ผ่านพ้นไปแล้วกับ Audax 200 เมื่อวานนี้ เท่าที่ถาม ๆ ดูในงาน หลายคนรวมทั้งผมด้วยก็เพิ่งมากันเป็นครั้งแรก ขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองก่อนเลยนะครับ
ผมใช้ Merida Crossway 100 เป็น Hybrid ภูเขาครับ งานนี้มี item พิเศษคือเป้น้ำมาด้วย
เริ่มต้นออกจาก TOT ไป CP1 นี่ไม่ค่อยมีอะไรมาก ขับตาม ๆ เขาไป Cue Sheet ไม่ดูเลย คนเยอะ รู้สึกยังมีความสุขอยู่ ช่วงนี้ผมได้ตามกลุ่มหมอบยาวไปเกือบ 20 โล ทำความเร็ซไป 30 กว่า ๆ จนถึงศูนย์ศิลปาชีพฯ
ช่วงออกจาก CP2 ผมเริ่มหลุดกลุ่มหมอบ ด้วยความที่ทั้งรถและแรงมันก็ปั่นได้ประมาณ 25 26 สุดท้ายก็เริ่มต้องอยู่กับตัวเอง กลุ่มข้างหน้าก็ทิ้งหายไป กลุ่มข้างหลังก็แซงมากขึ้น แรก ๆ ผมก็พยายามฮึดตามกลุ่มหลังที่แซงมา แต่ตามได้ไม่เท่าไหร่ก็หลุดอีก ก็เลยถึงสัจธรรมว่า...งานนี้เราต้องพึ่งตังเอง สู้กับตัวเอง ปั่นตามแผนที่วางไว้ คือประมาณ 24 แต่จริง ๆ ก็ปั่นเกินนิด ๆ หน่อย เอาเท่าที่แรงไหวและไม่กินแรงมาก..ช่วงนี้ผมเริ่มงัด Cue Sheet มาดูเป็นระยะ ๆ เพราะไม่มีใครให้ตามแล้ว...จนถึง CP2 ที่ทำการอำเภอผักไห่... ณ จุดนี้ก็ถือว่ายังไม่เหนื่อยนะ แต่เคยได้ยินมาว่าเส้นทางหลังจากนี้...ทุ่งผักไห่ จะโหดหิน...
ผมเติมน้ำเย็นใส่เป้น้ำ รีบออกจาก CP2 ไม่อยากพักนาน เพราะกลัวจบค่ำ พอถึงตรงทุ่งผักไห่มันก็จริงอย่างเขาว่าครับ ลมค่อนข้างแรง ประมาณปั่นสนามเขียวช่วงลมต้าน แต่เส้นทางยาวกว่ามาก น่าจะสัก 20 โล ถ้าจำไม่ผิด ปั่นคนเดียวอยู่สักห้าหกโล ก็มีทีม Phatumthani ปั่นกันมาสี่ห้าคน เขาก็ใจดี ให้ผมติดไปด้วย
สบายไปพักใหญ่ ๆ แต่สักพัก พี่คนนึงแกก็หลุดไป เลยไปอีกสองโลทั้งทีมเลยจอดพักรอเพื่อน ผมตัดสินใจไม่พักเพราะดูแล้ว ถ้าผมพักผมท้อแน่ ผมก็เลยปั่นไป 19 - 20 ฝืน ๆ เอา ดูจาก Cue sheet เลยไปถึง km 122 จะมี 7-11 ผมตั้งใจไปพักตรงนั้นเลยทีเดียว ปั่นเหนื่อยมาก ตาก็มองเลขไมล์.. 122 122 122 ทำไมเลขไมล์มันไม่ค่อยขยับเลยฟระ!!! จนในที่สุดก็มาถึงจนได้ครับ ตรงนี้มีเพื่อนนักปั่นนักพักกันหลายคน ผมก็เข้า 7 ซื้อกระทิงแดงกับ EST หนึ่งขวด จัดไป ระหว่างทางนี่..ตะคริวมาเคาะ ๆ น่องขวาเป็นระยะ พอแว๊บมา ผมต้องผ่อนแรงทันทีไม่งั้นมันมาแน่...
จาก CP2 เข้า CP3 จำอะไรไม่ค่อยได้ ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้น ส่วนใหญ่ปั่นคนเดียว ไปงง ๆ ตรงในตัวเมืองอยุธยา ลงสะพานมาเลี้ยวซ้ายไม่เจอจักรยานสักคัน จอดรอ ก็ยังไม่มีใครมา ข้างหน้าก็มีแต่รถติด ในใจก็คิดมันใช่เหรอฟระ ตูหลงป่ะเนี่ย ก็ถามทางเขา ดู cue sheet ปั่นมาเรื่อย จนมาเจอเพื่อนนักปั่นสองคน พามาถึง CP3 จนได้ ขอบคุณมากครับ
ที่ CP3 พักนาน ที่นั่งสบาย มียาให้ทาแก้ตะคริว ผมเอาเครื่องดื่มเกลือแร่ที่แจกฟรี เติมจนเต็มกระติกน้ำ ส่วนเป้น้ำก็เตินน้ำเย็นเข้าไป พักจนหายเหนื่อย ดูเวลาดีตอนนั้นน่าจะประมาณบ่ายสองครึ่ง ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ก็ยกจักรยานข้ามเกาะกลางฯ เตรียมปั่นไป CP4 บีบยางดู เอ๊ะ..ยางหลังลมยางอ่อน ยกกลับไปที่ CP3 มีพี่ใจดีเอาปั๋มใหญ่มาให้ยืม อัดจนเต็ม 100 PSI ไปต่อครับ...
ระหว่างทาง CP3 ถึง CP4 ไม่ไกลมาก แต่ไอ้ยางลมอ่อนนั่นเป็นเหตุจนได้ รถส่าย ๆ ผมจอดศาลาข้างทาง เช็คยางหลัง...ลมอ่อนอีกแล้ว รั่วชัวร์ จัดแจงงัดยางออกมา หารูรั่ว ไม่เจอ ลูบยางนอก ไม่มีของมีคม ดูยางนอกด้านนอก ก็ไม่มี อ่ะ..สงสัยคงเป็นที่ตัวเติมลมมันมั๊ง เปลี่ยนยางอะหลั่ย เสียเวลาไปพอสมควร ระหว่างกำลังปั๋มมือด้วย Giyo Air Supply มีกลุ่มนักปั่นใจดี แวะมาดู แล้วก็ให้ยืมปั๋มใหญ่ (พี่แกพกปั๋มใหญ่มาด้วย) เลยให้แกช่วยเติมให้ด้วยเลย อิๆ จากนั้นก็ปั่นออกจากศาลา...ได้ไม่ถึงสองโล..คราวนี้..แบนแต๊ดแต๋ !!
ผมจอดศาลาอีกครั้ง (โชคดีจริงรั่วตรงศาลาทุกที) คราวนีเครียด เพราะเตรียมยางในมาสองเส้น ต้องใช้อีกเส้น แถมถ้าหาต้นเหตุไม่เจอรั่วอีกแน่ ผมเลยถอดยางในที่รั่วออกมา อัดลมเข้าไป แล้วหมุนฟังเสียงลมรั่ว จนเจอจุดรั่วเล็ก ๆ จุดนึง เอายางในไปเทียบกับยางนอก โดยเทียบจากจุดเติมลมของล้อและยางใน ก็เจอต้นเหตุครับ เป็นลูกแม๊กเล็ก ๆ ฝังอยู่ในเนื้อยางนอกด้านในแบบเอียง ๆ ถ้าลูบด้านนึงจะไม่เจอ แต่ถ้าลูบสวนทางจะเจอ งัดมันออกมา ใส่ยางในเส้นใหม่ เติมลม รอบนี้ไม่มีนางฟ้าใจดีมาให้ยืมปั๋มใหญ่แล้ว เหนื่อยโฮก ได้มา 70 psi น่าจะไปต่อได้จนถึง CP4 ก็ปั่นมาเรื่อย ๆ ครับจนถึง CP4
ตรงนี้เหนื่อยแล้ว แต่เส้นทางข้างหน้าก็เหลืออีกไม่กี่กิโล 30 กว่าโลนี่ระยะทำการ ยังไงก็ไหว พักกินก๋วยเตี๋ยวที่น้ำก๋วยเตี๋ยวหมดแล้ว แต่อร่อยมาก ๆ ส่วนน้ำเย็นที่ทาง Audax เตรียมไว้หมดแล้ว งานเข้าเลย เพราะในเป้น้ำเหลือน้ำไม่ถึงครึ่งลิตร จบจาก CP นี้ก็รีบไปครับ ใกล้ ๆ กันมี 7-11 ซื้อน้ำที่นั่นสองขวดเติมเป้น้ำ..พร้อมแล้วที่จะเดินทางกลับ
เส้นทางหลังจากนั้นไม่ค่อยมีอะไรน่าจดจำมากนัก เหมือนปั่นกลับบ้านมากกว่า มีตรงช่วงเลียบคลองขากลับที่ผิวถนนแย่มาก ๆ ผมเห็นหมอบปั่นกันย่อง ๆ ส่วนผมนี่..ปลดล็อคโช๊ค วิ่งสบายใจเฉิบ รู้สึกดีที่เอาภูเขามาก็ช่วงนี้ 5555
ตัดจบเลยนะครับ ก็มาถึง TOT ประมาณทุ่มยี่สิบนาที ลงทะเบียนเสร็จ สั่งซื้อเข็มซื้อเสื้อเสร็จก็กลับบ้าน เช้านี้ชั่งน้ำหนัก น้ำหนักหายไปสองโล ดีใจจัด ไม่ต้องลด 5555
ขอบคุณเพื่อนนักปั่นทุกคนที่ได้พบเจอระหว่างทาง ได้คุยกัน ได้ช่วยเหลือกันนะครับ ถ้าใครพอจะจำได้ ผมปั่น Merida สีดำเขียว สะพายเป้น้ำ หมวกสีน้ำเงิน เสื้อ Giat สีน้ำเงินครับ
Audax 200 BRM Ayuthaya มาคุยกันจร้า ^^
ผมใช้ Merida Crossway 100 เป็น Hybrid ภูเขาครับ งานนี้มี item พิเศษคือเป้น้ำมาด้วย
เริ่มต้นออกจาก TOT ไป CP1 นี่ไม่ค่อยมีอะไรมาก ขับตาม ๆ เขาไป Cue Sheet ไม่ดูเลย คนเยอะ รู้สึกยังมีความสุขอยู่ ช่วงนี้ผมได้ตามกลุ่มหมอบยาวไปเกือบ 20 โล ทำความเร็ซไป 30 กว่า ๆ จนถึงศูนย์ศิลปาชีพฯ
ช่วงออกจาก CP2 ผมเริ่มหลุดกลุ่มหมอบ ด้วยความที่ทั้งรถและแรงมันก็ปั่นได้ประมาณ 25 26 สุดท้ายก็เริ่มต้องอยู่กับตัวเอง กลุ่มข้างหน้าก็ทิ้งหายไป กลุ่มข้างหลังก็แซงมากขึ้น แรก ๆ ผมก็พยายามฮึดตามกลุ่มหลังที่แซงมา แต่ตามได้ไม่เท่าไหร่ก็หลุดอีก ก็เลยถึงสัจธรรมว่า...งานนี้เราต้องพึ่งตังเอง สู้กับตัวเอง ปั่นตามแผนที่วางไว้ คือประมาณ 24 แต่จริง ๆ ก็ปั่นเกินนิด ๆ หน่อย เอาเท่าที่แรงไหวและไม่กินแรงมาก..ช่วงนี้ผมเริ่มงัด Cue Sheet มาดูเป็นระยะ ๆ เพราะไม่มีใครให้ตามแล้ว...จนถึง CP2 ที่ทำการอำเภอผักไห่... ณ จุดนี้ก็ถือว่ายังไม่เหนื่อยนะ แต่เคยได้ยินมาว่าเส้นทางหลังจากนี้...ทุ่งผักไห่ จะโหดหิน...
ผมเติมน้ำเย็นใส่เป้น้ำ รีบออกจาก CP2 ไม่อยากพักนาน เพราะกลัวจบค่ำ พอถึงตรงทุ่งผักไห่มันก็จริงอย่างเขาว่าครับ ลมค่อนข้างแรง ประมาณปั่นสนามเขียวช่วงลมต้าน แต่เส้นทางยาวกว่ามาก น่าจะสัก 20 โล ถ้าจำไม่ผิด ปั่นคนเดียวอยู่สักห้าหกโล ก็มีทีม Phatumthani ปั่นกันมาสี่ห้าคน เขาก็ใจดี ให้ผมติดไปด้วย
จาก CP2 เข้า CP3 จำอะไรไม่ค่อยได้ ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้น ส่วนใหญ่ปั่นคนเดียว ไปงง ๆ ตรงในตัวเมืองอยุธยา ลงสะพานมาเลี้ยวซ้ายไม่เจอจักรยานสักคัน จอดรอ ก็ยังไม่มีใครมา ข้างหน้าก็มีแต่รถติด ในใจก็คิดมันใช่เหรอฟระ ตูหลงป่ะเนี่ย ก็ถามทางเขา ดู cue sheet ปั่นมาเรื่อย จนมาเจอเพื่อนนักปั่นสองคน พามาถึง CP3 จนได้ ขอบคุณมากครับ
ที่ CP3 พักนาน ที่นั่งสบาย มียาให้ทาแก้ตะคริว ผมเอาเครื่องดื่มเกลือแร่ที่แจกฟรี เติมจนเต็มกระติกน้ำ ส่วนเป้น้ำก็เตินน้ำเย็นเข้าไป พักจนหายเหนื่อย ดูเวลาดีตอนนั้นน่าจะประมาณบ่ายสองครึ่ง ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ก็ยกจักรยานข้ามเกาะกลางฯ เตรียมปั่นไป CP4 บีบยางดู เอ๊ะ..ยางหลังลมยางอ่อน ยกกลับไปที่ CP3 มีพี่ใจดีเอาปั๋มใหญ่มาให้ยืม อัดจนเต็ม 100 PSI ไปต่อครับ...
ระหว่างทาง CP3 ถึง CP4 ไม่ไกลมาก แต่ไอ้ยางลมอ่อนนั่นเป็นเหตุจนได้ รถส่าย ๆ ผมจอดศาลาข้างทาง เช็คยางหลัง...ลมอ่อนอีกแล้ว รั่วชัวร์ จัดแจงงัดยางออกมา หารูรั่ว ไม่เจอ ลูบยางนอก ไม่มีของมีคม ดูยางนอกด้านนอก ก็ไม่มี อ่ะ..สงสัยคงเป็นที่ตัวเติมลมมันมั๊ง เปลี่ยนยางอะหลั่ย เสียเวลาไปพอสมควร ระหว่างกำลังปั๋มมือด้วย Giyo Air Supply มีกลุ่มนักปั่นใจดี แวะมาดู แล้วก็ให้ยืมปั๋มใหญ่ (พี่แกพกปั๋มใหญ่มาด้วย) เลยให้แกช่วยเติมให้ด้วยเลย อิๆ จากนั้นก็ปั่นออกจากศาลา...ได้ไม่ถึงสองโล..คราวนี้..แบนแต๊ดแต๋ !!
ผมจอดศาลาอีกครั้ง (โชคดีจริงรั่วตรงศาลาทุกที) คราวนีเครียด เพราะเตรียมยางในมาสองเส้น ต้องใช้อีกเส้น แถมถ้าหาต้นเหตุไม่เจอรั่วอีกแน่ ผมเลยถอดยางในที่รั่วออกมา อัดลมเข้าไป แล้วหมุนฟังเสียงลมรั่ว จนเจอจุดรั่วเล็ก ๆ จุดนึง เอายางในไปเทียบกับยางนอก โดยเทียบจากจุดเติมลมของล้อและยางใน ก็เจอต้นเหตุครับ เป็นลูกแม๊กเล็ก ๆ ฝังอยู่ในเนื้อยางนอกด้านในแบบเอียง ๆ ถ้าลูบด้านนึงจะไม่เจอ แต่ถ้าลูบสวนทางจะเจอ งัดมันออกมา ใส่ยางในเส้นใหม่ เติมลม รอบนี้ไม่มีนางฟ้าใจดีมาให้ยืมปั๋มใหญ่แล้ว เหนื่อยโฮก ได้มา 70 psi น่าจะไปต่อได้จนถึง CP4 ก็ปั่นมาเรื่อย ๆ ครับจนถึง CP4
ตรงนี้เหนื่อยแล้ว แต่เส้นทางข้างหน้าก็เหลืออีกไม่กี่กิโล 30 กว่าโลนี่ระยะทำการ ยังไงก็ไหว พักกินก๋วยเตี๋ยวที่น้ำก๋วยเตี๋ยวหมดแล้ว แต่อร่อยมาก ๆ ส่วนน้ำเย็นที่ทาง Audax เตรียมไว้หมดแล้ว งานเข้าเลย เพราะในเป้น้ำเหลือน้ำไม่ถึงครึ่งลิตร จบจาก CP นี้ก็รีบไปครับ ใกล้ ๆ กันมี 7-11 ซื้อน้ำที่นั่นสองขวดเติมเป้น้ำ..พร้อมแล้วที่จะเดินทางกลับ
เส้นทางหลังจากนั้นไม่ค่อยมีอะไรน่าจดจำมากนัก เหมือนปั่นกลับบ้านมากกว่า มีตรงช่วงเลียบคลองขากลับที่ผิวถนนแย่มาก ๆ ผมเห็นหมอบปั่นกันย่อง ๆ ส่วนผมนี่..ปลดล็อคโช๊ค วิ่งสบายใจเฉิบ รู้สึกดีที่เอาภูเขามาก็ช่วงนี้ 5555
ตัดจบเลยนะครับ ก็มาถึง TOT ประมาณทุ่มยี่สิบนาที ลงทะเบียนเสร็จ สั่งซื้อเข็มซื้อเสื้อเสร็จก็กลับบ้าน เช้านี้ชั่งน้ำหนัก น้ำหนักหายไปสองโล ดีใจจัด ไม่ต้องลด 5555
ขอบคุณเพื่อนนักปั่นทุกคนที่ได้พบเจอระหว่างทาง ได้คุยกัน ได้ช่วยเหลือกันนะครับ ถ้าใครพอจะจำได้ ผมปั่น Merida สีดำเขียว สะพายเป้น้ำ หมวกสีน้ำเงิน เสื้อ Giat สีน้ำเงินครับ