เรื่องสั้นของเพื่อนผม จากประสบการณ์ตรงครับ....

เรื่องสั้นของเพื่อนผม จากประสบการณ์ตรงครับ....ฝากคอมเม้นต์ด้วยนะครับ


‪#‎ตอน1‬. ‪#‎ปาฏิหารย์หรือสติ‬
เช้าวันคริสต์มาส'57 วันนั้นอากาศดีมากสดชื่นแจ่มใสกับรุ่นน้องที่คุ้นเคยได้เวลา เอ่ยคำลาพร้อมการนัดหมายในคืนนี้
รุ่นน้อง : สวัสดีครับพี่ปุ๊ เจอกันคืนนี้ครับพี่พร้อมยกมือไหว้ตามประสานรุ่นพี่รุ่นน้องที่ถูกสั่งสอนมาแต่โบราณ
ป.ปุ๊ : รับไหว้ ครับผม เจอกันแล้วกดรีโมตรถพร้อมก้าวขึ้นรถมือควานหาแว่นสายตาที่ติดมากเวลาขับรถ !!!ช่างเถอะ!!!เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว (ความประมาท) มือขวาคว้าเบลล์มาคาด คาดทุกครั้ง 555ไม่หรอกรำคาญสัญญาณมันเตือน (ข้อดี) เวลาผ่านไป.
ชั่วขณะที่รถเลี้ยวแสงแดดปาดเข้าตา ที่กำลังมองหน้าปัดความเร็วรถที่ 40กม./ชม. วูบขึ้นมา ทันใดนั้นรถเริ่มแกว่งทันทีบอกตัวเองไม่ไหว ด้วยความเท่านี้ฟุตบาตน่าจะเอาอยู่(ดีกว่าเสยตูดชาวบ้านหรือชนคนตาย) แต่ไม่สิ มันแรงพอที่จะเกยเสาไฟฟ้า Airbag เจ้ากรรมทำงานทันทีเลยนะ มันดันผมหัวฟาดกระจกหน้าแตก เออ...หัวไม่แตก แต่ท้องนี่สิเหมือนจะแตก
วี่หว่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดังในหูแต่ในสมองถึงโรงพยาบาลยังวะ
~~~~ฉุกเฉินครับๆๆๆอุบัติเหตุๆๆๆ
~~~~สงสัยได้กลับบ้านไม่เห็นเป็นไรเลย
~~~~ผล X-ray มีเลือดออกในช่องท้อง
เท่านั่นแหละ ตะโกน เฮ้ยยย...ผมปวดท้องปวดมากครับต้องได้รับการรักษา
หมอ/พยาบาล ไม่ได้คะต้องมีคนเซ็นรับรองการผ่าตัด สักครู่...น้องๆมีเบอร์พ่อแม่มั้ย
ป.ปุ๊ :ให้เบอร์แม่และเบอร์บ้านไป
พยาบาล : ไม่มีคนรับสายคะหมอ
ถึงตรงนี้เชื่อมั้ยครับใจผมที่มีเกินร้อยเหลือไม่ถึงห้าสิบ แทบร่วงตรงนั้นครับ
ป.ปุ๊ : ผมต้องการจรรยาบรรณของหมอครับ ตะโกนซ้ำๆ
และรู้สึกโดนอุ้มตัวขึ้นเตียงเข็นเข้าห้องผ่าตัด โดยให้เซ็นชื่อ แต่ตอนนั้นอักษรไม่เป็นตัวแล้ว
!!!!!!วูบแรก เบื่อเหนื่อยมากทำไมเหนื่อยอย่างนี้
!!!!!!วูบ2 เย็นจัง ง่วงละ
!!!!!!วูบ3 แล้วแม่กูหล่ะ
ลืมตาอีกทีที่เตียงผู้ป่วยล้อมรอบด้วยเพื่อนๆที่รักเรายืนด้วยรอยยิ้มแปลก แต่ผมพูดไม่ได้เพราะมีท่อช่วยหายใจยัดเข้าปากทะลุคอแทงเข้าไปในปอด
เฮ้ยยย...กูเป็นไรวะเนี่ยคืนนี้กูมีนัดกับเพื่อนๆน้องๆ 5555
‪#‎บอกแล้วว่ามีแอบขำบ้างไรบ้าง‬
‪#‎ตอนหน้าคงฮากว่านี้เพราะเริ่มรู้ความจริงตามสไตล์คนคิดบวกมากกว่าคิดลบ555‬

‪#‎ตอนที่2‬ ‪#‎พูดไม่ออกบอกไม่ถูก‬
ตอนที่1ทิ้งท้ายว่า "ลืมตาอีกทีที่เตียงผู้ป่วยล้อมรอบด้วยเพื่อนๆที่รักเรายืนด้วยรอยยิ้มแปลกๆ แต่ผมพูดไม่ได้"
Endotracheal tube ท่อช่วยหายใจเรียกสั้นๆว่า "ทิ้ว"ยาวประมาณ 12 นิ้วหรือ1ไม้บรรทัด มันยาวที่เข้าทางปากทะลุคอลงไปในปอดผมได้ทีเดียว ทำให้เป็นใบ้นั่นเอง มือก็แปหงิกแข็งบวมด้วยผลจากฤทธิ์ยาสลบจากการผ่าตัด "ยิ้มอึดอัดหว่ะ สื่อสารยังไงให้คนเข้าใจวะเนี่ย" (คงนึกภาพออก) ใบ้- 555 แต่สมองผมสั่งการตลอด ถ้าได้อ่านตอนที่แล้วจะรู้ได้เลยว่า ‪#‎ผมมีสติที่ดีมาก‬ เป็นฤดูหนาวที่ร้อนมาก (คนผ่าตัดจะร้อนกว่าปกติ) ทำมือยังไง555 มือแปเขียนก็ไม่ได้ โอ้ย...อนาถหว่ะกู ทรม้านทรมาน น้ำก็หิวข้าวก็หิว สักพักหมอเดินมา
แม่ป.ปุ๊ : สวัสดีคะคุณหมอ
หมอ : ปลอดภัยแล้ว หมอเย็บลำไส้ ไต ม้าม กะเพาะปัสสาวะ ให้เรียบร้อยแล้วนะ รอดูอาการ
แม่ป.ปุ๊ : บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ป.ปุ๊ คิดในใจ"เฮ้ย!!!!กูเป็นเยอะขนาดนี้เลยหรอวะ คิดๆๆๆ Airbag แน่เลย ตอนนี้ได้รู้แล้วว่าเราเป็นอะไร"
พี่สาวแสนดี : พี่จัดการเรื่องรถให้แล้วนะ ของทองแหวนสร้อยอยู่ที่แม่แล้วนะ เรื่องรถเดี๋ยวพี่จัดการให้นะ
เพื่อนรัก : เห็นฟื้นแล้วกูดีใจนึกว่าจะเป็นไรไปแล้ว
ผมได้แต่พยักหน้าน้ำตาคลอ เอียงคอมองข้างเตียง (เป็นห้องรวม) แต่ไม่กล้ามองหน้าผู้ป่วยสักคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยหนักๆทั้งนั้น เตียงที่อยู่ขวามือนอนนิ่งครอบอ๊อกซิเจน มีญาติเฝ้า 2 คน "แม่กลับก่อนนะเดี๋ยวนี้มาเยี่ยมใหม่" จึงได้รู้ว่าเป็นแม่เตียงด้านขวา รุ่งขึ้นผญคนนั้นมาเยี่ยมลูกชาย สักพักพยาบาล4-5คนอาวุธครบมือ555วิ่งมาเตียงข้างขวาผมปิดม่าน และออกมาพร้อมกับพูดกับ ผญ คนนั้นว่าจะให้ถอดเครื่องช่วยหายใยมั้ย
"เฮ้ย!!!!ไรวะเมื่อวานยังดีๆอยู่เลย อย่ามาเป็นไรข้างๆกูนะ หรือว่าเป็นเพราะอาวุธของพยาบาล 555 ไม่ใช่นั้นเครื่องมือช่วยชีวิต"
และแล้วเตียงข้างขวาผมก็จากไปอย่างสงบ (ดีนะผมไม่ได้มองหน้า)
"สาธุๆๆ ขอให้ไปในที่ดีๆนะพ่อ"
‪#‎ถ้าไม่มีทิ้วผมคงร้องเสียงหลงแล้วพูดไม่ออกบอกไม่ถูกจริงๆ‬

‪#‎ตอน3‬ ‪#‎ก่อนวันพระที่๒๔‬
ความเดิมตอนที่แล้วทิ้งท้ายไว้ว่าตอนนี้จะออกแนวหลอน 555 ไม่รู้หลอนรึป่าวแต่ผมร้อนหลอน ... จึยยยยยส์
หลังจากเจ้าหน้าที่นำศพเตียงข้างขวาห่างไม่เกิน 1.5 เมตรออกไผพร้อมเสียงร้องไห้ดังระงมจากญาติมิตร ทำให้ใจผมหดหู่บอกไม่ถูก หันไปมองข้างซ้ายชายผู้นอนแน่นิ่งไม่มีวี่แววว่าจะขยับแต่อย่างใด เริ่มมีเพื่อนๆทั้งเก่าแก่ (แก่ๆ555) สมัยเรียน-ทำงานทั้งกลางวันกลางคืน ที่ทราบข่าวจาก Facebook ที่โพสต์จาก ‪#‎พี่สาวแสนดีของผม‬ จริงๆถ้าไม่มีการโพสต์แม่ผมคงไม่รู้เรื่องว่าลูกชายเป็นอะไร การมาเยี่ยมในครั้งนี้ผมไม่สามารถที่จะยิ้มหรือพูดคุย ‪#‎แต่ผมมีสติรู้เรื่องเพราะสมองสั่งการดีกว่าคนปกติบางคนเสียอีก‬ ได้แค่ส่งสายตาขอบคุณ ปลื้มใจ ซาบซึ้งที่ต้องสละเวลาเดินทางมาเยี่ยม บางคนใกล้ บางคนไกล บางคนไกลจากเชียงใหม่นั่งรถทัวร์เพื่อมาเยี่ยมผม ก็มีหลังจากเพื่อนๆทยอยกลับใกล้ค่ำ พนักงานทำความสะอาดพูดขึ้นมาลอยๆว่า
พนง. : พรุ่งนี้เป็นวันพระวันสุดท้ายของปีมีอาถรรพ์จะเอาคนป่วยไป 1 คนให้ซื้อพวงมาลัยไว้ไม่เขื่อก็แล้วแต่
ป.ปุ๊(คิด) : อ้าวสราสสส!!! เฮ้ยอาการยิ้มโคม่าทุกเตียงไมพูดงี้วะ ผมพูดก็ไม่ได้จะบอกใครให้ซื้อพวงมาลัยได้วะโอ้แม่เจ้า...คืนนี้จะนอนหลับมั้ยวะ
หลังจากนำศพข้างขวาออกเตียงก็ว่าง เตียงถัดไปเป็นชายแกแระได้ยินแต่เสียงเครื่องช่วยหายใจดังฮือกรั๊บๆๆ เสียงจะยาวๆหลอนๆ โอ๊ย...ผ่อนเสียงหน่อยซิก้าบบบบ
ผมหลับไปเพราะด้วยฤทธิ์ยาแก้ปวด สมองจะเหวอๆนิดๆ เสียงฮือกรั๊บๆดังเบาๆ แล้วร่างผมก็กระตุกสะดุ้งตื่นประมาณเที่ยงคืนนิดๆ มีคนเดินปลายเตียงผมไปๆมาๆ และมีคนผลักหลายๆครั้งจนผมจนรู้สึกตัว แต่จริงๆแล้วผมไม่ได้ตื่นนะ (งงดิ) จนมาตื่นจริงๆที่มีคนมาสะกิดแล้วพูดว่า "พี่เป็นไรรึป่าว" อ้าวงงมั้ย มันเป็นผวาซ้อนผวา 555 เออ...ไม่เคยเป็นแบบนี้นานแล้วแต่มาเป็นที่รพ.มันหลอนอ่ะ เหงื่อแตกผละหน้าหนาวทำไมร้อนหลอนจัง

‪#‎ตอน4‬ ‪#‎เคลื่อนย้ายถ่ายสะดุด‬
ชื่อตอน ตอนนี้ความหมายตรงตัวเลยครับตามผมมาครับ เอ๊ะ!บอกให้มาไง ยัง!ยังอีก โอเคไม่ตามมางั้นเล่าตรงนี้แหละ
เช้าวันที่4ในรพ.(ตอน4.ไม่จำเป็นต้องเป็นวันที่4นะครับอาจจะหลายวันเขียนรวมเป็น1ตอนก็ได้) พี่สาวแสนดี/แม่ได้ติดต่อเพื่อ refer ผมไปอีก รพ ซึ่งเป็นรพ.เอกชน ที่น่าจะดีกว่า ทั้งบริการและการเอาใจใส่ผู้ป่วย วันนั้นทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอรถของ รพ. อีกที่มารับ จวบจนบ่ายแก่ๆ มีรถเปลนอนพร้อมแผ่นพลาสติกเท่าที่นอน 1x3 ม. เพื่อย้ายจากเตียงนึงไปอีกเตียงนึง มี จนท. 3 คนและ พยาบาล 1 คน
พยาบาล : หายใจเองไหวมั้ยค่ะ
ป.ปุ๊ : ส่ายหัวเพราะไม่แน่ใจระยะเวลา (ตอนนั้นเริ่มสลับหายใจเอง กับ ต่อท่ออ๊อกซิเจน)
พยาบาล : งั้นต่อท่ออ๊อกซิเจนนะค่ะ
ขยับตัวไหวมั้ยค่ะ?
จนท.1 : อย่าเลย พร้อมกับสอดแผ่นพลาสติกใต้ตัวผมแล้วลากลงรถเปลที่เคลื่อนมาติดเตียงผม
ปุ๊บ...ผมนี่ย้ายไปอีกเตียงเลย ไวมากนิ เหยดเหม่ 5555555 จุกนิดๆ และโดนเข็นออกอย่างรวดเร็ว
ตึงๆ(ขอบประตูทางออก) ตึงๆ(ทางเข้าลิฟท์) ตึงๆ(ออกลิฟท์) ตึงๆ(ประตูออกรพ.) และแล้ว และแล้ว แล้วๆๆๆๆๆ
แดดยามบ่ายแก่ ก็สาดเข้าหน้าชายหนุ่มที่กำลังนอนหงายบนรถเปลนอน
โอ้แม่เจ้า...ไอ้ตึง4ครั้ง ล้อหน้ารวมล้อหลัง = 8 กระแทก กรูยังไม่สะใจใช่มั้ย เอากรูมาตากแดด เอาหน้าหงายสู้แสงอาทิตย์ยามบ่ายแก่
จนท.2 : โทษทีพี่ มา รพ. นี้ไม่มีที่จอดซักกะที
แปบนะครับ แล้วเข็นด้วยความเร็วสูง โดยที่ไม่ระวังว่าพื้นมันไม่เสมอกัน (โอ๊ยไอ้เวร น้ำตาเล็ดเล็กน้อย) ทำการเคลื่อนย้าย ขึ้นรถฉุกเฉิน โดยจนท.3ยืนให้กำลังใจข้างๆ
จนท.3 : เร็วดิเดี๋ยวรถติด
ป.ปุ๊ คิด (ห๊ะ!!! มาซะเวลานี้ยังจะบ่นเรื่องรถติด แล้วนึกภาพล่วงหน้าระหว่างทางก่อนถึงรพ.ที่จะย้ายไปได้เลย ... คิดว่าเพื่อนๆคงคิดออกเหมือนกันใช่มั้ย)
เสียง วี้หว่อ วี้หว่อๆๆ ก็ดังก้องในหูของผมอีกครั้งแต่ผิดกับครั้งแรกคือ ครั้งแรก : เมื่อไหร่จะถึง
ครั้งนี้ : สราสสสสสส กรู..ม่ายยยรีบบบบบบ😬😬😬😬😬
พยาบาล : สักครู่นะค่ะ ต่อท่ออ๊อกซิเจนของรพ.หลังใหม่ของผมซึ่งเป็น รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง
ป.ปุ๊ : ถึงแล้วแอร์เย็นแต่ เหงื่อผมนี้มันไหลซกเลยวะ555 สุดยอดการขับขี่ที่ได้ชื่อว่า "AMBULANCE" จริงผมขอยกนิ้วให้ ไม่ใช่นิ้วโป้งนะ นิ้วกลางดีก่ามั้ย
หลังจากจัดการเรื่องเอกสารก็พาผมไปที่ห้อง ICU ก่อนขึ้นห้องพักฟื้น(ward) เพราะยังไม่ถอดทิ้วส์ที่คอออก และยังหายใจเองไม่ได้ ในห้องจะเป็นแถวตอนเรียง มีทางเดินระหว่างเตียงที่ปลายเท้าคงนึกภาพออก สักพักหมอเดินมา
หมอ : อืม นอนนี่คืนนึงรอดูอาการ
พยาบาล : ค่ะ อาจารย์
(เคยรู้ว่าถ้า รพ. เอกชนจะเรียกหมอว่าอาจารย์)
ผมรู้สึกถึงความสบายทั้งเตียงหมอน มีแอร์ บรรยากาศ เฮ้อ...ดีจัง ไม่มีไรทำหลับดีกว่า
ครืดๆๆๆๆๆเสียงไร
ครืดๆๆๆ เสียงไรอ่ะ
ครืดๆๆๆ เสียงไรวะ
เสียงครืดๆๆๆ ทำให้ผมตื่น เพราะมันไหลออกมาจากทวารหนัก (รูตู๊ดสสส) ผมเองช่างพร่างพรู ใส่ในไดเปอร์ (Diaper) ที่ใส่เป็นครั้งแรกในชีวิตตั้งแต่วันแรกที่นอน รพ. มาถึงตอนนี้ ผมอายมั้ย...ตอบเลยว่ามากกกกก555 แหมคนป่วยให้ทำไงเน๊าะ555
เอาหล่ะ...ถึงตรงนี้จะทำไง พูดก็ไม่ได้ ได้แต่แกว่งมือไปมาๆตอนมีพยาบาลเดินมา
ผช.พบ. : มีไรค่ะ
ป.ปุ๊ : ทำมือชี้ไปที่ก้น
ผช.พบ : โอเคค่ะ แปบนะค่ะพร้อมกับนำกะทะพลาสติก สำลี แอลกอฮอล์ มาเช็ดและเปลี่ยนไดเปอร์ให้เรียบร้อย
ป.ปุ๊ : อืมมมมมมมมมทำให้รู้ว่าลำไส้ทำงานแล้ว
และผมก็หลับต่อ เฮ้ยๆๆๆๆมาอีกแล้ว ทุกอย่างเหมือนเดิมทุกๆ 1ชม.15นาที มันจะมาอีกเป็นอย่างนี้จนถึงตีหนึ่งมีการเช็ดตัว ผมก็ได้เช็ดเปลี่ยนชุด ผ่านไปประมาณ15นาที มีเสียงดังจากเตียงท้ายๆมองไม่เห็นมันไกล ทั้งพยาบาล ผช.พบ.วิ่งไปที่เตียงนั้นเพื่อทำการบางอย่างได้ยินเสียงตรงนั้นลอยมาว่า123เคลียร์ โอเคกลับมาแล้วเฮ้อ!!!
ขอย้อนกลับไป สัก2-3 นาที ขณะที่พยาบาล,ผช.พบ.วิ่งไปเตียงนั้น มีใครคนนึงเตะสายอ๊อกซิเจนที่พาดกับปลั้ก3ตาปลายเตียงผมจน Mask ผมหลุด
เฮ้ย!!!!!ๆๆๆๆ กูจะตายมั้ยเนี่ย สูดลมหายใจ เฮือกๆ รวมพลังเขยิบตัวที่หัวเตียงต่อท่ออ๊อกซิเจน โอ้บ๊ระเจ้าต่อไม่ได้ ผมเริ่มเหนื่อย เริ่มหมดแรง จึงรวบรวมสติ ทำไงให้พวกนั้นได้รู้เพราะพูดไม่ได้ หันไปเห็นปากกาจึงนำปากกาตีขอบเตียง
เกร๊งๆๆๆๆๆๆๆๆ เฮ้ยนั่นลุกมาทำไมเดี๋ยวตกเตียงแย่เลยเสียงดุมากพร้อมวิ่งมาที่เตียงผม (อ่ออีนี่แหละที่เตะปลั้ก)
พยาบาล : เปนไร ลุกไม เตียงนู้นเค้าช้อค อย่าสร้างเรื่องดิ
ป.ปุ๊ : ได้แต่ชี้ไปที่ท่อสายอ๊อกซิเจน แล้วกูก็ไม่ได้สร้างเรื่องด้วย แต่นั่นแหละจะทำให้กูช็อค อีเวง!!!
พยาบาล : อ๋อ โอเคจัดแจงเสียบสายออกซิเจนให้เรียบร้อย
{เพื่อเป็นการสั่งสอนที่เตะปลั๊ก,ทำกรูเกือบช็อค,ดุกรู,เข้าใจกรูผิด} หึหึๆ
ป.ปุ๊ : ทำมือชี้ไปที่ก้น
พยาบาล : เสียงอ่อยๆ"ค่ะ" %{<\}€?,!¥=*4฿&,:#}$><*¥!.ะ
อยู่ รพ. ไม่วายทิ้งนิสัยชอบแกล้ง5555


‪มีตอนต่อไป  ==>
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่