. แบบคำขอโอนและรับโอน (มีสองหน้า)
2. หนังสือมอบอำนาจ
3. สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถเดิม พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง 1 ใบ
4. สำเนาบัตรประชาชนผู้รับโอน พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง 1 ใบ
5. ใบแจ้งย้าย
6. เล่มทะเบียน
*7. พรบ.เดิม (ในกรณีที่ต้องการต่อ พรบ. เลย)
1.แบบคำขอโอนและรับโอน (มีสองหน้า)
กรอกวันที่ให้เรียบร้อยด้วยนะคะ
เจ้าของรถ ต้องกรอกและเซ็นชื่อในบริเวณที่เราทำกรอบสีแดงไว้นะคะ
ผู้รับโอน กรอกบริเวณที่เราทำกรอบสีฟ้าไว้
บริเวณกรอบสีน้ำเงิน จะเกี่ยวข้องกับเอกสารการมอบอำนาจ
หากผู้รับมอบอำนาจคือคนเดียวกับผู้รับโอน ก็เซ็นช่องนี้ได้เลยค่ะ
แต่ถ้าผู้รับมอบอำนาจไม่ใช่คนเดียวกับผู้รับโอน ก็ให้ผู้รับมอบอำนาจคนนั้นเซ็นในช่องนี้ค่ะ
ในส่วนข้อมูลรถ เลขทะเบียน ดูได้ในเล่มทะเบียนเลยค่ะ
ส่วนที่เหลือ และข้างหลังไม่ต้องกรอกอะไรค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. หนังสือมอบอำนาจ

เหมือนเดิมค่ะ กรอกวันที่ให้เรียบร้อย
เจ้าของรถ ต้องกรอกและเซ็นชื่อในบริเวณที่เราทำกรอบสีแดงไว้นะคะ
ผู้รับมอบอำนาจ กรอกบริเวณที่เราทำกรอบสีฟ้าไว้
ส่วนพยาน ถ้าผู้รับโอนพาคนไปด้วย พนักงานอาจเรียกให้เซ็นรับรองเป็นพยานได้ค่ะ
***โดยผู้รับโอนสามารถเป็นคนเดียวกับผู้รับมอบอำนาจได้ ถ้าจะให้พูดง่ายๆคือ คุณมาดำเนินการเพียงคนเดียวได้เลยค่ะ***
*ตอนแรกเราคิดว่าต้องมีสองคน ก็อุตส่าห์ให้แฟนลางานไปด้วย*
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3.สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถเดิม พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง 1 ใบ
**ซึ่งเอกสารข้อ 1-3 นี้ ต้องขอจากเจ้าของรถหรือให้เจ้าของเซ็นให้ (ในกรณีโอนลอย)
*อย่างกรณีเรานี้ ป้าเราเซ็นเอกสาร 3 ใบนี้แล้วส่งมาทางไปรษณีย์ให้เราไปดำเนินการต่างๆต่อเองค่ะ*
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4.สำเนาบัตรประชาชนผู้รับโอน พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง 1 ใบ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
5.ใบแจ้งย้าย
เอกสารตัวนี้รอรับได้ที่สำนักงานขนส่งได้เลย ซึ่งจะเป็นเอกสารสำหรับแจ้งย้ายออกจากจังหวัดเดิม และย้ายเข้าจังหวัดปัจจุบัน
กรอกข้อมูลตามที่พนักงานแนะนำเลยค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
6.เล่มทะเบียน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[สถานที่โอนรถ]
ข้อมูลนี้สำหรับชาวเชียงใหม่โดยเฉพาะค่ะ
การโอนรถมอเตอร์ไซค์ ต้องโอนที่
สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่แห่งที่ 1 (หนองหอย)
หรือที่เราเรียกกันว่า
ขนส่งหนองหอย นั่นเองค่ะ
อยู่ตรงข้ามโรงแรม ฮอลิเดย์อินน์ ถ้าใครอยากได้แผนที่
พิกัด GPS คือ 18.766879, 99.005744
(เปิด Google maps แล้วเอาเลขนี้ไปหย่อนใส่ช่อง Search ได้เลยค่ะ)

ทางเข้าอยู่ทางด้านหลังนะคะ เดินอ้อมไป ด้านหน้าเหมือนจะเป็นส่วนของงานต่อภาษีรถยนต์
*กรณีเรา วันโอน เรารีบตื่นแต่เช้า บึ่งไปขนส่งหางดง(เพราะใกล้บ้านกว่า) ไปถึงน้องประชาสัมพันธ์เค้าบอกว่า "ต้องไปโอนที่หนองหอยนะคะ ที่นี่รับโอนแต่รถยนต์ค่ะ" *
[ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายการโอน]
วันที่ 1
ไปถึงก็เอาเอกสารที่มีไปยื่นตรงส่วนโต๊ะประชาสัมพันธ์เลยนะคะ แล้วเค้าก็จะให้เอกสารเพิ่มมาในส่วนที่เราขาด
ไปนั่งกรอกแล้วกลับมายื่น และรอรับบัตรคิวค่ะ
วันแรกก็จะวนๆอยู่แค่โต๊ะประชาสัมพันธ์ เคาท์เตอร์ โต๊ะกรอกเอกสาร ไม่ได้ยุ่งอะไรกับรถเลยค่ะ
--------------------------------------
ค่าใช้จ่าย
จะเสียค่าอากร สแตมป์ 35 บาท
ค่าแจ้งย้ายอีก 25 บาท
(ประมาณนี้นะคะ อาจจะมากกว่านี้อีก แต่วันแรกเสียไม่เกินร้อยค่ะ)
และทางพนักงานจะนัดมาในสองวันทำการเพื่อมาดำเนินการ ตรวจสภาพรถค่ะ
*กรณีเรา ไปทำเช้าวันพฤหัส พนักงานนัดอีกที เช้าวันจันทร์ค่ะ*
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 2
นำเอกสารเล่มทะเบียนมายื่นที่โต๊ะเบอร์ 4 (งานแจ้งย้าย) ได้เลย ไม่ต้องรอบัตรคิว รับเอกสารมากรอก
หลังจากนั้นก็เข็นรถไปตรวจสภาพ อู่ตรวจสภาพจะอยู่ตรงกลางนะคะ
>> เอาเอกสารยื่นที่โต๊ะรับเอกสาร
>> รอสักแป๊ป จะมีพนักงานตรวจสภาพมาขูดเลขเครื่องไป
>> รอพนักงานทำเอกสารสักครู่ เค้าก็จะเรียกเราไปถามว่า รถของเรา พรบ. จะหมดได้เดือนเมษานี้ จะต่อเลยมั้ย เราจึงตกลงต่อ พรบ.เลย
>> เราก็เอารถออกจากอู่แล้วมาดำเนินการด้านเอกสารต่อ
>> ต่อมาก็เอาเอกสารไปยื่นตรงออฟฟิศประกันภัย ( ซึ่งจะอยู่ข้างนอกออฟฟิศขนส่ง อยู่บนอาคารเดียวกันนะคะ แต่อยู่ภายนอกอาคารเฉยๆ)
>> รอทำ พรบ. เสร็จชำระเงินค่า พรบ. เอาเอกสารกลับมายื่นโต๊ะประชาสัมพันธ์ รับบัตรคิว
>> นั่งรอคิวสักครู่ พนักงานก็จะเรียกไปตรวจเอกสารและชำระเงิน พร้อมกับให้บัตรคิวและนัดวันมารับทะเบียนใหม่ ในอีกสองวันทำการค่ะ
*กรณีเราคือ มาทำวันจันทร์ ได้วันพุธบ่ายค่ะ*
--------------------------------------
ค่าใช้จ่าย
เสียค่า พรบ. 322 บาท(ถ้าไม่ต่อ ณ ตอนนั้น ก็จะไม่เสียส่วนนี้ค่ะ)
ค่าโอน ตรวจสภาพ ค่าอื่นๆอีก รวม 420 บาท
(ส่วนนี้พนักงานเค้าไม่ได้แจกแจงให้ฟังนะคะ เลยค่อนข้างไม่ชัดเจน)
*จากที่พนักงานอธิบายในช่วงแรกคือ จะคิดค่าโอนจากราคารถ โดยคิด 10,000 ละ 50 บาท
แต่รถเราเป็นรถได้มาฟรี จึงต้องรอให้ช่างตรวจสภาพประเมินราคาให้ค่ะ*
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 3
*วันที่ไปรับทะเบียนต้องถอดเอาทะเบียนเดิมยื่นพร้อมกับบัตรคิวนะคะ
>>เอาบัตรคิวไปยื่นตรงงานแจ้งย้ายทะเบียน แล้วค่อยไปเอาทะเบียนที่ตรงส่วนด้านนอก (ข้างโซนพักผ่อนและกรอกเอกสาร)
>>รอสักครู่ พนักงานจะเรียกเซ็นรับ เอาทะเบียน และ พรบ. ใหม่ให้ (ถ้าใครไม่ได้ทำ พรบ. ในตอนแรก ก็จะไม่ได้ส่วนนี้นะคะ)
เรียบร้อยค่ะ ได้ทะเบียนใหม่แล้วค่ะ
ค่าใช้จ่าย
0 บาท ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเลยค่ะ วันนี้
ข้อมูลทั้งหมดมีประมาณนี้ค่ะ ถ้าเราเขียนงงๆ หรือมีคำถามอะไรที่สงสัยถามได้นะคะ ถ้าเราตอบได้จะช่วยตอบค่ะ
รีวิว การโอนลอยรถมอเตอร์ไซค์ จากนครสวรรค์มาเชียงใหม่ พร้อมเอกสารและค่าใช้จ่ายคร่าวๆจ้า
เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้เราพยายามหาข้อมูลจากหลายทางแล้วค่อนข้างสับสน
ทั้งเอกสารที่ต้องเตรียมก็บอกไม่เหมือนกัน ค่าใช้จ่ายก็ไม่เท่ากัน
เราเลยหวังว่าข้อมูลของกรณีเรา อาจจะช่วยเพิ่มความชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังจะโอนรถทั้งหลายนะคะ
ก่อนอื่นเลย ขอพูดถึงรถเราก่อน
[สภาพรถ]
รถเราเป็นรถ ยามาฮ่า ฟีโน่ ปี 2008 มือสาม ไม่เคยเปลี่ยนเครื่อง ไม่แต่งรถ สภาพเดิมเหมือนตอนซื้อมาทุกอย่าง (มีแค่โทรมลง ฮ่าๆ)
เพิ่งต่อภาษีและพรบ. เมื่อเดือนเมษาปีที่แล้ว หมดเมษาปีนี้ค่ะ
โดยเราได้รถคันนี้มาจากฐาติผู้ใหญ่แบบฟรีๆ (ญาติเป็นเจ้าของมือที่สอง)
**ที่ต้องกล่าวถึงเรื่องนี้เพราะ ทั้งสภาพ รุ่น และราคารถจะเป็นข้อมูลที่ทางขนส่งประเมินค่าใช้จ่ายในการโอนด้วย**
ซึ่งตรงนี้นี่เองที่ทำให้ค่าใช้จ่ายในการโอนของแต่ละคนไม่เท่ากัน
[เอกสารที่ต้องเตรียม]
เอกสารต่าง Download ได้จากเวบไซค์ของกรมการขนส่งทางบก ตาม Link นี้นะคะ http://www.dlt.go.th/th/eform/
2. หนังสือมอบอำนาจ
3. สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถเดิม พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง 1 ใบ
4. สำเนาบัตรประชาชนผู้รับโอน พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง 1 ใบ
5. ใบแจ้งย้าย
6. เล่มทะเบียน
*7. พรบ.เดิม (ในกรณีที่ต้องการต่อ พรบ. เลย)
1.แบบคำขอโอนและรับโอน (มีสองหน้า)
เจ้าของรถ ต้องกรอกและเซ็นชื่อในบริเวณที่เราทำกรอบสีแดงไว้นะคะ
ผู้รับโอน กรอกบริเวณที่เราทำกรอบสีฟ้าไว้
บริเวณกรอบสีน้ำเงิน จะเกี่ยวข้องกับเอกสารการมอบอำนาจ
หากผู้รับมอบอำนาจคือคนเดียวกับผู้รับโอน ก็เซ็นช่องนี้ได้เลยค่ะ
แต่ถ้าผู้รับมอบอำนาจไม่ใช่คนเดียวกับผู้รับโอน ก็ให้ผู้รับมอบอำนาจคนนั้นเซ็นในช่องนี้ค่ะ
ในส่วนข้อมูลรถ เลขทะเบียน ดูได้ในเล่มทะเบียนเลยค่ะ
ส่วนที่เหลือ และข้างหลังไม่ต้องกรอกอะไรค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. หนังสือมอบอำนาจ
เหมือนเดิมค่ะ กรอกวันที่ให้เรียบร้อย
ผู้รับมอบอำนาจ กรอกบริเวณที่เราทำกรอบสีฟ้าไว้
ส่วนพยาน ถ้าผู้รับโอนพาคนไปด้วย พนักงานอาจเรียกให้เซ็นรับรองเป็นพยานได้ค่ะ
***โดยผู้รับโอนสามารถเป็นคนเดียวกับผู้รับมอบอำนาจได้ ถ้าจะให้พูดง่ายๆคือ คุณมาดำเนินการเพียงคนเดียวได้เลยค่ะ***
*ตอนแรกเราคิดว่าต้องมีสองคน ก็อุตส่าห์ให้แฟนลางานไปด้วย*
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3.สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถเดิม พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง 1 ใบ
**ซึ่งเอกสารข้อ 1-3 นี้ ต้องขอจากเจ้าของรถหรือให้เจ้าของเซ็นให้ (ในกรณีโอนลอย)
*อย่างกรณีเรานี้ ป้าเราเซ็นเอกสาร 3 ใบนี้แล้วส่งมาทางไปรษณีย์ให้เราไปดำเนินการต่างๆต่อเองค่ะ*
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4.สำเนาบัตรประชาชนผู้รับโอน พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง 1 ใบ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
5.ใบแจ้งย้าย
เอกสารตัวนี้รอรับได้ที่สำนักงานขนส่งได้เลย ซึ่งจะเป็นเอกสารสำหรับแจ้งย้ายออกจากจังหวัดเดิม และย้ายเข้าจังหวัดปัจจุบัน
กรอกข้อมูลตามที่พนักงานแนะนำเลยค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
6.เล่มทะเบียน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[สถานที่โอนรถ]
ข้อมูลนี้สำหรับชาวเชียงใหม่โดยเฉพาะค่ะ
การโอนรถมอเตอร์ไซค์ ต้องโอนที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่แห่งที่ 1 (หนองหอย)
หรือที่เราเรียกกันว่า ขนส่งหนองหอย นั่นเองค่ะ
อยู่ตรงข้ามโรงแรม ฮอลิเดย์อินน์ ถ้าใครอยากได้แผนที่
พิกัด GPS คือ 18.766879, 99.005744
(เปิด Google maps แล้วเอาเลขนี้ไปหย่อนใส่ช่อง Search ได้เลยค่ะ)
ทางเข้าอยู่ทางด้านหลังนะคะ เดินอ้อมไป ด้านหน้าเหมือนจะเป็นส่วนของงานต่อภาษีรถยนต์
*กรณีเรา วันโอน เรารีบตื่นแต่เช้า บึ่งไปขนส่งหางดง(เพราะใกล้บ้านกว่า) ไปถึงน้องประชาสัมพันธ์เค้าบอกว่า "ต้องไปโอนที่หนองหอยนะคะ ที่นี่รับโอนแต่รถยนต์ค่ะ" *
[ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายการโอน]
ไปถึงก็เอาเอกสารที่มีไปยื่นตรงส่วนโต๊ะประชาสัมพันธ์เลยนะคะ แล้วเค้าก็จะให้เอกสารเพิ่มมาในส่วนที่เราขาด
ไปนั่งกรอกแล้วกลับมายื่น และรอรับบัตรคิวค่ะ
วันแรกก็จะวนๆอยู่แค่โต๊ะประชาสัมพันธ์ เคาท์เตอร์ โต๊ะกรอกเอกสาร ไม่ได้ยุ่งอะไรกับรถเลยค่ะ
--------------------------------------
ค่าใช้จ่าย
จะเสียค่าอากร สแตมป์ 35 บาท
ค่าแจ้งย้ายอีก 25 บาท
(ประมาณนี้นะคะ อาจจะมากกว่านี้อีก แต่วันแรกเสียไม่เกินร้อยค่ะ)
และทางพนักงานจะนัดมาในสองวันทำการเพื่อมาดำเนินการ ตรวจสภาพรถค่ะ
*กรณีเรา ไปทำเช้าวันพฤหัส พนักงานนัดอีกที เช้าวันจันทร์ค่ะ*
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 2
นำเอกสารเล่มทะเบียนมายื่นที่โต๊ะเบอร์ 4 (งานแจ้งย้าย) ได้เลย ไม่ต้องรอบัตรคิว รับเอกสารมากรอก
หลังจากนั้นก็เข็นรถไปตรวจสภาพ อู่ตรวจสภาพจะอยู่ตรงกลางนะคะ
>> เอาเอกสารยื่นที่โต๊ะรับเอกสาร
>> รอสักแป๊ป จะมีพนักงานตรวจสภาพมาขูดเลขเครื่องไป
>> รอพนักงานทำเอกสารสักครู่ เค้าก็จะเรียกเราไปถามว่า รถของเรา พรบ. จะหมดได้เดือนเมษานี้ จะต่อเลยมั้ย เราจึงตกลงต่อ พรบ.เลย
>> เราก็เอารถออกจากอู่แล้วมาดำเนินการด้านเอกสารต่อ
>> ต่อมาก็เอาเอกสารไปยื่นตรงออฟฟิศประกันภัย ( ซึ่งจะอยู่ข้างนอกออฟฟิศขนส่ง อยู่บนอาคารเดียวกันนะคะ แต่อยู่ภายนอกอาคารเฉยๆ)
>> รอทำ พรบ. เสร็จชำระเงินค่า พรบ. เอาเอกสารกลับมายื่นโต๊ะประชาสัมพันธ์ รับบัตรคิว
>> นั่งรอคิวสักครู่ พนักงานก็จะเรียกไปตรวจเอกสารและชำระเงิน พร้อมกับให้บัตรคิวและนัดวันมารับทะเบียนใหม่ ในอีกสองวันทำการค่ะ
*กรณีเราคือ มาทำวันจันทร์ ได้วันพุธบ่ายค่ะ*
--------------------------------------
ค่าใช้จ่าย
เสียค่า พรบ. 322 บาท(ถ้าไม่ต่อ ณ ตอนนั้น ก็จะไม่เสียส่วนนี้ค่ะ)
ค่าโอน ตรวจสภาพ ค่าอื่นๆอีก รวม 420 บาท
(ส่วนนี้พนักงานเค้าไม่ได้แจกแจงให้ฟังนะคะ เลยค่อนข้างไม่ชัดเจน)
*จากที่พนักงานอธิบายในช่วงแรกคือ จะคิดค่าโอนจากราคารถ โดยคิด 10,000 ละ 50 บาท
แต่รถเราเป็นรถได้มาฟรี จึงต้องรอให้ช่างตรวจสภาพประเมินราคาให้ค่ะ*
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 3
*วันที่ไปรับทะเบียนต้องถอดเอาทะเบียนเดิมยื่นพร้อมกับบัตรคิวนะคะ
>>เอาบัตรคิวไปยื่นตรงงานแจ้งย้ายทะเบียน แล้วค่อยไปเอาทะเบียนที่ตรงส่วนด้านนอก (ข้างโซนพักผ่อนและกรอกเอกสาร)
>>รอสักครู่ พนักงานจะเรียกเซ็นรับ เอาทะเบียน และ พรบ. ใหม่ให้ (ถ้าใครไม่ได้ทำ พรบ. ในตอนแรก ก็จะไม่ได้ส่วนนี้นะคะ)
เรียบร้อยค่ะ ได้ทะเบียนใหม่แล้วค่ะ
ค่าใช้จ่าย
0 บาท ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเลยค่ะ วันนี้
ข้อมูลทั้งหมดมีประมาณนี้ค่ะ ถ้าเราเขียนงงๆ หรือมีคำถามอะไรที่สงสัยถามได้นะคะ ถ้าเราตอบได้จะช่วยตอบค่ะ