สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวเองแบบย่อ ๆ นะคะ ว่าทำอะไร ยังไง ที่ไหน
ดิฉัน อายุ 39 ปี เป็นคนจ.พะเยา แต่มาเติบโต และเรียนหนังสือ ใช้ชีวิตอยู่กทม. มาตลอด มีห้องชุดกว้าง ๆ อยู่ห้องหนึ่งโดยที่ไม่ต้องเสียค่าเช่า จ่ายแค่น้ำ ไฟ ส่วนกลาง ค่าที่จอดรถ และอินเตอร์เน็ต เมื่อเกือบสองปีก่อนดิฉันแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง (สามีเป็นคนจันทบุรี แน่นอนค่ะ ก็แยกกันอยู่ แยกกันทำมาหากิน ดิฉันอยู่กทม. สามีอยู่จันฯ ) และจากที่เคยเป็นมนุษย์เงินเดือน 25,500 บาท ในตำแหน่งผัจัดการทั่วไป ของบริษัทโปรดักชั่นเฮาส์ แห่งนึง ทำงานมานานจนเบื่อ และอยากออกมาทำตามความฝันที่ตัวเองอยากทำ ประกอบกับอยากจะอยู่ใกล้ ๆ กับสามีด้วย สุดท้ายก็ได้ทำร้านสมใจค่ะ สามีให้เงินเย็นมาหนึ่งก้อนเพื่อเปิดร้าน 1 ร้านด้วยเงิน 200,000 บาท ที่จังหวัดจันทบุรี
ทำเลของร้านดิฉัน อยู่ใกล้ ๆ แหล่งท่องเที่ยวริมน้ำจันทบูร (แน่นอนร้านอาหาร กาแฟ ร้านเหล้า เยอะมากกกก) แต่ร้านดิฉันมาอยู่ต้น ๆ ซอย ซึ่งไกลจากร้านเหล่านั้นประมาณนึง ร้านอยู่ตรงข้ามธนาคาร มีร้านพลอย โรงเรียนกวดวิชา และตลาดพระ ถามว่าทำเลดีไหม สำหรับดิฉันถือว่าดีเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่ว่าจันทบุรีเป็นจังหวัดเล็ก ๆ เมืองไม่กว้างนัก แต่ร้านอาหารเยอะมากกกกกกก ผู้คนชอบทานอาหารเก๋ ๆ และร้านดูดี แต่ร้านดิฉันไม่ได้ติดแอร์ค่ะ เป็น open air ตกแต่งไม่ได้ขี้เหร่อะไร ก็กลาง ๆ นะคะ (ร้านสีส้มแปร๋น ๆ)
ร้านดิฉันขายกาแฟสด เครื่องดื่มทุกชนิด ไข่กะทะ อาหารเช้า สเต็ก สปาเก็ตตี้ แซนวิช สลัด วาฟเฟิล อาหารทานเล่น เช่น ไก่ทอด เฟรนฟราย ไอศครีม นักเก็ต ฯลฯ อยู่ที่อ.เมือง จ.จันทบุรีค่ะ ดิฉันเช่าตึกแถว ชั้นล่างทำร้าน ชั้นบนเป็นชั้นลอยกั้นทำห้องอย่างดีไว้พักผ่อนหลับนอน รายได้ต่อเดือนก็ตกอยู่ที่ประมาณสองหมื่นเศษ ๆ บางเดือนก็สามหมื่นกว่า แต่เดือนที่กินเจ ร่วงเหลือสองหมื่น เล่นเอาแทบแย่ (ร้านดิฉันไม่มีลูกจ้างค่ะ ดิฉันทำคนเดียวทั้งรับออเดอร์ ทำอาหาร เครื่องดื่ม ขนม เสิร์ฟ เก็บโต๊ะ ดูแลลูกค้า และเก็บล้างจานชาม) ดิฉันเปิดร้านนี้มาได้ประมาณ 8 เดือนนิด ๆ ค่ะ
รายจ่ายในร้านต่อเดือนมีดังนี้
ค่าเช่า 5,000 บาท
ค่าไฟ ประมาณ 1,400 - 1,600 บาท แล้วแต่ว่าขายดีหรือไม่ดี
ค่าน้ำ ประมาณ 280 บาท
ค่าอินเตอร์เน็ต 630 บาท
ค่าขยะ 20 บาท
ค่าเคเบิ้ล 250 บาท
ค่าหนังสือพิมพ์ 300 บาท
ค่าคู่สร้างคู่สม 120 บาท
ค่าน้ำแข็ง 750 บาท
ค่าวัตถุดิบอาหาร และเครื่องดื่ม ประมาณ 5,000-7,000 บาท
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่อเดือนมีดังนี้
ค่ารักษาพยาบาลประมาณ 1,500 บาท (ประกันสังคมของดิฉันอยู่ที่ รพ.ยันฮี กทม. เลยไม่ได้ไปใช้บริการ ดิฉันมีโรคประจำตัวคือเบาหวาน ไปหาหมอเดือนละครั้งเพื่อรับยาจากโรงพยาบาลเอกชน)
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว (อาหาร ขนม หรืออื่น ๆ เช่น สบู่ ยาสีฟัน บัตรเติมเงิน ฯลฯ) 1,500-2,000 บาท (ดิฉันไม่มีเงินเดือนเนื่องจากเพิ่งเปิดร้านใหม่ ๆ ได้มาก็ใช้ไป)
ค่าแชร์ 3,000 บาท (จะส่งหมดเดือนต.ค. 2558 นี้)
ค่าผ่อนรถ 4,780 บาท (จะส่งหมดเดือน พ.ย. 2558 นี้) ค่าผ่อนรถนี้สามีจะเป็นคนจ่ายให้ เพราะตั้งแต่ออกจากงานประจำ ก็เลยไม่มีเงินเดือนค่ะ
ปัญหาคือ รายได้มันชนเดือนตลอด ไม่มีเงินเก็บเลย คู่แข่งก็เยอะมาก และขายตัดราคา และตั้งราคาถูกมาก เช่นกาแฟสดร้านดิฉันขายแก้วละ 35-40 บาท ร้านมาเปิดใหม่ก็ขาย 25 บาท ขนมปังปิ้งแผ่นละ 10 บาท แล้วลูกค้าหลักของร้านคือนักเรียน และครอบครัว ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้ตั้งราคาสูงอะไร สเต็กราคา 69 บาท แซนวิช 45 บาท พิซซ่าถาดละ 155 บาท ฯลฯ
ตอนนี้รู้สึกว่าท้อค่ะ อยากกลับไปเปิดร้านแบบนี้ ที่บ้านนอก (จ.พะเยา) เพราะที่บ้านมีพื้นที่ มีร้านติดริมถนนที่เป็นทางหลวงไปจังหวัดเชียงราย หรือเชียงใหม่ โรงเรียน สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ น่าจะได้ลูกค้าที่ขับรถท่องเที่ยว นักเรียน ข้าราชการ ประชาชนในหมู่บ้าน (โดยไม่ต้องสร้างร้านใหม่, เสียค่าเช่า และที่พัก อาจจะแค่ทาสีและตกแต่งนิดหน่อยพอเก๋ ข้าวของก็ขนขึ้นสิบล้อย้ายไปได้เลย) ถ้าย้ายไปโน่น แน่นอนดิฉันต้องไปเริ่มใหม่ในเรื่องของฐานลูกค้า, บางทีเมนูอาหารต้องปรับราคาลดลง และต้องเพิ่มเมนูอาหารที่คนพื้นที่ทานได้ด้วย เช่น ข้าวผัด ยำ และอื่น ๆ และมีโครงการจะเปิดแบบขนมของฝากจาก จ.พะเยา อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ และจะให้คุณแม่เปิดร้านนวดฝ่าเท้าด้วย (คุณแม่มีอาชีพเป็นหมอนวดแผนโบราณ) และอาจจะจ้างน้องนักเรียนมาทำงานเป็นพาร์ทไทม์ คุณว่าดิฉันไปเปิดที่บ้าน แล้วจะรอดไหมคะ นั่นหมายความว่า ดิฉันจะรอให้รถผ่อนหมด ส่งแชร์หมดก่อนค่ะ ถึงจะไปได้ ตอนนี้รู้สึกสับสน และเหมือนไปไหนไม่ถูก ท้อมากเลย สามีก็ดีค่ะ แต่เค้าช่วยอะไรไม่ได้มากเนื่องจากต้องทำงาน 3 ที่ กว่าจะเลิกงานก็สามทุ่มกว่าไปแล้วในแต่ละวัน รบกวนทุกคนช่วยชี้แนะหน่อยนะคะ ถือว่าเอาบุญค่ะ และในกระทูนี้หากมีอะไรที่ไม่สมควรก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่าาาา
อยากย้ายร้านจากจังหวัดจันทบุรี กลับไปบ้านเกิดที่จังหวัดพะเยา รบกวนขอคำแนะนำค่ะ
ดิฉัน อายุ 39 ปี เป็นคนจ.พะเยา แต่มาเติบโต และเรียนหนังสือ ใช้ชีวิตอยู่กทม. มาตลอด มีห้องชุดกว้าง ๆ อยู่ห้องหนึ่งโดยที่ไม่ต้องเสียค่าเช่า จ่ายแค่น้ำ ไฟ ส่วนกลาง ค่าที่จอดรถ และอินเตอร์เน็ต เมื่อเกือบสองปีก่อนดิฉันแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง (สามีเป็นคนจันทบุรี แน่นอนค่ะ ก็แยกกันอยู่ แยกกันทำมาหากิน ดิฉันอยู่กทม. สามีอยู่จันฯ ) และจากที่เคยเป็นมนุษย์เงินเดือน 25,500 บาท ในตำแหน่งผัจัดการทั่วไป ของบริษัทโปรดักชั่นเฮาส์ แห่งนึง ทำงานมานานจนเบื่อ และอยากออกมาทำตามความฝันที่ตัวเองอยากทำ ประกอบกับอยากจะอยู่ใกล้ ๆ กับสามีด้วย สุดท้ายก็ได้ทำร้านสมใจค่ะ สามีให้เงินเย็นมาหนึ่งก้อนเพื่อเปิดร้าน 1 ร้านด้วยเงิน 200,000 บาท ที่จังหวัดจันทบุรี
ทำเลของร้านดิฉัน อยู่ใกล้ ๆ แหล่งท่องเที่ยวริมน้ำจันทบูร (แน่นอนร้านอาหาร กาแฟ ร้านเหล้า เยอะมากกกก) แต่ร้านดิฉันมาอยู่ต้น ๆ ซอย ซึ่งไกลจากร้านเหล่านั้นประมาณนึง ร้านอยู่ตรงข้ามธนาคาร มีร้านพลอย โรงเรียนกวดวิชา และตลาดพระ ถามว่าทำเลดีไหม สำหรับดิฉันถือว่าดีเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่ว่าจันทบุรีเป็นจังหวัดเล็ก ๆ เมืองไม่กว้างนัก แต่ร้านอาหารเยอะมากกกกกกก ผู้คนชอบทานอาหารเก๋ ๆ และร้านดูดี แต่ร้านดิฉันไม่ได้ติดแอร์ค่ะ เป็น open air ตกแต่งไม่ได้ขี้เหร่อะไร ก็กลาง ๆ นะคะ (ร้านสีส้มแปร๋น ๆ)
ร้านดิฉันขายกาแฟสด เครื่องดื่มทุกชนิด ไข่กะทะ อาหารเช้า สเต็ก สปาเก็ตตี้ แซนวิช สลัด วาฟเฟิล อาหารทานเล่น เช่น ไก่ทอด เฟรนฟราย ไอศครีม นักเก็ต ฯลฯ อยู่ที่อ.เมือง จ.จันทบุรีค่ะ ดิฉันเช่าตึกแถว ชั้นล่างทำร้าน ชั้นบนเป็นชั้นลอยกั้นทำห้องอย่างดีไว้พักผ่อนหลับนอน รายได้ต่อเดือนก็ตกอยู่ที่ประมาณสองหมื่นเศษ ๆ บางเดือนก็สามหมื่นกว่า แต่เดือนที่กินเจ ร่วงเหลือสองหมื่น เล่นเอาแทบแย่ (ร้านดิฉันไม่มีลูกจ้างค่ะ ดิฉันทำคนเดียวทั้งรับออเดอร์ ทำอาหาร เครื่องดื่ม ขนม เสิร์ฟ เก็บโต๊ะ ดูแลลูกค้า และเก็บล้างจานชาม) ดิฉันเปิดร้านนี้มาได้ประมาณ 8 เดือนนิด ๆ ค่ะ
รายจ่ายในร้านต่อเดือนมีดังนี้
ค่าเช่า 5,000 บาท
ค่าไฟ ประมาณ 1,400 - 1,600 บาท แล้วแต่ว่าขายดีหรือไม่ดี
ค่าน้ำ ประมาณ 280 บาท
ค่าอินเตอร์เน็ต 630 บาท
ค่าขยะ 20 บาท
ค่าเคเบิ้ล 250 บาท
ค่าหนังสือพิมพ์ 300 บาท
ค่าคู่สร้างคู่สม 120 บาท
ค่าน้ำแข็ง 750 บาท
ค่าวัตถุดิบอาหาร และเครื่องดื่ม ประมาณ 5,000-7,000 บาท
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่อเดือนมีดังนี้
ค่ารักษาพยาบาลประมาณ 1,500 บาท (ประกันสังคมของดิฉันอยู่ที่ รพ.ยันฮี กทม. เลยไม่ได้ไปใช้บริการ ดิฉันมีโรคประจำตัวคือเบาหวาน ไปหาหมอเดือนละครั้งเพื่อรับยาจากโรงพยาบาลเอกชน)
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว (อาหาร ขนม หรืออื่น ๆ เช่น สบู่ ยาสีฟัน บัตรเติมเงิน ฯลฯ) 1,500-2,000 บาท (ดิฉันไม่มีเงินเดือนเนื่องจากเพิ่งเปิดร้านใหม่ ๆ ได้มาก็ใช้ไป)
ค่าแชร์ 3,000 บาท (จะส่งหมดเดือนต.ค. 2558 นี้)
ค่าผ่อนรถ 4,780 บาท (จะส่งหมดเดือน พ.ย. 2558 นี้) ค่าผ่อนรถนี้สามีจะเป็นคนจ่ายให้ เพราะตั้งแต่ออกจากงานประจำ ก็เลยไม่มีเงินเดือนค่ะ
ปัญหาคือ รายได้มันชนเดือนตลอด ไม่มีเงินเก็บเลย คู่แข่งก็เยอะมาก และขายตัดราคา และตั้งราคาถูกมาก เช่นกาแฟสดร้านดิฉันขายแก้วละ 35-40 บาท ร้านมาเปิดใหม่ก็ขาย 25 บาท ขนมปังปิ้งแผ่นละ 10 บาท แล้วลูกค้าหลักของร้านคือนักเรียน และครอบครัว ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้ตั้งราคาสูงอะไร สเต็กราคา 69 บาท แซนวิช 45 บาท พิซซ่าถาดละ 155 บาท ฯลฯ
ตอนนี้รู้สึกว่าท้อค่ะ อยากกลับไปเปิดร้านแบบนี้ ที่บ้านนอก (จ.พะเยา) เพราะที่บ้านมีพื้นที่ มีร้านติดริมถนนที่เป็นทางหลวงไปจังหวัดเชียงราย หรือเชียงใหม่ โรงเรียน สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ น่าจะได้ลูกค้าที่ขับรถท่องเที่ยว นักเรียน ข้าราชการ ประชาชนในหมู่บ้าน (โดยไม่ต้องสร้างร้านใหม่, เสียค่าเช่า และที่พัก อาจจะแค่ทาสีและตกแต่งนิดหน่อยพอเก๋ ข้าวของก็ขนขึ้นสิบล้อย้ายไปได้เลย) ถ้าย้ายไปโน่น แน่นอนดิฉันต้องไปเริ่มใหม่ในเรื่องของฐานลูกค้า, บางทีเมนูอาหารต้องปรับราคาลดลง และต้องเพิ่มเมนูอาหารที่คนพื้นที่ทานได้ด้วย เช่น ข้าวผัด ยำ และอื่น ๆ และมีโครงการจะเปิดแบบขนมของฝากจาก จ.พะเยา อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ และจะให้คุณแม่เปิดร้านนวดฝ่าเท้าด้วย (คุณแม่มีอาชีพเป็นหมอนวดแผนโบราณ) และอาจจะจ้างน้องนักเรียนมาทำงานเป็นพาร์ทไทม์ คุณว่าดิฉันไปเปิดที่บ้าน แล้วจะรอดไหมคะ นั่นหมายความว่า ดิฉันจะรอให้รถผ่อนหมด ส่งแชร์หมดก่อนค่ะ ถึงจะไปได้ ตอนนี้รู้สึกสับสน และเหมือนไปไหนไม่ถูก ท้อมากเลย สามีก็ดีค่ะ แต่เค้าช่วยอะไรไม่ได้มากเนื่องจากต้องทำงาน 3 ที่ กว่าจะเลิกงานก็สามทุ่มกว่าไปแล้วในแต่ละวัน รบกวนทุกคนช่วยชี้แนะหน่อยนะคะ ถือว่าเอาบุญค่ะ และในกระทูนี้หากมีอะไรที่ไม่สมควรก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่าาาา