สวัสดีค่ะ....
เรื่องของเราเริ่มต้นเมื่อเกือบห้าปีที่แล้ว เราเข้าโครงการออแพร์หลังจากที่เรียนจบปริญญาตรี เพราะเราอยากฝีกภาษาและเที่ยวที่อเมริกาซักปีสองปีก่อนที่จะเริ่มหางานทำจริงจัง
....หลังจากนั้นสองสามเดือน เราก็ได้เจอกับผู้ชายคนนึง เค้าดีกับเรามาก เรารู้สึกชอบเค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เค้าดีกับเราอย่างไม่น่าเชื่อ เราคุยกันทุกวัน เจอกันบ้าง จนกระทั่งตกลงที่จะคบกันเป็นแฟน เค้ายังเป็นคนดีสม้ำเสมอ แล้วหลังจากนั้นก็มีเหตุให้เรากับเค้าต้องย้ายไปอยุ่คนละที่ เราอยู่นิวยอร์ค เค้าต้องย้ายไปอยู่เพนซิเวเนี่ยเพื่อที่จะเรียนกฎหมายต่ออีกสองปี เรายังติดต่อกันเรื่อยๆ คุยสไกป์กันทุกคืน เจอกันสองเดือนครั้ง ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรง แค่งอนกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ ตามประสาคนอยู่ห่างกัน แล้วก็มีเหตุให้เราได้ออกจากโครงการ เราเลยเปลี่ยนวีซ่าเป็นวีซ่าท่องเที่ยวและย้ายไปอยู่ที่อพาร์ทเม้นเค้าเกือบห้าเดือน ช่วงนั้นก็มีความสุขมากที่ได้อยู่ด้วยกัน เราดูแลเค้าทุกอย่างเท่าที่ผู้หญิงคนนึงสามารถทำได้ พอวีซ่าหมด เราก็กลับมาไทยอีกห้าเดือน เพื่อรอขอวีซ่านักเรียน.... ห้าเดือนมันนานมาก แต่เราสองคนก็ผ่านช่วงเวลาแห่งการรอคอยมาได้อย่างราบรื่น เราลงเรียนภาษาที่ชิคาโก้ เพราะพี่สาวเราอยู่ที่นั่น เราไปอยู่กับแฟนไม่ได้เพราะเค้าอยู่เมืองเล็กๆ ไม่มีโรงเรียนที่เราสามารถลงเรียนได้ อีกแค่ปีเดียวเค้าก็จะเรียนจบ เราก็คิดว่าไม่เป็นไร ปีเดียวเอง เรากับเค้ารอเวลาที่จะย้ายไปอยู่ด้วยกันและก็พูดถึงเรื่องอนาคตด้วยกันมาตลอด เราก็รอ... พอถึงเวลาที่เค้าเรียนจบ เค้าก็ย้ายไปแคลิฟอเนียร์เพราะพี่ชายอยู่ที่นั่น แต่หน้าที่การงานของเค้ายังไม่มั่นคง เราเลยยังไม่ตัดสินใจย้ายไปทันที เพราะคงจะไม่มีปัญญาจ่ายค่าโรงเรียน ค่ารถและค่าใช้จ่ายต่างๆ ถ้าเรายังอยู่ชิคาโกั เราก็ยังมีงานทำอยู่
....ความสัมพันธิ์ของเรากับเค้ายังคงเหมือนเดิม เราบินไปหาเค้าบ้าง เค้าบินมาบ้าง จนกระทั่งปีสุดท้าย(2014) เราพยายามที่จะเก็บเงินเพื่อที่จะเอาไว้ใช้จ่ายช่วงที่เราหางานทำตอนที่เราย้ายไปอยู่กับเค้า เราเจอเค้าครั้งสุดท้ายเดือนธันวาคมปี 2013 เค้าบินมางานรับปริญญาพี่สาวเราที่ชิคาโก้ เราเจอกันแค่ 4 วัน จากเดือนธันวาคมปี 2013 เราไม่เจอเค้าเลยจนถึงเดือน กรกฎาคม 2014 และจากเดือนกรกฎาคมเราก็ไม่เจอเค้าจนถึงต้นมกราคม 2015 สรุปคือภายในหนึ่งปี เราเจอเค้าแค่สิบกว่าวัน.... ในระหว่างนั้นเราก็เครียดเรื่องเรียน เรื่องงาน แล้วเราก็ไปลงที่เค้า เพราะเราคิดว่ายังไงเค้าก็รักเรา ไม่ไปไหน ทุกครั้งที่เราคุยกับเค้า เราชอบหาเรื่องทะเลาะ เรารู้ว่าเรานิสัยไม่ดี ใครจะมาทนผู้หญิงนิสัยแบบเราได้ เราไม่ทันคิดว่าเค้าก็ต้องการความสบายใจ ผู้ชายก็อยากจะให้ผู้หญิงเอาใจและเคารพเค้า ตอนนี้เรารู้ว่าเราไม่ควรทำแบบนั้น เราพูดอะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้เค้าเสียใจ แต่เค้าก็ยังรักเราอยู่เหมือนเดิม ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นคงทิ้งเราไปนานแล้ว.....
....และแล้ววันที่เรารอคอยก็ใกล้เข้ามา อีกแค่เดือนนึงเราก็จะย้ายไปอยู้กับเค้า.... ก่อนหน้านั้นสองสามเดือน เรากับเค้าเรื่มห่างๆ กัน เรารู้สึกว่าเค้าไม่ค่อยง้อเราเหมือนเดิม แต่เราก็คิดในทางที่ดีว่าไม่น่าจะมีอะไร เราทะเลาะกันบ่อยมาก เรากับเค้าบอกเลิกกันจนเป็นเรื่องปกติ.... ครั้งสุดท้ายที่ทะเลากัน เค้าบอกเลิกเรา แล้วบอกว่าไม่ให้เราย้ายไปอยู่ด้วย ยังไงก็ไม่ให้ไป เราก็ถามว่าทำไม เค้าบอกว่าเราห่างกันมานานและทะเลาะกันบ่อย เค้าไม่พร้อมที่จะให้เราไปอยุ่ เพราะกลัวว่ามันจะแย่กว่าเดิม เราก็เถึยงไปว่า ที่ทะเลาะกันก็เพราะอยุ่ห่างกัน ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยอยู่ด้วยกัน ทำไมจะอยู่ไม่ได้ ช่วงนั้นเราเครียดมาก น้ำหนักลดลงสามกิโลภายในอาทิตย์เดียว เราปรีกษาเพื่อนสนิท ทุกคนก็บอกว่าเค้าต้องมีคนอื่นแน่ๆ แต่เราไม่เชื่อว่าเค้าจะทำแบบนั้นกับเราได้ เพราะเค้าดีกับเรามาตลอดและเราก็ไว้ใจเค้ามาก ไม่เคยเช็คมือถือหรือกระเป๋าตังเลย พอเราถามเค้า เค้าก็บอกว่าไม่ได้มีคนอื่น(ถึงมีใครจะยอมรับ) เราพยายามง้อเค้า เพราะรักเค้ามาก.... เรารู้ว่าเราขี้วีน เราก็พยายามปรับปรุงตัว แต่เค้าก็ยังคงไม่สนใจเราเหมือนเดิม.... เราแพลนว่าจะกลับไทยก่อนที่เรื่องนี้จะเกิดขึ้น ของทุกอย่างเราส่งไปที่อพาร์ทเม้นเค้าที่แคลิฟอเนียร์หมดแล้ว และเราก็ซื้อตั๋วกลับไทยเรียบร้อย เค้าเลยต้องจำใจให้เราไปอยู่ตามแพลนที่เคยคุยกันไว้ก่อนหน้านี้ วันแรกที่ไปถึง เรากับเค้าไม่คุยกันเลย จนเราทนไม่ไหว เราเลยเริ่มพูดกับเค้า ถามเหตุผลว่าเพราะอะไร ทำไมเค้าถึงเป็นแบบนี้ เค้าก็ยังคงตอบเราเหมือนเดิมว่า เราทะเลาะกันบ่อย ห่างกันมานาน เค้าไม่ได้คิดจริงจังกับเรา(ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยวางแผนเรื่องอนาคตด้วยกัน) แต่เค้าก็ยังคงปฎิเสธว่าไม่ได้มีใครเหมือนเดิม..... หลังจากปรับความเข้าใจกันซักพัก ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนปกติ เค้าก็ดูเเลเราดีเหมือนเดิม บอกรักเราเหมือนเดิม เราเลยตัดสินใจกลับไทยตามแพลนที่เราวางไว้ ทั้งๆ ที่เราคิดว่าจะเลื่อนตั๋ว เราเจอกับเค้าแค่สามวันก่อนที่จะกลับไทย เราคิดว่าทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ จนกระทั่งสามวันที่ผ่านมา..... เค้าส่งข้อความมาหาเรา บอกให้เราอยู่ไทยต่อ หัวใจเราเต้นแรงมาก เราเลยขอเฟสไทม์ เพื่อที่จะคุยให้รู้เรื่อง เราคุยกันซักพัก เค้ายอมรับว่าเค้าคุยกับผู้หญิงคนนึง เกือบสองเดือนแล้ว.... เราช๊อคเลยค่ะ ไม่คิดว่าผู้ชายที่บอกรักเรา จะทำแบบนี้กับเราได้ เราไม่ได้ร้องไห้ เพราะร้องไม่ออก มันจุกอยู่ข้างใน... ถามว่าเสียใจมากไหม เราตอบไม่ได้ มันยิ่งกว่าเสียใจอีก.... ตอนนั้นเรายอมรับว่าเราแค้นมาก อยากจะไปกระทืบให้ตาย.... นึกถึงอดีตที่ผ่านมาของเรากับเค้า ก็ได้แต่ถามตัวเองว่า ทำไมเค้าทำกับเราแบบนี้ได้ เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้คิดจริงจังกับผู้หญิงคนนั้น แค่ต้องการที่จะลืมเรา เค้าบอกว่ายังรักเราเหมือนเดิม แต่เค้ามองไม่เห็นหนทางที่จะอยู่ด้วยกันได้... เราคบกันมาเกือบห้าปี ผู้หญิงคนนั้นเจอกันแค่สองเดือน ทำไมเค้าถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้... ปากบอกว่ารักเรา ถ้ารักแล้วทำไมถึงไม่อยากเจอเรา มันยากมากเลยเหรอ....
....เราไม่รู้ว่าตอนนี้เราควรทำยังไงดี เราทำใจไม่ได้ เราพยายามขอโอกาส สิ่งที่เค้าทำกับเรา เราให้อภัยเค้าได้ เรารู้ว่าเราเคยทำไม่ดีกับเค้า เราก็ขอโทษเค้า... เราจะพยายามปรับปรุงตัว แต่เค้าก็บอกว่า เค้าจะส่งของของเรามาให้ที่เมืองไทยแล้วก็ยังบอกเราว่า "You need to move on" แล้วซักพักเค้าก็บอกว่าเราขอคิดดูก่อน.... เรารู้ว่าเค้าค่อนข้างจะสับสนตอนนี้ เค้าบอกขอเวลาคิดอีกหน่อย แต่เรามีเวลาอีกแค่สามวันเท่านั้น แพลนเดิมเราจะบินกลับวันที่ 10 กุมภานี้ ถ้าเราไม่ขึ้นเครื่องวันอังคารนี้ เรื่องของเรากับเค้าก็จะจบไปอย่างแน่นอน เราไม่รุ้ว่าเราควรจะพอหรือเราควรจะพยายาม.... เรารุ้ว่าทุกคนคงบอกให้เลิกไปเถอะ ผู้ชายแบบนี้.... แต่มันไม่ง่ายเลย.... เพราะเรา "รัก" เค้ามาก ถ้าเรากลับไปทุกอย่างอาจจะดีขึ้น หรือแย่ลง แต่ถ้าเราไม่กลับ เรากลัวว่าเราจะเสียใจไปตลอดชีวืต
..... นี่เป็นกระทู้แรกของเรา ขอโทษด้วยนะคะ ถ้าอ่านแล้วงง แต่ทุกอย่างที่เขียนไป เป็นความรู้สึกของเราในตอนนี้จริงๆ
เราไม่รู้จะตัดสินใจยังไงดี.......
T__T ควรจะหยุดหรือควรจะพยายามต่อ....
เรื่องของเราเริ่มต้นเมื่อเกือบห้าปีที่แล้ว เราเข้าโครงการออแพร์หลังจากที่เรียนจบปริญญาตรี เพราะเราอยากฝีกภาษาและเที่ยวที่อเมริกาซักปีสองปีก่อนที่จะเริ่มหางานทำจริงจัง
....หลังจากนั้นสองสามเดือน เราก็ได้เจอกับผู้ชายคนนึง เค้าดีกับเรามาก เรารู้สึกชอบเค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เค้าดีกับเราอย่างไม่น่าเชื่อ เราคุยกันทุกวัน เจอกันบ้าง จนกระทั่งตกลงที่จะคบกันเป็นแฟน เค้ายังเป็นคนดีสม้ำเสมอ แล้วหลังจากนั้นก็มีเหตุให้เรากับเค้าต้องย้ายไปอยุ่คนละที่ เราอยู่นิวยอร์ค เค้าต้องย้ายไปอยู่เพนซิเวเนี่ยเพื่อที่จะเรียนกฎหมายต่ออีกสองปี เรายังติดต่อกันเรื่อยๆ คุยสไกป์กันทุกคืน เจอกันสองเดือนครั้ง ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรง แค่งอนกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ ตามประสาคนอยู่ห่างกัน แล้วก็มีเหตุให้เราได้ออกจากโครงการ เราเลยเปลี่ยนวีซ่าเป็นวีซ่าท่องเที่ยวและย้ายไปอยู่ที่อพาร์ทเม้นเค้าเกือบห้าเดือน ช่วงนั้นก็มีความสุขมากที่ได้อยู่ด้วยกัน เราดูแลเค้าทุกอย่างเท่าที่ผู้หญิงคนนึงสามารถทำได้ พอวีซ่าหมด เราก็กลับมาไทยอีกห้าเดือน เพื่อรอขอวีซ่านักเรียน.... ห้าเดือนมันนานมาก แต่เราสองคนก็ผ่านช่วงเวลาแห่งการรอคอยมาได้อย่างราบรื่น เราลงเรียนภาษาที่ชิคาโก้ เพราะพี่สาวเราอยู่ที่นั่น เราไปอยู่กับแฟนไม่ได้เพราะเค้าอยู่เมืองเล็กๆ ไม่มีโรงเรียนที่เราสามารถลงเรียนได้ อีกแค่ปีเดียวเค้าก็จะเรียนจบ เราก็คิดว่าไม่เป็นไร ปีเดียวเอง เรากับเค้ารอเวลาที่จะย้ายไปอยู่ด้วยกันและก็พูดถึงเรื่องอนาคตด้วยกันมาตลอด เราก็รอ... พอถึงเวลาที่เค้าเรียนจบ เค้าก็ย้ายไปแคลิฟอเนียร์เพราะพี่ชายอยู่ที่นั่น แต่หน้าที่การงานของเค้ายังไม่มั่นคง เราเลยยังไม่ตัดสินใจย้ายไปทันที เพราะคงจะไม่มีปัญญาจ่ายค่าโรงเรียน ค่ารถและค่าใช้จ่ายต่างๆ ถ้าเรายังอยู่ชิคาโกั เราก็ยังมีงานทำอยู่
....ความสัมพันธิ์ของเรากับเค้ายังคงเหมือนเดิม เราบินไปหาเค้าบ้าง เค้าบินมาบ้าง จนกระทั่งปีสุดท้าย(2014) เราพยายามที่จะเก็บเงินเพื่อที่จะเอาไว้ใช้จ่ายช่วงที่เราหางานทำตอนที่เราย้ายไปอยู่กับเค้า เราเจอเค้าครั้งสุดท้ายเดือนธันวาคมปี 2013 เค้าบินมางานรับปริญญาพี่สาวเราที่ชิคาโก้ เราเจอกันแค่ 4 วัน จากเดือนธันวาคมปี 2013 เราไม่เจอเค้าเลยจนถึงเดือน กรกฎาคม 2014 และจากเดือนกรกฎาคมเราก็ไม่เจอเค้าจนถึงต้นมกราคม 2015 สรุปคือภายในหนึ่งปี เราเจอเค้าแค่สิบกว่าวัน.... ในระหว่างนั้นเราก็เครียดเรื่องเรียน เรื่องงาน แล้วเราก็ไปลงที่เค้า เพราะเราคิดว่ายังไงเค้าก็รักเรา ไม่ไปไหน ทุกครั้งที่เราคุยกับเค้า เราชอบหาเรื่องทะเลาะ เรารู้ว่าเรานิสัยไม่ดี ใครจะมาทนผู้หญิงนิสัยแบบเราได้ เราไม่ทันคิดว่าเค้าก็ต้องการความสบายใจ ผู้ชายก็อยากจะให้ผู้หญิงเอาใจและเคารพเค้า ตอนนี้เรารู้ว่าเราไม่ควรทำแบบนั้น เราพูดอะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้เค้าเสียใจ แต่เค้าก็ยังรักเราอยู่เหมือนเดิม ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นคงทิ้งเราไปนานแล้ว.....
....และแล้ววันที่เรารอคอยก็ใกล้เข้ามา อีกแค่เดือนนึงเราก็จะย้ายไปอยู้กับเค้า.... ก่อนหน้านั้นสองสามเดือน เรากับเค้าเรื่มห่างๆ กัน เรารู้สึกว่าเค้าไม่ค่อยง้อเราเหมือนเดิม แต่เราก็คิดในทางที่ดีว่าไม่น่าจะมีอะไร เราทะเลาะกันบ่อยมาก เรากับเค้าบอกเลิกกันจนเป็นเรื่องปกติ.... ครั้งสุดท้ายที่ทะเลากัน เค้าบอกเลิกเรา แล้วบอกว่าไม่ให้เราย้ายไปอยู่ด้วย ยังไงก็ไม่ให้ไป เราก็ถามว่าทำไม เค้าบอกว่าเราห่างกันมานานและทะเลาะกันบ่อย เค้าไม่พร้อมที่จะให้เราไปอยุ่ เพราะกลัวว่ามันจะแย่กว่าเดิม เราก็เถึยงไปว่า ที่ทะเลาะกันก็เพราะอยุ่ห่างกัน ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยอยู่ด้วยกัน ทำไมจะอยู่ไม่ได้ ช่วงนั้นเราเครียดมาก น้ำหนักลดลงสามกิโลภายในอาทิตย์เดียว เราปรีกษาเพื่อนสนิท ทุกคนก็บอกว่าเค้าต้องมีคนอื่นแน่ๆ แต่เราไม่เชื่อว่าเค้าจะทำแบบนั้นกับเราได้ เพราะเค้าดีกับเรามาตลอดและเราก็ไว้ใจเค้ามาก ไม่เคยเช็คมือถือหรือกระเป๋าตังเลย พอเราถามเค้า เค้าก็บอกว่าไม่ได้มีคนอื่น(ถึงมีใครจะยอมรับ) เราพยายามง้อเค้า เพราะรักเค้ามาก.... เรารู้ว่าเราขี้วีน เราก็พยายามปรับปรุงตัว แต่เค้าก็ยังคงไม่สนใจเราเหมือนเดิม.... เราแพลนว่าจะกลับไทยก่อนที่เรื่องนี้จะเกิดขึ้น ของทุกอย่างเราส่งไปที่อพาร์ทเม้นเค้าที่แคลิฟอเนียร์หมดแล้ว และเราก็ซื้อตั๋วกลับไทยเรียบร้อย เค้าเลยต้องจำใจให้เราไปอยู่ตามแพลนที่เคยคุยกันไว้ก่อนหน้านี้ วันแรกที่ไปถึง เรากับเค้าไม่คุยกันเลย จนเราทนไม่ไหว เราเลยเริ่มพูดกับเค้า ถามเหตุผลว่าเพราะอะไร ทำไมเค้าถึงเป็นแบบนี้ เค้าก็ยังคงตอบเราเหมือนเดิมว่า เราทะเลาะกันบ่อย ห่างกันมานาน เค้าไม่ได้คิดจริงจังกับเรา(ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยวางแผนเรื่องอนาคตด้วยกัน) แต่เค้าก็ยังคงปฎิเสธว่าไม่ได้มีใครเหมือนเดิม..... หลังจากปรับความเข้าใจกันซักพัก ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนปกติ เค้าก็ดูเเลเราดีเหมือนเดิม บอกรักเราเหมือนเดิม เราเลยตัดสินใจกลับไทยตามแพลนที่เราวางไว้ ทั้งๆ ที่เราคิดว่าจะเลื่อนตั๋ว เราเจอกับเค้าแค่สามวันก่อนที่จะกลับไทย เราคิดว่าทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ จนกระทั่งสามวันที่ผ่านมา..... เค้าส่งข้อความมาหาเรา บอกให้เราอยู่ไทยต่อ หัวใจเราเต้นแรงมาก เราเลยขอเฟสไทม์ เพื่อที่จะคุยให้รู้เรื่อง เราคุยกันซักพัก เค้ายอมรับว่าเค้าคุยกับผู้หญิงคนนึง เกือบสองเดือนแล้ว.... เราช๊อคเลยค่ะ ไม่คิดว่าผู้ชายที่บอกรักเรา จะทำแบบนี้กับเราได้ เราไม่ได้ร้องไห้ เพราะร้องไม่ออก มันจุกอยู่ข้างใน... ถามว่าเสียใจมากไหม เราตอบไม่ได้ มันยิ่งกว่าเสียใจอีก.... ตอนนั้นเรายอมรับว่าเราแค้นมาก อยากจะไปกระทืบให้ตาย.... นึกถึงอดีตที่ผ่านมาของเรากับเค้า ก็ได้แต่ถามตัวเองว่า ทำไมเค้าทำกับเราแบบนี้ได้ เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้คิดจริงจังกับผู้หญิงคนนั้น แค่ต้องการที่จะลืมเรา เค้าบอกว่ายังรักเราเหมือนเดิม แต่เค้ามองไม่เห็นหนทางที่จะอยู่ด้วยกันได้... เราคบกันมาเกือบห้าปี ผู้หญิงคนนั้นเจอกันแค่สองเดือน ทำไมเค้าถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้... ปากบอกว่ารักเรา ถ้ารักแล้วทำไมถึงไม่อยากเจอเรา มันยากมากเลยเหรอ....
....เราไม่รู้ว่าตอนนี้เราควรทำยังไงดี เราทำใจไม่ได้ เราพยายามขอโอกาส สิ่งที่เค้าทำกับเรา เราให้อภัยเค้าได้ เรารู้ว่าเราเคยทำไม่ดีกับเค้า เราก็ขอโทษเค้า... เราจะพยายามปรับปรุงตัว แต่เค้าก็บอกว่า เค้าจะส่งของของเรามาให้ที่เมืองไทยแล้วก็ยังบอกเราว่า "You need to move on" แล้วซักพักเค้าก็บอกว่าเราขอคิดดูก่อน.... เรารู้ว่าเค้าค่อนข้างจะสับสนตอนนี้ เค้าบอกขอเวลาคิดอีกหน่อย แต่เรามีเวลาอีกแค่สามวันเท่านั้น แพลนเดิมเราจะบินกลับวันที่ 10 กุมภานี้ ถ้าเราไม่ขึ้นเครื่องวันอังคารนี้ เรื่องของเรากับเค้าก็จะจบไปอย่างแน่นอน เราไม่รุ้ว่าเราควรจะพอหรือเราควรจะพยายาม.... เรารุ้ว่าทุกคนคงบอกให้เลิกไปเถอะ ผู้ชายแบบนี้.... แต่มันไม่ง่ายเลย.... เพราะเรา "รัก" เค้ามาก ถ้าเรากลับไปทุกอย่างอาจจะดีขึ้น หรือแย่ลง แต่ถ้าเราไม่กลับ เรากลัวว่าเราจะเสียใจไปตลอดชีวืต
..... นี่เป็นกระทู้แรกของเรา ขอโทษด้วยนะคะ ถ้าอ่านแล้วงง แต่ทุกอย่างที่เขียนไป เป็นความรู้สึกของเราในตอนนี้จริงๆ
เราไม่รู้จะตัดสินใจยังไงดี.......