KOH TAO 2014
สวัสดีค่ะ ทริบนี้ เป็นทริปแรกที่โพส ดิฉันไปเมื่อปีที่แล้วช่วงเดือนมิถุนายนค่ะ แดดเปรี้ยงเลยค่ะ โพสช้าไปนิดนึง เพิ่งรื้อรูปมาดูเลยลงสักหน่อย
แรงบันดาลใจในการไปเที่ยวคือเห็นเพื่อนในเฟชบุคท่านนึง พี่ขวัญ single mom พี่เขาไปเที่ยวคนเดียวแบบโสดๆ สวยๆชิวๆ ดิฉันเลยต้องไปซะละเขาไปได้เราก็ไปได้โสดเหมือนกัน ^^ ต้องขอบคุณพี่ขวัญ ที่แนะนำเรื่องการเดินทางค่ะ
เอาละมาเข้าเรื่องกันเลย
เริ่มแรกดิฉัน จองรถรับจากสนามบินชุมพร + เรือเฟอรี่ข้ามไป-กลับ เกาะเต่า+ โรงแรม + ทริปดำน้ำ4ที่ ไปหาดนางยวนด้วย + รถจากจังหวัดชุมพรมา กทม. (จอง Lomprayah)ค่ะ ประมาณ5600บาทถ้าจะไม่ผิด
ขาไปจองตั๋วเครื่องบินโปร นกแอร์ รู้สึกตอนนั้นได้ 540บาท แต่ตกเครื่อง555+ชีวิตก็งี้ เดินแก่วดอนเมืองสักพัก..เอาว่ะซื้อตั๋วใหม่ ก็โดนค่าตั๋วรวมภาษีแล้วทั้งสิ้น 1,899 ไฟล์เร็วสุดตอนนั้นคือ 9.30โมงเช้า ลงจังหวัดสุราษฎร์ธานี เซ็งอ่ะ แต่น่าอยากไปเที่ยวและพักผ่อนทั้งทีไม่อยากคิดมากจำเป็นประสบการณ์เลยค่ะ(เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย) อิอิ
จขกท.
ทีนี้เมื่อเมื่อไฟล์เปลี่ยน ยุ่งกันเลยค่ะ แต่เจ้าหน้าที่ของ Lomprayaก็จัดการเปลี่ยนให้มีมีปัญหาเรื่องรถรับจากสนามบินชุมพรมาเป็นสนามบินสุราษฎร์ธานีให้ค่ะ ยังจำชื่อได้ดี คุณSoSo ติอต่อกันตลอดทางเนื่องจากดิฉันไปคนเดียวค่ะทีมงานลมพยาเทคแคร์ดีมาก

นั่งเครื่องชั่วโมงนิดคะ พอมาถึงสนามบินสุราษฎร์ธานี รอรถบัส มาเกือบเที่ยง! แม่เจ้า แล้วดิฉันจะไปไหนก่อนดี ออกไปนอกสนามบิน วิว360องศา เป็นป่าหรือสวนยางไม่แน่ใจ แลดูธรรมชาติมากๆ
รอรถบัส
พอรถบัสมาก็ถึงเวลาเดินทางกันต่อเพื่อไปท่าเรือ แต่ต้องนั่งนานหน่อยประมาณ สองชั่วโมงครึ่ง พอถึงที่ขึ้นเรือตอนนั้นบ่ายๆ แต่ท้องฟ้าอึมครึม ทันทีทันใดฝนก็ตกมาอย่างไม่ลดละ ดิฉันกับนักท่องเที่ยวได้ไปแออัดกันอยู่ที่เซ็นชื่อรับตั๋ว ต่อแถวรับตั๋วและเดินไปขึ้นเฟอรี่ แต่เหมือนจะมีปัญหานิดหน่อยเพราะเรือได้ออกไปแล้วห้านาที เหลือดิฉันกับครอบครัวฝรั่งแค่สี่คน และนั่นคือเฟอรี่รอบสุดท้ายของวันด้วย แต่ในที่สุดโชคก็เข้าข้างเพราะเจ้าหน้าที่ประสานงานกัน จนเรือวกกลับมารับเรา ดูเป็นคนพิเศษ แต่พอขึ้นเรื่อเท่านั้นสายตาประชาชีก็จ้องมาที่ดิฉันและครอบครัวฝรั่ง ประมาณว่าพวกเธอ late! (มันมิใช่ความผิดดิฉันน๊า)
ภาพถ่ายมองออกไปนอกหน้าต่างกระจกเรือขณะฝนตก
หนูน้อยอนาคต tattoo artist กับsticktoo ของเธอ
ผู้ร่วมเดินทางบนเรือเฟอรี่ช่างเป็นมิตรเสียจริง
นั่งเรืออีกเป็นชั่วโมงเพราะเกาะเต่าลงสุดท้ายเลย (แนะนำใครจะไปให้ลงเครื่องชุมพรนะค่ะ ใกล้กว่า) พอถึงเกาะเต่าก็มีเจ้าหน้าที่โรงแรมที่รอรับชูป้ายชื่อ ดิฉันเห็นแล้วรู้สึกเป็นเกียรติบอกไม่ถูก ฮ่าๆ เป็นลูกค้าคนเดียวที่มารอบสุดท้ายด้วย พี่พนักงานพาเรานั่งรถกระบะมุ่งหน้าสู่โรงแรม ชื่อ เกาะเต่ารีสอร์ท ไปถึงก็เช็คอินเก็บของเข้าห้อง เป็นไปตามที่ขอกับ บริษัทลมพยาเลย ดิฉันขอโรงแรมที่ติดชายหาดเดินมาใกล้สุด มันเป็นอะไรที่ประทับใจมากที่ห้องพัก(คล้ายบ้านหลังเล็กๆพักได้3คน แต่ดิฉันไปคนเดียว) คือมันเดินไม่ถึง 30ก้าวก็ถึงชายหาดแล้ว (ดิฉันเป็นคนขาสั้น อิอิ)
ถ่ายรูปเยอะแต่ไม่รู้อยู่ไหน(〜^∇^)〜 ที่ลงนี้คือขุดมาจากภาพในเฟตบุ๊คบ้างไอจีบ้าง
เอาละเมื่อเก็บของเสร็จก็ได้เวลาเดินย้ำทรายริมหาด ช่วงนั้นมืดแล้วค่ะประมาณ หกโงหรือทุ่มนึง ก็เดินออกจากบ้านพักไปเรียบชายหาด สะดุดตาที่ร้านอาหารร้านนึงจำชื่อไม่ได้แล้วค่ะ เป็นร้านที่มีคนเล่นควงกระบองไฟ โชว์การร่ายรำกระบองไฟและดนตรที่เร้าใจ
ดิฉันจึงเลือกร้านนี้เพื่อดินเนอร์ในค่ำคืนสุดแสนจะโรแมนติก(คิดไปเอง) พนักงานอัทยาศัยดี

อาหารที่สั่งก็ต้มยำกุ้งและข้าวสวย บวก เบียร์สิงห์ ..แหม มันช่วงเข้ากับบรรยากาศ มองทางซ้ายก็คู่รัก มองทางขวา ก็แก๊งส์เพื่อน ด้านหลังก็ปาร์ตี้วันเกิด (ได้ทางเค้กฟรีด้วย เจ้าของวันเกิดเดินเอามาให้) ดิฉันนี่นั่งคนเดียวแต่ก็ไม่เหงาเลย ดูการแสดงไปจิบเบียร์ไป ชิวๆ พี่เทรนเนอร์ ที่สวนคนเล่นควงกระบองไฟเป็นชาวใต้ก็เข้ามาคุยด้วย อัทยาศัยดีมาก
พอตกสองทุ่มก็เดินกรุบกริป กลับโรงแรม หลับสบายพร้อมกับเสียงครื่น มันเป็นอะไรที่แบบว่า ทะเล อ่ะ
หกโมงเช้าวันรุ้งขึ้นตื่นมาสูดอากาศที่ กรุงเทพ ไม่มี เห็นคุณพ่อยังหนุ่ม(ฝรั่ง) นั่งเล่นกับลูกที่ชายหาด แหม่ อยากจะไป เซฮัลโหล จริงๆเลย
เดินมาทานอาหารเช้า ฟรี ที่โรงแรมมีให้เลือก แบบ อเมริกัน หรือข้าวต้มแบบไทยๆ เราก็เลือกแบบ อเมริกัน เพราะวันนี้จะไปดำน้ำ กลัวของออก เลยต้องทานแต่พอดี
(ภาพอาหารเข้ามื้อนี้หาไม่เจอ)
เจ้าหน้าที่โรงแรมเดินมาบอก เดี๋ยวรถจะมารับไปท่าเรือเก้าโมงที่ล๊อบบี้นะค่ะ ทานอาหารเช้าเสร็จเลยเดินเล่นรอ ที่โรงแรมนี้วิวดีมาก มีสวน ย่อมตามทางเดินโซนที่ไม่ติดทะเลก็ตกแต่ง ออกแนวป่าๆ มีบ่อปลาด้วย จุดเด่นที่สระว่ายน้ำ มองออกไปเห็นวิวทะเล เริศมาก
ถึงเวลาไปดำน้ำก็มีรถมารับ ลงเรือ ซึ่งรู้สึกมีดิฉันคนเดียวที่เป็นคนไทยนอกนั้นเป็นฝรั่งซะส่วนใหญ่ มีจีน กับเกาหลี และญี่ปุ่นด้วย ดิฉันเป็นคนเข้ากับคนง่ายเลยไปตีเนียนกะแก๊งส์สามสาวซ่าชาวจีน และก็ยังได้เพื่อนใหม่คือสองสาวรัสเซีย ซึ่งนางก็เยอะ พอๆกับคนจีน ต่อตลอดทาง ทริปดำน้ำมีอาหารกล่องให้ทานด้วยหนึ่งมือนะค่ะ ทริปนี้เตรียมกระเป๋ากันน้ำ ของ Ocean Pack และกล้องตัวเล็ก ที่ซื้อจาก lazada พันนิดๆ (ใช้ได้ดีเลยละถ่ายใต้น้ำได้โอเค)ไปด้วย
กล้องราคากากๆก็ถ่ายใต้นำ้ได้นะ
มาถึงที่ดำน้ำ ลืมกินยาแก้เมาเพิ่งมากิน จุดดำน้ำจุดแรกแรกลงไปแค่5นาที ขึ้นมามึนเลยค่ะ ..ได้แต่ยืนดูขำดำ
จุดดำน้ำที่สองก็ดีขึ้นดิฉันกับแกงส์สาวชาวจีน#ซึ่งไม่มีใครว่ายน้ำเป็นเลย ลำบากไกด์ละทีนี้
พวกเราใส่ชูชีพทุกคนนะค่ะ เกาะห่วงยางให้ไกด์ลากเราทั้งสี่ไป แก๊งส์สี่เอเชียนี้ ตื่นตาตื่นใจตลอดดิฉันก็ถ่ายรูปทั้งวิดิโอใต้น้ำ ส่วนสาวจีนนางๆก็เอามือถือใส่ซองกันน้ำถ่ายตลอดเช่นกัน ขนาดใส่สน๊อคเกอร์พวกเรายังส่งเสียงด้วยความตื่นเต้นเวลาไกด์พาเราไปยังจุดสวยๆ (นี่คือข้อดีของการไหว้น้ำไม่เป็น ไกด์รู้ว่าจุดไหนมีปลาเยอะปลาสวยๆแปลกๆ เราก็ได้เห็น) ส่วนสองสาวรัสเซีย และคนอื่นที่ว่ายน้ำเป็นก็ต่างดำไปตามประสา ไม่ exclusive เหมือนแก๊งส์เรา
จุดดำน้ำจุดที่สามไกด์พาเราไปไกลกว่าคนอื่นเช่นเคยค่ะ ทีน้ำดำน้ำลงไปลึกมากโชว์ดิฉันและเหล่าสาวจีน..ตอนแรกตกใจนึกว่าจะไม่ขึ้นมาซะแล้ว
(พี่ไกด์แกดำลงไปแบบเหมือนหายใจได้ทางเหงือก)
จุดนี้พวกเราก็ยังคงถ่ายรูปใต้น้ำและแรกกันเซลฟี่แบบไม่แคร์ผู้ใดค่ะ สังเกตพวกฝรั่งดำกันอย่างเดียวเลย มีเอเชียนี่แหละฮ่าๆๆ มือก็เกาะห่วงยางให้ไกด์ดำน้ำลาก หน้าก็มุดลงน้ำ อีกมือก็ถ่ายภาพ สุดๆ มันก็ไม่ค่อยถนัดเท่าไร แต่ก็สามารถ
แอบถ่ายตูดฝรั่ง
ขึ้นมามีสับประรสแช่เย็น ทานแล้วรู้สึกดีไม่เมาเลยค่ะ ในเรือมีเบียร์และน้ำอัดลมขายด้วย แต่ไม่ซื้อกลับเมาเมาเรือผสมเมาเบียร์(หรือมันแพงเลยไม่ซื้อฮ่าๆ)
จุดสุดท้ายไปหาดนางยวน ถึงประมาณเที่ยงๆ คนเยอะมว๊าก ไกด์ปล่อยเราไว้ให้พักผ่อนตากอัธยาศัย สองชั่วโมงค่อยกลับ ไม่ได้เล่นน้ำที่หาดนี้ และไม่ได้ขึ้นไปจุดชมวิว (ขีเกียจ)
ดิฉันนอนรับลมแดด ที่ชายหาด มองหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่
ไปเพลินๆพร้อมเบียร์สิงห์ (ยี่ห้อโปรด)ช่างเป็นการพักผ่อนที่สนุกและมีความสุข
ถึงเวลากลับโรงแรมแล้วสิถ่ายรูปสักหน่อย(คนอื่นถ่ายให้ค่ะ)
เดินไปขึ้นเรือ แดดร้อนมากช่วงบ่าย(ส่วนตัวคิดว่าไปตอนไหนก็ร้อน แต่ตอนที่ดิฉันไปช่วง เดือนมิถุนาทะเลสวย) อ่อ ลืมบอกพนักงานบนเรือรู้สึกจะเป็นแรงงานต่างชาติ(ต่างด้าว)ทั้งนั้น ดูน่ากลัวเล็กน้อย แต่ปลอดภัยกลับมาครบสามสิบสองอยู่นะ^^
ถึงเกาะเต่าเข้าโรงแรมอาบน้ำแล้วเดินออกมาเซเว่น ซื้อขนมนิดหน่อย เพราะในโรงแรมแพงมากๆ เจอร้านขายโรตี สั่งแบบธรรมดา2อันใส่แต่นมอย่างเดียว อันละ20สองอัน=40 (ราคาอิมพอร์ตมั้ง) แต่อร่อยดี คิดว่าใครที่มาคงเคยกินโรตีเจ้านี้
กลับมาชิวที่สระคนเดียว
วันนี้จำได้ว่าทานอาหารเย็นที่โรงแรมต้องสั่งธรรมดามาทานแล้วเข้าที่พักเลยช่วงหกโมง ตื่นมาอีกทีสี่ทุ่มเปิดหน้าต่างมืดมาก ดีนะมีมาม่าที่ซื้อจากเซเว่นเลย์อีกสามห่อ กล้วยอบแห้งอีก จัดไปคืนนี้
เช้าวันกลับตื่นออกไปวิ่งที่ชายหาดตอบเจ็ดโมง
กลับมาอาบน้ำออกมา และทานอาหารเช้า เลือกเป็นข้าวต้มหมู
ทานข้าวเสร็จเดินเล่นแถวแถวโรงแรม ยังไม่อยากกลับแต่ก็ต้องกลับละสิ
รถมารับก็เช็คเอ้าท์ ขึ้นรถไปท่าเรือ รอเรือคนเยอะมากเพราะฝรั่งจะอีกเกาะ เพื่อฟูมูล…ดิฉันก็อยากจะฟูมูลกะเขาแต่ไปเราคนเดียวคนไม่ไหวขอบาย หมดพลัง
เรือฟอรี่มาก็นั่งไปต่อรถบัสเพื่อกลับ กทม. เป็นคนไทยคนเดียวเลยบนรถ แถมได้นั่งข้างหนุ่มฝรั่ง เกร็งๆนิดๆ หลังหลังมาหลับด้วยความเพลียนำ้ลายไหลโดยไม่มีใครสนใจใคร ไม่แน่ใจว่าใช้เวลาเดินทางกี่ชั่วโมงจากท่ารถของ บ.ลมพะยา ชุมพรถึง กทม . ลงรถที่ข้าวสาร ต่อแทกซี่ กลับบ้าน ทริปนี้ 3วัน 2คืน มีความสุขมาก เป็นทริปแรกที่ลงใต้และไปคนเดียว
ขอปิดท้ายด้วยภาพนี้
SINGLE TRAVEL
Koh Tao 2014 การเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรกของฉัน
สวัสดีค่ะ ทริบนี้ เป็นทริปแรกที่โพส ดิฉันไปเมื่อปีที่แล้วช่วงเดือนมิถุนายนค่ะ แดดเปรี้ยงเลยค่ะ โพสช้าไปนิดนึง เพิ่งรื้อรูปมาดูเลยลงสักหน่อย
แรงบันดาลใจในการไปเที่ยวคือเห็นเพื่อนในเฟชบุคท่านนึง พี่ขวัญ single mom พี่เขาไปเที่ยวคนเดียวแบบโสดๆ สวยๆชิวๆ ดิฉันเลยต้องไปซะละเขาไปได้เราก็ไปได้โสดเหมือนกัน ^^ ต้องขอบคุณพี่ขวัญ ที่แนะนำเรื่องการเดินทางค่ะ
เอาละมาเข้าเรื่องกันเลย
เริ่มแรกดิฉัน จองรถรับจากสนามบินชุมพร + เรือเฟอรี่ข้ามไป-กลับ เกาะเต่า+ โรงแรม + ทริปดำน้ำ4ที่ ไปหาดนางยวนด้วย + รถจากจังหวัดชุมพรมา กทม. (จอง Lomprayah)ค่ะ ประมาณ5600บาทถ้าจะไม่ผิด
ขาไปจองตั๋วเครื่องบินโปร นกแอร์ รู้สึกตอนนั้นได้ 540บาท แต่ตกเครื่อง555+ชีวิตก็งี้ เดินแก่วดอนเมืองสักพัก..เอาว่ะซื้อตั๋วใหม่ ก็โดนค่าตั๋วรวมภาษีแล้วทั้งสิ้น 1,899 ไฟล์เร็วสุดตอนนั้นคือ 9.30โมงเช้า ลงจังหวัดสุราษฎร์ธานี เซ็งอ่ะ แต่น่าอยากไปเที่ยวและพักผ่อนทั้งทีไม่อยากคิดมากจำเป็นประสบการณ์เลยค่ะ(เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย) อิอิ
จขกท.
ทีนี้เมื่อเมื่อไฟล์เปลี่ยน ยุ่งกันเลยค่ะ แต่เจ้าหน้าที่ของ Lomprayaก็จัดการเปลี่ยนให้มีมีปัญหาเรื่องรถรับจากสนามบินชุมพรมาเป็นสนามบินสุราษฎร์ธานีให้ค่ะ ยังจำชื่อได้ดี คุณSoSo ติอต่อกันตลอดทางเนื่องจากดิฉันไปคนเดียวค่ะทีมงานลมพยาเทคแคร์ดีมาก
นั่งเครื่องชั่วโมงนิดคะ พอมาถึงสนามบินสุราษฎร์ธานี รอรถบัส มาเกือบเที่ยง! แม่เจ้า แล้วดิฉันจะไปไหนก่อนดี ออกไปนอกสนามบิน วิว360องศา เป็นป่าหรือสวนยางไม่แน่ใจ แลดูธรรมชาติมากๆ
รอรถบัส
พอรถบัสมาก็ถึงเวลาเดินทางกันต่อเพื่อไปท่าเรือ แต่ต้องนั่งนานหน่อยประมาณ สองชั่วโมงครึ่ง พอถึงที่ขึ้นเรือตอนนั้นบ่ายๆ แต่ท้องฟ้าอึมครึม ทันทีทันใดฝนก็ตกมาอย่างไม่ลดละ ดิฉันกับนักท่องเที่ยวได้ไปแออัดกันอยู่ที่เซ็นชื่อรับตั๋ว ต่อแถวรับตั๋วและเดินไปขึ้นเฟอรี่ แต่เหมือนจะมีปัญหานิดหน่อยเพราะเรือได้ออกไปแล้วห้านาที เหลือดิฉันกับครอบครัวฝรั่งแค่สี่คน และนั่นคือเฟอรี่รอบสุดท้ายของวันด้วย แต่ในที่สุดโชคก็เข้าข้างเพราะเจ้าหน้าที่ประสานงานกัน จนเรือวกกลับมารับเรา ดูเป็นคนพิเศษ แต่พอขึ้นเรื่อเท่านั้นสายตาประชาชีก็จ้องมาที่ดิฉันและครอบครัวฝรั่ง ประมาณว่าพวกเธอ late! (มันมิใช่ความผิดดิฉันน๊า)
ภาพถ่ายมองออกไปนอกหน้าต่างกระจกเรือขณะฝนตก
หนูน้อยอนาคต tattoo artist กับsticktoo ของเธอ
ผู้ร่วมเดินทางบนเรือเฟอรี่ช่างเป็นมิตรเสียจริง
นั่งเรืออีกเป็นชั่วโมงเพราะเกาะเต่าลงสุดท้ายเลย (แนะนำใครจะไปให้ลงเครื่องชุมพรนะค่ะ ใกล้กว่า) พอถึงเกาะเต่าก็มีเจ้าหน้าที่โรงแรมที่รอรับชูป้ายชื่อ ดิฉันเห็นแล้วรู้สึกเป็นเกียรติบอกไม่ถูก ฮ่าๆ เป็นลูกค้าคนเดียวที่มารอบสุดท้ายด้วย พี่พนักงานพาเรานั่งรถกระบะมุ่งหน้าสู่โรงแรม ชื่อ เกาะเต่ารีสอร์ท ไปถึงก็เช็คอินเก็บของเข้าห้อง เป็นไปตามที่ขอกับ บริษัทลมพยาเลย ดิฉันขอโรงแรมที่ติดชายหาดเดินมาใกล้สุด มันเป็นอะไรที่ประทับใจมากที่ห้องพัก(คล้ายบ้านหลังเล็กๆพักได้3คน แต่ดิฉันไปคนเดียว) คือมันเดินไม่ถึง 30ก้าวก็ถึงชายหาดแล้ว (ดิฉันเป็นคนขาสั้น อิอิ)
ถ่ายรูปเยอะแต่ไม่รู้อยู่ไหน(〜^∇^)〜 ที่ลงนี้คือขุดมาจากภาพในเฟตบุ๊คบ้างไอจีบ้าง
เอาละเมื่อเก็บของเสร็จก็ได้เวลาเดินย้ำทรายริมหาด ช่วงนั้นมืดแล้วค่ะประมาณ หกโงหรือทุ่มนึง ก็เดินออกจากบ้านพักไปเรียบชายหาด สะดุดตาที่ร้านอาหารร้านนึงจำชื่อไม่ได้แล้วค่ะ เป็นร้านที่มีคนเล่นควงกระบองไฟ โชว์การร่ายรำกระบองไฟและดนตรที่เร้าใจ
ดิฉันจึงเลือกร้านนี้เพื่อดินเนอร์ในค่ำคืนสุดแสนจะโรแมนติก(คิดไปเอง) พนักงานอัทยาศัยดี
อาหารที่สั่งก็ต้มยำกุ้งและข้าวสวย บวก เบียร์สิงห์ ..แหม มันช่วงเข้ากับบรรยากาศ มองทางซ้ายก็คู่รัก มองทางขวา ก็แก๊งส์เพื่อน ด้านหลังก็ปาร์ตี้วันเกิด (ได้ทางเค้กฟรีด้วย เจ้าของวันเกิดเดินเอามาให้) ดิฉันนี่นั่งคนเดียวแต่ก็ไม่เหงาเลย ดูการแสดงไปจิบเบียร์ไป ชิวๆ พี่เทรนเนอร์ ที่สวนคนเล่นควงกระบองไฟเป็นชาวใต้ก็เข้ามาคุยด้วย อัทยาศัยดีมาก
พอตกสองทุ่มก็เดินกรุบกริป กลับโรงแรม หลับสบายพร้อมกับเสียงครื่น มันเป็นอะไรที่แบบว่า ทะเล อ่ะ
หกโมงเช้าวันรุ้งขึ้นตื่นมาสูดอากาศที่ กรุงเทพ ไม่มี เห็นคุณพ่อยังหนุ่ม(ฝรั่ง) นั่งเล่นกับลูกที่ชายหาด แหม่ อยากจะไป เซฮัลโหล จริงๆเลย
เดินมาทานอาหารเช้า ฟรี ที่โรงแรมมีให้เลือก แบบ อเมริกัน หรือข้าวต้มแบบไทยๆ เราก็เลือกแบบ อเมริกัน เพราะวันนี้จะไปดำน้ำ กลัวของออก เลยต้องทานแต่พอดี
(ภาพอาหารเข้ามื้อนี้หาไม่เจอ)
เจ้าหน้าที่โรงแรมเดินมาบอก เดี๋ยวรถจะมารับไปท่าเรือเก้าโมงที่ล๊อบบี้นะค่ะ ทานอาหารเช้าเสร็จเลยเดินเล่นรอ ที่โรงแรมนี้วิวดีมาก มีสวน ย่อมตามทางเดินโซนที่ไม่ติดทะเลก็ตกแต่ง ออกแนวป่าๆ มีบ่อปลาด้วย จุดเด่นที่สระว่ายน้ำ มองออกไปเห็นวิวทะเล เริศมาก
ถึงเวลาไปดำน้ำก็มีรถมารับ ลงเรือ ซึ่งรู้สึกมีดิฉันคนเดียวที่เป็นคนไทยนอกนั้นเป็นฝรั่งซะส่วนใหญ่ มีจีน กับเกาหลี และญี่ปุ่นด้วย ดิฉันเป็นคนเข้ากับคนง่ายเลยไปตีเนียนกะแก๊งส์สามสาวซ่าชาวจีน และก็ยังได้เพื่อนใหม่คือสองสาวรัสเซีย ซึ่งนางก็เยอะ พอๆกับคนจีน ต่อตลอดทาง ทริปดำน้ำมีอาหารกล่องให้ทานด้วยหนึ่งมือนะค่ะ ทริปนี้เตรียมกระเป๋ากันน้ำ ของ Ocean Pack และกล้องตัวเล็ก ที่ซื้อจาก lazada พันนิดๆ (ใช้ได้ดีเลยละถ่ายใต้น้ำได้โอเค)ไปด้วย
กล้องราคากากๆก็ถ่ายใต้นำ้ได้นะ
มาถึงที่ดำน้ำ ลืมกินยาแก้เมาเพิ่งมากิน จุดดำน้ำจุดแรกแรกลงไปแค่5นาที ขึ้นมามึนเลยค่ะ ..ได้แต่ยืนดูขำดำ
จุดดำน้ำที่สองก็ดีขึ้นดิฉันกับแกงส์สาวชาวจีน#ซึ่งไม่มีใครว่ายน้ำเป็นเลย ลำบากไกด์ละทีนี้
พวกเราใส่ชูชีพทุกคนนะค่ะ เกาะห่วงยางให้ไกด์ลากเราทั้งสี่ไป แก๊งส์สี่เอเชียนี้ ตื่นตาตื่นใจตลอดดิฉันก็ถ่ายรูปทั้งวิดิโอใต้น้ำ ส่วนสาวจีนนางๆก็เอามือถือใส่ซองกันน้ำถ่ายตลอดเช่นกัน ขนาดใส่สน๊อคเกอร์พวกเรายังส่งเสียงด้วยความตื่นเต้นเวลาไกด์พาเราไปยังจุดสวยๆ (นี่คือข้อดีของการไหว้น้ำไม่เป็น ไกด์รู้ว่าจุดไหนมีปลาเยอะปลาสวยๆแปลกๆ เราก็ได้เห็น) ส่วนสองสาวรัสเซีย และคนอื่นที่ว่ายน้ำเป็นก็ต่างดำไปตามประสา ไม่ exclusive เหมือนแก๊งส์เรา
จุดดำน้ำจุดที่สามไกด์พาเราไปไกลกว่าคนอื่นเช่นเคยค่ะ ทีน้ำดำน้ำลงไปลึกมากโชว์ดิฉันและเหล่าสาวจีน..ตอนแรกตกใจนึกว่าจะไม่ขึ้นมาซะแล้ว
(พี่ไกด์แกดำลงไปแบบเหมือนหายใจได้ทางเหงือก)
จุดนี้พวกเราก็ยังคงถ่ายรูปใต้น้ำและแรกกันเซลฟี่แบบไม่แคร์ผู้ใดค่ะ สังเกตพวกฝรั่งดำกันอย่างเดียวเลย มีเอเชียนี่แหละฮ่าๆๆ มือก็เกาะห่วงยางให้ไกด์ดำน้ำลาก หน้าก็มุดลงน้ำ อีกมือก็ถ่ายภาพ สุดๆ มันก็ไม่ค่อยถนัดเท่าไร แต่ก็สามารถ
แอบถ่ายตูดฝรั่ง
ขึ้นมามีสับประรสแช่เย็น ทานแล้วรู้สึกดีไม่เมาเลยค่ะ ในเรือมีเบียร์และน้ำอัดลมขายด้วย แต่ไม่ซื้อกลับเมาเมาเรือผสมเมาเบียร์(หรือมันแพงเลยไม่ซื้อฮ่าๆ)
จุดสุดท้ายไปหาดนางยวน ถึงประมาณเที่ยงๆ คนเยอะมว๊าก ไกด์ปล่อยเราไว้ให้พักผ่อนตากอัธยาศัย สองชั่วโมงค่อยกลับ ไม่ได้เล่นน้ำที่หาดนี้ และไม่ได้ขึ้นไปจุดชมวิว (ขีเกียจ)
ดิฉันนอนรับลมแดด ที่ชายหาด มองหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่
ไปเพลินๆพร้อมเบียร์สิงห์ (ยี่ห้อโปรด)ช่างเป็นการพักผ่อนที่สนุกและมีความสุข
ถึงเวลากลับโรงแรมแล้วสิถ่ายรูปสักหน่อย(คนอื่นถ่ายให้ค่ะ)
เดินไปขึ้นเรือ แดดร้อนมากช่วงบ่าย(ส่วนตัวคิดว่าไปตอนไหนก็ร้อน แต่ตอนที่ดิฉันไปช่วง เดือนมิถุนาทะเลสวย) อ่อ ลืมบอกพนักงานบนเรือรู้สึกจะเป็นแรงงานต่างชาติ(ต่างด้าว)ทั้งนั้น ดูน่ากลัวเล็กน้อย แต่ปลอดภัยกลับมาครบสามสิบสองอยู่นะ^^
ถึงเกาะเต่าเข้าโรงแรมอาบน้ำแล้วเดินออกมาเซเว่น ซื้อขนมนิดหน่อย เพราะในโรงแรมแพงมากๆ เจอร้านขายโรตี สั่งแบบธรรมดา2อันใส่แต่นมอย่างเดียว อันละ20สองอัน=40 (ราคาอิมพอร์ตมั้ง) แต่อร่อยดี คิดว่าใครที่มาคงเคยกินโรตีเจ้านี้
กลับมาชิวที่สระคนเดียว
วันนี้จำได้ว่าทานอาหารเย็นที่โรงแรมต้องสั่งธรรมดามาทานแล้วเข้าที่พักเลยช่วงหกโมง ตื่นมาอีกทีสี่ทุ่มเปิดหน้าต่างมืดมาก ดีนะมีมาม่าที่ซื้อจากเซเว่นเลย์อีกสามห่อ กล้วยอบแห้งอีก จัดไปคืนนี้
เช้าวันกลับตื่นออกไปวิ่งที่ชายหาดตอบเจ็ดโมง
กลับมาอาบน้ำออกมา และทานอาหารเช้า เลือกเป็นข้าวต้มหมู
ทานข้าวเสร็จเดินเล่นแถวแถวโรงแรม ยังไม่อยากกลับแต่ก็ต้องกลับละสิ
รถมารับก็เช็คเอ้าท์ ขึ้นรถไปท่าเรือ รอเรือคนเยอะมากเพราะฝรั่งจะอีกเกาะ เพื่อฟูมูล…ดิฉันก็อยากจะฟูมูลกะเขาแต่ไปเราคนเดียวคนไม่ไหวขอบาย หมดพลัง
เรือฟอรี่มาก็นั่งไปต่อรถบัสเพื่อกลับ กทม. เป็นคนไทยคนเดียวเลยบนรถ แถมได้นั่งข้างหนุ่มฝรั่ง เกร็งๆนิดๆ หลังหลังมาหลับด้วยความเพลียนำ้ลายไหลโดยไม่มีใครสนใจใคร ไม่แน่ใจว่าใช้เวลาเดินทางกี่ชั่วโมงจากท่ารถของ บ.ลมพะยา ชุมพรถึง กทม . ลงรถที่ข้าวสาร ต่อแทกซี่ กลับบ้าน ทริปนี้ 3วัน 2คืน มีความสุขมาก เป็นทริปแรกที่ลงใต้และไปคนเดียว
ขอปิดท้ายด้วยภาพนี้
SINGLE TRAVEL