สวัสดีครับออกตัวก่อนเลยว่าเป็นการเขียนเรื่องเกี่ยวกับการเที่ยวเป็นครั้งแรก พอดีเมื่อต้นปีได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกกับเพื่อนๆ ซึ่งผมหาโอกาสที่จะไปมาโดยตลอดแต่ไปคนเดียวก็หวั่นๆ เลยชวนกลุ่มเพื่อนที่อยากไปกัน ซึ่งคัดแล้วเหลือเพียง 6 คน โดยไปด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ขาไปลงที่โอซาก้าและขากลับขึ้นเครื่องที่นาริตะ เมืองที่พวกผมไปมี นารา เกียวโต โอซาก้า คาวากูจิโกะ และโตเกียว เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังว่าไปเจออะไรมาบ้าง เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ ที่ได้จากการเดินทางในครั้งนี้
1. ตม.ญี่ปุ่นผ่านง่ายมาก ขนาดไปครั้งแรกยังไม่มีการถามอะไรสักคำ เอาแค่หน้ากับมือและพาสปอร์ตไปก็พอ (ถ่ายรูปกับสแกนลายนิ้วมือ)
2. สนามบินโอซาก้าสามารถนอนได้ โดยตรงเก้าอี้แถวยาวสามารถที่จะเอามาต่อติดกันแล้วนอนได้ (บางครั้งจะมีเจ้าหน้าที่สนามบินมาขอดูพาสปอร์ต และมีการนับคนที่นอนอยู่ด้วย)
3. ตู้กดน้ำหยอดเหรียญเป็นอะไรที่เย้ายวนให้น่ากดมาก แถมมีเยอะแยะมากมาย
4. ร้านอาหารจานด่วนที่นี่บางร้านจะไม่มีการนำมาเสริฟ และให้เราเก็บจานไปวางคืนในที่ๆเค้ากำหนดไว้ด้วย (พอดีไปเจอนักท่องเที่ยวที่กินแล้วไม่เก็บผมกับเพื่อนก็เลยยกไปเก็บให้ พนักงานในร้านเลยแต้งกิ้วมารัวๆเลย)
5. ร้านอาหารบางร้านเราสามารถขอเมนูภาษาอังกฤษได้ถ้าเค้ามี
6. นาราเป็นเมืองที่สงบและสวยมาก ทางเดินสะอาดแบบที่สามารถไปนอนกลิ้งได้เลย
7. ร้านขายมันเผารถเข็นที่นี่จะขายแบบ 100g/xxx เยน (แต่หัวมันใหญ่มากเกือบกิโล เลยโดนไปหัวเดียวพันกว่าเยน)
8. กวางที่นารา หากมันเห็นคุณถือถุงพลาสติกอยู่มันจะเดินเข้ามาหา เพราะมันนึกว่าคุณจะมาให้อาหารมัน
9. บริเวณพื้นที่ก่อสร้าง เราจะเห็น รปภ. เยอะกว่าคนที่กำลังทำงานซะอีก (ไปเจอที่สวนอุเอโนะ รปภ. 3คน คนทำงานขุดเจาะ 1 คน - -")
10. ไม่ว่าจะไปจุดท่องเที่ยวที่ไหน ท่านก็สามารถพบคนไทยได้ไม่ยาก
11. โปรดระวัง! จุดท่องเที่ยวบางแห่งอาจจะปิดซ่อมอยู่ แถมปิดเป็นปีด้วย(โปรดหาข้อมูลก่อนเดินทาง)
12. ในหน้าหนาวท่านสามารถดื่มโค้กได้เหมือนแช่ตู้เย็นตลอดเวลา เผลอๆจะเย็นกว่าตอนซื้ออกมาจากร้านซะอีก
13. หากมีตัวหนังสือนี้เขียนอยู่หน้าร้าน 食べ放題 คือร้านที่มีบริการบุฟเฟต์ และจะมีเขียนจำนวนเวลา เช่น 100分 ต่อด้วยราคา 2940円/คน(ไม่รวมภาษี)
14. อาหารญี่ปุ่นที่นั้นสดมาก ไม่คาวเลย ไข่ดิบตอกราดข้าวสวยร้อนๆใส่โชยุ ยังอร่อยสุดๆ
15. สินค้าร้าน 100เยน มิใช่ 100เยนจริงๆ เพราะยังไม่รวมภาษี ซื้อ 1ชิ้นรวมภาษี = 108เยน
16. บัตร Osaka Amazing Pass สามารถเข้าชมฟรีได้หลายสถาที่ในโอซาก้า เช่น ปราสาทโอซาก้า ชิงช้าสวรรค์Daikanransha
เรือซานต้ามาเรีย หรือส่วนลดพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kaiyukan
17. ที่ชิงช้าสวรรค์ Daikanransha ก่อนขึ้นเจ้าหน้าที่จะขอถ่ายรูปคุณไว้ก่อนเพื่อจัดทำเป็นของที่ระลึก พอคุณลงมาเค้าจะถามว่า
คุณจะรับรูปถ่ายที่ระลึกรึไม่ ในราคา xxxx เยน ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ว่าจะเอารึไม่เอา (ที่หอคอยโอซาก้าก็มีเหมือนกัน)
18. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kaiyukan จะมีลักษณะให้เราขึ้นไปด้านบนสุด จากนั้นเดินวนลงมา โดยมีจุดดึงดูดความสนใจตลอดทาง
และชั้นล่างจะมีเก้าอี้เป็นคู่ๆให้นั่งมองขึ้นไปด้านบนเหมาะกับการพักผ่อนมาก
19. หากจะเดินขึ้นไปบนยอดเขาของศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ในเกียวโต ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมเพราะยิ่งสูงบันไดจะยิ่งชันมากขึ้น
(มองในป้ายบอกทางอาจจะดูว่าเส้นทางมันสั้น แต่จริงๆแล้วยาวไกลมาก)
20. สิ่งที่ทำให้คุณเหนื่อยและเมื่อยล้า อาจจะไม่ใช่การเดินท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ แต่เป็นบันไดขึ้นลงระหว่างทางไปสถานีรถไฟฟ้า
(บางสถานีกว่าจะได้ขึ้นรถอาจต้องเดินไกลมาก)
21. ใต้ดินของสถานีรถไฟฟ้าคือหุบเขาวงกตดีๆนี่เอง สิ่งนำทางเดียวคือป้ายบอกทางที่อยู่เหนือหัวและข้างผนัง
22. เวลาเดินในสถานีรถไฟฟ้า ห้ามหยุดกระทันหันเด็ดขาด เพราะคนญี่ปุ่นที่เดินตามหลังคุณอาจชนคุณกระเด็นได้
(หากจะหยุดมองดูอะไร แนะนำให้เดินหลบไปบริเวณผนัง หรือใกล้เสา)
23. การเที่ยวชมพระราชวังอิมพีเรียลที่เกียวโต ต้องจองล่วงหน้าก่อน เดินดุ่มๆเข้าไปไม่ได้
http://sankan.kunaicho.go.jp/english/index.html
24. บริเวณทางแยกหรือแม้แต่กระทั่งซอยเล็กๆก็มีไฟเขียวไฟแดง ควรหยุดมองดูทุกครั้ง
25. ที่ญี่ปุ่นจะมีถังขยะแบบแยกชนิดของขยะแต่ละประเภท ควรทิ้งให้ถูกถัง
26. LOTO หรือก็คือหวยของประเทศญี่ปุ่น เป็นอะไรที่คอหวยบ้านเราน่าจะถูกใจมากมีให้เล่นตั้งแต่แทง 2 ตัวไปถึง 7 ตัว
เล่นง่ายแถมออกรางวัลทุกสัปดาห์
27. การซื้อ LOTO ให้ไปที่หน้าเค้าเตอร์จะมีกระดาษคล้ายกระดาษคำตอบเวลาสอบ ให้เราฝนเลขที่ต้องการลงไป เช่น LOTO 7
ก็ให้เราฝนเลขได้ 7 ตัวในชุด A จากนั้นก็ยืนใบพร้อมเงินให้กับพนักงานขาย เค้าจะออกตั๋วที่เราฝนไว้มาให้ ราคาต่อชุดตัวเลข
LOTO 7 เท่ากับ300เยน หากฝนในหมวด B ด้วยก็เพิ่มเป็น 600 เยน ออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลาประมาณ 3 ทุ่มที่ญี่ปุ่น
(รางวัลที่1 400ล้านเยน) สนใจเข้า link นี้เลย
http://bunshiri.blogspot.com/2013/03/7-lotto-7.html
28. ของกินพวกข้าวกล่องในซุบเปอร์มาเก็ต หากคุณไปซื้อตอนค่ำๆ อาจจะได้เจอของลดครึ่งราคาแบบถูกมาก
29. มินิมาร์ทที่นั้นมีพุดดิ้งขายมากมาย (สงสัยว่าทำไมเมืองไทยไม่มีบ้าง)
30. หากคุณนั่งไนท์บัส จะต้องโทรไปจองก่อนหรือบางที่จองได้ที่หน้าเวปไซต์ การจ่ายเงินให้ไปจ่ายที่คนขับรถได้เลย
31. ไม่ต้องกลัวว่าจะตกรถ หากคุณมาถึงก่อนเวลา(เพราะรถที่นี่มาตรงเวลามาก)
32. เมื่อขึ้นรถไปแล้วพนักงานผู้ช่วยคนขับรถ จะมาแนะวิธีการใช้บริการต่างๆ ซึ่งเค้าจะพยายามพูดเป็นภาษาอังกฤษกับเรา
(ผมให้ความพยายามเค้าเต็ม 100 ในการอธิบายกับคนต่างชาติ)
32.1 จุดจอดรถ เค้าจะแนะนำว่าตรงไหนเราลงได้ ลงได้กี่นาที และจุดห้ามลงแม้ว่าเค้าจะจอด
32.2 การใช้ห้องน้ำ เมื่อใช้แล้วปิดประตูด้วยเพื่อป้องกันกลิ่นรบกวน
32.3 จะมีน้ำชาและผ้าเย็นแจก รับได้คนละ 1 ชุดเท่านั้นและบริการตัวเอง
33. สถานที่ท่องเที่ยวแถวคาวากูจิโกะจะมีรถบัสขับผ่าน แต่ถ้าให้ดีเช่ารถขับจะดีกว่าเพราะรอรถบัสมันนานมากและไปไม่ทั่ว
34. การเช่ารถที่คาวากูจิโกะ จะรับแต่บัตรเครดิตเท่านั้น (ก่อนรับรถจะมีการตรวจสอบสภาพรถก่อนเอาไปขับ ควรจำไว้ให้ดี
และให้เจ้าหน้าที่สอนการใช้ เครื่องนําทาง gpsด้วย)
35. 5แยกซอมบี้ในชินจูกุคนเยอะมาก ควรนัดสถานที่เจอกันก่อนเพื่อป้องกันการหลงทาง
36. Akihabara คือสวรรค์สำหรับคนรักของเล่น อนิเมะ การ์ตูน และ Sextoy
37. เรื่องบันไดเลื่อน คนแถบคันไซจะยืนชิดซ้าย คนโตเกียวจะยืนชิดขวาเหมือนบ้านเรา
38. ผนังห้องโฮสเทลบางมาก ชนิดที่ว่าคนเดินอยู่ชั่นล่างเรายังได้ยิน
ทั้งหมดที่พอจะจำได้ก็มีเท่านี้ครับ สำหรับผมเมื่อไปถึงคิดว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามจะดีที่สุด เพราะบางอย่างทำที่บ้านเราได้แต่อาจจะทำที่ญี่ปุ่นไม่ได้ โดยส่วนตัวประทับใจกับความอร่อยของอาหารและขนมต่างๆมาก และมีโอกาสจะต้องไปอีกครั้งนึงให้ได้ ^^
เกร็ดความรู้ที่ได้จากการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก@_@
1. ตม.ญี่ปุ่นผ่านง่ายมาก ขนาดไปครั้งแรกยังไม่มีการถามอะไรสักคำ เอาแค่หน้ากับมือและพาสปอร์ตไปก็พอ (ถ่ายรูปกับสแกนลายนิ้วมือ)
2. สนามบินโอซาก้าสามารถนอนได้ โดยตรงเก้าอี้แถวยาวสามารถที่จะเอามาต่อติดกันแล้วนอนได้ (บางครั้งจะมีเจ้าหน้าที่สนามบินมาขอดูพาสปอร์ต และมีการนับคนที่นอนอยู่ด้วย)
3. ตู้กดน้ำหยอดเหรียญเป็นอะไรที่เย้ายวนให้น่ากดมาก แถมมีเยอะแยะมากมาย
4. ร้านอาหารจานด่วนที่นี่บางร้านจะไม่มีการนำมาเสริฟ และให้เราเก็บจานไปวางคืนในที่ๆเค้ากำหนดไว้ด้วย (พอดีไปเจอนักท่องเที่ยวที่กินแล้วไม่เก็บผมกับเพื่อนก็เลยยกไปเก็บให้ พนักงานในร้านเลยแต้งกิ้วมารัวๆเลย)
5. ร้านอาหารบางร้านเราสามารถขอเมนูภาษาอังกฤษได้ถ้าเค้ามี
6. นาราเป็นเมืองที่สงบและสวยมาก ทางเดินสะอาดแบบที่สามารถไปนอนกลิ้งได้เลย
7. ร้านขายมันเผารถเข็นที่นี่จะขายแบบ 100g/xxx เยน (แต่หัวมันใหญ่มากเกือบกิโล เลยโดนไปหัวเดียวพันกว่าเยน)
8. กวางที่นารา หากมันเห็นคุณถือถุงพลาสติกอยู่มันจะเดินเข้ามาหา เพราะมันนึกว่าคุณจะมาให้อาหารมัน
9. บริเวณพื้นที่ก่อสร้าง เราจะเห็น รปภ. เยอะกว่าคนที่กำลังทำงานซะอีก (ไปเจอที่สวนอุเอโนะ รปภ. 3คน คนทำงานขุดเจาะ 1 คน - -")
10. ไม่ว่าจะไปจุดท่องเที่ยวที่ไหน ท่านก็สามารถพบคนไทยได้ไม่ยาก
11. โปรดระวัง! จุดท่องเที่ยวบางแห่งอาจจะปิดซ่อมอยู่ แถมปิดเป็นปีด้วย(โปรดหาข้อมูลก่อนเดินทาง)
12. ในหน้าหนาวท่านสามารถดื่มโค้กได้เหมือนแช่ตู้เย็นตลอดเวลา เผลอๆจะเย็นกว่าตอนซื้ออกมาจากร้านซะอีก
13. หากมีตัวหนังสือนี้เขียนอยู่หน้าร้าน 食べ放題 คือร้านที่มีบริการบุฟเฟต์ และจะมีเขียนจำนวนเวลา เช่น 100分 ต่อด้วยราคา 2940円/คน(ไม่รวมภาษี)
14. อาหารญี่ปุ่นที่นั้นสดมาก ไม่คาวเลย ไข่ดิบตอกราดข้าวสวยร้อนๆใส่โชยุ ยังอร่อยสุดๆ
15. สินค้าร้าน 100เยน มิใช่ 100เยนจริงๆ เพราะยังไม่รวมภาษี ซื้อ 1ชิ้นรวมภาษี = 108เยน
16. บัตร Osaka Amazing Pass สามารถเข้าชมฟรีได้หลายสถาที่ในโอซาก้า เช่น ปราสาทโอซาก้า ชิงช้าสวรรค์Daikanransha
เรือซานต้ามาเรีย หรือส่วนลดพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kaiyukan
17. ที่ชิงช้าสวรรค์ Daikanransha ก่อนขึ้นเจ้าหน้าที่จะขอถ่ายรูปคุณไว้ก่อนเพื่อจัดทำเป็นของที่ระลึก พอคุณลงมาเค้าจะถามว่า
คุณจะรับรูปถ่ายที่ระลึกรึไม่ ในราคา xxxx เยน ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ว่าจะเอารึไม่เอา (ที่หอคอยโอซาก้าก็มีเหมือนกัน)
18. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kaiyukan จะมีลักษณะให้เราขึ้นไปด้านบนสุด จากนั้นเดินวนลงมา โดยมีจุดดึงดูดความสนใจตลอดทาง
และชั้นล่างจะมีเก้าอี้เป็นคู่ๆให้นั่งมองขึ้นไปด้านบนเหมาะกับการพักผ่อนมาก
19. หากจะเดินขึ้นไปบนยอดเขาของศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ในเกียวโต ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมเพราะยิ่งสูงบันไดจะยิ่งชันมากขึ้น
(มองในป้ายบอกทางอาจจะดูว่าเส้นทางมันสั้น แต่จริงๆแล้วยาวไกลมาก)
20. สิ่งที่ทำให้คุณเหนื่อยและเมื่อยล้า อาจจะไม่ใช่การเดินท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ แต่เป็นบันไดขึ้นลงระหว่างทางไปสถานีรถไฟฟ้า
(บางสถานีกว่าจะได้ขึ้นรถอาจต้องเดินไกลมาก)
21. ใต้ดินของสถานีรถไฟฟ้าคือหุบเขาวงกตดีๆนี่เอง สิ่งนำทางเดียวคือป้ายบอกทางที่อยู่เหนือหัวและข้างผนัง
22. เวลาเดินในสถานีรถไฟฟ้า ห้ามหยุดกระทันหันเด็ดขาด เพราะคนญี่ปุ่นที่เดินตามหลังคุณอาจชนคุณกระเด็นได้
(หากจะหยุดมองดูอะไร แนะนำให้เดินหลบไปบริเวณผนัง หรือใกล้เสา)
23. การเที่ยวชมพระราชวังอิมพีเรียลที่เกียวโต ต้องจองล่วงหน้าก่อน เดินดุ่มๆเข้าไปไม่ได้ http://sankan.kunaicho.go.jp/english/index.html
24. บริเวณทางแยกหรือแม้แต่กระทั่งซอยเล็กๆก็มีไฟเขียวไฟแดง ควรหยุดมองดูทุกครั้ง
25. ที่ญี่ปุ่นจะมีถังขยะแบบแยกชนิดของขยะแต่ละประเภท ควรทิ้งให้ถูกถัง
26. LOTO หรือก็คือหวยของประเทศญี่ปุ่น เป็นอะไรที่คอหวยบ้านเราน่าจะถูกใจมากมีให้เล่นตั้งแต่แทง 2 ตัวไปถึง 7 ตัว
เล่นง่ายแถมออกรางวัลทุกสัปดาห์
27. การซื้อ LOTO ให้ไปที่หน้าเค้าเตอร์จะมีกระดาษคล้ายกระดาษคำตอบเวลาสอบ ให้เราฝนเลขที่ต้องการลงไป เช่น LOTO 7
ก็ให้เราฝนเลขได้ 7 ตัวในชุด A จากนั้นก็ยืนใบพร้อมเงินให้กับพนักงานขาย เค้าจะออกตั๋วที่เราฝนไว้มาให้ ราคาต่อชุดตัวเลข
LOTO 7 เท่ากับ300เยน หากฝนในหมวด B ด้วยก็เพิ่มเป็น 600 เยน ออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลาประมาณ 3 ทุ่มที่ญี่ปุ่น
(รางวัลที่1 400ล้านเยน) สนใจเข้า link นี้เลย http://bunshiri.blogspot.com/2013/03/7-lotto-7.html
28. ของกินพวกข้าวกล่องในซุบเปอร์มาเก็ต หากคุณไปซื้อตอนค่ำๆ อาจจะได้เจอของลดครึ่งราคาแบบถูกมาก
29. มินิมาร์ทที่นั้นมีพุดดิ้งขายมากมาย (สงสัยว่าทำไมเมืองไทยไม่มีบ้าง)
30. หากคุณนั่งไนท์บัส จะต้องโทรไปจองก่อนหรือบางที่จองได้ที่หน้าเวปไซต์ การจ่ายเงินให้ไปจ่ายที่คนขับรถได้เลย
31. ไม่ต้องกลัวว่าจะตกรถ หากคุณมาถึงก่อนเวลา(เพราะรถที่นี่มาตรงเวลามาก)
32. เมื่อขึ้นรถไปแล้วพนักงานผู้ช่วยคนขับรถ จะมาแนะวิธีการใช้บริการต่างๆ ซึ่งเค้าจะพยายามพูดเป็นภาษาอังกฤษกับเรา
(ผมให้ความพยายามเค้าเต็ม 100 ในการอธิบายกับคนต่างชาติ)
32.1 จุดจอดรถ เค้าจะแนะนำว่าตรงไหนเราลงได้ ลงได้กี่นาที และจุดห้ามลงแม้ว่าเค้าจะจอด
32.2 การใช้ห้องน้ำ เมื่อใช้แล้วปิดประตูด้วยเพื่อป้องกันกลิ่นรบกวน
32.3 จะมีน้ำชาและผ้าเย็นแจก รับได้คนละ 1 ชุดเท่านั้นและบริการตัวเอง
33. สถานที่ท่องเที่ยวแถวคาวากูจิโกะจะมีรถบัสขับผ่าน แต่ถ้าให้ดีเช่ารถขับจะดีกว่าเพราะรอรถบัสมันนานมากและไปไม่ทั่ว
34. การเช่ารถที่คาวากูจิโกะ จะรับแต่บัตรเครดิตเท่านั้น (ก่อนรับรถจะมีการตรวจสอบสภาพรถก่อนเอาไปขับ ควรจำไว้ให้ดี
และให้เจ้าหน้าที่สอนการใช้ เครื่องนําทาง gpsด้วย)
35. 5แยกซอมบี้ในชินจูกุคนเยอะมาก ควรนัดสถานที่เจอกันก่อนเพื่อป้องกันการหลงทาง
36. Akihabara คือสวรรค์สำหรับคนรักของเล่น อนิเมะ การ์ตูน และ Sextoy
37. เรื่องบันไดเลื่อน คนแถบคันไซจะยืนชิดซ้าย คนโตเกียวจะยืนชิดขวาเหมือนบ้านเรา
38. ผนังห้องโฮสเทลบางมาก ชนิดที่ว่าคนเดินอยู่ชั่นล่างเรายังได้ยิน
ทั้งหมดที่พอจะจำได้ก็มีเท่านี้ครับ สำหรับผมเมื่อไปถึงคิดว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามจะดีที่สุด เพราะบางอย่างทำที่บ้านเราได้แต่อาจจะทำที่ญี่ปุ่นไม่ได้ โดยส่วนตัวประทับใจกับความอร่อยของอาหารและขนมต่างๆมาก และมีโอกาสจะต้องไปอีกครั้งนึงให้ได้ ^^