หลายๆ ครั้งที่เราแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวกับประเด็นขัดแย้ง เช่น การเมือง ศาสนา ฯลฯ ผ่านสื่อ Social media ต่าง วันถัดไปเราก็มักจะได้ยินเสียงกระซิบจากผู้หวังดีว่า "เอาออกเหอะ เดี๋ยวผู้ใหญ่เขาจะไม่ชอบนะ" "อย่าพูดเลย เดี๋ยวคนที่เขาไม่เห็นด้วยจะขัดแย้งด้วย" "ออกตัวแรงเกินไปนะ" ฯลฯ เราก็เข้าใจประเด็นที่ว่าเราควรหลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้ง แต่การหลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้งด้วยการไม่แสดงความคิดเห็นส่วนตัวนั้น ถูกต้องแล้วหรือไม่
การแสดงความคิดเห็นและการถกเถียงข้อขัดแย้ง เป็นกิจกรรมและวัฒนธรรมที่บางหน่วยงานในบางประเทศสนับสนุนอย่างมาก ตอนนี้เราทำงานในองค์กรไทยในต่างประเทศแห่งหนึ่ง และกำลังทำปริญญาโทใบที่สอง และจะควบต่อปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยที่เป็นที่รู้จักหนึ่งในอเมริกา อาจารย์มักจะพูดเสมอ ในห้องเรียน ขอให้แสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะต่างกัน ขัดแย้งกัน ก็ขอให้พูดออกมา ขอเพียงแต่ให้มีความเคารพกัน ไม่ว่าคุณจะเด็กกว่า มีหน้าที่การงานที่ด้อยกว่า หรือความคิดเห็นของคุณอาจจะไม่ได้น่าสนใจอะไร ขอให้พูดออกมา โดยมีเหตุผลและหลักฐานประกอบ หลังจากที่เราถกเถียงกันแล้ว สิ่งที่ผู้ร่วมถกเถียงจะได้กลับไป ไม่ใช่การตัดสินว่าใครดีกว่า ถูกกว่า แต่เราจะได้ความรู้ใหม่ๆ จากฝ่ายตรงข้าม และความรุ้ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากการถกเถียง เราได้ฝึกฝนในการคิด หา นำเสนอ และวิเคราะห์ข้อมูลและเหตุผลในการถกเถียง ในห้องเราอาจจะถกเถียงกันอย่างรุนแรง แต่พอเสร็จเราก็สามารถเฮฮาคุยเรื่องส่วนตัวจิปาถะกันได้เหมือนเดิม ประสบการณ์แบบนี้ นอกจากในห้องเรียนแล้ว เราก็สามารถสัมผัสได้จากสถานการณ์อื่นๆ เช่น จากคนที่เราร่วมงานด้วย จากคนรู้จักอื่นๆ
เราไม่ได้ต้องการที่จะเปรียบเทียบว่าใครดีกว่าด้อยกว่า แต่เราแค่รู้สึกว่า การงดการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการมีปัญหาเรื่องงาน จากคนรอบข้าง เป็นการกดการพัฒนาทางปัญญาซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากการคิดวิเคราะห์ จริงอยู่ที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในประเทศที่เจริญแล้วอื่นๆ ด้วย แต่จากประสบการณ์ของเรา เราว่าน้อยกว่ามาก
หลายๆ ครั้งเราเองก็พยายามไม่แสดงความคิดเห็นมาก เพราะเห็นว่าหลายๆ คนเป็นห่วงในสวัสดิภาพของเรา แต่หลายๆ ครั้ง เราก็นั่งถามตัวเองว่า มันถูกต้องแล้วหรือ มันผิดหรือที่เราอยากแสดงความคิดเห็นของเรา อยากได้ยินความคิดเห็นต่างของคนอื่น อยากถกเถียงกันด้วยเหตุผล เพราะเราอยากรู้ อยากฉลาดขึ้นในเรื่องนั้นๆ
จะดีกว่ามั้ยถ้าคนไทยสามารถและกล้าที่จะแสดงออกทางความคิดได้ โดยไม่ต้องกังวลว่า ผู้ใหญ่จะไม่ชอบหน้ามั้ย จะโดนหาว่าก้าวร้าวมั้ย มันจะทำให้คนไทยฝึกฝนความคิด และพัฒนาทางสติปัญญามากขึ้นกว่านี้หรือไม่
** แค่คิดๆ และอยากจะแสดงความคิดเห็น ใครเห็นด้วยไม่เห็นด้วยยินดีรับฟังค่ะ **
ปล. ไม่ค่อยได้โพสจริงๆ จังๆ มาก่อน แท็กผิดห้องยังไงก็ขออภัยด้วยค่ะ
"เห้ย... พูดแรงไป หยุดเหอะ เดี๋ยวผู้ใหญ่หมั่นไส้หรอก"
การแสดงความคิดเห็นและการถกเถียงข้อขัดแย้ง เป็นกิจกรรมและวัฒนธรรมที่บางหน่วยงานในบางประเทศสนับสนุนอย่างมาก ตอนนี้เราทำงานในองค์กรไทยในต่างประเทศแห่งหนึ่ง และกำลังทำปริญญาโทใบที่สอง และจะควบต่อปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยที่เป็นที่รู้จักหนึ่งในอเมริกา อาจารย์มักจะพูดเสมอ ในห้องเรียน ขอให้แสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะต่างกัน ขัดแย้งกัน ก็ขอให้พูดออกมา ขอเพียงแต่ให้มีความเคารพกัน ไม่ว่าคุณจะเด็กกว่า มีหน้าที่การงานที่ด้อยกว่า หรือความคิดเห็นของคุณอาจจะไม่ได้น่าสนใจอะไร ขอให้พูดออกมา โดยมีเหตุผลและหลักฐานประกอบ หลังจากที่เราถกเถียงกันแล้ว สิ่งที่ผู้ร่วมถกเถียงจะได้กลับไป ไม่ใช่การตัดสินว่าใครดีกว่า ถูกกว่า แต่เราจะได้ความรู้ใหม่ๆ จากฝ่ายตรงข้าม และความรุ้ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากการถกเถียง เราได้ฝึกฝนในการคิด หา นำเสนอ และวิเคราะห์ข้อมูลและเหตุผลในการถกเถียง ในห้องเราอาจจะถกเถียงกันอย่างรุนแรง แต่พอเสร็จเราก็สามารถเฮฮาคุยเรื่องส่วนตัวจิปาถะกันได้เหมือนเดิม ประสบการณ์แบบนี้ นอกจากในห้องเรียนแล้ว เราก็สามารถสัมผัสได้จากสถานการณ์อื่นๆ เช่น จากคนที่เราร่วมงานด้วย จากคนรู้จักอื่นๆ
เราไม่ได้ต้องการที่จะเปรียบเทียบว่าใครดีกว่าด้อยกว่า แต่เราแค่รู้สึกว่า การงดการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการมีปัญหาเรื่องงาน จากคนรอบข้าง เป็นการกดการพัฒนาทางปัญญาซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากการคิดวิเคราะห์ จริงอยู่ที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในประเทศที่เจริญแล้วอื่นๆ ด้วย แต่จากประสบการณ์ของเรา เราว่าน้อยกว่ามาก
หลายๆ ครั้งเราเองก็พยายามไม่แสดงความคิดเห็นมาก เพราะเห็นว่าหลายๆ คนเป็นห่วงในสวัสดิภาพของเรา แต่หลายๆ ครั้ง เราก็นั่งถามตัวเองว่า มันถูกต้องแล้วหรือ มันผิดหรือที่เราอยากแสดงความคิดเห็นของเรา อยากได้ยินความคิดเห็นต่างของคนอื่น อยากถกเถียงกันด้วยเหตุผล เพราะเราอยากรู้ อยากฉลาดขึ้นในเรื่องนั้นๆ
จะดีกว่ามั้ยถ้าคนไทยสามารถและกล้าที่จะแสดงออกทางความคิดได้ โดยไม่ต้องกังวลว่า ผู้ใหญ่จะไม่ชอบหน้ามั้ย จะโดนหาว่าก้าวร้าวมั้ย มันจะทำให้คนไทยฝึกฝนความคิด และพัฒนาทางสติปัญญามากขึ้นกว่านี้หรือไม่
** แค่คิดๆ และอยากจะแสดงความคิดเห็น ใครเห็นด้วยไม่เห็นด้วยยินดีรับฟังค่ะ **
ปล. ไม่ค่อยได้โพสจริงๆ จังๆ มาก่อน แท็กผิดห้องยังไงก็ขออภัยด้วยค่ะ