ตำนานมนุษย์เสื้อหนังรองเท้าในสหรัฐ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Ricky Nelson - Travelin' Man 1961




ถ้าคุณเคยอยู่ที่ Westchester County ในตอนใต้ของ New York
หรือทางตะวันตกของ Connecticut ช่วงปลาย ๆ กลางศตวรรษที่ 19
คุณอาจจะเคยเห็นมนุษย์ลึกลับรายหนึ่ง
ที่เดินทอดน่องอย่างช้า ๆ ผ่านเมืองต่าง ๆ
พร้อมกับไม้เท้าในมือและสมบัติติดตัวที่ไร้ค่าไร้ราคาเพียงไม่กี่อย่าง
ภายใต้เสื้อผ้าที่เย็บปะติดปะต่อด้วยเศษหนังสัตว์
ผู้คนมักจะเรียกเขาว่า (มนุษย์เสื้อหนังรองเท้า) Leatherman

เรื่องลึกลับของชายคนนี้เป็นที่เล่าขานสืบต่อกันมาในเมืองเล็ก ๆ
ระหว่างชุมชนข้างทาง Hudson  กับ Connecticut Rivers
แม้ว่าลักษณะท่าทางของเขาดูค่อนข้างน่ากลัวเล็กน้อย



ช่วงวัยหนุ่มจนกระทั่งตายเป็นเวลาถึง 30 ปี  เขาเดินไปกลับระหว่าง New York กับ Connecticut
โดยไม่มีใครทราบเหตุผลเลยว่า  ทำไปทำไม

Credit : Dan DeLuca, via NPR




เส้นสีเขียวในภาพระยะทาง  365 ไมล์ จะมีการหยุดพักในหลายเมือง
แต่ทุก ๆ 35 วันเขาจะเดินทางมาถึงเมืองดังกล่าวนี้

Credit : Ghost Village


จนถึงทุกวันนี้  ยังไม่มีใครทราบเลยว่า Leatherman
มาจากไหน  ชื่อจริง  นามสกุลจริงว่าอะไร
และทำไมเขาต้องเดินตลอดเวลา
เป็นระยะทางวงรี  365 ไมล์ตลอดเวลา 30 ปี
และจะผ่านเมืองเดือวกันทุก ๆ 35 วัน
เหมือนนาฬิกา(เที่ยงตรงตลอดเวลา)

แปลกแต่จริง
ไม่ว่าเขาจะดูแปลกประหลาดอย่างไรก็ตามแต่
แต่ชาวบ้านมักจะให้ทานเขาเป็นอาหารทุกครั้ง
เขามักจะหยุดรอรับทานเป็นประจำที่บ้านหลังนั้น
เป็นเวลานานหลายปีทุกครั้งที่เขาเดินทางผ่าน
ด้วยสถานะที่พิเศษยิ่งสำหรับชาวบ้านในท้องถิ่น
ในวันนั้น  แม่บ้านจะจัดเตรียมอาหารพิเศษสำหรับคนในครอบครัว
และเด็กนักเรียนจะได้รับอนุญาตให้หยุดเรียนเพื่อดูเขาเดินผ่าน
ถ้าเด็กวางเศษเหรียญ pennies ไว้บนรั้วบ้าน
ถ้าเขาเดินผ่านและพบเขาจะวางเหรียญที่ใหม่กว่าไว้แทน
ทุกเมืองที่เขาเดินผ่านต่างยกเว้นความผิดทางกฎหมาย
ข้อหาคนจรจัด/คนเร่ร่อนเฉพาะเขาคนเดียว



มีภาพถ่าย Leatherman น้อยมาก  ภาพนี้ถ่ายในปี 1885
เสื้อผ้าทำจากหนังทำรองเท้าเย็บด้วยด้ายหนัง มีน้ำหนัก 60 ปอนด์

Credit : Wikimedia Commons
    

แม้ว่าโดยทั่วไปแล้ว  คนเรามักจะชอบเผือกเรื่องชาวบ้าน
แต่มีใครบ้างบนโลกนี้ที่ใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตกับการเดิน
และสวมเสื้อที่ทำจากหนังทำรองเท้าที่เย็บด้วยด้ายหนัง

โชคร้ายมากที่เมื่อใครถามเขาก็ป่วยการเปล่า
เพราะ Leatherman นาน ๆ จะพูดซักครั้ง
ภาษาอังกฤษก็ติดสำเนียงภาษาฝรั่งเศส
ทำให้หลายคนเชื่อว่าเขาไม่เป็นคนฝรั่งเศส
ก็เป็นชาวแคนนาดาที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส
ทุกวันนี้  ชาวบ้านตั้งข้อสงสัยเรื่องการไม่พูดของเขา
แม้แต่ภาษาพื้นเมืองของเขาเอง
อาจจะเป็นเพราะความผิดปรกติ
ทางการสื่อสารและอารมณ์ Autism spectrum

เรื่องลึกลับต่อมาก็คือ
เมื่อมีใครถามภูมิหลังเรื่องราวชีวิตของเขา
เขาจะหยุดแล้วยุติการพูดคุยด้วยทันที
สิ่งที่รู้บ้างเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวเขา
ได้มาจากการปะติดปะต่อเกร็ดประวัติของเขาเข้าด้วยกัน
จากชาวบ้านที่เขาแวะที่บ้านเพื่อขอรับอาหารที่ให้ทาน
คือ เขานับถือศาสนาคริสต์นิกาย Roman Catholic
เขาพกหนังสือสวดมนตร์ภาษาฝรั่งเศส
และปฏิเสธการกินเนื้อในทุกวันศุกร์(แต่กินปลาได้)
(ในสมัยก่อนศาสนาคริสต์มีกฎข้อห้ามเรื่องนี้
ก่อนที่จะมีการยกเลิกในภายหลังไม่นานมานี้)


เขาชอบสูบบุหรี่
เมื่อชาวบ้านลอบติดตามเขาเข้าไปในป่า
หลังจากที่เขาเดินทางออกจากเมืองแล้ว
ก็พบว่าเขาพักในถ้ำหินขนาดเล็ก
ที่ทุกวันนี้ยังเรียกว่า "leatherman caves"
เพื่อปกป้องตนเองจากสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ
Leatherman ชอบพักในถ้ำขนาดเล็ก
เช่น หนึ่งในถ้ำที่ Watertown ที่รัฐ Connecticut



Credit : Wikimedia Commons



ข้างในถ้ำ Leatherman Cave ที่ Watertown รัฐ Connecticut

Credit : http://bit.ly/1DNZEhO



Credit : http://bit.ly/1DNZEhO


นี่คือ ถ้ำ Tories เป็นหนึ่งในบ้านหินของ  Leatherman
ที่พำนักถูกรบกวน/ทำลายและตามตำนานเล่าว่า
มีเด็กชายคนหนึ่งได้ปีนเขามาที่นี่ในวันหนึ่งแล้วก่อไฟค้างคืน
เช้าวันรุ่งขึ้นจึงกลับบ้านและเล่าให้แม่ฟังเกี่ยวกับเรื่องราวเมื่อคืน
แม่ถามเขาว่า ไปเอาไม้ฟืนมาจากไหน พอรู้เรื่องนี้เข้า
แม่ของเด็กโกรธเป็นฟืนเป็นไฟทีเดียว
พร้อมกับสั่งให้เด็กคนนี้เดินทางไปไกลถึงสองไมล์
เพื่อนำไม้กลับไปคืนที่เดิม เพราะเธอรู้ว่าไม้ฟืนนี้เป็นของ Leatherman



Leatherman, June 9, 1885  Credit : http://bit.ly/1DNZEhO


ภาพถ่ายของ Leatherman มักจะต้องแอบถ่าย
เพราะเขามีความเป็นส่วนตัวอย่างแรงส์ส์
เรื่องราวก็มีว่า ถ้าบ้านใครก็ตามที่ถ่ายภาพของเขา
หลังจากนั้นเขาจะไม่ไปแวะที่บ้านหลังนั้นอีกตลอดกาล



Credit : Dan DeLuca, via NPR
    

แม้ว่าเขาจะมีความแปลกประหลาดมากก็ตาม
แต่ชาวบ้านยังสนใจและเอาใจใส่เขาเสมอ
ทั้งยังห่วงใยสุขภาพของเขา
ช่วงเปลี่ยนผ่านสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
ครั้งหนึ่งเขาถูกจับตัวและส่งไปรักษาพยาบาล
เพราะชาวบ้านเห็นสิ่งผิดปรกติที่ริมฝีปากของเขา
แต่เขากลับหลบหนีและเดินต่อไปก่อนที่จะได้รับการรักษาพยาบาล
เขารอดตายจากหิมะได้อย่างเหลือเชื่อในปี 1888
แต่ในปีต่อมา  เขากลับต้องตายด้วยอาการโรคมะเร็ง
มีการตรวจพบในภายหลังว่าช่องปากของเขาเป็นโรคมะเร็ง
ศพของเขาพบในถ้ำแห่งหนึ่งที่  Ossining รัฐ New York

ป้ายชื่อศพของเขาคือ Jules Bourglay
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมถึงใช้ชื่อนี้
แต่มีตำนานเล่าขานกันว่า
เขาเป็นพ่อค้าหนังสัตว์จากฝรั่งเศส
ที่โชคร้ายสูญเสียอนาคตและเจ้าสาว
และที่ต้องเดินทางเร่ร่อนในแถบนี้
เพื่อบำเพ็ญทุกรกริยาเพื่อถ่ายบาป
นักประวัติศาสตร์หลายคนเห็นด้วยในเรื่องนี้
แต่ไม่ใช่ทุกคนจะที่เห็นด้วย



ภาพเกือบสุดท้ายของ Leatherman ก่อนหน้าที่เขาจะตายไม่นานนัก
ให้สังเกตด้านล่างริมฝีปากของเขา มีลักษณะอาการคล้ายเป็นโรคมะเร็ง
และรวมทั้งสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเป็นสาเหตุให้เขาถึงแก่กรรม

Credit : Dan DeLuca, via NPR
    

หลังจากเขาตาย มีหนังสือพิมพ์บางฉบับ
สร้างเรื่องราวตำนานนิทานประโลมโลก
หรือเรื่องราวน่าขนลุกสยดสยอง
หรือเรื่องราวว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดชอบกินเด็ก
แต่เรื่องราวเหล่านี้ต้องสิ้นสุดลง
เพราะชาวบ้านต่างพากันประท้วงเรื่องราวเหล่านี้
เพราะชาวบ้านที่เคยพบปะ/ติดต่อเขาอย่างใกล้ชิด
ต่างยืนยันว่า เขาเป็นคนสุภาพ
แม้ว่าจะเป็นคนแปลกประหลาดบ้างก็ตาม



ป้ายหลุมศพอันเดิมมีชื่อว่า Jules Bourglay
Jules ฝรั่งเศสย่อคำจากละติน Julius
Bourglay คนยากจนที่เดินระเหเร่ร่อนจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
ระบุปีเกิด-ตาย 1858-1889 ช่วงเวลาที่เขาเดินวนรอบเป็นวงรี
เพราะไม่มีใครรู้ว่าเขาเกิดเมื่อใด

Credit : Dan DeLuca, via NPR


ในปี  2011 นักประวัติศาสตร์ได้ร่วมมือกันขุดหลุมศพของเขา
เพื่อค้นหาว่ามีอะไรที่ทิ้งร่องรอยเป็นหลักฐานเกี่ยวกับตัวเขา
แต่เรื่องราวกลับแปลกประหลาดยิ่งกว่านั้นอีก
เพราะตอนเปิดโลงศพไม่มีศพอยู่ข้างในเลย  ไม่เหลืออะไรเลย
ที่พบภายในหลุมศพคือ ส่วนมากเป็นตะปูตอกโลงศพ
ทำให้ต้องมีการฝังศพเปล่าอีกครั้งหนึ่ง
พร้อมกับการทำป้ายชื่อศพอันใหม่ทดแทน
โดยชาวบ้านต่างวางเศษเหรียญ pennies ไว้ที่บนป้ายหลุมศพ
สำหรับศพหาย Leatherman หรือเขายังเดินอยู่บนเส้นทางเดิม



ทุกวันนี้ Leatherman ยังอยู่ (หรือไม่แล้ว) ถูกฝังใต้ก้อนหินที่ Ossining รัฐ Newyork
ชาวบ้านยังคงวางเศษเหรียญ pennies บนป้ายหลุมศพแห่งนี้

Credit : Wikimedia Commons



นักเขียนเรื่องนี้



เรียบเรียง/ที่มา
http://bit.ly/1uoDMdh
http://bit.ly/1DNZEhO
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่