คุณพ่อคุณแม่ตอนเลี้ยงลูกทำไมดุเหลือเกิน พอมาถึงรุ่นหลานถึงได้ใจดี

ตามหัวข้อกระทู้นะครับ ตอนสมัยที่ผมและพี่ๆน้องๆยังเด็ก เราจำได้ว่ากลัวคุณพ่อที่สุด
ถ้าดื้อ ซน อาจถูกไม้เรียวได้ ขอเงินก็ไม่ค่อยให้ ถามกลับว่าเอาไปทำอะไร พอบอกว่าเอาไปซื้อขนม ก็บอกว่าของไม่มีประโยชน์ นี่เป็นอันจบประโยคสนทนา ถ้าเซ้าซี้ต่อไปก็จะโดนด่าเสียงดังลั่นบ้าน หรือโดนไม้เรียวได้ ก็ต้องยอมเงียบกันไป

คุณแม่เองก็ใช่ย่อย ถ้าครูที่โรงเรียนตีเพราะไม่ทำการบ้าน หรือเพราะไปแกล้งเพื่อนหรืออะไรก็ตามแต่ ห้ามเข้าหูคุณแม่เด็ดขาดเพราะจะโดนตีซ้ำ หรือโดนเทศนาชุดใหญ่

เรื่องจะตามใจ อย่าหวัง เพราะท่านเลี้ยงลูกแบบเข้มงวดมาก อะไรที่ไม่จำเป็นก็อย่าหวังว่าจะได้ ต้องเก็บเงินซื้อเอง แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็นึกขอบคุณที่ท่านทั้งสองเข้มงวด จึงทำให้มีวันนี้ ตัวเราที่ถูกหล่อหลอมให้มีความเข้มแข็ง อดทน

แต่พอมาถึงรุ่นลูกผม คุณพ่อคุณแม่กลับไม่ได้เลี้ยงดูหลานของท่านเหมือนตอนเลี้ยงดูพวกผม จากเมื่อก่อน สมัยรุ่นผมที่เข้มงวดไม่ตามใจลูก กลับตามใจหลานซะงั้น อย่างเช่นหลานชอบกินโดนัท พิซซ่า ซึ่งสมัยรุ่นผมไม่มีทางได้กินเด็ดขาด กลับไปหาซื้อมาให้ หลานไม่ทำการบ้านก็ไม่ดุไม่ตี ถ้าผมดุหรือตีก็มักจะห้ามปรามว่าลูกยังเล็ก ทั้งที่สมัยผมรุ่นนี้โดนไม้เรียวแน่นอน ฯลฯ สรุปคือทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมด

แค่สงสัยน่ะครับว่า คุณพ่อคุณแม่ของใครเป็นแบบนี้บ้างครับ สมัยเลี้ยงเรา ดุมากๆ พอมาถึงรุ่นหลานกลับใจดีซะงั้น บางครั้งว่ากันตามตรง มันก็เสียระบบการปกครองนะครับ อะไรที่เราห้าม ลูกก็ไปขอจากปู่กับย่าแทน เราจะลงโทษลูก ปู่กับย่าก็มาห้ามปราม บางครั้งตกลงกันไว้ดิบดีแล้ว พอถึงเวลาเข้าจริงก็เข้าอีหรอบเดิมครับ กลัวเด็กเสียคนน่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่